ตอนที่แล้วตอนที่14 อีกด้านหนึ่งของเหลียงเสวี่ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่16 เอ็ด แคมป์เบลล์

ตอนที่15 หอประชุมที่ตกตะลึง


หลังจากเสร็จสิ้นการติดต่อกับเหลียงซิงเฉินแล้ว หลี่ฝู่หลินก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

เหลียงซิงเฉินได้บอกเขาสองเรื่อง

เรื่องแรกคือทันทีที่หลินฟ่านออกปฏิบัติการเป็นครั้งแรก เขาก็ได้เข้าต่อสู้ในแบบของตัวเองที่อาจได้ไปรวมอยู่ในสื่อการสอนของวิทยาลัยในอนาคต

เรื่องที่สองคือเนื่องจากการต่อสู้ครั้งนี้ได้มีการจับกุมองค์ชายเก้าแห่งจักรวรรดิอ็อกซ์  คำสั่งปกปิดข้อมูลบางส่วนจึงได้รับการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ที่จริงของแนวหน้าบางส่วนสามารถเปิดเผยในวิทยาลัยการทหารเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจได้

แน่นอนว่าจะไม่มีการเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะจนกว่าจักวรรดิอ็อกซ์จะถูกขับไล่ออกจากระบบสุริยะ

ด้วยสองเรื่องนี้ หลี่ฝู่หลินเริ่มอ่านรายละเอียดของการต่อสู้ที่เหลียงซิงเฉินส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอธิปรายของเขาในวันพรุ่งนี้

วันรุ่งขึ้นช่วงเช้าตรู่ นักเรียนภาคบัญชาการทั้งหมดของวิทยาลัยการทหารระหว่างดวงดาวได้รับแจ้งให้พวกเขามารวมกันที่ห้องบรรยายของวิทยาลัยตอนสิบโมงเช้าและคณบดีจะอธิบายตัวอย่างการต่อสู้จริงแบบต้นฉบับด้วยตัวเอง

ขณะนี้ทั้งวิทยาลัยตกอยู่ในความสับสน ตั้งแต่มนุษย์เข้าสู่ยุคแห่งดวงดาว พวกเขาได้ต่อสู้มาแล้วกว่า 20 ครั้ง ทั้งเล็กและใหญ่

ยกเว้นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ที่เป็นชัยชนะของเหลียงซิงเฉินในแถบดาวเคราะห์น้อยที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้ต้นแบบ ส่วนคนอื่นๆต่างก็พ่ายแพ้ต่อความแข็งแกร่งของจักรวรรดิอ็อกซ์

และการต่อสู้ในแถบดาวเคราะห์น้อยก็มีการพูดถึงกันหลายครั้งแล้ว จะมีการต่อสู้ต้นที่ไหนให้พูดถึงอีก?

แม้ว่าเหล่านักเรียนจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่พวกเขาทั้งหมดมาที่ห้องบรรยายตรงเวลา

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้กลุ่มนักเรียนแปลกใจคือไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น แม้แต่อาจารย์ผู้สอนของวิทยาลัยทั้งหมดพวกเขาก็นั่งอยู่ในที่นั่งด้านล่าง

มันแปลกไหม? ถ้าพูดถึงตัวอย่างการสู้รบคณบดีก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นพูดด้วยตนเองก็ได้

นอกจากนี้ บรรดาอาจารย์มักจะนั่งข้างแท่นขณะที่ฟังไม่ใช่หรือ? เมื่อไหร่กันที่มานั่งโซนเดียวกับที่นั่งของนักเรียนด้านล่างนี้?

เมื่อถึงเวลาสิบโมง หลี่ฝู่หลินเดินเข้ามาอย่างอาจหาญและก้าวขึ้นไปบนโพเดียม

"สวัสดีทุกคน การสู้รบที่ฉันจะพูดถึงในวันนี้คือการต่อสู้ระหว่างกองเรือที่สี่ของฐานทัพดาวอังคารคือกองเรือรบที่ 101 กับจักรวรรดิอ็อกซ์ บนดาวเคราะห์น้อยเมื่อวานนี้"

ทันทีที่คำพูดของ หลี่ฝู่หลินเงียบลง นักเรียนที่อยู่ด้านล่างก็เริ่มวุ่นวายทันที

เมื่อกี้ท่านพูดว่าอะไรนะ? เมื่อวาน? การต่อสู้กับอ็อกซ์?

ไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลังจากที่พลเอกเหลียงซิงเฉินเอาชนะจักวรรดิอ็อกซ์ในแถบดาวเคราะห์น้อย พวก เขาก็หนีออกจากระบบสุริยะไปไม่ใช่หรือ?

นี่มันอะไรกัน? ท่านคณบดีมั่วหรือผมสับสน? ทำไมสิ่งที่ท่านพูดแตกต่างจากที่ผมรู้?

"เงียบบบบบ!"

เมื่อมองดูฉากวุ่นวายๆ ด้านล่าง หลี่ฝู่หลินคาดเดาไว้นานแล้วและรีบหยุดทันที!

เมื่อมองไปยังห้องบรรยายที่ค่อยๆ สงบลง หลี่ฝู่หลินพยักหน้าและพูดต่อ

“ฉันรู้ว่าพวกเธอคงกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่ฉันสามารถบอกพวกเธอได้อย่างแรกเลย ในปีที่ 52 ของปฏิทินสหพันธ์ พลเอกเหลียงซิงเฉินได้นำกองเรือที่สี่เพื่อเอาชนะกองทัพ 200,000 ของจักวรรดิอ็อกซ์ในแถบดาวเคราะห์น้อย นี่คือความจริงพวกเธอรู้ ไม่ต้องสงสัยเลย!”

"อย่างไรก็ตาม หลังจากที่อ็อกซ์สูญเสียกองเยานไปเกือบครึ่ง พวกเขาก็ไม่ได้หนีออกจากระบบสุริยะ แต่อยู่ในดาวพฤหัสบดีและเผชิญหน้ากับเราผ่านดาวเคราะห์น้อยมาจนถึงตอนนี้"

“แน่นอน การปะทะกันระหว่างทั้งสองฝ่ายในแถบดาวเคราะห์น้อยไม่เคยหยุดนิ่ง และสิ่งที่ฉันจะพูดถึงในวันนี้คือการสู้รบที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้”

“ไม่ต้องหาข่าว ไม่มีใครรู้หรอกเพราะสหพันธ์ ได้ดำเนินการควบคุมข้อมูลแล้ว ถ้าข่าวแพร่ออกไป ผู้คนในสหพันธรัฐจะเกิดความวุ่นวาย เรื่องนี้ถ้ารู้แล้วให้เก็บเป็นความลับไปก่อน”

“ในฐานะทหารของสหพันธรัฐ พวกเธอควรรู้ผลที่ตามมาของการเปิดเผยความลับใช่ไหม!”

หลังจากหลี่ฝู่หลินพูดจบ นักเรียนในที่นี้ก็ยอมรับไม่ได้อยู่พักหนึ่ง

หมายความว่าเรายังทำสงครามกับอ็อกซ์อยู่งั้นเหรอ?

และกองทัพของพวกมันก็อยู่ในดาวพฤหัสบดี?

หลี่ฝู่หลินมองดูนักเรียนอยู่บนเวที เขารู้ว่าเด็กเหล่านี้ต้องการเวลาพอสมควรเพื่อให้สามารถยอมรับข้อมูลนี้ได้

ไม่กี่นาทีต่อมา หลี่ฝู่หลินซึ่งรู้สึกว่าทุกคนเกือบจะสงบแล้วก็พูดต่อ

“ตอนนี้เรามาเริ่มบรรยายกันเลย ทุกคนต้องฟังดีๆ”

"เมื่อวานนี้ เวลาประมาณบ่ายโมง ฐานทัไดาวอังคารได้รับสัญญาณฉุกเฉินจากพื้นที่แถบดาวเคราะห์น้อย279 สัญญาณถูกส่งมาจากยานรวบรวมทรัพยากร เนื้อความว่าพบกองยานรบจำนวน 208 ลำของจักรวรรดิอ็อกซ์ ตอนนี้มันอยู่ที่แถบดาวเคราะห์น้อยและกำลังซ่อนตัวอยู่ในวงโคจร ต้องการความช่วยเหลือ..."

หลี่ฝู่หลินกล่าวขณะอธิบายรายละเอียดบางอย่าง เขาใช้เวลาสองชั่วโมงในการอธิบายการต่อสู้ครั้งนี้ให้เสร็จสมบูรณ์

นักศึกษาที่อยู่ด้านล่างแสดงความตื่นเต้นและแม้แต่บางคนก็เปิดปากพูดและตะโกนออกไป!

“นี่แหล่ะควรจะเป็นกองทัพอวกาศของเรา พลเอกเหลียงซิงเฉินกับการใช้กลวิธีแบบนี้ช่างเหลือเชื่อจริงๆ!”

หลี่ฝู่หลินบนเวทีฟัง เต็มไปด้วยความมืดมน

“ฉันเคยพูดหรือว่า เหลียงซิงเฉินเป็นคนทำเรื่องนี้?”

“เอ่ออ.... ท่านคณบดี นอกจากเทพสงครามเหลียงแห่งสหพันธ์ของเราแล้ว จะมีใครที่บัญชาการได้งดงามขนาดนี้?”

“คนที่พวกคุณก็รู้จักเป็นผู้บัญชาการคนใหม่ของกองยานเฉพาะกิจที่ 101!”

อะไรนะ? ท่านคณบดีพูดอะไรกัน? เหลียงซิงเฉินเป็นผู้บัญชาการการใหญ่ไม่ใช่หรือ? และอะไรคือเราทุกคนก็รู้จัก?

บรรดานักเรียนรู้สึกว่าพวกเขามึนงงเล็กน้อย ท้ายที่สุดแล้วหลินฟ่านก็เพิ่งจบการศึกษาเมื่อไม่กี่วันก่อนและเขาน่าจะไปถึงฐานดาวอังคารได้ไม่นาน ดังนั้นจึงไม่มีใครนึกถึงเขา อืม...ยกเว้นเพียงคนเดียว

ในขณะนี้ เอ็มม่านึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง

ตามเวลาที่หลินฟ่านจากไป น่าจะไปถึงฐานดาวอังคารเมื่อเช้าวานนี้ใช่ไหม? เขากลายเป็นผู้บัญชาการกองยานทันทีที่เขาไปถึงงั้นหรือ? และได้ไปที่สนามรบด้วย?

เอ็มม่าเบิกตากว้างมองไปที่คณบดีหลี่ฝู่หลินบนเวทีที่มีสีหน้าไม่พอใจ ด้วยความตกใจ

“เอาล่ะ ผู้บัญชาการกองยานเฉพาะกิจที่ 101 คือพันเอกหลินฟ่านของสหพันธ์ เมื่อวานเป็นการ ปฏิบัติการต่อสู้จริงครั้งแรกของเขาเมื่อเขาไปถึงฐานทัพดาวอังคาร!”

“จริงๆ แล้ว...หลินฟ่าน นายเก่งขนาดนี้เลยเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำยืนยันของหลี่ฝู่หลิน เอ็มม่าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหลงทางเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอจะยิ่งห่างใกลจากหลินฟ่านมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนนักเรียนคนอื่นๆ ก็รู้สึกถึงอุณภูมิภายในที่สูงขึ้นโดยตรง

อะไรนะ?  หลินฟ่าน?

เขาเพิ่งเรียนจบไปเมื่อไม่กี่วันก่อนเอง เขาเพิ่งไปถึงฐานดาวอังคารได้ไม่นานหลังจากนับเวลาแล้ว

เขาได้เป็นผู้บัญชาการกองยานทันทีเมื่อมาถึงฐานทัพใช่ไหม? ผู้บัญชาการกองยานใหญ่ขนาดนี้ควรเป็นผู้บัญชาการใหญ่ไม่ใช่หรือ?

ปีศาจตนนี้  ขนาดไปที่แนวหน้าแล้วก็ยังเป็นปีศาจอยู่!

ชื่อหลินฟ่านสำหรับผู้คนในวิทยาลัยแล้วมันยังคงดังกึกก้องอย่ภายในหัว ขณะนี้ถึงแม้จะไม่น่าเชื่อเล็กน้อยแต่คนส่วนใหญ่ยอมรับความจริงนี้ได้ค่อนข้างเร็ว!

คนบางคนเริ่มตะโกนขึ้นในห้องบรรยาย

‘เรียนจบแล้วไปเข้าร่วมกองยาน 101 กันไหม?’

‘ฉันควรเอาหลินฟ่านเป็นตัวอย่างในการขับไล่อ็อกซ์ออกจากระบบสุริยะไหม?’

นอกจากนั้นยังมีคำถามแปลกๆ อีกสองสามคำถามเช่น‘ทำไมคุณถึงไม่มีลูกให้กับหลินฟ่านล่ะ’เป็นต้น

เอ็มม่าของเราได้จ้องไปที่สาวๆตื่นเต้นเหล่านั้นที่ด้วยสายตาอาฆาตทันที

กล่าวโดยสรุป หลี่ฝู่หลินพอใจกับผลกระทบนี้มาก ไม่ว่าเอ็มม่าหรือเด็กผู้หญิงอีกสองสามคนจะคิด ยังไง คำสั่งเบื้องบนที่ให้วิทยาลัยการทหารลดการควบคุมข้อมูลนั้น วิธีการนี้ถูกต้องแน่นอน

พวกคุณไม่เห็นหรือว่านักเรียนเหล่านี้ดูเหมือนพึ่งถูกฉีดเลือดไก่มา[1]!?

[1] ฉีดเลือดไก่; มาจากความเชื่อทางการแพทย์จีนสมัยโบราณ ที่เชื่อว่าการฉีดเลือดไก่เข้าตัวจะทำให้แข็งแรงเหมือนยาวิเศษรักษาสารพัดโรค ปัจจุบันจึงเป็นสำนวนที่ใช้เปรียบเปรยคนที่มีอาการคึกคักหรือตื่นเต้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด