ตอนที่แล้วตอนที่ 37 ผู้สืบทอดของเทพไท่ซวี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 39 ‘คัมภีร์ปลูกฝังมาร’

ตอนที่ 38 จบภารกิจสังหารตัวเอกชาย


ตอนที่ 38 จบภารกิจสังหารตัวเอกชาย

  

หากเขาไม่เปิดใช้งานกายหยางศักดิ์สิทธิ์จะไม่สามารถใช้วิชานี้ได้ และตอนนี้เขาต้องใช้มัน ถึงแม้ว่าร่างกายยังไม่พร้อมสมบูรณ์และทำให้เขาต้องแบกผลลัพธ์สาหัสก็ตาม

  

เพราะหลังจากใช้มันแล้วระดับการฝึกตนอาจถดถอย

  

แต่เขาไม่สนใจ ตอนนี้เขาแค่อยากจะฉีกซูอันออกไปชิ้นๆ

  

“โอ้โฮ มันระเบิดแล้ว” เมื่อเห็นเยี่ยเสวียนที่ดูเหมือนซูเปอร์ไซย่า ซูอันจึงตัดสินใจทันทีเช่นกัน “เซิ่งหนานกลับมาเถอะ วันนี้ข้าจะสอนพวกเจ้าเล่นว่าว”

  

หลังจากเรียกถูเซิ่งหนานกลับมาแล้ว ซูอันพาทุกคนถอยกลับไปไกลๆ จากพื้นที่วุ่นวายของหุบเขาไท่ซวีและหายตัวไปต่อหน้าต่อตาของเยี่ยเสวียน

  

เยี่ยเสวียนตกตะลึง ในเมื่อข้าทุ่มสุดตัวแล้ว เจ้าจะหนีไปไหน?

  

“เฮ้! ซูอัน ออกมาเดี๋ยวนี้!”

  

“ออกมา!”

  

“ไอ้ขี้ขลาด เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้!”

  

เยี่ยเสวียนผู้ซึ่งพยายามไปก็สูญเปล่า ทำได้เพียงมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว

  

เขาไม่มีความสามารถในการระบุตำแหน่งเหมือนซูอัน จึงไม่สามารถสัมผัสถึงตำแหน่งของพวกซูอันได้เลย เขาจึงทำได้เพียงระบายความโกรธใส่พื้นที่โล่งๆ เท่านั้น

  

และเมื่อใดก็ตามที่เยี่ยเสวียนคิดจะล้มเลิก ซูอันสามารถโจมตีเยี่ยเสวียนจากระยะไกลได้เสมอ

  

แต่เมื่อเยี่ยเสวียนคิดสู้กลับ ซูอันก็หายตัวไปอีก ราวกับว่าซูอันจะไม่มีวันหลงทางในหุบเขาไท่ซวีและสามารถค้นหาตำแหน่งของเยี่ยเสวียนได้ตลอดเวลา

  

“อ๊ากกก!!!”

รัศมีความรุนแรงของเยี่ยเสวียนค่อยๆ อ่อนลง ความรู้สึกเสียวแปลบแล่นอยู่ในทุกส่วนของร่างกายและเวลาแห่งวิชาลับใกล้หมดลงแล้ว

  

“จิ๊จิ๊ เยี่ยเสวียน เจ้าไม่อดทนเลย!” ซูอันปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

  

หัวใจของเยี่ยเสวียนซึ่งเดิมทีเต็มไปด้วยความโกรธ ในที่สุดก็สงบลงได้ และก่อนที่วิชาลับจะสิ้นสุดลง เขาหันหลังพยายามหลบหนี “ซูอัน ฝากไว้ก่อนเถอะ คราวหน้าข้าจะ...”

  

“ไม่มีคราวหน้าอีกแล้ว มีแค่ตอนนี้ เวลานี้” ซูอันมองไปที่เยี่ยเสวียนผู้สิ้นท่าด้วยสายตาเย็นชา เขาโบกมือไปข้างหลังแล้วพูดว่า “โจมตีพร้อมกัน จัดการมันให้ข้า!”

  

สามมิ่งตานและหนึ่งหยางบริสุทธิ์เข้าล็อกเยี่ยเสวียนไว้ด้วยความแน่นหนาภายในพริบตาเดียว

  

บุปผามรณะหมายเลขหนึ่งคือผู้แข็งแกร่งระดับหยางบริสุทธิ์ แม้ในหมู่หยางบริสุทธิ์ด้วยกันเอง นางก็ไม่ด้อยกว่าใครเลย ซึ่งในการเดินทางของซูอันครั้งนี้ นางคือองครักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุด

  

รัศมีอันน่าสะพรึงกลัวของนางทำให้มือและเท้าของเยี่ยเสวียนเย็นเฉียบ

  

ลำพังตัวเองก็แข็งแกร่งมากแล้ว แต่ยังรวมหัวกันวางแผนทำร้ายเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่เจ้าซูอันยังมีความเป็นมนุษย์หรือเปล่า?

  

“พี่เยี่ยไม่ต้องกลัว ข้ามาช่วยแล้ว!”

  

ในจังหวะนี้หยวนเฟิงซึ่งเฝ้ามองเงียบๆ อยู่ข้างหลังมาโดยตลอด ทันใดนั้นก็ตะโกนและรีบวิ่งเข้ามา

  

เยี่ยเสวียนได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็รู้สึกสะเทือนใจทันที ช่างเป็นสหายที่แสนดี!

  

แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ยังยินดีที่จะช่วยเขา...

  

ฉึก!

  

อาวุธเวทรูปมีดเย็นเฉียบแทงทะลุหน้าอกของเยี่ยเสวียนจากด้านหลัง ทำให้เยี่ยเสวียนหันไปมองด้วยสายตาตื่นตะลึง

  

“พี่หยวน เจ้า...”

  

“ขอโทษด้วยพี่เยี่ย...แต่พ่อของข้าถูกพวกเขาจับตัวไว้” หยวนเฟิงรู้สึกผิดจนไม่กล้าสบตาเยี่ยเสวียน เพราะเขานับถือเยี่ยเสวียนเป็นพี่น้องของตนจริงๆ

  

เยี่ยเสวียนหัวเราะสมเพชตัวเองและพูดว่า “นั่นสินะ พี่หยวน หยวนเฟิง ข้าเองที่ทำให้นิกายหลิวอวิ๋นของท่านถูกทำลาย ข้าสมควรได้รับคมมีดนี้แล้ว”

  

ในเวลานี้พวกถูเซิ่งหนานเริ่มลงมือเช่นกัน มังกรคชสารส่งเสียงคำรามเข้าโจมตีเยี่ยเสวียน อีกด้านหนึ่งก็มีบุปผามรณะบานสะพรั่ง

พลังกดดันขนาดใหญ่เข้าโอบรัดพื้นที่ด้านหน้าเยี่ยเสวียน

  

“พี่เยี่ย ข้าขอโทษ!” ดูเหมือนว่าหยวนเฟิงได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว เขาวิ่งมาอยู่ข้างหน้าเยี่ยเสวียน

  

ความปั่นป่วนของพลังวิญญาณในระดับจื่อฝู่บ่งบอกว่าเขาเลือกที่จะตายตกไปตามกัน

  

การทำลายตัวเองของจื่อฝู่ภายใต้การถูกโจมตีดังกล่าวไม่คุ้มที่จะเอ่ยถึงเลย แต่สุดท้ายมันก็ทำให้เยี่ยเสวียนค้นพบความหวังอันริบหรี่

  

อาศัยจังหวะที่หยวนเฟิงทำลายตัวเอง เยี่ยเสวียนได้รวบรวมพลังวิญญาณเฮือกสุดท้ายเพื่อหลบหนีจากการโจมตี แต่เพราะถูกโจมตีหนักขนาดนั้นจึงทำให้ร่างกายของเขาเกิดผลลัพธ์น่าสยดสยอง

  

“พี่หยวน...”

    

เลือดไหลออกจากปากและจากรูตรงหน้าอก เพราะการโจมตีด้วยมีดเมื่อครู่ของหยวนเฟิงได้ทำร้ายหัวใจโดยตรง 

  

“เป็นมิตรภาพที่น่านับถือจริงๆ” ซูอันปรบมือชื่นชม แต่ใบหน้าดูแคลน

  

“พี่ชาย!” บัดนี้มีเสียงแหลมสูงเสียงหนึ่งดังขึ้น

  

ไม่รู้ว่าเยี่ยหลีเอ๋อร์ปรากฎตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อใด นางวิ่งไปหาเยี่ยเสวียนพร้อมใบหน้าเศร้าหมอง

  

“พี่ชาย ท่าน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง...” ร่างกายของเยี่ยหลีเอ๋อร์สั่นเล็กน้อย

  

“หลี หลีเอ๋อร์ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เร็ว รีบหนีเร็วเข้า...” เยี่ยเสวียนเบิกตากว้างและรีบพูด

  

ฉึก!

  

กริชเล่มหนึ่งแทงทะลุคอของเยี่ยเสวียนและเขาได้เห็นรอยยิ้มโรคจิตของเยี่ยหลีเอ๋อร์

  

“พี่ชาย เหตุใดท่านไม่ตายๆ ไปซะ หากท่านไม่ตายพี่อันจะไม่มีความสุขนะ”

  

เยี่ยหลีเอ๋อร์พูดจบก็ดึงกริชออกโดยไร้ความปรานี จากนั้นนางวิ่งกลับมาหาซูอันเพื่อขอความดีความชอบ “ฮิฮิ พี่อัน ข้าทำได้ดีหรือไม่?”

  

“ทำได้ดีมาก” ซูอันยกมือลูบศีรษะของเยี่ยหลีเอ๋อร์เป็นรางวัล

  

“หลีเอ๋อร์...” เยี่ยเสวียนมองไปที่น้องสาวซึ่งกำลังออดอ้อนศัตรูที่เขาเกลียดชังที่สุดด้วยความไม่เชื่อ

  

เพราะเหตุใด?

  

เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้!

  

น่าเสียดายที่เยี่ยหลีเอ๋อร์ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเยี่ยเสวียนเลย นางไม่มีความรู้สึกต่อเขาและที่นางทำลงไปเป็นแค่การแสดงให้พี่อันพอใจเท่านั้น

ปากเรียกพี่ชายแต่ใจไม่นับถือ เพราะหัวใจของนางมีเพียงพี่อันคนเดียว

  

ดวงตาของเยี่ยเสวียนค่อยๆ พร่าเลือน ความมีชีวิตชีวาหดหายไปทีละน้อย

  

เขาเกลียด เขาไม่เต็มใจ แต่เขาหมดหนทางแล้ว

  

เสียงของซูอันดังก้องในหูของเขาอีกครั้ง “ความจริงพ่อของหยวนเฟิงถูกข้าสังหารไปนานแล้ว ข้าแค่หลอกใช้เขา แต่เจ้าโง่นั่นหลงเชื่อจริงๆ”

  

ม่านตาของเยี่ยเสวียนขยายออกได้อีก

  

“อ้อ จริงสิ ข้าลืมบอกเจ้าไปเลย ความจริงหลี่จื่อซวงไม่ได้ทรยศเจ้า ทั้งหมดเป็นแผนของข้าเอง ตอนนั้นข้าจับนางไว้ ขังนางและทรมานนาง แต่นางไม่ยอมปริปากบอกข้อมูลของเจ้าเลย”

  

แม้เหลือเรี่ยวแรงน้อยนิดแต่เยี่ยเสวียนยังอ้าปากค้างได้ เพียงแต่ไม่มีเสียงใดหลุดออกมา

  

“แต่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ปากเล็กๆ ของหลี่จื่อซวงยอดเยี่ยมจริงๆ นะ ข้าทดสอบด้วยตัวเองแล้วล่ะ”

  

“เยี่ยเสวียน เจ้าไปสบายเถอะ ข้าจะดูแลนางกับหลีเอ๋อร์ให้ดี รวมถึงผู้หญิงที่ชื่อถังซืออวิ๋นด้วย”

  

[ติ๊ง! โพธิจิตของเยี่ยเสวียนแตกสลาย ถูกโฮสต์ทำให้โกรธจนอกแตกตายและโชคสิ้นสุด คะแนนตัวร้ายเพิ่ม 2000]

  

[ติ๊ง! โฮสต์สังหารตัวเอกเยี่ยเสวียน แย่งชิงสูตรโกง...กายหยางศักดิ์สิทธิ์]

  

เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น

  

ในเวลาเดียวกัน ลึกเข้าไปในนิกายเทียนเต๋า ชายชราสวมชุดเต้าผาวลายเมฆลืมตาขึ้นทันใด

  

“โชคชะตาเปลี่ยนแปลง กลายเป็นโชคร้าย!”

  

“เสวียนเอ๋อร์ตายแล้วจริงๆ!”

  

เขาลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปกลับมา ปากยังบ่นพึมพำว่า “เป็นไปได้อย่างไร”

  

ดูจากสีหน้าของเขาแล้วไม่มีความโศกเศร้ามากนัก ราวกับว่าเครื่องมือที่มีประโยชน์หายไปชิ้นหนึ่งเท่านั้น

  

“ต้องมีบางสิ่งผิดพลาด ต้องมีใครสักคนในโลกนี้กำลังขัดขวางไม่ให้นิกายเทียนเต๋าเจริญรุ่งเรือง!” ทันใดนั้นเขาหันกลับไปมองที่ประตูลึกลับข้างหลังด้วยสายตาโหยหาและปรารถนา

“เป็นใครก็ช่าง! ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่สามารถหยุดข้าได้”

  ……

  

“ทำให้ข้าโมโหมาก ทำให้ข้าอารมณ์ไม่ดี!”

  

เมื่อได้ยินเสียงแจ้งของระบบ ซูอันจึงยกเท้าเตะร่างของเยี่ยเสวียนและเห็นว่าไม่มีการตอบสนองอีก

  

ความรู้สึกโล่งใจเกิดขึ้น เมื่อนึกถึงว่าตอนที่เขาฟื้นความทรงจำครั้งแรก เขากังวลว่าจะถูกเยี่ยเสวียนสังหาร แต่นี่ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาแล้ว