บทที่ 60 วิชากระบี่ไท่อี้เทียนซวี่
ไผ่หยกเขียว ถือเป็นไม้วิเศษขั้นที่ 1 รุ่นดีเลิศ ตัวไม้ไผ่เองก็แข็งแกร่งสวยงาม สามารถกักเก็บปราณวิญญาณได้ดี เป็นวัตถุดิบหลอมสร้างอาวุธยอดนิยมในยุทธภพ
ไผ่หยกเขียวที่มีอายุกว่าพันปี ยิ่งมีโอกาสกลายพันธุ์เป็นไผ่ฟ้าเขียวที่มีขั้นสูงกว่า สามารถปลดปล่อยสายฟ้าวิญญาณเขียวแกมฟ้าจางๆ มีผลในการสกัดกั้นผู้ฝึกมารและสัตว์ประหลาดได้ดี และมีผลลัพธ์คล้ายกับผลึกสายฟ้าขจัดมารมาก
ไผ่หยกเขียวที่ลู่ผิงสำรวจพบนี้ มีอายุเพียงร้อยกว่าปี เป็นไผ่หยกเขียวธรรมดา อยู่ในขั้นที่ 1 รุ่นดีเลิศ
แม้ว่ายังห่างไกลจากการมีอายุครบพันปีมาก และยังไม่เปลี่ยนเป็นไผ่ฟ้าเขียว แต่ก็สามารถใช้ไผ่หยกเขียวพวกนี้หลอมสร้างกระบี่วิญญาณไผ่เขียวขั้นที่ 1 ได้
กระบี่ไผ่เขียว อาวุธวิญญาณขั้นที่ 1 เช่นนี้มีจำหน่ายในตลาดทั่วไป ถือเป็นอาวุธวิญญาณขั้นที่ 1 รุ่นดีเลิศ มีความคุ้มค่าสูง เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าผู้ฝึกตนอิสระ
หากหาผู้หลอมสร้างอาวุธที่มีฝีมือไม่ธรรมดา พร้อมเติมวัตถุดิบที่มีขั้นไม่เลว ก็สามารถหลอมสร้างกระบี่ไผ่เขียวขั้นที่ 2 ออกมาได้
การย้ายไผ่หยกเขียวมา และนำมาหลอมสร้างอาวุธวิญญาณ เป็นทางเลือกที่ดี สามารถชดเชยอาวุธวิญญาณที่ขาดแคลนของนิกายชิงซานได้ สะดวกในการเสริมอุปกรณ์ให้ศิษย์ ทำให้ปฏิบัติภารกิจภายนอกได้ดีขึ้น กระทั่งเตรียมการต่อสู้งูมารน้ำดำ
ส่วนหน่อไผ่ของไผ่หยกเขียวก็สามารถรับประทานได้ มีผลในการบำรุงร่างกาย ทำให้เส้นลมปราณโล่งตัว หากรับประทานเป็นประจำ จะเป็นผลดีต่อการฝึกตน
ส่วนรางวัลของระบบก็ไม่ต้องพูดถึง คะแนนชื่อเสียงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องได้ ส่วนค่ายกลทะเลไผ่เขียวนั้น สามารถใช้ไผ่หยกเขียวจัดวางฝังไว้ได้
ค่ายกลเช่นนี้ สามารถขังผู้ฝึกตนขั้นสร้างรากฐานคนหนึ่งไว้ได้ สำหรับนิกายชิงซานแล้ว ได้ประโยชน์มาก
แต่ปัญหาคือ ถ้าจะได้ไผ่หยกเขียวพวกนี้มา ก็ต้องจัดการหมาป่าลายม่วงขั้นฝึกปราณระดับ 7 ตนนั้นให้ได้ก่อน คงต้องผ่านการต่อสู้ดุเดือดมาครั้งหนึ่ง
แต่นี่ก็เป็นเรื่องปกตินั่นแหละ วัตถุวิเศษมักจะมีสัตว์ประหลาดคอยปกป้อง
กำจัดปีศาจก่อน ตามด้วยยึดสมบัติ นี่คือขั้นตอนปกติแล้ว
หมาป่าขั้นฝึกปราณระดับ 7 นั้น นิกายชิงซานยังพอจัดการได้ ไม่มีปัญหาใหญ่
