ตอนที่แล้วตอนที่15 หอประชุมที่ตกตะลึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่17 เปิดหน้าต่างความสามารถส่วนตัว

ตอนที่16 เอ็ด แคมป์เบลล์


ณ ฐานดาวอังคาร ผ่านมาสามวันแล้วนับตั้งแต่การซุ่มโจมตีครั้งสุดท้ายในแถบดาวเคราะห์น้อย

ในขณะนี้หลินฟ่านกำลังนำเหลียงเสวี่ยไปรอที่บริเวณท่านเทียบยานของซิงกัง เพราะเพิ่งมีการติดต่อมาว่ายานที่สมาชิกทีมเจรจาใช้เดินทางมาได้มาถึงแล้ว

ในไม่ช้า ยานพิฆาตก็มาจอดที่ท่าเทียบยาน

อย่างไรก็ตาม เมื่อหลินฟ่านเห็นคนที่เป็นผู้นำเดินลงมา เขาก็รู้สึกคุ้นๆ

เดี๋ยวนะ ถ้าลองคิดดู ฉันเคยเขาบนทีวีบ่อยๆไม่ใช่เหรอ เอ็ด-แคมป์เบลล์?

เดาว่าพวกเขาน่าจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับเอ็มม่า  หลินฟ่านคิดในใจ

เอ็ดพาคนอีกสี่คนเดินลงบันไดยานและหลินฟ่านก็พาเหลียงเสวี่ยไปทักทายเขา

“สวัสดีครับ ผมชื่อหลินฟ่าน ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจที่101 และนี่คือผู้ช่วยของผม เหลียงเสวี่ยหลินฟ่านเหยียดมือขวาออกไปเพื่อแนะนำ

“ไอ้หนู เธอพูดอะไรกัน เธอลืมไปแล้วว่าฉันเป็นใครหลังไม่ได้เจอกันแค่ 19 ปี? ฉันเคยอุ้มเธอตอนเกิดนะ”

หน้าของหลินฟ่านมืดลง คุณถามว่าผมลืมคุณไปแล้วหรือเปล่าหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ามา19 ปี?

ขอร้องล่ะ ผมอายุ 19ปี นะ

งั้นครั้งเดียวที่ผมเห็นคุณ ไม่ใช่ว่าคือตอนที่ผมเพิ่งเกิดเหรอ จะมีมนุษย์คนไหนจำได้กัน?

หลินฟ่านอดไม่ได้ที่จะบ่นอยู่ในใจ สมองของลุงคนนี้ค่อนข้างที่จะ...

“เอาล่ะ ใจเย็นๆ ฉันล้อเล่นน่ะ ฉันชื่อเอ็ด แคมป์เบลล์ ฉันเป็นผู้นำทีมเจรจาในครั้งนี้ พวกเขาทั้งสี่คนเป็นลูกน้องของฉัน อีกอย่าง ที่ฉันเคยอุ้มเธอตอนเธอเกิดนี่เป็นเรื่องจริงนะ”

“เอ่อ...ก็ได้ครับลุงเอ็ด!”

"ตอนนี้เธอเรียกได้ถูกต้องแล้ว!"

เมื่อเห็นว่าหลินฟ่านเรียกชื่อเขาอย่างมีสติ เอ็ดก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“ยังไงก็เถอะครับ ลุงเอ็ด ผมอยากถามอะไรลุงหน่อยว่า เอ็มม่า แคมป์เบลล์แห่วิทยาลัยการทหารระหว่างดวงดาวเป็นครอบครัวเดียวกับลุงหรือเปล่า”

"ครอบครัวอะไร เอ็มม่าคือลูกสาวของฉัน ทำไมเธอถึงรู้จักลูกสาวฉัน!"

“เอ่อ...ครับ พวกเราอยู่ห้องเดียวกันครับ เห็นลุงนามสกุลแคมป์เบลเหมือนกัน ผมเลยสงสัยว่าพวกคุณมาจากครอบครัวเดียวกันหรือเปล่า”

“แค่นั้นแหละ เดี๋ยวก่อนนะ ฉันจำได้ว่าเมื่อสองสามปีก่อน ลูกสาวของฉันดูเหมือนจะบอกว่ามีใคร บางคนในชั้นเรียนที่เอาแต่เล่าเรื่องตลกเห่ยๆให้เธอฟังใช้ไหมนะ?”

“เอ่อ...นั่นไม่ใช่ผมแน่ๆ!”

