ตอนที่แล้วบทที่ 13 แผนการที่สมบูรณ์แบบ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 15 แหวนมิติ

บทที่ 14 หน้าผาสวรรค์


“นั่นหมายความว่าข้ามีเวลาว่าง 3 ชั่วโมงก่อนถึงเวลา... อืม... เช่นนั้นข้าควรจะทำอะไรดีในสามชั่วโมงนี้...? เจ้าคิดว่าข้าควรทำอะไรดี ถูเย่ว?” หลงชูกล่าวขณะที่มือของเขาเริ่มสัมผัสไปที่แผ่นหลังอันเพรียวบางของนาง และจ้องมองเข้าไปในดวงตาของนาง

เขาค่อยๆขยับหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของนางเรื่อยๆ ถูเย่วไม่ได้ห้ามเขา เพียงแค่หลับตาลง ในที่สุดใบหน้าของหลงชูก็อยู่ใกล้กับใบหน้าของนางมากจนเขาได้ยินเสียงลมหายใจที่รวดเร็วของนาง เหลืออีกนิดเดียวเท่านั้น ริมฝีปากของเขาก็จะสัมผัสกับนาง

ในที่สุดระยะห่างระหว่างพวกเขาก็แนบชิดกัน และเริ่มจูบไปที่ริมฝีปากอันหอมหวานของนาง ในขณะที่หลงชูจูบนาง มือของเขาก็วางอยู่บนเนินหน้าอก และพร้อมที่จะขย่ำ ทันทีที่มือของเขาสัมผัสหน้าอกของนาง ก็มีเสียงครางของนางหลุดออกมาเล็กน้อย และเปิดริมฝีปากเล็กน้อย เมื่อเห็นเช่นนั้น หลงชูเลยใช้โอกาสนี้สอดลิ้นของเขาเข้าไปในปากของนางและพยายามตวัดลิ้นหาลิ้นของนาง

หลังจากที่เขาสอดลิ้นเจอลิ้นของนาง เขาก็เริ่มแลกลิ้น พร้อมกับสอดมือเข้าไปในเสื้อของนางเพื่อสัมผัสหน้าอกที่อ่อนนุ่ม นางยังคงร้องครางออกมาเบาๆ และตอนนี้ไม่มีเสื้อผ้าขวางมือของเขากับหน้าอกของนางอีกต่อไป เขาสามารถเพลินเพลิดและขย่ำหน้าอกของนางได้อย่างเต็มที่ จากนั้นทั้งสองคนก็ล้มลงบนเตียงและเริ่มพลอดรักกัน

ขณะที่เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอยู่ในห้องของหลงชู หลงเฉินยังคงนั่งหลับลึกอยู่บนเก้าอี้นอกห้อง เมื่อเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ในที่สุดประตูห้องของหลงชูก็เปิดออก เขาเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข และมีถูเย่วเดินตามอยู่ด้านหลัง ใบหน้าของนางเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่พึงพอใจและมีสีหน้าแดงก่ำ เสื้อผ้าและผมของนางดูยุ่งเหยิง หลังจากกล่าวลาหลงชู นางก็จูบไปที่ริมฝีปากของเขาก่อนที่จะจากไป

“นังสำส่อนถูเย่ว ถึงเจ้าจะไม่งดงามเท่าหลงเสวียอิง แต่เรื่องบนเตียงของเจ้านั้นช่างน่าทึ่งมาก และตามใจข้าทุกอย่าง แต่น่าเสียดายที่นางไม่ใช่แบบที่ข้าชอบ มีเพียงแค่หลงเสวียอิงเท่านั้นที่คู่ควรกับข้า แต่เจ้าก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวที่จะมาสนองความต้องการของข้าเป็นครั้งคราว” หลงชูพูดพึมพำกับตัวเองพรางหัวเราะและนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องนอนของเขา หลังจากตั้งสติได้แล้ว เขาก็เดินไปหาหลงเฉิน

‘มันเพิ่งผ่านไปแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ยังเหลือเวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ข้าควรจะใช้เวลาที่เหลือฝึกฝนและเมื่อถึงเวลาค่อยดำเนินการตามแผนการต่อแล้วกัน’ หลงชูคิดขณะนั่งลง

