บทที่ 106 แนวคิดของตัวลดแรงดันตันเถียน
บทที่ 106 แนวคิดของตัวลดแรงดันตันเถียน
ประมาณหนึ่งวันหนึ่งคืน
ในที่สุดเฉินเต้าเสวียนก็อ่านเนื้อหาในหยกบันทึกจนแล้วเสร็จ
ยกเว้นบันทึกเบ็ดเตล็ดบางอย่างในตอนต้น
เนื้อหาส่วนใหญ่ในหยกชิ้นนี้ มีนได้บันทึกความเข้าใจต่างๆ ของโจวมู่ไป๋เกี่ยวกับเจตจำนงกระบี่ และความเข้าใจเหล่านี้ คือสิ่งที่เฉินเต้าเสวียนขาดแคลนอย่างมาก
เพียงแค่อ่านความเข้าใจในหยกชิ้นนี้
เขาก็มีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับวิธีเข้าใจในเจตจำนงกระบี่อย่างเลือนราง
คอขวดกระบี่ที่ติดอยู่มานานกว่าครึ่งปีก็เริ่มคลายตัว
ความเข้าใจของโจวมู่ไป๋เกี่ยวกับเจตจำนงกระบี่ สรุปได้ในสี่คำ นั่นคือ หลอมรวมเต๋าเข้ากับกระบี่(หรงเต๋าอวี่เจี้ยน)
ตัวอย่างเช่น "วิชากระบี่ไล่ล่าสายลมฝนโปรยปราย" และ "วิชากระบี่ศิลา" ที่เฉินเต้าเสวียนฝึกฝน เห็นได้ชัดว่าเป็นวิชากระบี่ธาตุลม ธาตุน้ำ และวิชากระบี่ธาตุดิน
ถ้าเฉินเต้าเสวียนต้องการเข้าใจเจตจำนงกระบี่
เขาต้องมีความเข้าใจในเต๋าแห่งลมและน้ำ รวมถึงเต๋าแห่งดินก่อน จากนั้นจึงหลอมรวมเต๋าเข้ากับกระบี่
เขาจึงจะสามารถเข้าใจเจตจำนงกระบี่ได้อย่างแท้จริง
ดังนั้น
ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าถึงเจตจำนงกระบี่เพียงครึ่งก้าว แต่จริงๆ แล้วมันยังห่างไกลจากการเข้าใจเจตจำนงกระบี่อย่างแท้จริง
เมื่อก้าวข้ามขั้นตอนนี้ไปได้ มันจะกลายเป็นโลกที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
นี่คือเหตุผลที่มือกระบี่สามารถมองผู้ฝึกตนในระดับเดียวกันด้วยความดูถูก
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เฉินเต้าเสวียนก็รู้สึกโล่งใจ
การที่ก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถเข้าใจได้ เพราะเขาหาทิศทางไม่พบ
แม้ว่าพรสวรรค์ของเขาจะท้าทายสวรรค์เพียงใด เขาก็ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยตัวเอง และสร้างเส้นทางของตัวเองได้ใช่ไหม?
อย่างน้อยเฉินเต้าเสวียนในขอบเขตหลอมรวมพลังปราณก็ทำไม่ได้
แต่ตอนนี้ ด้วยทิศทางที่เฉพาะเจาะจงที่โจวมู่ไป๋มอบให้ ปัญหาที่เหลือก็แก้ไขได้ง่ายดาย
เขาต้องทำเพียงเข้าใจเต๋าแห่งลมและน้ำ รวมถึงเต๋าแห่งดิน
มีวิธีที่ดีกว่าการฝึกฝนคาถาธาตุต่างๆ หรือไม่?
คาถาธาตุลม น้ำ และดิน มีลวดลายเต๋าของธาตุต่างๆ อยู่แล้ว ยิ่งเข้าใจคาถาลึกซึ้งเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าใจเต๋าได้ลึกซึ้งมากขึ้นเท่านั้น
วิธีนี้ โจวมู่ไป๋ได้กล่าวถึงอย่างละเอียดในหยกที่เขาทิ้งไว้
สำหรับวิธีการหลอมรวมเข้ากับเต๋าแห่งกระบี่หลังจากเข้าใจเต๋าแห่งลม น้ำ และดิน โจวมู่ไป๋ใช้วลีที่ว่า "สามารถเข้าใจได้ด้วยข้างใน แต่มันยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด" เพื่ออธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้
เฉินเต้าเสวียนเองก็ไม่ได้สนใจ
อย่างไรก็ตาม เขาได้พบทิศทางทั่วไปแล้ว ปัญหาที่เหลือยังจะเรียกว่าปัญหาได้อีกหรือ?
สำหรับคาถาธาตุลม น้ำ และดินทั้งสามชนิด เฉินเต้าเสวียนเพิ่งซื้อมาจากโรงประมูลตระกูลโจว
เขาไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเมืองกวงอันเพื่อซื้ออีก
หลังจากแก้ปัญหาในการเข้าใจเจตจำนงกระบี่ เฉินเต้าเสวียนก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
แต่ในไม่ช้า
เขาก็เริ่มคิดถึงปัญหาในการสร้างรากฐานหลังจากเข้าใจเจตจำนงกระบี่
เมื่อเทียบกับการเข้าใจเจตจำนงกระบี่ในขอบเขตหลอมรวมพลังปราณ การสร้างรากฐานหลังจากเข้าใจเจตจำนงกระบี่และขัดเกลาปราณหยวน เป็นปัญหาที่ทำให้เขากังวลมากขึ้น
ถูกต้อง
เฉินเต้าเสวียนวางแผนที่จะลองเป็นมือกระบี่ในตำนาน
และเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสเลย!
เพียงแต่ด้วยวิธีนี้ เวลาในการสร้างรากฐานของเขาอาจต้องเลื่อนออกไปอีกสองสามปี
แต่เขาไม่สนใจ
ขอบเขตสร้างรากฐาน คือการสร้างรากฐาน สิ่งที่สร้างขึ้นคือรากฐานของเต๋าอมตะ
มันเหมือนกับการสร้างบ้าน หากรากฐานไม่มั่นคง จะสร้างบ้านให้สูงและมั่นคงได้อย่างไร ใช่ไหม?
การบำเพ็ญเพียรก็เช่นเดียวกัน
หากรากฐานที่วางไว้ในการสร้างรากฐานไม่มั่นคง ความสำเร็จในอนาคตก็จะถูกจำกัด
เพียงแต่สำหรับผู้ฝึกตนอิสระส่วนใหญ่ แค่ขอบเขตสร้างรากฐาน ก็เป็นความปรารถนาสูงสุดในชีวิตของพวกเขาแล้ว
สำหรับขอบเขตที่สูงขึ้น ผู้ฝึกตนอิสระทั่วไปไม่สามารถแสวงหาได้
แต่เฉินเต้าเสวียนนั้นแตกต่างออกไป
เขามีกลโกงอย่าง "คัมภีร์เต๋าหงเหมิงรู้แจ้ง" และทรัพยากรบ่มเพาะที่ไม่สิ้นสุดที่ตระกูลเฉินจัดหามาให้ในปัจจุบัน
บนเส้นทางบำเพ็ญเพียร หากเฉินเต้าเสวียนยังขาดอะไรอยู่ นั่นอาจเป็นคนที่ชี้แนะทิศทางให้เขา
โดยรวมแล้ว เงื่อนไขการบำเพ็ญเพียรของเฉินเต้าเสวียนถือว่าดีที่สุดแล้ว
เขาสามารถตั้งเป้าหมายให้สูงขึ้น และแสวงหาอนาคตที่ไกลออกไปได้อย่างแท้จริง!
ดังนั้น….
เขาจึงต้องการเป็นมือกระบี่ในตำนาน ตามบันทึกในหยกของโจวมู่ไป๋
การที่จะเป็นมือกระบี่แบบนั้น
ปัญหาเดียวที่เฉินเต้าเสวียนต้องแก้ไขจริงๆ คือการสร้างรากฐาน
และหากแบ่งออกเป็นรายละเอียด
มันควรจะเป็นการขยายทะเลปราณ ซึ่งเป็นหนึ่งในความยากลำบากสองประการในการสร้างรากฐาน
ความยากลำบากในการชำระล้างร่างกายด้วยพลังปราณนั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเฉินเต้าเสวียน
เขาที่ฝึกฝน "วิชางูเหลือมมังกรกลืนสวรรค์" มาโดยตลอด ตอนนี้เขาสามารถต้านทานอาวุธวิเศษระดับหนึ่งขั้นต่ำได้ ด้วยร่างกายของเขาเพียงอย่างเดียว
แม้ว่าความแข็งแกร่งของร่างกายนี้ จะไร้ประโยชน์สำหรับผู้ฝึกตนขอบเขตหลอมรวมพลังปราณขั้นปลาย
แต่อย่างน้อยความยากลำบากในการชำระล้างร่างกายด้วยพลังปราณ ย่อมไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้
งั้น… เหลือเพียงการขยายทะเลปราณเท่านั้นสินะ?
พลังปราณที่ถูกขัดเกลาจะเปลี่ยนเป็นพลังหยวน ซึ่งจะสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อทะเลปราณ เมื่อถึงเวลานั้น มันจะไม่ใช่การขยายทะเลปราณ แต่เป็นการระเบิดของทะเลปราณแทน
ดังนั้นแล้ว
เพื่อให้ทะเลปราณขยายตัวได้อย่างราบรื่น จำเป็นต้องติดตั้งตัวลดแรงดันให้กับทะเลปราณ
ความคิดของเฉินเต้าเสวียนแผ่ขยายออกไป
และตัวลดแรงดันนี้ต้องอยู่ในทะเลปราณ
เท่าที่เฉินเต้าเสวียนรู้ มีเพียงอาวุธวิเศษประจำตัวเท่านั้นที่มีฟังก์ชันนี้ และสามารถนำเข้าไปในทะเลปราณโดยผู้ฝึกตนเพื่อบ่มเพาะมันได้
งั้นถ้าข้าสร้างตัวลดแรงดันทะเลปราณประจำตัวล่ะ?
เฉินเต้าเสวียนมีสีหน้าแปลกๆ
เขาพบว่าตัวเองกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่เมื่อคิดดูดีๆ เส้นทางบำเพ็ญเพียร มันไม่ได้ถูกบุกเบิกโดยคนกล้าหาญเหล่านี้ทีละขั้นตอนง้นเหรอ?
คนรุ่นก่อนทำได้ ทำไมเฉินเต้าเสวียนถึงทำไม่ได้?
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้
หัวใจที่กระวนกระวายของเฉินเต้าเสวียนก็มั่นคงอีกครั้ง
ไม่สิ!
บางทีมันไม่ควรเรียกว่าตัวลดแรงดัน มันควรเรียกว่าตัวเก็บพลังปราณ
เมื่อผู้ฝึกตนกำลังจะสร้างรากฐาน พลังปราณจะพุ่งสูงขึ้นก่อน และในกระบวนการพุ่งสูงขึ้น มันจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นปราณหยวน ในเวลาเดียวกัน ทะเลปราณของตันเถียนของผู้ฝึกตนก็จะขยายตัวทีละน้อย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง
ทะเลปราณของผู้ฝึกตนถูกขยายโดยพลังปราณที่พุ่งสูงขึ้น หรือปราณหยวนนั่นเอง
หากปราณหยวนที่พุ่งสูงขึ้นนั้นเพียงพอที่จะขยายทะเลปราณ
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง หากความเร็วในการพุ่งสูงขึ้นของปราณหยวนสามารถควบคุมได้ การขยายทะเลปราณจะราบรื่นขึ้นใช่หรือไม่?
ลองคิดดูดีดีสิ…
โอสถสร้างรากฐานใช้สิ่งใดในการเพิ่มโอกาสในการสร้างรากฐาน?
มันไม่ใช่เพราะโอสถสร้างรากฐาน สามารถทำให้ปราณหยวนทั้งหมดสงบลงได้
แต่โอสถสร้างรากฐาน มันเพียงแค่ทำให้ปราณหยวนที่รุนแรงที่สุดสงบลงเท่านั้น มันไม่ได้ลดปริมาณปราณหยวนทั้งหมด
ดังนั้น จึงยังคงมีความเสี่ยงที่ทะเลปราณจะแตก และการทะลวงขอบเขตล้มเหลว
และหากมีอาวุธวิเศษประจำตัวชนิดหนึ่งในตันเถียนของผู้ฝึกตนล่ะ?
มันเป็นอาวุธวิเศษที่สามารถดูดซับพลังปราณส่วนเกินที่พุ่งสูงขึ้นได้ เมื่อพลังปราณพุ่งสูงขึ้นกว่าปกติ
มันเหมือนกับการติดตั้งตันเถียนเพิ่มเติม ในทะเลปราณของตันเถียน
มันจะช่วยลดแรงกดดันของทะเลปราณของผู้ฝึกตน เมื่อตอนที่สร้างรากฐานอย่างมาก
ทำให้การขยายทะเลปราณเปลี่ยนจากการควบคุมไม่ได้…. เป็นการควบคุมได้!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้
เฉินเต้าเสวียนก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยในใจ
หากอาวุธวิเศษประจำตัวชนิดนี้สามารถประดิษฐ์ขึ้นได้ ตราบใดที่มีทรัพยากรเพียงพอ ผู้ฝึกตนตระกูลเฉินทุกคนจะสามารถสร้างรากฐานได้ในอนาคต
อัตราความสำเร็จในการสร้างรากฐานในอนาคต จะไม่ใช่แค่เจ็ดส่วนหรือแปดส่วน ถ้าต้องพึ่งพาโอสถสร้างรากฐานอีกต่อไป แต่จะเป็นความสำเร็จเต็มสิบส่วนแทน
การสร้างรากฐาน จะไม่เป็นอุปสรรคบนเส้นทางบำเพ็ญเพียรของผู้ฝึกตนอีกต่อไป!
น่าเสียดาย...
เฉินเต้าเสวียนนึกถึงเฉินเซียนเหอ วิธีนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับอาสิบสาม
หากผู้ฝึกตนคนอื่นๆ กลัวว่าพลังปราณที่พุ่งสูงขึ้น จะทำให้ทะเลปราณแตกเมื่อสร้างรากฐาน
สำหรับผู้ฝึกตนที่อายุเกินหกสิบปี พลังปราณของพวกเขาจะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นปราณหยวนได้ และไม่สามารถขยายทะเลปราณได้
นี่คือเหตุผลของผู้นำตระกูลหมั่ว ว่าทำไมเขาถึงเสี่ยงที่จะดักปล้นเรือบรรทุกสินค้าของตระกูลเฉินในปีนั้น
เพราะเมื่ออายุเกินหกสิบปี ความหวังในการสร้างรากฐานของผู้ฝึกตนก็ริบหรี่ ไม่ต้องพูดถึงชายชราที่อายุขัยเกือบร้อยปีอย่างเฉินเซียนเหอเลย…