ตอนที่ 34 นางมังกรหลงเปา
ตอนที่ 34 นางมังกรหลงเปา
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นชายหนุ่มเต็มตัว
“ไอโหยว เจ้าหน้าแดงมาก”
“อายุเท่าไรแล้ว ยังขี้อายอยู่เลย”
หลินต้าจู้ยิ่งตื่นเต้นเมื่อเห็นภาพนี้ เสื้อคลุมสีดำของ ‘นาง’ ค่อยๆ คลายออกเผยไหล่ขาวราวหิมะ ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดบนใบหน้าของเยี่ยเสวียน ทำให้เลือดของเขาพลุ่งพล่าน แต่ยังยืนตัวแข็งทื่อ
หลังการติดต่อครั้งล่าสุด หลินต้าจู้ได้รับคำยืนยันแล้วว่าเยี่ยเสวียนมีกายหยางศักดิ์สิทธิ์ในตำนานซึ่งมันคุ้มค่าที่จะพาเขาหนีออกจากผู้ปลูกฝังมารคนอื่น
หัวใจของ ‘นาง’ กำลังลุกไหม้ หาก ‘นาง’ สามารถควบรวมอินหยางกับกายหยางศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ ‘นาง’ คงจะสามารถบรรลุ ‘คัมภีร์กุ้ยฮวา’ แน่นอน จากนั้นก้าวสู่วิถีแห่งการเกิดใหม่ของอินหยางและบุกทะลวงสู่ระดับหยางบริสุทธิ์เพียงก้าวเดียว
เมื่อถึงเวลานั้น ต่อให้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของลัทธิเซวี่ยเหอก็ไม่ต้องกลัว อีกทั้งยังมีทางเลือกโดยการก่อตั้งลัทธิกุ้ยฮวาของตัวเองด้วย
“ผู้อาวุโส ท่านกำลังทำอะไร?” เมื่อรู้สึกถึงสองมือที่เคลื่อนไหวไปทั่วกาย เยี่ยเสวียนรู้สึกอึดอัดไปหมดและเลือดได้ไหลเข้าสู่บริเวณสามนิ้วใต้สะดือ
น้ำเสียงค่อยๆ แหบพร่า
หลินต้าจู้หัวเราะเบาๆ “ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะยังไม่เข้าใจ”
เยี่ยเสวียนได้ยินแล้วรู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้น เขาอยากใช้กลยุทธ์สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน [1] เหลือเกิน
แต่ทันใดนั้น
เสื้อคลุมสีดำของหลินต้าจู้ร่วงลงพื้นตามแรงลม เผยหุ่นอรชรงดงามใต้ชุดคลุมสีดำทั้งหมดและ...
“บ้าอะไรเนี่ย ผีหลอก!”
ทันทีที่เห็นใบหน้าของหลินต้าจู้ เยี่ยเสวียนผู้จมอยู่ในบรรยากาศมีเสน่ห์เย้ายวนพลันตื่นขึ้นมาเต็มตา
ลมเย็นพัดผ่านทำให้รู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งกาย เหมือนกินไอศกรีมหมดตู้ กินข้าวหมดทุ่ง ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้รุนแรงและส่วนที่แข็งขืนของเขาอ่อนยวบทันที
นั่น นั่นคือศีรษะของตัวอะไร
บนร่างกายที่บอบบางเช่นผู้หญิงกลับมีศีรษะของผู้ชายที่น่าเกลียด ใบหน้าหยาบกร้านถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมก็จริง ทว่าใต้จมูกและใต้คางมีเคราที่แข็งจนแทงคนตายได้ เมื่อแย้มยิ้มยังเผยให้เห็นฟันสีเหลืองซี่ใหญ่ที่ผุพัง
ยังเหลือเสน่ห์เหมือนตอนอยู่ใต้ผ้าคลุมตรงไหน
ความคิดทั้งหมดในใจของเยี่ยเสวียนกลายเป็นอาการคลื่นไส้จนท่วมถึงสมอง
หลอนมาก!
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ” เมื่อได้ยินคำอุทานของเยี่ยเสวียนแล้ว หลินต้าจู้ไม่สามารถรักษารอยยิ้มไว้ได้อีกและสีหน้าของเขาดุร้ายมาก
สิ่งที่เขาใส่ใจมากที่สุดในชีวิตคือรูปร่างหน้าตา แต่วิธีฝึกฝนของเขานั้นพิเศษโดยต้องเข้าถึงระดับหยางบริสุทธิ์ให้ได้ก่อน เขาถึงจะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้อย่างสมบูรณ์
เขากลายเป็นผู้ปลูกฝังมารเพราะฆ่าคนมากเกินไป แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะเมื่อใดที่มีคนมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ เขาจะไม่สามารถยับยั้งเจตนาฆ่าได้เลย
เยี่ยเสวียนถอยหลังไปสองสามก้าวและร่างกายที่อ่อนแอของเขาล้มลงกับพื้นโดยไม่ตั้งใจ
เขาถูกตามล่ามาหลายวัน ใช้ยันต์และพลังเวทจนหมดจึงไม่เหลือความแข็งแกร่งที่จะต้านทานได้อีก
“เจ้าอย่าเข้ามานะ!” เขายกมือกอดอกด้วยความหวาดกลัว
“จงเชื่อฟังและทำให้ข้ามีร่างกายสมบูรณ์แบบซะ” หลินต้าจู้ยิ้มชั่วร้ายและเข้าหาเยี่ยเสวียนโดยหยุดเสแสร้ง
“แหวะ ตัวอัปลักษณ์ ออกไปให้พ้น!”
เพียะ!
“ไอ้เนรคุณ” เสียงหวานเริ่มหยาบกระด้างและการต่อต้านของเยี่ยเสวียนอ่อนแอลงเรื่อยๆ เช่นกัน
“อย่านะ...”
……
“กรี๊ด!”
เยี่ยหลีเอ๋อร์กรีดร้องออกมาโดยกะทันหัน
นางยืนอยู่บนหัวเรือเพื่อชมทิวทัศน์ แต่ทันใดนั้นมีมังกรยักษ์ขาวตัวหนึ่งพุ่งออกมาจากก้อนเมฆ มันลอยตัวขวางเรือเซียนเอาไว้และทำให้นางตกใจ
“มันคือเผ่ามังกร” ซูอันขมวดคิ้วพลางเอ่ย
แม้แต่มังกรในระดับมิ่งตานยังกล้าขวางเรือเซียนของเขา
มังกรยักษ์ขาวหยุดอยู่หน้าเรือเซียนและมองอยู่พักหนึ่ง จากนั้นมันก็กลายร่างเป็นหญิงวัยกลางคนที่มีเขาสูงตระหง่านและใบหน้าดุร้าย
“มังกรผู้หญิง!” เยี่ยหลีเอ๋อร์อุทานเหมือนคนโง่
“มันคือหลงเปา” ซูอันแก้ไข
ถ้าเรียกว่ามังกรผู้หญิงจะไม่ใช่การดูถูกภาพลักษณ์ของมังกรในจินตนาการเกินไปหรือ
“บังอาจ!” เมื่อได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสองบนเรือเซียน นางมังกรจึงอดมีโทสะไม่ได้
มนุษย์เหล่านี้กล้าดีอย่างไรมาดูหมิ่นเผ่ามังกร!
มันเปิดปากจะถาม
ตูม!
ทันใดนั้นค่ายกลขนาดใหญ่บนเรือเซียนเกิดการเคลื่อนที่รวดเร็วและพลังเวทจำนวนมากมารวมตัวกัน หลังจากควบแน่นเป็นม่านพลังเวทขนาดใหญ่ มันก็กลายเป็น ‘ลำแสง’ ที่วิ่งไปตามอักษรเวทและยิงนางมังกรบนหัวเรือจนกระเด็นออกไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
“ไม่เจียมตัวเอาซะเลย กล้าดีอย่างไรมาตะโกนต่อหน้าข้า”
“เซิ่งหนาน ไปดูว่ามันตายหรือยัง ถ้าไม่ตายก็จับกลับมาให้ข้า” ตอนนี้ซูอันเรียกใช้งานถูเซิ่งหนานง่ายที่สุด
ถูเซิ่งหนานก็ปฏิบัติตามคำสั่งของซูอันด้วยความภักดี
รอครู่หนึ่ง นางก็กลับมาที่เรือเซียนพร้อมร่างเปื้อนเลือดของนางมังกร
เกล็ดและชุดเกราะบนร่างกายของมันหลุดและไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมร่างกายจึงเผยให้เห็นทัศนียภาพของฤดูใบไม้ผลิเป็นบริเวณกว้าง แต่เมื่อจับคู่กับรูปลักษณ์ของศีรษะนั้นแล้ว มันไม่น่ารับประทานจริงๆ
“ยังไม่ตายอีกหรือ ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเผ่ามังกรค่อนข้างดี!” ซูอันประหลาดใจมาก เพราะการยิงเพียงครั้งเดียวนี้เทียบได้กับการโจมตีของหยางบริสุทธิ์หลายครั้ง ซึ่งนอกเหนือจากโหมดทำลายตัวเองแล้ว นี่เป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเรือเซียนลำนี้
นึกไม่ถึงเลยว่านางมังกรตนนี้จะทนไหว
“คุณชาย พบสิ่งนี้ในแหวนจัดเก็บของนางมังกรเจ้าค่ะ”
โชคดีที่แหวนจัดเก็บของนางมังกรรอดพ้นจากการโจมตีครั้งนี้
ถูเซิ่งหนานมอบแหวนจัดเก็บและยันต์หยกให้ซูอัน ยันต์หยกเปล่งประกายพลังจิตวิญญาณ และค่อนข้างคล้ายกับยันต์หยกที่เยี่ยเสวียนเคยหยิบออกมา
“มีรังสีแห่งจิตวิญญาณของระดับหยวนเสินถูกผนึกอยู่ในนี้” ชิงหลิงปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายของซูอันและจ้องมองไปที่ยันต์หยกด้วยความระมัดระวัง
“ดูเหมือนจะเป็นไพ่ตายของนางมังกรตนนี้ ทว่ายังไม่ทันได้ใช้ มันก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสั่งโจมตีของเจ้า” พูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของนางมีความประหลาดใจเช่นกัน
นางจำสิ่งที่ซูอันเคยบอกได้ว่า โจมตีก่อนได้เปรียบ พูดให้น้อยทำให้มากขึ้น บัดนี้นางเห็นด้วยกับเขาแล้ว
หากนางมังกรตนนี้เปิดใช้งานยันต์หยก นั่นจะเท่ากับการมาจุติของพลังวิญญาณระดับหยวนเสิน
ซูอันนำยันต์หยกกลับไปที่แหวนจัดเก็บและปิดผนึกไว้ ยันต์หยกชนิดนี้ไม่สามารถสัมผัสได้ เว้นแต่จะมีคนกระตุ้นความคิดศักดิ์สิทธิ์ในนั้น
“เซิ่งหนาน ปลุกมัน” ซูอันสั่ง
ถูเซิ่งหนานถ่ายพลังเวทเข้าไปในร่างของนางมังกรด้วยความรุนแรงเพื่อบังคับให้มันตื่น
ความรู้สึกเสียวแปลบในกล้ามเนื้อและเส้นเลือดทั่วร่างกายทำให้นางมังกรลืมตาขึ้น มีความสับสนในดวงตาของมันพักหนึ่ง
ในระยะเวลาสั้นๆ นั้นเกิดอะไรขึ้น?
โอ้ ดูเหมือนว่ามนุษย์สองคนกำลังพูดจาไม่ให้เกียรติเผ่ามังกร จากนั้น...
มีลำแสงหนึ่ง!
มันถูกยิงหรือ?
ทันใดนั้นมันก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ซูอัน “เจ้า เจ้ามนุษย์ กล้าดีอย่างไร...”
“ตบปาก!” ซูอันโบกมือตัดรำคาญ
ถูเซิ่งหนานเข้าใจทันทีและใช้ฝ่ามือขนาดใหญ่ตบปากนางมังกร
นางมังกรตกตะลึง “เจ้า เจ้ากล้า...”
“ตบอีก!”
เพียะ เพียะ! เพียะ เพียะ เพียะ!
ตบได้เป็นจังหวะดีมาก
“เจ้า...”
เพียะ เพียะ เพียะ!
ความแข็งแกร่งจากมือของถูเซิ่งหนานทำให้นางมังกรร้องไห้ และใบหน้าของมันซึ่งมีเลือดไหลอยู่แล้วยิ่งบวมเป่ง ทำให้ดูน่าขบขันมากกว่าความสง่างาม
“ยังกล้าก้าวร้าวหรือไม่?” ซูอันถาม
นางมังกรยกมือปิดปากด้วยความหวาดกลัวและส่ายหัวโดยอัตโนมัติ
“ดี ตอนนี้ข้าถาม เจ้าตอบ”
“ขอทราบชื่อเจ้าได้หรือไม่?”
“อ๋าวชุ่ยฮวา” นางมังกรตอบด้วยความสั่นเทา
“เพศ?”
“เอ่อ ผู้หญิง?” อ๋าวชุ่ยฮวาตอบด้วยความไม่มั่นใจ แต่เมื่อเห็นว่าซูอันมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก นางจึงเปลี่ยนคำพูด “ผู้ชาย ผู้ชาย!”
“เพศใดกันแน่?” ใบหน้าของซูอันเคร่งขรึม และถูเซิ่งหนานเตรียมตบแรงๆ อีกครั้ง
“แม่ ข้าเป็นแม่!” อ๋าวชุ่ยฮวารีบหดคอลงและตอบเสียงดัง
เชิงอรรถ
[1] กลยุทธ์สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน (反客为主) หมายถึง เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเปิดโอกาสให้สอดแทรก ควรสอดแทรกเพื่อกุมจุดสำคัญของอีกฝ่ายไว้ หรือ การพลิกเบี้ยล่างให้กลายเป็นเบี้ยบน พลิกฐานะที่เสียเปรียบให้กลายเป็นได้เปรียบ