หลินฟ่านปฏิเสธอย่างไร้ยางอาย เมื่อก่อนตอนหลินฟ่านเพิ่งเข้าสู่วิทยาลัยการทหารระหว่างดวงดาว เขาพบสาวสวยคนหนึ่งชื่อเอ็มม่า

แต่สาวงามคนนี้เย็นชาเหมือนกับภูเขาน้าแข็ง แน่นอนดีกว่าเหลียงเสวี่ยที่ยืนอยู่ข้างหลินฟ่านตอนนี้ ดังนั้นหลินฟ่านที่ไร้ยางอายจึงวิ่งไปหาเธอทั้งวันและเริ่มเล่าเรื่องตลกไร้สาระ ตอนแรกเอ็มม่ารู้สึกรำคาญเมื่อเห็นหลินฟ่าน

แต่พอมีคนมาคุยอยู่ข้างคุณทุกวันตลอดสองปี...

ผลที่ได้คือหลังจากผ่านไปมากกว่า 2 ปี  หลินฟ่านได้บิดเบือนบุคลิกของเอ็มม่าอย่างมาก แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่สามารถเล่าต่อหน้าเอ็ด แคมป์เบลล์ได้

“ฉันก็คิดแบบนั้น เธอดูไม่เหมือนคนแบบนั้นเลย”

“ใช่ครับลุงเอ็ด!”

สีหน้าของเหลียงเสวี่ยที่ด้านข้างกระตุกเล็กน้อย แต่ไม่มีใครสังเกตสิ่งที่เหลียงเสวี่ยกำลังคิดอยู่มนตอนนี้

เธอคิดว่าคนคนนั้นต้องเป็นหลินฟ่านแน่นอน...

“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นแล้วพาฉันไปพบองค์ชายเก้าก่อน ฉันต้องเข้าใจความสำคัญของเขาต่อ จักวรรดิอ็อกซ์ก่อน ฉันจึงจะสามารถกำหนดกลยุทธ์การเจรจาได้”

“ตกลงครับ ลุงเอ็ดตามผมมา!”

หลินฟ่านนำเอ็ดไปที่ห้องขังขณะที่เหลียงเสวี่ยก็เดินตามพวกเขาไป

“ฉันขอบอกเลยนะเสี่ยวหลิน ผู้ช่วยเธอดูเย็นชาเกินไป!”

“ลุงเอ็ดก็คิดเหมือนกันใช่ไหมครับ ผมพยายามดัดนิสัยของเธอแล้วแต่ยังทำไม่สำเร็จ!”

“เพื่อรับมือกับคนประเภทนี้ เธอต้องคุยกับเขาทุกวัน”

“ใช่ครับ ผมเก่งเรื่องนี้ ผมคุยได้เรื่อยๆทุกวันโดยไม่ซ้ำ...”

เดี๋ยวก่อน ดูเหมือนฉันจะโดนหลอก?

แปะ..........

หลินฟ่านรู้สึกได้ทันทีถึงมือที่ตบลงบนไหล่ของเขา

หลังจากหันศีรษะช้าๆ เขาก็พบว่าเอ็ด แคมป์เบลล์กำลังยิ้มให้เขา แต่ทำไมรอยยิ้มนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

“ลุงเอ็ด นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด...”

“ยังไม่ต้องพูดตอนนี้ โฟกัสที่ภารกิจนี้ก่อน พอฉันกลับมา ฉันคิดว่าเราคงต้องจับเข่าคุยกันแล้วล่ะ...”

นอกจากนี้เหลียงเสวี่ยซึ่งฟังอยู่ตลอดเวลาก็กระตุกที่มุมปากของเธอ  จะเห็นว่าเธอพยายามอดทนอย่างหนัก

เหลียงเสวี่ยเกือบจะโพล่งออกมาเมื่อได้ยินว่าพวกเขาพูดว่าเธอเย็นซาเกินไปในตอนแรก แต่การบทสนทนาต่อมาก็ทำให้เธอแทบจะควบคุมเสียงหัวเราะของเธอไม่ได้

โชคดีที่ในฐานะภูเขาน้ำแข็ง  เธอยังคงมีทักษะพื้นฐานที่ดีในการจัดการความรู้สึก แต่เธอก็ต้อง อดทนกับมันเล็กน้อย

หลินฟ่านมองไปที่เอ็ด แคมป์เบลล์ด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว แน่นอนว่าผู้ที่รับผิดชอบการเจรจาครั้งนี้คือสุนัขจิ้งจอกเฒ่าที่น่าปวดหัวคนนี้ ไม่นานทั้งสามก็มาถึงห้องขัง

“ลุงเอ็ดเรามาถึงแล้ว เปิดประตู!”