หลังจากนั่งลง หลงชูก็เริ่มบ่มเพาะพลัง และดูดซับพลังปราณในอากาศเพื่อหล่อเลี้ยงจิตยุทธของเขา

จอมยุทธทุกคนที่มีระดับบ่มเพาะพลังสูงกว่าระดับหลอมกายาจะมีจิตยุทธที่พวกเขาหล่อเลี้ยงด้วยพลังปราณในระดับก่อจิตวิญญาณ จิตยุทธของทุกคนจะมีคุณสมบัติรูปร่างหน้าตาคล้ายของกับตัวเอง

ในระดับก่อจิตวิญญาณขั้น 1 ผู้ฝึกฝนจะมีเพียงแค่เมล็ดจิตวิญญาณเท่านั้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการทะลวงผ่านระดับจิตวิญญาณขั้น 1 หากต้องการทะลวงผ่านระดับจิตวิญญาณขั้นที่ 2 พวกเขาจะต้องหล่อเลี้ยงเมล็ดจิตวิญญาณของพวกเขาจนกว่าเมล็ดนั้นจะกลายเป็นจิตยุทธ ซึ่งเป็นเหมือนตัวเองอีกตัวตนหนึ่ง

ในระดับก่อจิตวิญญาณขั้น 2 จิตยุทธจะเริ่มมีความคล้ายคลึงกับผู้ฝึกฝนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อระดับบ่มเพาะพลังเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ มันก็จะคล้ายคลึงกับผู้ฝึกฝนมากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งถึงระดับก่อจิตวิญญาณขั้น 10 จิตยุทธกับผู้ฝึกฝนแทบจะเป็นตัวตนเดียวกันและไม่มีความต่างแม้แต่น้อย

จิตยุทธของหลงชูก็เป็นเช่นนั้น แม้ว่าส่วนใหญ่จะดูคล้ายเขา แต่ก็ยังมีความแตกต่างเล็กน้อยที่สามารถสังเหตเห็นได้ ซึ่งบ่งบอกว่าเขาไม่ใช่จอมยุทธระดับก่อจิตวิญญาณขั้นสูงสุด นั่นเป็นเรื่องจริง เนื่องจากเขายังอยู่ในระดับก่อจิตวิญญาณขั้น 8 เท่านั้น

หลังจากที่หลงชูนั่งฝึกฝนนานกว่าครึ่งชั่วโมง ดูดซับพลังปราณเพื่อหล่อเลี้ยงจิตยุทธสู้ของเขา ความคล้ายคลึงระหว่างเขากับจิตยุทธของเขาก็เริ่มเพิ่มขึ้น แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ช้ามากก็ตาม

‘อืม ข้ารู้สึกได้ว่าหนทางยังอีกยาวไกลถึงจะทะลวงผ่าน ข้าต้องฝึกฝนให้หนักขึ้นและบรรลุระดับแก่นทองให้เร็วที่สุด จากนั้นข้าจะขอให้ปู่ของข้าคุยกับปู่ของเสวียอิงเกี่ยวกับงานแต่งงานระหว่างข้ากับนาง’ หลงชูคิด

“ถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว” หลงชูพึมพัมขณะมองไปที่หลงเฉิน

เขาลุกขึ้นและเดินไปหาหลงเฉิน จากนั้นวางแขนข้างหนึ่งของหลงเฉินไว้บนไหล่ของเขา และแขนอีกข้างหนึ่งของเขาก็วางบนหลังของหลงเฉิน จากนั้นเขาก็พยุงร่างของหลงเฉินขึ้นมา ราวกับว่าเขากำลังช่วยประคองคนเมาให้เดินเองได้

เขาได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้แล้ว และเดินไปในเส้นทางที่ปกติแล้วจะไม่มีผู้อาวุโสหรือสมาชิกของตระกูลหลงเดินผ่านไปมา นอกจากนั้นเขายังให้คนรับใช้และผู้ติดตามของเขาตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่าจะไม่มีใครเดินบนอยู่เส้นทางนี้ในตอนที่เขาเดินผ่าน