ลู่ผิงจดจำภารกิจภายนอกนี้ไว้ เขายังไม่คิดจะหยุด จึงใช้คะแนนชื่อเสียงอีก 5 แต้ม แลกมาอีกหนึ่ง [ภารกิจภายนอก]
ในเมื่อจะปลีกวิเวก จัดสรรภารกิจภายนอกให้นิกายทำแค่หนึ่งอย่างก็ชัดเจนว่าไม่พอ
ลู่ผิงคำนวณว่า ในระหว่างปลีกวิเวก ทั้งคะแนนชื่อเสียงและรางวัลจากภารกิจภายนอก ยิ่งได้มากเท่าไรยิ่งดี
แผนที่ถูกกางออก การสำรวจภารกิจภายนอกที่สองก็เริ่มขึ้น
ครั้งนี้ ลู่ผิงเลือกด้านตะวันตกของนิกายชิงซาน สำรวจต้นทางทะเลทรายเอี้ยนหวงทางตะวันออก ซึ่งเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นหลิงซี
อีกไม่นาน ผลการสำรวจก็ออกมา
[ภารกิจภายนอก: ขบวนพ่อค้าที่ผ่านทะเลทรายเอี้ยนหวงมักถูกอสูรพายุทรายโจมตีอยู่บ่อยๆ กรุณาส่งศิษย์ไปกำจัดอสูรพายุทรายเพื่อรับรองการผ่านไปมาตามปกติของขบวนพ่อค้า]
[จำนวน: 26]
[กำลังรบ: ขั้นฝึกปราณระดับ 3 ถึง 5]
[สถานะ: ทำกิจกรรมระยะยาวบริเวณชายแดนตะวันออกของทะเลทรายเอี้ยนหวง]
[รางวัลเมื่อสำเร็จ: ชื่อเสียง 301 วิชากระบี่ไท่อี้เทียนซวี่]
...
อันนี้เป็นภารกิจกำจัดปีศาจ คล้ายกับภารกิจสำรวจจิ้งจอกถ้ำไม้ที่ผ่านมา
จากกำลังและจำนวนของสัตว์ประหลาด ความยากไม่สูงมากนัก นิกายชิงซานมีความสามารถที่จะทำสำเร็จ
และหากทำภารกิจนี้สำเร็จ ถึงแม้เทียบไม่ได้กับรางวัลของระบบ แต่หากทำเรื่องสังคมเก่ง อาจสามารถสร้างมิตรภาพกับขบวนพ่อค้าในทะเลทรายเอี้ยนหวงได้ สะดวกในการร่วมมือกันต่อไปในอนาคต
โดยรวมแล้ว คุ้มแน่นอน
ในรางวัลภารกิจนี้ วิชากระบี่ไท่อี้เทียนซวี่ดึงดูดสายตาลู่ผิงไว้แน่นหนา
นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ที่ได้เห็นมีรางวัลเป็นวิชาฝึกตนในภารกิจภายนอก นับจากภารกิจลับกำจัดงูมารน้ำดำ
เพราะความอยากรู้ ลู่ผิงเช็คดูรางวัลนี้ ไม่นานก็เห็นแววยินดีปรากฏบนใบหน้าของเขา
นี่เป็นวิชากระบี่ประเภทโจมตีธาตุทอง พลังสูงกว่าวิชาระดับเดียวกันมาก เป็นวิชาขั้นสูง ไม่เพียงฝึกฝนได้ถึงขั้นควบแน่น แม้แต่สร้างเป็นเครื่องรางรากฐานชีวิตยังได้ด้วย
เครื่องรางรากฐานชีวิต เป็นวัตถุวิเศษที่มักจะต้องหลอมสร้างอาวุธวิญญาณที่พกติดตัว ใช้ระยะเวลานาน บ่มเพาะอย่างเข้มข้น จึงจะสร้างสำเร็จได้ กลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้ฝึกตน