"รับทราบ!"

ยามในห้องขังวิ่งเหยาะๆ มาเปิดประตูให้ทั้งสามคน หลังจากที่ทั้งสามเดินเข้าไป พวกเขาก็เห็นร่างคล้ายมนุษย์ถูกขังอยู่ในห้องเดี่ยว แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์แต่ก็ยังมีความแตกต่างจากมนุษย์มาก พวกเขามีเขาสองอันบนหัว บางคนก็ดูเหมือนกระทิงที่มีผิวสีแดงและบางคนก็ดูเหมือนปีศาจในตำนานของมนุษย์

เอ็ดไม่แปลกใจกับร่างกายดอร์เรน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มนุษย์จับตัวอ็อกซ์ไปเป็นเชลย ลักษณะทางกายภาพนี้ไม่น่าแปลกใจอีกแล้ว

เขาเดินไปและยืนพูดอยู่หน้าประตูห้องขัง

"โอ้ ท่านคือองค์ชายเก้าแห่งจักรวรรดิอ็อกซ์ใช่หรือไม่"

"แกเป็นใคร?"

“ผมงั้นเหรอ ผมชื่อเอ็ด แคมป์เบลล์ อีกสักครู่ผมจะไปเจรจากับฝ่ายของท่าน มีอะไรที่อยากให้ดำเนินการไหม”

“แกต้องการใช้ฉันเป็นเครื่องต่อรองในการเจรจางั้นรึ”

"โอ้ ฉลาดดีนิ!"

อย่าคิดว่าดอร์เรนที่เป็นผู้บัญชาการมือใหม่ระหว่างสงครามนั้นโง่ เพราะเขามีประสบการณ์ด้านการเมืองมาก ท้ายที่สุดเขาได้เข้าร่วมเจรจาหลายครั้งกับอารยธรรมอื่นๆในนามของ

จักรวรรดิอ็อกซ์

นอกจากนี้ดอร์เรนยังยังได้รับความสนใจจากองค์จักพรรดิแห่งจักวรรดิอ็อกซ์ อยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้มาตั้งแต่เกิด เขาจะไม่เข้าใจว่าเอ็ดกำลังจะทำอะไรได้อย่างไร?

“อย่าเสียเวลากับฉันเลย ฉันเป็นองค์ชายที่ได้รับความโปรดปรานน้อยที่สุด ไม่งั้นฉันก็คงจะไม่ถูกโยนไปแนวหน้าเพื่อบัญชาการกองยานขนาดเล็กแบบนี้”

"ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ!"

เอ็ดหันศีรษะและพูดอะไรบางอย่างกับหลินฟ่านแล้วเดินออกไป เหลียงเสวี่ยมีเครื่องหมายคำถามมากมาย พวกคุณกำลังทำอะไรกัน?

หลังจากเดินออกจากห้องขัง เอ็ดมองไปที่เหลียงเสวี่ยและพูดกับหลินฟ่าน

“ดูเหมือนผู้ช่วยของเธอจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้นะ! เธอช่วยอธิบายให้เขาฟังหน่อยได้ไหม”

“จริงๆแล้วมันง่ายมากๆ อย่างแรกเลย จากเพียงไม่กี่ประโยคเธอจะเห็นได้ว่าองค์ชายเก้าไม่โง่ ตรงกันข้าม เขาเป็นคนฉลาดมากและเขารู้แผนการทางการเมืองเป็นอย่างดี ดังนั้นการถามคำถามมากกว่านี้ก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไร”

“อย่างที่สอง เราได้ข้อมูลสำคัญมาแล้ว ตอนที่เขาบอกพวกเราว่าอย่าเสียเวลากับเขาเพราะเขาเป็นองค์ชายที่มีได้รับความโปรดปรานน้อยที่สุด ตาของเขาลอยไปทางซ้ายและมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติบางอย่างในมือของเขา ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าเขากำลังโกหกอยู่”

“ไม่เพียงแต่องค์ชายเก้าคนนี้จะเป็นที่โปรดปราน แต่ยังเป็นที่โปรดปรานอย่างยิ่งด้วย เขาอาจจะเป็นองค์ชายคนโปรดของจักรพรรดิแห่งจักวรรดิอ็อกซ์!”

ทำไมนายสามารถบอกอะไรได้เยอะแยะจากคำพูดไม่กี่คำกัน?

พวกคุณสองคนเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?

ในขณะที่ตกใจ เหลียงเสวี่ยก็ได้แต่คิดอยู่ในใจของเธอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด