CD บทที่ 507 ใครบังอาจมาหยุดฉัน?
เมื่อจ้าวหยู่นำพยานกงเว่ยเซินมาที่สถานีหรงหยาง แผนกสืบสวนก็ยุ่งเหยิงในทันใด
ขณะเดียวกัน หลี่เบ่ยหนีกับเหลียงฮวนกำลังเดินทางไปสถานีโม่หยางเพื่อไปรับหลักฐานของคดีฆาตกรรมในเฟลตมา ส่วนคนอื่น ๆ ก็ต่างตกตะลึงไปทั้งทรวง เพราะพวกเขาไม่เข้าใจบทละครที่หัวหน้าทีมจ้าวของพวกเขากำลังแสดงอยู่
พวกเขาปิดคดีลักพาตัวไปแล้ว ทำไมยังจับคนอื่นมาเพิ่ม?
ในขณะนั้น จ้าวหยู่ได้รับการอัปเดตว่าจางจิงเฟิงกับต้าเฟยได้จับกุมเสี่ยวกั๋วเฟิงกับเสี่ยวเจิ้นจากบ้านของเฟิงกั๋วแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังเดินทางไปสถานีหรงหยาง
เพื่อเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะสอบปากคำเสี่ยวเจิ้น จ้าวหยู่ไม่เพียงแต่บอกให้นักสืบให้ค้นหาข้อมูลของครอบครัวเสี่ยวเท่านั้น เขายังบอกให้คนของเขาทำทุกอย่างลับ ๆ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จ้าวหยู่กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมการ เหมาเว่ยกับผู้การหลันก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องทำงานของทีม A
“จ้าวหยู่! คุณหมายความว่าอย่างไร!?” ผู้การหลันยังไม่เข้ามาในห้องด้วยซ้ำ และเธอก็ถามอย่างไม่อดทนว่า “มันเกิดอะไรขึ้น!? วันนี้คุณได้รับความดีความชอบจากสถานีรุ่ยหยาง และนำเกียรติมาให้พวกเราแล้ว ทำไมคุณถึงไม่พักผ่อนสักหน่อยล่ะ? แล้วบอกฉันหน่อยสิว่าทำไมคุณถึงส่งคำสั่งจับกุม!? คนสองคนนั้นเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร!?”
“ผู้การหลัน!” จ้าวหยู่ยืนตรงและตอบว่า “ฉันพบว่าเสี่ยวเจิ้นเป็นฆาตกรในคดีฆาตกรรมในแฟลต เฟิงกั๋วถูกสั่งจำคุกโดยไม่มีความผิด นอกจากนี้ ฉันมีหลักฐานเพียงพอที่จะ…”
“จ้าวหยู่! หากเป็นอย่างนั้น คุณก็ไม่ควรลงมือปุบปับขนาดนี้!” โดยไม่รอให้จ้าวหยู่พูดจบ ผู้การหลันก็ตัดบทเขาทันที “แล้วคุณก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอว่า คดีมันปิดแล้ว
และอีกอย่าง มันไม่ได้อยู่ภายใต้เขตอำนาจของสถานีหรงหยางด้วยซ้ำ สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้ ไม่เพียงแต่จะกระทบต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณในสถานีรุ่ยหยางได้รับลกระทบไปอีกด้วย
คุณได้คำนึงถึงผลลัพธ์ของการกระทำของคุณหรือเปล่า!?”
“ใช่ ๆ!” เหมาเว่ยกล่าว “เกียรติยศนั้นยากที่จะได้มา แต่เมื่อคุณประมาท มันอาจจะถูกทำลายได้ในชั่วข้ามคืน! ฟังฉันนะ รีบโทรหาจาง! ปล่อยพวกเขา! คุณยังมีเวลาให้ถอยนะ!”
"ไม่มีทาง!" จ้าวหยู่กล่าวอย่างเด็ดขาด “วันนี้ฉันต้องจับพวกเขามาสอบปากคำให้ได้ เสี่ยวเจิ้นเป็นคนรอบคอบ ถ้าฉันพลาดโอกาสในวันนี้ไป คงเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะให้เขายอมรับความผิดของเขาในอนาคต!”
“จริง ๆ เลย!” ผู้การหลันเริ่มสั่นเทาด้วยความโกรธ “จ้าวหยู่ คุณไม่เข้าใจว่าฉันหมายถึงอะไร? คดีนั้นมีอายุสิบปีและถูกปิดไปแล้ว! การที่คุณออกคำสั่งจับกุมแบบนี้นั้นมันผิดกฎหมาย!