เครื่องรางรากฐานชีวิต สามารถใช้ความคิดของผู้ฝึกตนควบคุมได้ตามต้องการ ใช้โจมตีหรือป้องกันศัตรู วัตถุวิเศษแบบนี้ แม้แต่ลู่ผิงผู้แข็งแกร่ง ตอนมีชีวิตอยู่ก็เคยมีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น
ตอนนี้ มีวิชาฝึกตนที่มีขั้นไม่เลวแบบนี้ที่สามารถหลอมสร้างเครื่องรางรากฐานชีวิตได้ปรากฏอยู่ตรงหน้า
และเครื่องรางรากฐานชีวิตเองก็แน่นอนว่ามีระดับความแข็งแกร่งอ่อนแอแตกต่างกันไป มักจะแบ่งเป็นขั้นที่ 1 ถึง 9 ต่างกับยาวิเศษ อาวุธวิญญาณ ค่ายกล ผลึกอาคม ตรงที่ไม่มีการแบ่งย่อยรุ่นล่าง กลาง บน อย่างละเอียด
ก็คือ เครื่องรางรากฐานชีวิตขั้นที่ 1 ก็คือขั้นที่ 1 ไม่มีแบ่งย่อยเป็นขั้นที่ 1 รุ่นล่าง ขั้นที่ 1 รุ่นกลาง อะไรแบบนั้น
วิชากระบี่ไท่อี้เทียนซวี่นี้ สามารถหลอมสร้างเครื่องรางรากฐานชีวิตขั้นที่ 2 ได้
ชื่อของเครื่องรางรากฐานชีวิตก็เหมือนกับชื่อของวิชา คือกระบี่ไท่อี้เทียนซวี่
เมื่อหลอมสร้างเครื่องรางรากฐานชีวิตกระบี่ไท่อี้เทียนซวี่ได้แล้ว หากใช้ร่วมกับวิชานี้ พลังอานุภาพจะแข็งแกร่งมาก สามารถสังหารศัตรูที่อยู่ขั้นสูงกว่าได้
ยกตัวอย่างง่ายๆ ลู่ฉางเฟิงที่อยู่ขั้นฝึกปราณระดับ 8 หากได้เรียนวิชานี้ หลอมสร้างกระบี่ไท่อี้เทียนซวี่ได้ ก็สามารถสังหารผู้ฝึกตนขั้นฝึกปราณระดับ 9 ได้สบาย
หากต้องสู้กับเว่ยอู๋เหิงอีก ภายในเวลาไม่กี่สิบกระบวนท่าก็เอาชนะได้แน่
ที่สำคัญกว่านั้น กระบี่ไท่อี้เทียนซวี่สามารถบ่มเพาะเสริมพลังได้เรื่อยๆ เมื่อพลังของเจ้าของเพิ่มขึ้น มันก็จะค่อยๆเพิ่มขั้นเป็นขั้นที่ 3 ขั้นที่ 4 หรือแม้กระทั่งขั้นที่สูงกว่านั้นได้
กระบี่ไท่อี้เทียนซวี่ดีขนาดนี้ ลู่ผิงอยากจะให้ลูกทั้งสามมีไว้คนละอัน และเลือกศิษย์ที่โดดเด่นสักสองสามคนมาใช้ เพื่อเพิ่มพลังได้อีกไม่น้อย
แต่หากต้องการหลอมสร้างกระบี่ไท่อี้เทียนซวี่ ตามคำอธิบายในวิชา จำเป็นต้องใช้ 'ทองแดงม่วงเปลวไฟสวรรค์' เป็นวัตถุดิบหลัก
ต้องใช้ไฟสวรรค์สีม่วงที่หลอมรวมและกลั่นกรองชี่ทองแดงจากทองแดงม่วงเปลวไฟสวรรค์มาขัดเงาร่างกระบี่ หลอมขึดเป็นเวลาสี่สิบเก้าวันจึงจะสร้างกระบี่ไท่อี้เทียนซวี่ได้
"ทองแดงม่วงเปลวไฟสวรรค์"
ลู่ผิงพึมพำ
วัตถุวิเศษเช่นนี้ แม้แต่ปรมาจารย์ขั้นแก่นทองคำอย่างเขาก็ยังไม่เคยเห็น รู้แค่ชื่อเท่านั้น
ทองแดงม่วงเปลวไฟสวรรค์ มักจะเกิดในพื้นที่ร้อนจัด เช่นไฟใต้พิภพ หรือเหมืองแร่ไฟ โดยธรรมชาติแล้วเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่เรียกว่าทองแดงสีม่วง แต่ต้องผ่านการกลั่นกรองด้วยพลังธาตุไฟอย่างต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนจึงจะค่อยๆก่อเกิดขึ้น
ทั้งกระบวนการใช้เวลานานนับพันปี
นิกายชิงซานแน่นอนว่าไม่มีวัตถุล้ำค่านี้ ส่วนนิกายอื่นจะมีหรือไม่ ลู่ผิงนึกถึงนิกายหนึ่ง
พระราชวังเพลิงสวรรค์แห่งเกาะชิงไห่มีแหล่งผลิตวัตถุล้ำค่านี้จำนวนมาก แต่ถ้าจะไปหาสักหนึ่งสองก้อนคงไม่ง่ายเลย
"การหลอมสร้างกระบี่ไท่อี้เทียนซวี่ ต้องไปหาทองแดงม่วงเปลวไฟสวรรค์ก่อน นี่เป็นปัญหาหนึ่ง"
ลู่ผิงลูบคาง ส่ายหน้า "คิดถึงเรื่องนี้ในอนาคตก็แล้วกัน"
ตอนนี้ไม่คิดถึงปัญหานี้แล้ว ถึงไม่หลอมสร้างกระบี่ไท่อี้เทียนซวี่ การฝึกฝนวิชานี้อย่างเดียวก็ให้ผลไม่เลวแล้ว
ทองแดงม่วงเปลวไฟสวรรค์นี่หาโอกาสไปหาทางจัดการกันใหม่ในอนาคต
หลังสำรวจพบไผ่หยกเขียว และภารกิจกำจัดอสูรพายุทรายแล้ว ลู่ผิงก็ไม่คิดจะสำรวจต่อ
สองภารกิจนี้เหมาะสมที่จะมอบหมายให้ศิษย์ลงมือทำในหนึ่งปี
หากจัดสรรภารกิจมากเกินไป เพิ่มเป็นสามหรือสี่ภารกิจ มันจะใช้เวลาของศิษย์ไปมาก
ลู่ผิงปลีกวิเวกแค่ปีเดียว เขาไม่อยากให้ศิษย์ต้องเสียเวลาไปกับการทำภารกิจภายนอกหมด เวลาฝึกฝนและพัฒนานิกายต้องมี
การส่งศิษย์ไปกำจัดปีศาจหรือปฏิบัติภารกิจภายนอกบ่อยๆนัก ศิษย์ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีเลือดมีเนื้อ จะรู้สึกเหนื่อยล้า ในใจคงบ่นอุบว่ายุ่งมากเกินไป
ก่อนหน้านี้สองสามเดือน ก็ต้องส่งศิษย์ไปกำจัดจิ้งจอกถ้ำไม้ จับปลาหางเขียว ไปจนถึงไม่นานนี้กวาดล้างผู้ฝึกตนฝ่ายมารถึงสองครั้ง เรื่องพวกนี้ล้วนทำให้ศิษย์ต้องวุ่นวายอยู่นาน
ดังนั้น ครั้งนี้จะไม่รบกวนเหล่าศิษย์มากจนเกินไป สองภารกิจก็พอดี
ลู่ผิงคิดว่าภายในครึ่งปีก็ทำสำเร็จไปหนึ่งภารกิจก็ยังดี
หรือไม่ก็ทำสำเร็จเพียงหนึ่งภารกิจ แล้วอีกหนึ่งภารกิจค่อยทำหลังเขาออกจากการปลีกวิเวกก็ได้
ลู่ผิงจดจำสองภารกิจนี้ไว้ เมื่อมองดูคะแนนชื่อเสียงที่เหลือ 64 คะแนนแล้ว เขาก็ไม่คิดจะใช้อีก ต้องเก็บคะแนนเอาไว้บ้าง
เตรียมการปลีกวิเวกเสร็จแล้ว ลู่ผิงก็ส่งข้อความไปหาลู่หยวนซานทันที
"หยวนซาน มาพบข้าที่ถ้ำหลัก"