ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 340 หากอยากรอดก็ถามเขา
ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 340 หากอยากรอดก็ถามเขา
"หืม"
"ในดินแดนมรกตถึงกับมีอัจฉริยะประหลาดเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้น”
ได้ฟังคำกราบทูลขององครักษ์ลับ ในดวงตาเฒ่าที่หม่นแสงของชายชราพลันเปล่งประกายวาววับขึ้นมา
เสียงของเขายังเต็มไปด้วยความตกตะลึง
แต่เขาเพียงโบกมือ ปล่อยให้องครักษ์ลับพูดต่อไป
เป็นที่ชัดเจนว่า ข่าวที่องครักษ์ลับนำมาล้วนเกี่ยวข้องกับกู่หยาง
และเมื่อเขาได้ยินข่าวทั้งหมดที่องครักษ์ลับนำมากราบทูลแล้ว
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นอันแสนทรงภูมิของชายชรา ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความตกตะลึงออกมา
"ไม่คิดเลยว่า...ไม่คิดเลยว่าในตะวันออกของเราจะมีอัจฉริยะประหลาดเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นมา!”
"อายุสิบแปดปี ขอบเขตแก่นสุญตาระดับ 13 ขั้นสูงสุด หลอมแก่นก่อกำเนิดระดับสวรรค์ บำเพ็ญวรยุทธและวิชายุทธระดับจักรพรรดิ พบเจอทัณฑ์สายฟ้าคุกทมิฬฉบับสมบูรณ์ ครอบครองตัวอ่อนเขตแดน”
“แถมยังสังหารยอดฝีมือขอบเขตผันแปรระดับ 1 ได้ในขณะหลอมกาย...”
เสียงของชายชราเต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึงและหนักแน่น
เห็นได้ชัดว่า...
การที่มีคนสามารถทำสิ่งน่าพิศวงทั้งหมดนี้ได้ ทั้งที่เป็นบุคคลเดียวกัน
ถึงแม้ชายชราจะเป็นคนที่ผ่านโลกมามาก แต่เวลานี้ก็อดที่จะอุทานอย่างตกตะลึงซ้ำ ๆ ไม่ได้
"ดูเหมือนว่า...การแข่งขันหมื่นดินแดนครั้งนี้ จะเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก!"
"คนแก่คนเฒ่าอย่างข้าเองก็รู้สึกคาดหวังขึ้นมาเสียแล้ว"
คิดถึงตรงนี้ บนใบหน้าของชายชราพลันปรากฏประกายความคาดหวัง
เลือดลมทั่วร่างกายของเขาเวลานี้ พิลึกยิ่งนัก เริ่มไหลเวียนอย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่า...
เรื่องราวของกู่หยางนำความตื่นตะลึงอย่างใหญ่หลวงมาให้เขา ถึงขนาดทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นมา
แน่นอน เรื่องราวของกู่หยางลือเลื่องไปยังภายนอกแล้ว
ที่ภายในเขตแดนของราชวงศ์ต้าเหยียน ตระกูลเยว่ก็ได้รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับกู่หยางแล้ว
เมื่อรู้ว่าผู้อาวุโสขอบเขตผันแปรของตนตายอย่างน่าสังเวชในมือของกู่หยาง คนในตระกูลเยว่ทุกคนต่างตกอยู่ในสภาวะตื่นตระหนกอย่างยิ่ง
"ผู้นำตระกูล พวกเราหนีเถอะ!”
"ตอนนี้กู่หยางแข็งแกร่งเกินไปแล้ว พวกเราไม่อยากหาเรื่องเขาจริง ๆ!”
"ใช่แล้ว ผู้นำตระกูล ถ้าไม่หนี...พวกเราคงต้องตายที่นี่แน่ ๆ!"
ในห้องโถงใหญ่ของตระกูลเยว่
เสียงโกลาหลวุ่นวายดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ได้ยินเช่นนี้ ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลเยว่ นั่นก็คือบิดาของเยว่ซิงเฉิน เวลานี้ใบหน้าของเขาเขียวคล้ำยิ่งนัก
"บัดซบ! เวลานี้แล้วยังคิดจะหันหลังหนีอีก ช่างไม่คู่ควรจะเป็นลูกหลานตระกูลเยว่ของพวกเราเสียจริง!"
หากเป็นเวลาปกติ คำพูดของผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลเยว่นี้ จะสามารถทำให้บรรดาศิษย์น้องยำเกรง ไม่มีผู้ใดกล้าโต้แย้งเลย
แต่เวลานี้...
คำพูดของผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลเยว่ กลับทำให้ผู้คนจำนวนมากโมโหจนคำรามใส่
"ผู้อาวุโสใหญ่ช่างใจดำจริง ๆ!"
"เพื่อเยว่ซิงเฉินคนเดียว เป็นแค่บุตรแท้ ๆ ของท่านเท่านั้น กลับไปหาเรื่องกู่หยางอัจฉริยะประหลาดเช่นนี้ ท่านนี่เองที่เป็นคนทรยศตระกูลเยว่พวกเรามากที่สุด!”
"ถูกต้อง หากไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสใหญ่ท่านและลูกชายอย่างเยว่ซิงเฉินนั่น ตระกูลเยว่ของพวกเราจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร!"
"น่าจะฟังคำแนะนำของผู้อาวุโสสามตั้งแต่ตอนแรก หนีจากราชวงศ์ต้าเหยียน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกู่หยางดีกว่า!"
"ใช่แล้ว! นี่เป็นความมักง่ายของผู้อาวุโสใหญ่เอง!"
ลูกหลานตระกูลเยว่จำนวนมากชี้หน้าด่าผู้อาวุโสใหญ่อย่างไม่เกรงใจ
อย่างกับว่าไม่ได้ใส่ใจผู้อาวุโสใหญ่อีกต่อไปเลย
"พวก...พวกเจ้านี่กำลังคิดจะก่อกบฏหรือ!"
ใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลเยว่เปลี่ยนเป็นสีดำเขียว
เขารู้ดีว่าที่ตระกูลเยว่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เป็นเพราะตัวเขาเอง
แต่เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว...
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางยอมรับเรื่องนี้ได้
มิเช่นนั้น...เขาไม่เพียงแต่จะไม่สามารถล้างแค้นให้เยว่ซิงเฉิน แต่ยังจะถูกย้อนกลับมาที่ตัวเอง ถูกคนในตระกูลทั้งหมดดูหมิ่นเหยียดหยาม ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางกู้กลับมาได้!
ดังนั้น เขาไม่มีทางยอมรับเรื่องนี้ได้เด็ดขาด!
เขาจึงแดงคอโต้เถียงกับคนในตระกูลรอบข้างทันที
ต้องบอกว่าการโต้แย้งกันระหว่างทั้งสองฝ่ายค่อนข้างรุนแรง
และก็ในตอนนี้เอง ผู้นำตระกูลเยว่ที่นั่งอยู่ตำแหน่งต้นโต๊ะตลอดมาโดยไม่ได้พูดอะไร ในที่สุดก็เปิดปากแล้ว
เขาระเบิดปราณอันน่าสะพรึงกลัวในร่างออกมาทันใด!
ปราณขอบเขตผันแปรแผ่ปกคลุมทั่วโถง
"เงียบ!”
"เรื่องนี้ เป็นเพราะข้าคาดการณ์ไม่ดีพอ”
"แต่เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ส่วนการอพยพ...เกรงว่าคงทำไม่ได้เช่นกัน"
พูดถึงตรงนี้
ในแววตาของผู้นำตระกูลเยว่ พลันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
หลังจากนั้นก็อดที่จะเงยหน้าขึ้นมาไม่ได้
ไม่ไกล...
เขารับรู้ถึงปราณที่คุ้นเคยและน่าสะพรึงกลัวได้อย่างชัดเจน
ในขณะเดียวกัน
ในฟ้าสูงเหนือจวนตระกูลเยว่
มีร่างสองร่างยืนอยู่
"กู่หยาง เมื่อเจ้าไม่อนุญาตให้ข้าออกมาช่วย...เช่นนั้นก็ขอให้เจ้าจัดการเองเถิด"
"ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเยว่ตอนนี้คือผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเขา ขอบเขตผันแปรระดับ 4 ยังมียอดฝีมือขอบเขตผันแปรอีกประมาณ 3 คน เจ้ามีความมั่นใจหรือไม่"
เหอชิงเซวียนมองกู่หยางที่ยืนอยู่ข้างกาย พลางถามด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ
กู่หยางผงกหัวช้า ๆ
"ไม่มีแม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตผันแปรขั้นปลายสักคน ดูเหมือนว่าตระกูลเยว่จะเป็นเพียงเท่านี้”
เสียงของกู่หยางดังขึ้นอย่างราบเรียบ
ได้ยินดังนี้ มุมปากของเหอชิงเซวียนกระตุกเล็กน้อย
ขอบเขตผันแปรระดับ 4 ...คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกู่หยางอย่างแน่นอน!
เพราะก่อนหน้านี้ที่เทือกเขาฟ้ากระจ่าง กู่หยางไม่ได้ชักกระบี่สักครั้ง
และเขารู้ดีว่า สิ่งที่กู่หยางถนัดที่สุดนั้น คือวิถีกระบี่!
กู่หยางตอนนี้ต้องมีไม้ตายซ่อนอยู่แน่นอน
ตระกูลเยว่...เกรงว่าจะไม่รอดในคืนนี้
ในตอนนี้เช่นกัน
มีร่างหลายร่างพุ่งทะยานขึ้นมาจากด้านล่างจวนตระกูลเยว่แล้ว
หนึ่งในนั้น ก็คือผู้นำตระกูลเยว่
เวลานี้ เขามองไปที่เหอชิงเซวียนและกู่หยาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหมดหวังยิ่งกว่า
จริงเสียด้วย!
คณบดีเหอกลับมาด้วยตนเอง
ตระกูลเยว่ของพวกเขา...ถึงวาระจะต้องสิ้นแล้ว!
ช่องว่างระหว่างขอบเขตราชันและขอบเขตผันแปรนั้นใหญ่หลวงยิ่งนัก
หากเหอชิงเซวียนลงมือด้วยตนเอง...
แม้ตระกูลเยว่ของพวกเขาจะทุ่มเททั้งกำลัง ก็ไม่มีทางต้านทานได้อย่างแน่นอน!
"เหอชิงเซวียน ท่านจะกวาดล้างให้ราบหรือ”
ผู้นำตระกูลเยว่มองเหอชิงเซวียนด้วยตาแดงก่ำ ร้องถามเสียงดัง
น้ำเสียงของเขาฟังดูน่าสงสาร
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้นำตระกูลเยว่แล้ว
เหอชิงเซวียนกลับรู้สึกเฉยเมยอย่างยิ่ง
"วางใจเถอะ ข้าไม่ยุ่ง"
"หากพวกเจ้าอยากมีชีวิตรอด...ก็ไปถามเขา"
พูดจบ เหอชิงเซวียนก็ถอยหลังออกมา กู่หยางสีหน้าเย็นชายืนก้าวออกมา
เมื่อเห็นกู่หยาง
เจตนาสังหารในดวงตาของผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลเยว่พลันปะทุพุ่งสูงจนพรรณนาไม่ถูก!
เพราะกู่หยาง ทำให้ตระกูลเยว่ของพวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง!
ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลเยว่อยากจะพุ่งขึ้นไปในทันที ฆ่ากู่หยางเสียเดี๋ยวนี้เลย!
แต่ผู้นำตระกูลเยว่อีกคนหนึ่ง เมื่อได้ยินคำพูดของเหอชิงเซวียนแล้ว
ความหมดหวังบนใบหน้าของเขาก็หายไปในพริบตา
แทนที่ด้วย...ความดีใจ
"ท่านบอกว่าท่านจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ใช่หรือไม่”
ผู้นำตระกูลเยว่ถามด้วยความสงสัย
"แน่นอน"
เหอชิงเซวียนตอบกลับอย่างเรียบ ๆ
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้นำตระกูลเยว่ก็อดกลั้นไม่ไหวอีก หัวเราะออกมาดังลั่น
เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ไม่คิดว่า สถานการณ์ที่ตกลงไปสู่หุบเหวแห่งความตาย ตอนนี้กลับยังมีความผันผวนอยู่!
คิดถึงตรงนี้ สายตาของผู้นำตระกูลเยว่ก็ตกลงบนตัวของกู่หยางทันที