แม้ว่าคุณต้องการจะไขข้อสงสัยให้กระจ่าง คุณก็ยังต้องใช้กระบวนการทีละขั้นตอน คุณจะต้องเจอเรื่องใหญ่แน่ หากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป!”
“ฟังฉันนะ หยุดสิ่งที่คุณกำลังทำทุกอย่างนี้ให้หมด เข้าใจมั้ย!?”
ทันใดนั้น เสี่ยวไป๋ก็วิ่งเข้ามา หอบและตะโกนว่า
“หัวหน้าทีมจ้าว! เรานำตัวพวกเขามาแล้ว ให้ส่งไปที่ห้องสอบสวนเลยมั้ย?”
จู่ ๆ เสี่ยวไป๋ก็ตระหนักว่าผู้การหลันอยู่ที่นั่น เขาตกตะลึงด้วยความตกใจ และยังคงรอคำสั่งอยู่
“พาพวกเขาไปที่ห้องสอบสวน!” จ้าวหยู่โบกมือและตอบกลับ
"หยุดนะ! ปล่อยพวกเขาไป!" ผู้การหลันคัดค้านเสียงดัง “จ้าวหยู่ หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว โอเคไหม!? คุณไม่สามารถแบกรับความรับผิดชอบได้อย่างแน่นอน เพราะคนที่รับผิดชอบคดีฆาตกรรมในแฟลตคือ ผู้บังคับการฮง
สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบแค่คุณเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้สถานีหรงหยางทั้งหมดตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอีกด้วย!”
“จ้าว ฟังที่ผู้การหลันพูดเถอะนะ” เหมาเว่ยรบเร้าจ้าวหยู่ “อย่าดื้อรั้นอีกเลย ลองคิดหาทางอื่นดูไหม? ทำไมคุณถึงไม่ปรึกษาฉันก่อนล่ะ?”
"ฉันไม่เข้าใจ!" จ้าวหยู่เลิกคิ้วทันที จ้องมองขณะที่เขาคำราม "เฟิงกั๋วถูกตัดสินจำคุกด้วยความผิดพลาด และฆาตกรก็อยู่ตรงหน้าฉันแล้ว ทำไมมันถึงยากนักที่จะฉันจะสอบปากคำผู้ต้องสงสัย? หน้าที่ของตำรวจคือค้นหาความจริงไม่ใช่เหรอ?
หรือว่า... เพื่อปกป้องชื่อเสียง และความรู้สึกของผู้บังคับการ เราต้องปล่อยให้เฟิงกั๋วอยู่ในคุกต่อไป? พวกที่อยู่ในตำแหน่งสูง ๆ มีความคิดแบบนี้กันทุกคนเลยสินะ ช่างน่าผิดหฟวังจริง ๆ”
“เสี่ยวไป๋ นำตัวผู้ต้องสงสัยเข้าไปในห้องสอบสวนเลย!”
ขณะที่จ้าวหยู่ตะโกน ทุกคนก็ตกตะลึง!
“หัวหน้าทีม…” เสี่ยวไป๋ทำอะไรไม่ถูก เขามองไปที่ผู้การหลัน แล้วก็จ้าวหยู่โดยไม่กล้าขยับแม้แต่นิดเดียว
“แม่งเอ๊ย!” จ้าวหยู่หยิบถ้วยชาขึ้นมาและหักมันทิ้ง จากนั้น เขาก็ถ่มน้ำลายออกมาว่า “ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งรึไง!? พาผู้ต้องสงสัยไปที่ห้องสอบสวนเดี๋ยวนี้!”
เสี่ยวไป๋ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เขาเห็นว่าผู้การหลันไม่ได้พูดอะไร เขาก้มหน้าและทำตามคำสั่งของจ้าวหยู่
“คุณมันบ้า! คุณมันบ้าไปแล้ว!” ตอนนี้ผู้การหลันโกรธมาก “จ้าวหยู่ ทุกคนที่นี่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นในอนาคต คุณจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด!”
"ตกลง!" จ้าวหยู่ตอบกลับด้วยท่าทาวดูถูก “มีตอนไหนบ้างที่ฉันไม่เคยรับผิดชอบ? คุณแค่อยู่ในตำแหน่งสูงเกว่าฉัน และรู้วิธีใช้ประโยชน์จากผลลัพธ์ที่ฉันทำมาทั้งหมด แต่ก็พร้อมที่จะหนีเมื่อเวลามีปัญหา
สิ่งที่คุณกำลังทำนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าพวกหัวหน้าแก๊งซะอีก อย่างน้อย ๆ คนพวกนั้นเขายังพยายามปกป้องลูกน้องของเขา!”
