ตอนที่ 38 จบภารกิจสังหารตัวเอกชาย
ตอนที่ 38 จบภารกิจสังหารตัวเอกชาย
หากเขาไม่เปิดใช้งานกายหยางศักดิ์สิทธิ์จะไม่สามารถใช้วิชานี้ได้ และตอนนี้เขาต้องใช้มัน ถึงแม้ว่าร่างกายยังไม่พร้อมสมบูรณ์และทำให้เขาต้องแบกผลลัพธ์สาหัสก็ตาม
เพราะหลังจากใช้มันแล้วระดับการฝึกตนอาจถดถอย
แต่เขาไม่สนใจ ตอนนี้เขาแค่อยากจะฉีกซูอันออกไปชิ้นๆ
“โอ้โฮ มันระเบิดแล้ว” เมื่อเห็นเยี่ยเสวียนที่ดูเหมือนซูเปอร์ไซย่า ซูอันจึงตัดสินใจทันทีเช่นกัน “เซิ่งหนานกลับมาเถอะ วันนี้ข้าจะสอนพวกเจ้าเล่นว่าว”
หลังจากเรียกถูเซิ่งหนานกลับมาแล้ว ซูอันพาทุกคนถอยกลับไปไกลๆ จากพื้นที่วุ่นวายของหุบเขาไท่ซวีและหายตัวไปต่อหน้าต่อตาของเยี่ยเสวียน
เยี่ยเสวียนตกตะลึง ในเมื่อข้าทุ่มสุดตัวแล้ว เจ้าจะหนีไปไหน?
“เฮ้! ซูอัน ออกมาเดี๋ยวนี้!”
“ออกมา!”
“ไอ้ขี้ขลาด เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้!”
เยี่ยเสวียนผู้ซึ่งพยายามไปก็สูญเปล่า ทำได้เพียงมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว
เขาไม่มีความสามารถในการระบุตำแหน่งเหมือนซูอัน จึงไม่สามารถสัมผัสถึงตำแหน่งของพวกซูอันได้เลย เขาจึงทำได้เพียงระบายความโกรธใส่พื้นที่โล่งๆ เท่านั้น
และเมื่อใดก็ตามที่เยี่ยเสวียนคิดจะล้มเลิก ซูอันสามารถโจมตีเยี่ยเสวียนจากระยะไกลได้เสมอ
แต่เมื่อเยี่ยเสวียนคิดสู้กลับ ซูอันก็หายตัวไปอีก ราวกับว่าซูอันจะไม่มีวันหลงทางในหุบเขาไท่ซวีและสามารถค้นหาตำแหน่งของเยี่ยเสวียนได้ตลอดเวลา
“อ๊ากกก!!!”
รัศมีความรุนแรงของเยี่ยเสวียนค่อยๆ อ่อนลง ความรู้สึกเสียวแปลบแล่นอยู่ในทุกส่วนของร่างกายและเวลาแห่งวิชาลับใกล้หมดลงแล้ว
“จิ๊จิ๊ เยี่ยเสวียน เจ้าไม่อดทนเลย!” ซูอันปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
หัวใจของเยี่ยเสวียนซึ่งเดิมทีเต็มไปด้วยความโกรธ ในที่สุดก็สงบลงได้ และก่อนที่วิชาลับจะสิ้นสุดลง เขาหันหลังพยายามหลบหนี “ซูอัน ฝากไว้ก่อนเถอะ คราวหน้าข้าจะ...”
“ไม่มีคราวหน้าอีกแล้ว มีแค่ตอนนี้ เวลานี้” ซูอันมองไปที่เยี่ยเสวียนผู้สิ้นท่าด้วยสายตาเย็นชา เขาโบกมือไปข้างหลังแล้วพูดว่า “โจมตีพร้อมกัน จัดการมันให้ข้า!”
สามมิ่งตานและหนึ่งหยางบริสุทธิ์เข้าล็อกเยี่ยเสวียนไว้ด้วยความแน่นหนาภายในพริบตาเดียว
บุปผามรณะหมายเลขหนึ่งคือผู้แข็งแกร่งระดับหยางบริสุทธิ์ แม้ในหมู่หยางบริสุทธิ์ด้วยกันเอง นางก็ไม่ด้อยกว่าใครเลย ซึ่งในการเดินทางของซูอันครั้งนี้ นางคือองครักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
รัศมีอันน่าสะพรึงกลัวของนางทำให้มือและเท้าของเยี่ยเสวียนเย็นเฉียบ
ลำพังตัวเองก็แข็งแกร่งมากแล้ว แต่ยังรวมหัวกันวางแผนทำร้ายเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่เจ้าซูอันยังมีความเป็นมนุษย์หรือเปล่า?
