บทที่ 148 ต่อสู้กับบัมเบิลบีอีกครั้ง (ตอนที่ 3)
[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]
[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]
[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]
บทที่ 148 ต่อสู้กับบัมเบิลบีอีกครั้ง (ตอนที่ 3)
หลังจากได้เห็นรถสปอร์ตเชฟโรเลตคามาโรจากระยะไกล สีหน้าของซุนเฉิงก็เปลี่ยนไปทันที เขาได้แต่พึมพำกับตัวเองว่าสถานการณ์ชักไม่ดีแล้ว
หลังจากเคยพบกับบัมเบิ้ลบีหลายครั้ง เขาจึงรู้จักรถสปอร์ตเชฟโรเลตคามาโรที่เป็นร่างรถของบัมเบิ้ลบีในทันที
เห็นได้ชัดว่าบัมเบิ้ลบีก็จำเขาได้เช่นกัน ก่อนที่รถจะเข้ามาใกล้ ซุนเฉิงได้ยินเขาคำรามด้วยความโกรธ และทันใดนั้น อีกฝ่ายก็กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้ากำลังจะกลายร่างเป็นร่างหุ่นยนต์ของเขา
"อ้า"
"บัมเบิ้ลบี..."
ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องสองเสียงจากในรถ เสียงผู้ชายหนึ่งคนและหญิงหนึ่งคน ทำให้ความสนใจของเขาถูกดึงดูดไปในทันที
บุคคลทั้งสองไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก แซมและมิคาเอลา
ในขณะที่ยังคงระแวดระวังอยู่ ซุนเฉิงก็สังเกตอย่างละเอียด และรู้ว่าบัมเบิ้ลบีกำลังคอยระมัดระวัง จับจ้องแซมและมิคาเอลาซึ่งอยู่ในรถไม่ให้คอยห่าง
ซึ่งเมื่อบัมเบิ้ลบีเปลี่ยนร่างกลางอากาศ เขาทำก็โยนแซมและมิเคล่าขึ้นสูง จากนั้นหลังจากเสร็จสิ้นการแปลงร่างของเขาแล้ว เขาขยายฝ่ามือซ้ายและขวาของเขาออก จับพวกเขาแต่ละคนไว้อย่างปลอดภัย จากนั้นเขาก็กลิ้งไปบนพื้น วางแซมและมิคาเอลาไว้ข้างหลังเขา บัมเบิ้ลบีรีบเตือนทันทีว่า "อย่าเข้ามาใกล้..."
หลังจากพูดไปแล้ว บัมเบิ้ลบีก็เปลี่ยนเป็นร่างพร้อมต่อสู้ของเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เปลี่ยนแขนของเขาเป็นปืนใหญ่เลเซอร์อย่างรวดเร็วและปล่อยระเบิดที่เล็งไปที่ซุนเฉิง
"ตู้ม!"
ซุนเฉิงหลบกระสุนปืนพลางขมวดคิ้ว
พวกออโต้บอตส์คงจะมอบหมายให้นักรบคนนี้ปกป้อง แซมและมิคาเอลาจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเป็นแน่
แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่า ออฟติมัสไพร์มจะละทิ้งผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและผู้เชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการลับที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขา ให้มาดูแลมนุษย์สองคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับออโต้บอตส์เลย
เป็นผลให้ สถานการณ์นี้เริ่มต้นด้วยภาพที่เลวร้ายที่สุด!
"บัมเบิ้ลบี ข้ามาที่นี่ด้วยเจตนาดี...เจ้าต้องการที่จะก่อสงครามอีกครั้งหรือ?”
ซุนเฉิงถอนลมหายใจและกระโดดขึ้น หลีกเลี่ยงเลเซอร์ของบัมเบิ้ลบีอีกครั้ง เขายืนอยู่รอบวงนอก พับแขนและมองดูด้วยความไม่พอใจนัก
"เจตนาดีงั้นเหรอ? หุบปากไปเลยไอ้สารเลวดีเซปติคอน... "
ดวงตาของบัมเบิ้ลบีเต็มไปด้วยความรู้สึกเกลียดชังอันรุนแรง ดวงตาอิเล็กทรอนิกส์สีฟ้าอ่อนของเขาเผยให้เห็นความเกลียดชังที่มีต่อซุนเฉิงอย่างไร้เหตุผล เขายิงปืนใหญ่ใส่เขาอย่างต่อเนื่องใน ขณะที่เพิ่มความเร็วของเขาและเข้าใกล้ซุนเฉิงอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของซุนเฉิงกลายเป็นบูดบึ้ง เพราะเขาเพิ่งจะรู้เหตุผลเบื้องหลังความเกลียดชังที่รุนแรงนี้เมื่อเข้าถึงชิปหน่วยความจำของแจ๊ส เขารู้แล้วว่าทำไมบัมเบิ้ลบีจึงเกลียดชังเขา
ทั้งบัมเบิ้ลบีและแจ๊สทำหน้าที่เป็นหนึ่งในผู้บัญชาการหลักทั้งสี่ของออฟติมัสไพร์ม พวกเขาเป็นคนช่างพูดพอ ๆ กันและความสัมพันธ์ของพวกเขาใกล้ชิดกันมากเมื่อเทียบกับรองผู้บัญชาอีกสอง
ในระหว่างการต่อสู้ในลาสเวกัส แจ๊สไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของซุนเฉิง แต่เขาพบกับจุดจบที่น่าเศร้าด้วยน้ำมือของเมกะทรอน
ทว่าซุนเฉิงได้ครอบครองร่างที่ขาดครึ่งของแจ๊สหลังจากการต่อสู้ไป ถึงการสูญเสียสปาร์คจะไม่สำคัญ แต่ของสำคัญอย่างชิปหน่วยความจำของแจ๊สกลับตกอยู่ในมือของซุนเฉิง สิ่งนี้ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่ฝ่ายออโต้บอตส์จะชุบชีวิตเขาในอนาคตได้ บัมเบิ้ลบีจึงมีความแค้นอย่างมากต่อซุนเฉิงเพราะเรื่องนี้
ชิปความทรงจำของแจ๊สถูกแลกเปลี่ยนกับออนสลอตไปแล้ว เพราะตัวเขาไม่สามารถรวบรวมอุปกรณ์ได้เพียงพอเพื่อชุบชีวิตแจ๊สระยะเวลาอันสั้น แถมเขายังกลัวตัวตนของแจ๊ส และกังวลว่าออโต้บอตส์จะตามล้างแค้นเขาในอนาคตด้วย
จริง ๆ แล้วเขาตั้งตารอให้ออนสลอตฟื้นคืนชีพแจ๊ส และฝึกให้แจ๊สที่ถูกคืนชีพกลายเป็นบาริเคดคนที่สอง ตัวเขาจะได้ไม่ตกเป็นเป้า
ทว่า ก่อนที่ออนสลอตจะฟื้นคืนชีพแจ๊สสำเร็จ เขาดันกลายเป็นเป้าหมายของบัมเบิ้ลบีเสียแล้ว
นี่มันทำให้ตัวเองตกกลายเป็นเป้าชัด ๆ !
เมื่อบัมเบิ้ลบีโจมตีอย่างไม่ลดละ ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความแค้น ซุนเฉิงรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถึงกระนั้น เขาก็พยายามรักษาสันติ หลีกเลี่ยงการโจมตีในขณะที่พูดว่า "พอแล้วบัมเบิ้ลบี อย่าคิดว่าเพียงเพราะเมกะทรอนตายแล้วออโต้บอตส์ก็สามารถทำอะไรอำเภอใจ สตาร์สครีมและซาวด์เวฟยังคงอยู่บนโลก รวมถึงกองกำลังดีเซปติคอนมากมาย ไม่ใช่ทุกคนที่มีเหตุผลเหมือนอย่างข้า... "
เมื่อได้ยินชื่อสตาร์สครีมและซาวด์เวฟ ท่าทางของบัมเบิ้ลบีก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย การโจมตีของเขาก็หยุดชะงักไปชั่วขณะ
ในบรรดากองกำลังดีเซปติคอน บุคคลทั้งสี่ที่ออโต้บอตส์กลัวมากที่สุดคือ เมกะทรอน ช็อคเวฟ สตาร์สครีมและซาวด์เวฟ
ไม่ต้องพูดถึงเมกะทรอนเลย แค่ช็อคเวฟคนเดียว บนดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอนก็ไม่มีใครเทียบได้แล้วในแง่ของความเก่งกาจ ซึ่งในการต่อสู้ที่ลาสเวกัส เขาสามารถสู้กับทีมของออฟติมัสไพร์มและยังได้เปรียบ เขาใช้เวลาไม่นานในการเอาชนะออฟติมัสไพร์มในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว เกือบจะฆ่าเขาได้แล้ว แค่นี้ก็บอกได้หมดทุกอย่าง ส่วนคนที่สอง ช็อคเวฟ เขาเป็นผู้บัญชาการที่สองและเป็นผู้บัญชาการทหารของกองกำลังดีเซปติคอนมาโดยตลอด ไม่ใช่การพูดเกินจริงเลยหากบอกว่าถ้าไม่มีช็อคเวฟ พวกดีเซปติคอนคงจะไม่สามารถทำลายล้างออโต้บอตส์ลงไปได้
ในบรรดาดีเซปติคอน นอกเหนือจากเมกะทรอนและช็อคเวฟแล้ว สตาร์สครีมและซาวด์เวฟก็เป็นตัวตนที่น่าสะพรึงอย่างยิ่ง
สตาร์สครีมเหมือนคนบ้า เป็นนักวางแผนที่อันตรายที่สุด ความหลงใหลในพลังของเขาไม่เพียงแต่ทำให้เขาเป็นที่น่ารังเกียจกับดีเซปติคอนทุกตน แต่เขายังมีความสุขจากการใช้วิธีการที่โหดร้ายที่สุดในการทรมานและฆ่าออโต้บอตส์ที่ถูกจับเป็นเชลยทุกคนอีก
ในทางกลับกัน ซาวด์เวฟเป็นเจ้าแห่งกุนซือภายในกองกำลังดีเซปติคอน เป็นศัตรูคู่อาฆาตของบัมเบิ้ลบี พวกเขาได้ปะทะกันนับครั้งไม่ถ้วนในช่วงสงครามกลางเมือง และแต่ละครั้งซาวด์เวฟล้วนเอาชนะเขาได้อย่างเด็ดขาด เป็นเรื่องธรรมดาที่บัมเบิ้ลบีจึงรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เมื่อได้ยินว่ามีสตาร์สครีมและซาวด์เวฟอยู่บนโลก จิตใจของบัมเบิ้ลบีก็เต็มไปด้วยความสับสน
เมื่อเห็นการโจมตีของบัมเบิ้ลบีหยุดลงชั่วขณะ ซุนเฉิงก็คิดว่าในที่สุดเขาก็สามารถสงบสติอารมณ์และพูดอะไรบางอย่างออกมาได้เสียที
เขาไม่รู้เลยว่าทันที่เขาลดการป้องกันลง ทันใดนั้นสายตาของบัมเบิ้ลบีก็ริบหรี่ อีกฝ่ายก็ยกอาวุธขึ้นอย่างรวดเร็วเล็งตรงไปที่หน้าอกของซุนเฉิงและยิงออกไป
"ตู้ม...."
ท่ามกลางการระเบิดอย่างรุนแรง ชุดเกราะบนหน้าอกของซุนเฉิงถูกบดขยี้ทันที พลังมหาศาลส่งผลให้ร่างกายของเขาทะยานขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะพุ่งลงมาห่างออกไปหลายเมตร
การซุ่มโจมตีอย่างกะทันหันของบัมเบิ้ลบีทำให้ซุนเฉิงไม่สามารถป้องกันได้อย่างสิ้นเชิง เขาถูกกระแทกด้วยแรงระเบิดทำให้เกราะหน้าอกของเขาแตก
ซุนเฉิงมองลงมาและรู้สึกโกรธอย่างมาก
เขากลิ้งไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว เอื้อมมือไปหยิบปืนใหญ่พลาสม่าที่ติดตั้งใหม่ของเขา
เมื่อเล็งไปยังบัมเบิ้ลบี ผู้ที่พุ่งเข้ามาหาหมายจะฆ่าเขาให้ตายแล้ว ซุนเฉิงก็ยิงออกไปทันที
"ตู้ม...."
เป็นอันเข้าใจได้ บัมเบิ้ลบีเคยปะทะกับเขามาหลายครั้ง ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายเองก็ไม่ได้คิดหรอกว่าซุนเฉิงที่แทบจะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเขาด้วยปืนใหญ่วัลแคนในระหว่างการต่อสู้ในลาสเวกัสเมื่อไม่นานมานี้ จะมีอาวุธที่สามารถทำร้ายเขาได้อย่างรุนแรงในอีกหนึ่งเดือนต่อมา
ด้วยเหตุนี้ การยิงของซุนเฉิงจึงถูกตัวของบัมเบิ้ลบีอย่างแม่นยำ เพราะบัมเบิ้ลบีไม่ได้ระวัง
โชคดีที่เพราะประสบการณ์ของบัมเบิ้ลบีในฐานะนักรบผู้ช่ำชอง เขาจึงทำการหลบหลีกโดยสัญชาตญาณ ซึ่งในขณะที่เขากำลังหมุนตัวอย่างรวดเร็ว
ปืนใหญ่พลาสมาเล็งไปที่หน้าอกของเขา มันยิงพลาดและกระแทกไหล่ซ้ายของเขาแทน
เสียงแตกหักดังกึกก้องขึ้น โลหะแขนซ้ายของบัมเบิ้ลบีแตกออกและกระเด็นออกไปหลายเมตรตกลงบนพื้น
บัมเบิ้ลบี นักรบออโต้บอตส์ชั้นยอดได้รับบาดเจ็บอีกครั้งเสียแล้ว!