ถึงคำพูดของเขาหยาบคาย แต่เหตุผลนั้นมันหนักแน่น หลังจากที่จ้าวหยู่ตะโกนออกไป ผู้การหลันก็รู้สึกอันอายจนพูดไม่ออก
จ้าวหยู่เดินผ่านเธอ โดยมุ่งหน้าไปยังห้องสอบสวน เมื่อเขามาถึงห้องสอบสวน มีคนจำนวนหนึ่งเพิ่งขึ้นบันไดมา จ้าวหยู่เคยเห็นฉากที่คล้ายกันนี้มาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
เขาเห็นว่าไม่ใช่ใครอื่นนอกจากทีมสืบสวนของเทศบาล โดยมีหวังเซินเหยาเป็นผู้นำกลุ่ม
“จะจ้าวหยู่! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เมื่อเขาเห็นจ้าวหยู่ หวังเซินเหยาก็ตะโกนอย่างรวดเร็ว
จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็เข้าใจได้ว่าคนเหล่านี้ต้องการมายุ่งย่ามกับคดีฆาตกรรมในแฟลต พวกเขาอยู่ที่นั่นเพื่อหยุดเขาไม่ให้กลับคำตัดสินของเฟิงกั๋ว
จ้าวหยู่จ้องไปที่เหมาเว่ย และตะโกนว่า
“เหมาเว่ย แกหักหลังฉัน! แกกล้าบอกหวังเซินเหยาได้ยังไง!?”
“จ้าว! คุณพูดถึงเรื่องอะไร!?” เหมาเว่ยโกรธมาก “คุณไม่เข้าใจเหรอ? ฉันพยายามปกป้องคุณ! หากเจ้าหน้าที่ระดับสูงรู้เรื่องนี้ คุณจะถูกเล่นงานอย่างหนัก!
ลองคิดดูสิ ฉันทำอย่างนี้เพราะฉันปฏิบัติต่อคุณเหมือนน้องชายของฉัน สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้กำลังจะทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงขุ่นเคือง ไม่สิ เผลอ ๆ อาจจะเป็นตำรวจทั้งฉินชานด้วยซ้ำ
คุณยังคิดว่าฉันหักหลังคุณอยู่หรือเปล่า? แล้วถ้าคุณสามารถคลี่คลายคดีได้ล่ะ? แล้วใครจะปกป้องคุณล่ะ?”
จ้าวหยู่จ้องมองเหมาเว่ยด้วยสายตาพิฆาต จากนั้น เขาก็หันหลังกลับและพร้อมที่จะเข้าไปในห้องสอบสวน อย่างไรก็ตาม หวังเซินเหยาและลูกน้องของเขาได้เข้ามาขวางทางของเขาไว้แล้ว
“จ้าวหยู่ คุณบ้าไปแล้วที่คิดจะคลี่คลายคดีเก่า ๆ แบบนี้ คุณก่อปัญหาที่สถานีรุ่ยหยางตลอดทั้งวัน มันยังไม่หนำใจอีกเหรอ?” หวังเซินเหยาตะโกนด้วยท่าทีอวดดี “นอกจากจะสร้างปัญหาแล้ว คุณทำอะไรเป็นบ้าง?”
“หวัง! คุณอยากทำอะไร!? อยากมีเรื่องกับฉันใช่มั้ย!?” จ้าวหยู่กล่าวอย่างเดือดดาล “ฉัน จ้าวหยู่ ต้องการสอบปากคำผู้ต้องสงสัย กล้าดียังไงมาขวางทางฉัน!”
จากนั้น เขาก็กระแทกคนที่มาขวางคนหนึ่งออกไปอย่างหยาบคายและเดินหน้าต่อไป
“หยุดเขา! เร็วเข้า!” หวังเซินเหยาสั่งให้ลูกน้องของเขาหยุดจ้าวหยู่ ขณะที่เขาตะโกนใส่จ้าวหยู่ “จ้าวหยู่ คุณไม่ได้รับอนุญาตให้สอบสวนคดีนี้ใหม่ มันไม่เป็นไปตามขั้นตอน คนไม่กี่คนที่คุณจับกุมนั้นเป็นพลเมืองผู้บริสุทธิ์ สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้กำลังก่ออาชญากรรม ดังนั้น ผลกระทบจะไม่ส่งผลแค่คุณคนเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถานีหรงหยางอีกด้วย!”
จ้าวหยู่ยังคงก้าวต่อไปโดยไม่สนใจกลุ่มนักสืบที่อยู่ตรงหน้าเขา
“เร็วเข้า! รีบหยุดเขาเดี๋ยวนี้!” หวังเซินเหยาคำรามด้วยความโกรธ “ไม่ว่ายังไงก็ตาม อย่าให้เขาเข้าไปในห้องสอบสวนเด็ดขาด!!!”