“พี่เยี่ยไม่ต้องกลัว ข้ามาช่วยแล้ว!”
ในจังหวะนี้หยวนเฟิงซึ่งเฝ้ามองเงียบๆ อยู่ข้างหลังมาโดยตลอด ทันใดนั้นก็ตะโกนและรีบวิ่งเข้ามา
เยี่ยเสวียนได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็รู้สึกสะเทือนใจทันที ช่างเป็นสหายที่แสนดี!
แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ยังยินดีที่จะช่วยเขา...
ฉึก!
อาวุธเวทรูปมีดเย็นเฉียบแทงทะลุหน้าอกของเยี่ยเสวียนจากด้านหลัง ทำให้เยี่ยเสวียนหันไปมองด้วยสายตาตื่นตะลึง
“พี่หยวน เจ้า...”
“ขอโทษด้วยพี่เยี่ย...แต่พ่อของข้าถูกพวกเขาจับตัวไว้” หยวนเฟิงรู้สึกผิดจนไม่กล้าสบตาเยี่ยเสวียน เพราะเขานับถือเยี่ยเสวียนเป็นพี่น้องของตนจริงๆ
เยี่ยเสวียนหัวเราะสมเพชตัวเองและพูดว่า “นั่นสินะ พี่หยวน หยวนเฟิง ข้าเองที่ทำให้นิกายหลิวอวิ๋นของท่านถูกทำลาย ข้าสมควรได้รับคมมีดนี้แล้ว”
ในเวลานี้พวกถูเซิ่งหนานเริ่มลงมือเช่นกัน มังกรคชสารส่งเสียงคำรามเข้าโจมตีเยี่ยเสวียน อีกด้านหนึ่งก็มีบุปผามรณะบานสะพรั่ง
พลังกดดันขนาดใหญ่เข้าโอบรัดพื้นที่ด้านหน้าเยี่ยเสวียน
“พี่เยี่ย ข้าขอโทษ!” ดูเหมือนว่าหยวนเฟิงได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว เขาวิ่งมาอยู่ข้างหน้าเยี่ยเสวียน
ความปั่นป่วนของพลังวิญญาณในระดับจื่อฝู่บ่งบอกว่าเขาเลือกที่จะตายตกไปตามกัน
การทำลายตัวเองของจื่อฝู่ภายใต้การถูกโจมตีดังกล่าวไม่คุ้มที่จะเอ่ยถึงเลย แต่สุดท้ายมันก็ทำให้เยี่ยเสวียนค้นพบความหวังอันริบหรี่
อาศัยจังหวะที่หยวนเฟิงทำลายตัวเอง เยี่ยเสวียนได้รวบรวมพลังวิญญาณเฮือกสุดท้ายเพื่อหลบหนีจากการโจมตี แต่เพราะถูกโจมตีหนักขนาดนั้นจึงทำให้ร่างกายของเขาเกิดผลลัพธ์น่าสยดสยอง
“พี่หยวน...”
เลือดไหลออกจากปากและจากรูตรงหน้าอก เพราะการโจมตีด้วยมีดเมื่อครู่ของหยวนเฟิงได้ทำร้ายหัวใจโดยตรง
“เป็นมิตรภาพที่น่านับถือจริงๆ” ซูอันปรบมือชื่นชม แต่ใบหน้าดูแคลน
“พี่ชาย!” บัดนี้มีเสียงแหลมสูงเสียงหนึ่งดังขึ้น
ไม่รู้ว่าเยี่ยหลีเอ๋อร์ปรากฎตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อใด นางวิ่งไปหาเยี่ยเสวียนพร้อมใบหน้าเศร้าหมอง
“พี่ชาย ท่าน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง...” ร่างกายของเยี่ยหลีเอ๋อร์สั่นเล็กน้อย
“หลี หลีเอ๋อร์ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เร็ว รีบหนีเร็วเข้า...” เยี่ยเสวียนเบิกตากว้างและรีบพูด
ฉึก!
กริชเล่มหนึ่งแทงทะลุคอของเยี่ยเสวียนและเขาได้เห็นรอยยิ้มโรคจิตของเยี่ยหลีเอ๋อร์
“พี่ชาย เหตุใดท่านไม่ตายๆ ไปซะ หากท่านไม่ตายพี่อันจะไม่มีความสุขนะ”
เยี่ยหลีเอ๋อร์พูดจบก็ดึงกริชออกโดยไร้ความปรานี จากนั้นนางวิ่งกลับมาหาซูอันเพื่อขอความดีความชอบ “ฮิฮิ พี่อัน ข้าทำได้ดีหรือไม่?”
“ทำได้ดีมาก” ซูอันยกมือลูบศีรษะของเยี่ยหลีเอ๋อร์เป็นรางวัล
“หลีเอ๋อร์...” เยี่ยเสวียนมองไปที่น้องสาวซึ่งกำลังออดอ้อนศัตรูที่เขาเกลียดชังที่สุดด้วยความไม่เชื่อ
เพราะเหตุใด?
เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้!
น่าเสียดายที่เยี่ยหลีเอ๋อร์ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเยี่ยเสวียนเลย นางไม่มีความรู้สึกต่อเขาและที่นางทำลงไปเป็นแค่การแสดงให้พี่อันพอใจเท่านั้น
ปากเรียกพี่ชายแต่ใจไม่นับถือ เพราะหัวใจของนางมีเพียงพี่อันคนเดียว
ดวงตาของเยี่ยเสวียนค่อยๆ พร่าเลือน ความมีชีวิตชีวาหดหายไปทีละน้อย
เขาเกลียด เขาไม่เต็มใจ แต่เขาหมดหนทางแล้ว
เสียงของซูอันดังก้องในหูของเขาอีกครั้ง “ความจริงพ่อของหยวนเฟิงถูกข้าสังหารไปนานแล้ว ข้าแค่หลอกใช้เขา แต่เจ้าโง่นั่นหลงเชื่อจริงๆ”
ม่านตาของเยี่ยเสวียนขยายออกได้อีก
“อ้อ จริงสิ ข้าลืมบอกเจ้าไปเลย ความจริงหลี่จื่อซวงไม่ได้ทรยศเจ้า ทั้งหมดเป็นแผนของข้าเอง ตอนนั้นข้าจับนางไว้ ขังนางและทรมานนาง แต่นางไม่ยอมปริปากบอกข้อมูลของเจ้าเลย”
แม้เหลือเรี่ยวแรงน้อยนิดแต่เยี่ยเสวียนยังอ้าปากค้างได้ เพียงแต่ไม่มีเสียงใดหลุดออกมา
“แต่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ปากเล็กๆ ของหลี่จื่อซวงยอดเยี่ยมจริงๆ นะ ข้าทดสอบด้วยตัวเองแล้วล่ะ”
“เยี่ยเสวียน เจ้าไปสบายเถอะ ข้าจะดูแลนางกับหลีเอ๋อร์ให้ดี รวมถึงผู้หญิงที่ชื่อถังซืออวิ๋นด้วย”
[ติ๊ง! โพธิจิตของเยี่ยเสวียนแตกสลาย ถูกโฮสต์ทำให้โกรธจนอกแตกตายและโชคสิ้นสุด คะแนนตัวร้ายเพิ่ม 2000]
[ติ๊ง! โฮสต์สังหารตัวเอกเยี่ยเสวียน แย่งชิงสูตรโกง...กายหยางศักดิ์สิทธิ์]
เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น
ในเวลาเดียวกัน ลึกเข้าไปในนิกายเทียนเต๋า ชายชราสวมชุดเต้าผาวลายเมฆลืมตาขึ้นทันใด
“โชคชะตาเปลี่ยนแปลง กลายเป็นโชคร้าย!”
“เสวียนเอ๋อร์ตายแล้วจริงๆ!”
เขาลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปกลับมา ปากยังบ่นพึมพำว่า “เป็นไปได้อย่างไร”
ดูจากสีหน้าของเขาแล้วไม่มีความโศกเศร้ามากนัก ราวกับว่าเครื่องมือที่มีประโยชน์หายไปชิ้นหนึ่งเท่านั้น
“ต้องมีบางสิ่งผิดพลาด ต้องมีใครสักคนในโลกนี้กำลังขัดขวางไม่ให้นิกายเทียนเต๋าเจริญรุ่งเรือง!” ทันใดนั้นเขาหันกลับไปมองที่ประตูลึกลับข้างหลังด้วยสายตาโหยหาและปรารถนา
“เป็นใครก็ช่าง! ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่สามารถหยุดข้าได้”
……
“ทำให้ข้าโมโหมาก ทำให้ข้าอารมณ์ไม่ดี!”
เมื่อได้ยินเสียงแจ้งของระบบ ซูอันจึงยกเท้าเตะร่างของเยี่ยเสวียนและเห็นว่าไม่มีการตอบสนองอีก
ความรู้สึกโล่งใจเกิดขึ้น เมื่อนึกถึงว่าตอนที่เขาฟื้นความทรงจำครั้งแรก เขากังวลว่าจะถูกเยี่ยเสวียนสังหาร แต่นี่ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาแล้ว