หลังจากเดินไปตามเส้นทางนี้ประมาณ 15 นาที ในที่สุดหลงชูก็เดินมาถึงบริเวณประตูทางทิศใต้ของตระกูลหลง

“อย่างที่คิด นางทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม” หลงชูพูดพึมพำด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เมื่อเห็นว่าเป็นดั่งที่ถูเย่วกล่าว ตอนนี้ไม่มีทหารยามเลยแม้แต่คนเดียวอยู่ในสายตาของเขา

เขาสามารถเดินออกไปข้างนอกได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกันก็ต้องคอยระมัดระวังตัว หลังจากที่เดินออกไปจากตระกูลหลงได้สำเร็จ ในที่สุดเขาก็สามารถหายใจเข้าออกได้เต็มปอด และเข้าไปในรถม้าส่วนตัวที่จอดรออยู่ด้านนอก จากนั้นเขาก็สั่งให้คนขับรถม้าพาเขาไปทางใต้ของตระกูลหลงทันที

ตระกูลหลงปักหลักอยู่ในดินแดนทางตอนใต้ของเมืองมังกร ในขณะที่ตระกูลฉินปักหลักอยู่ในดินแดนตะวันออก และตระกูลกู่ปักหลักอยู่ในดินแดนตะวันตก ทั้งสามตระกูลใหญ่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลเป็นของพวกเขา และทำธุรกิจหลายอย่าง ส่วนพระราชวังจักรพรรดินั้นตั้งอยู่ใจกลางของเมืองมังกร โดยมีเหล่าราชวงศ์อาศัยอยู่ที่นั่น

ในทางตอนใต้ของเมืองมังกรนั้นจะมีหน้าผาขนาดใหญ่อยู่ ซึ่งมันมีชื่อเรียกว่า ‘หน้าผาสวรรค์’ มันมีความลึกมากจนไม่มีใครสามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดของมันได้ และไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดถึงมีหน้าผาที่น่ากลัวนี้อยู่ทางใต้ของเมืองมังกร แต่มีเรื่องหนึ่งที่พวกเขารู้คือ มันมีอยู่ก่อนที่อาณาจักรสุ่ยจะถูกก่อตั้งขึ้น

ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่ามันลึกแค่ไหน แต่ก็สามารถจินตนาการได้เมื่อเห็นความมืดมิดอันน่ากลัวจากด้านล่าง บางทีมันอาจลึกมากกว่า 2-3 กิโลเมตรก็เป็นได้ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครรู้ว่าจุดสิ้นสุดของมันอยู่ตรงไหน

แม้ว่าจะมีผู้คนมากมายอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับหน้าผาสวรรค์แห่งนี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าลงไปสำรวจ เพราะพวกเขาไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะทำเช่นนั้น มีเพียงแค่จอมยุทธระดับนภาหรือสูงกว่านั้นเท่านั้นที่จะทำเช่นนั้นได้

แม้ว่าจะมีจอมยุทธมากมายหลายคนที่บรรลุระดับนภาหรือระดับที่สูงกว่านั้น แต่ก็ไม่มีจอมยุทธที่แข็งแกร่งแบบนั้นในอาณาจักรสุ่ย กระทั่งตระกูลสุ่ยเองก็ยังไม่มีจอมยุทธระดับนภา มีเพียงแค่จอมยุทธระดับปฐพีเท่านั้น นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีใครคนใดในอาณาจักรสุ่ยเข้ามาสำรวจที่นี่

ในขณะเดียวกัน จอมยุทธที่แข็งแกร่งกว่าตระกูลจักรพรรดิคงไม่มีใครสนใจอาณาจักรที่อ่อนแอกว่าตนเอง อย่างอาณาจักรสุ่ยที่มีความอุดมสมบูรณ์และทรัพยากรที่ต่ำ ดังนั้นเลยไม่มีใครกล้าถลําลึกเข้าไปที่หน้าผาสวรรค์ แต่ทว่าทิศทางที่รถม้าของหลงชูกำลังมุ่งหน้าไปนั่นคือทิศทางที่มุ่งหน้าไปหน้าผาสวรรค์พอดี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด