บทที่ 58 นิกายมีแนวทางขยันประหยัด การฝึกฝนรวดเร็วขึ้น
สำหรับพืชสมุนไพรวิเศษอย่างเช่นหญ้าใจสงบ เห็ดหลินจือเมฆม่วง ซึ่งปลูกในนิกายมานานหลายสิบปี นิกายไม่เพียงมีประสบการณ์อุดมสมบูรณ์ ทั้งยังรู้วิธีการเก็บเกี่ยว แถมประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยวก็รวดเร็วอีกด้วย
ลู่หยวนซานเป็นผู้ชำนาญแล้ว ทุกปีเขาจะมาช่วยงานเก็บเกี่ยวในสวนสมุนไพรด้วยตัวเอง ท่วงท่าคล่องแคล่วมาก แม้แต่เช่อชิงชิงก็หาข้อบกพร่องไม่เจอ
อีกมุมหนึ่ง ลู่ผิงเฝ้าดูชายผู้ใหญ่ เด็กชาย และสาวน้อยคนนี้กำลังยุ่งอยู่ในผืนนาสมุนไพร เขาถึงกับอดไม่ได้ที่อยากจะลงมือมาร่วมช่วยด้วย
เขาไม่ได้เก็บพืชสมุนไพรวิเศษมาสามสิบกว่าปีแล้ว แต่วิธีเก็บเกี่ยวนั้นเขาเข้าใจเป็นธรรมดา ความเข้าใจในพืชสมุนไพรวิเศษของเขานั้นสูงกว่าเช่อชิงชิงอยู่มาก
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนที่มาจากการดูแลสวนสมุนไพร เป็นศิษย์ปรุงยา ค่อยๆไต่เต้าขึ้นมาจนถึงระดับปรมาจารย์ปรุงยา 3 ขั้น
น่าเสียดาย เขาเป็นเพียงร่างจิตวิญญาณ ถึงมีใจแต่ไร้เรี่ยวแรง ได้แต่ยืนมองอยู่ข้างๆเท่านั้น
ประสิทธิภาพการทำงานของทั้งสามคนสูงมาก ใช้เวลาแค่หนึ่งวันพืชสมุนไพรวิเศษที่กำลังสุกงอมก็ถูกเก็บเกี่ยวจนหมด นำไปเก็บไว้ในกล่องหยกที่เตรียมไว้ทั้งหมด
กล่องหยกเหล่านี้ หรือที่เรียกอีกชื่อว่ากล่องสมุนไพรวิเศษ ล้วนใช้สำหรับเก็บรักษาพืชสมุนไพรวิเศษโดยเฉพาะ มีปราณวิญญาณฝังอยู่ มีอาเรย์เล็กๆสำหรับสั่งสมปราณอย่างง่าย เพื่อรักษาประสิทธิภาพของพืชสมุนไพรวิเศษไว้
พืชสมุนไพรวิเศษเหล่านี้เมื่อเก็บในกล่องหยกแล้ว จะสามารถเก็บรักษาความสดได้ราวๆหนึ่งปี ถ้าขายออกไปได้ทั้งหมด ก็จะนำรายได้ให้นิกายราว 150 ก้อนหยกวิญญาณ
รายได้ไม่ได้มากเท่าไร แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ส่วนสามหมู่ผืนนาวิญญาณใหม่ข้างๆนั้น ลู่หยวนซานมองสำรวจสองสามครั้ง เห็นเจริญเติบโตได้ดี ก็รู้ว่ายังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสุก เขาจึงกำชับให้เช่อชิงชิงดูแลอย่างเอาใจใส่ แล้วนำพืชสมุนไพรวิเศษจากไป
ภารกิจขายพืชสมุนไพรวิเศษครั้งนี้ ก็มอบหมายให้ลู่ฉางเฟิงตามธรรมดา
ทุกปีลู่ฉางเฟิงจะเป็นคนรับผิดชอบการขนส่งข้าววิญญาณและพืชสมุนไพรวิเศษของนิกายไปยังตลาดชิงเหอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ต่างจากการขนส่งข้าววิญญาณ พืชสมุนไพรวิเศษครั้งนี้ไม่ได้มีมูลค่าสูงมาก แถมพกพาสะดวก เพียงแต่นำถุงเก็บของสองใบไปก็บรรจุได้หมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ศิษย์อื่นร่วมเดินทางไปด้วย
ดังนั้นหลังได้รับพืชสมุนไพรวิเศษมา ลู่ฉางเฟิงก็ออกเดินทางไปคนเดียวทันที
เนื่องจากไม่มีอสูรเมฆเดินทางให้ขี่ กว่าจะไปถึงตลาดชิงเหอก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว
เขาไปพักที่ร้านของนิกายอย่าง 'ชิงซานจู' สองสามวันเหมือนทุกปี ขายพืชสมุนไพรวิเศษไปบางส่วน แล้วก็ซื้อเมล็ดพันธุ์เห็ดหลินจือเมฆม่วง หวายกล้วยไม้หยก ไว้อีกยี่สิบกว่าก้อนหยกวิญญาณ ก่อนจะเดินทางกลับนิกาย
พืชสมุนไพรวิเศษในสวนสมุนไพรนั้น ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องเก็บเมล็ดทุกปีเสียด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่นหญ้าใจสงบ เพียงแต่เหลือรากไว้เวลาเก็บเกี่ยว ปีหน้าก็จะได้หญ้าใจสงบอีกรุ่นหนึ่งแล้ว
การเดินทางไปตลาดชิงเหอครั้งนี้ของลู่ฉางเฟิง ใช้เวลาไปกว่าสี่สิบวันแล้ว
หลังจากกลับถึงนิกาย ส่งเมล็ดพืชสมุนไพรวิเศษให้เช่อชิงชิงปลูก เขาก็หยุดพักได้สักพัก ฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งในช่วงนี้
ด้วยความช่วยเหลือ และการทุ่มเทของหลี่เหว่ยเซียว ทำให้งานปลูกพืชสมุนไพรวิเศษของเช่อชิงชิงในปีนี้ก็ผ่อนคลายกว่าปีก่อนๆมาก นางจึงมีเวลาว่างมากขึ้นในการศึกษาความรู้ปรุงยา
แนวโน้มการพัฒนาของนิกายดีขึ้นไปทุกที
ได้เห็นสวนสมุนไพรถูกขยายเสร็จสมบูรณ์แล้ว ปีนี้พืชสมุนไพรวิเศษก็ปลูกเสร็จแล้ว ลู่ผิงจึงตัดสินใจจะช่วยอะไรสวนสมุนไพรสักหน่อย
เขาเรียกหน้าต่างระบบขึ้นมา
[ระบบจำลองสำนัก]
[ผู้ใช้: ลู่ผิง]
[นิกาย: นิกายชิงซาน]
[อัตลักษณ์: ปรมาจารย์นิกายชิงซาน]
[ระดับ: นิกายขั้นฝึกปราณ]
[ชื่อเสียง: 404]
[ชื่อเสียง: เสื่อมเสียอย่างมาก ยังไม่ชัดเจนว่าฝ่ายธรรมะหรือมาร]
[สมาชิก: 32]
[สิ่งก่อสร้าง: ศาลาประตูหลักนิกาย ศาลาเก็บตำรา ศาลาปรุงยา ศาลาหลอมอาวุธ ไม่รวมในที่นี้]
[ทรัพยากร: เส้นใยวิญญาณภูเขาเขียว (ระดับ 2) ค่ายกลกระบี่หมอกอำพรางน้อย (ระดับ 2) สามหมู่ผืนนาสมุนไพร (ระดับ 1) สิบหมู่ไร่ปลูกพืชวิญญาณ (ระดับ 2) หนึ่งร้านค้าในตลาด ต้นท้อวิเศษ (ระดับ 1) ปลาวิญญาณหางเขียว (ระดับ 1)]
[รายได้: 810 ก้อนหยกวิญญาณ/ปี]
[รายจ่าย: 1260 ก้อนหยกวิญญาณ/ปี]
[รายได้สุทธิ: -450 ก้อนหยกวิญญาณ/ปี]
[เงินออม: 293 ก้อนหยกวิญญาณ]
[แผนที่: เขตหลูซาน (49%)]
[ข้อความ: เส้นทางกว้างใหญ่ใจกลางทะเล สัตว์ประหลาดกลืนฟ้า การมาของเจ้าสำหรับผู้คนทั่วไปแล้วไม่ได้พิเศษอะไร เป็นเพียงส่วนเล็กๆที่ธรรมดาสามัญ แต่คนตัวเล็กๆก็ทำเรื่องใหญ่ได้]
[เป้าหมาย: ในนิกายชิงซานมีทั้งปัญหาภายในและภายนอก ต้องฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ในฐานะปรมาจารย์ผู้ก่อตั้ง ขอจงพยายามทำให้นิกายของเจ้ารุ่งเรืองเถิด]
...
หลังจากที่ลู่ผิงใช้เวลาช่วงนี้พัฒนาและดำเนินการต่างๆเพื่อช่วยเหลือนิกาย
ข้อมูลบนหน้าต่างระบบก็ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก
มีเพียงคะแนนชื่อเสียงและจำนวนก้อนหยกวิญญาณสำรองที่เพิ่มขึ้นพอสมควรจากตอนเริ่มต้น สมาชิกนิกายก็เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ในด้านรายได้และรายจ่ายของนิกาย ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องใหญ่โตหรอก ตอนที่ลู่ผิงตื่นขึ้นมา นิกายชิงซานมีรายได้ต่อปี 730 ก้อนหยกวิญญาณ
รายจ่ายอยู่ที่ 1260 ก้อนหยกต่อปี
เมื่อนำทั้งสองอย่างมาหักลบกัน รายได้สุทธิของนิกายต่อปีจะติดลบ เป็นลบ 530 ก้อน
แล้วตอนนี้ล่ะ?
ภายใต้สถานการณ์ที่รายจ่ายยังคงเดิม รายได้กลับเพิ่มเป็น 810 ก้อนหยกต่อปี รายได้สุทธิคือลบ 450 ก้อนหยกต่อปี
ถึงแม้รายได้สุทธิจะยังติดลบอยู่ แต่อย่างน้อยก็ลดน้อยลง ติดลบไม่มากเท่าเดิม
สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ห้ามลืมก็คือ ทรัพยากรได้เพิ่มขึ้นมากทีเดียว
ไร่ปลูกพืชวิญญาณได้รับการขยายออกไป ในการดำเนินการของลู่ผิงไร่แห่งนี้ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นถึงขั้นที่ 2 นอกจากจะเพิ่มผลผลิตข้าววิญญาณแล้ว ยังให้ข้าวหยกขั้น 2 แก่นิกายอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีต้นท้อวิเศษ ปลาวิญญาณหางเขียว และหญ้ารากจันทร์ ทรัพยากรใหม่เหล่านี้จะมีผลผลิตพุ่งพรวดในปีหน้า
ทำให้รายได้ของนิกายชิงซานเพิ่มขึ้นมาก แนวโน้มอยู่ในระดับที่น่าพอใจอย่างยิ่ง
ที่ข้อมูลไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก ก็เป็นเพราะยังเร็วเกินไปเท่านั้นเอง
เรื่องเศรษฐกิจของนิกายสามารถผ่อนคลายลงได้บ้างแล้ว แค่รอให้ถึงปีหน้าเบ่งบานออกดอกออกผล ก็รอรับรายได้อยู่เฉยๆ
ลู่ผิงไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่เศรษฐกิจของนิกายอีกต่อไป แต่เปลี่ยนไปให้ความสนใจกับคะแนนชื่อเสียงแทน
ตอนนี้คะแนนชื่อเสียงสะสมถึง 404 แต้มแล้ว ถือว่าเยอะมากเลย
"404 แต้มชื่อเสียง น่าจะลองปรับรายการร้านค้าดูสักหน่อย เผื่อจะมีการปรับระดับทรัพยากรขึ้นมา แล้วจะได้ปรับระดับสวนสมุนไพรด้วย"
ในตอนนี้ สินค้าในร้านค้าที่จะมีผลจริงจังต่อนิกายนั้นแทบไม่มีเลย ลู่ผิงไม่ค่อยสนใจอะไรนัก
ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด คือ [ปรับระดับทรัพยากร] นี่แหละ
หรือไม่ก็ปรับรายการเอาวิชาฝึกตนธาตุน้ำแข็งที่เกรดไม่เลวสักวิชาก็ยังดี
งั้นมาปรับรายการร้านค้าหลายๆครั้งดีกว่า ใครจะรู้ บางทีอาจจะเจอของดีขึ้นมาก็ได้
คิดแล้วก็ลงมือทันที
ลู่ผิงใช้คะแนนชื่อเสียง 30 คะแนน เพื่อปรับรายการสามครั้งรวด
หน้าต่างร้านค้าเปลี่ยนแปลงไป บนพื้นฐานสินค้าเดิมที่มีอยู่ ได้ปรับรายการสินค้าเพิ่มขึ้นอีกสิบสองอย่าง
[หนึ่งดาว-รักษาหาย] [หนึ่งดาว-ขยันประหยัด] [หนึ่งดาว-เสริมขวัญกำลังใจ] [สองดาว-ฝึกฝนรวดเร็ว] [สองดาว-ผลึกสายฟ้าขจัดมาร]...
ในสินค้าใหม่สิบสองอย่าง ก็มีแค่ไม่กี่ชิ้นที่ลู่ผิงสนใจ
เขารู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่ปรับรายการถึงสามครั้ง ก็ไม่มี [ปรับระดับทรัพยากร] และไม่มีวิชาฝึกตนธาตุน้ำแข็งขึ้นมาเลย
ที่เหลือก็เป็นวิชาฝึกตนขั้นฝึกปราณธาตุทั้งห้าทั่วไปที่เกรดไม่สูง กับเมล็ดพันธุ์พืชสมุนไพรขั้นต่ำ
พวกนั้นไม่ต้องพูดถึง
แต่เมื่อมองสินค้าใหม่อย่างละเอียด พอเห็นว่า [รักษาหาย] ที่ปรับรายการขึ้นมามีถึงสองชิ้น ลู่ผิงก็ลอบยินดี