บทที่ 556 : ประเภทภารกิจ : พิชิต (14)
[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]
[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]
[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]
บทที่ 556 : ประเภทภารกิจ : พิชิต (14)
[มิติที่ไม่รู้จัก]
[ต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วน! ติดต่อผู้รับผิดชอบ]
ความรู้สึกอันเป็นเอกลักษณ์ของการลอยตัวนี้นั้นมัน..
มันเป็นความรู้สึกของการกระโดดเข้าไประหว่างมิติ
หลังจากที่แสงหายไปจนหมด ฉันจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
ตุ้บ!
เสียงหญ้าพลิ้วไหวตามสายลม
เมื่อมองไปข้างหน้า ก็มีทุ่งข้าวสาลีทอดยาวออกไปจนสุดลูกหูลูกตา
“ในที่สุด... ฉันก็ได้มาที่แบบนี้สักที”
เจ้าชายอยู่ขึ้นเบาๆ
เฟรียซิสมองไปรอบๆ ทุ่งข้าวสาลีด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า
"สถานที่แห่งนี้…."
“คิดว่ามันอยู่ที่ไหน?”
พรีออสหัวเราะเบาๆ
“มันเป็นที่ดินที่มีค่าผืนหนึ่งยังไงล่ะ”
“ที่ดิน?”
เจ้าชายหันหลังกลับไปและไม่ได้พูดอะไรต่อ
หลังจากนั้นฉันก็เริ่มเดินไปตามเส้นทางที่อยู่ระหว่างทุ่งข้าวสาลี
"……ฮาน"
เฟรียซิสเงยหน้ามาสบตากับฉัน
ฉันพยักหน้า
สีหน้าของเฟรียซิสนั้นรู้เลยว่าเธอได้ตัดสินใจแล้ว และเธอก็จะทำตามสิ่งนั้น
วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของ 'พรีออส'
ฉันกอดอกและเดินตามทั้งสองออกไป
หลังจากนั้นไม่นาน บ้านต้นไม้หลังหนึ่งที่สร้างอยู่ติดกับทุ่งข้าวสาลีก็สะดุดตาฉัน
มันเป็นสถานที่ที่ดูเหมือนภาพวาดมาก
ดวงอาทิตย์สีส้ม ทุ่งข้าวสาลีที่ไหวไปตามลม และบ้านหลังเล็กๆที่ดูอบอุ่น
ฉันเดินแยกออกจากสองคนนี้ไปแล้วเอนหลังพิงต้นไม้
“สถานที่แห่งนี้… มีพลังงานรบกวนที่ฉันพยายามรวบรวมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
“....”
“เมื่อมีกำแพงกั้นไว้ มันจะคงอยู่ได้อย่างน้อยหนึ่งร้อยปี”
เจ้าชายโบกมือผ่านคานไม้ของบ้าน
แล้วฉันก็มองกลับไปที่เฟรียซิส
“ไม่จำเป็นต้องต่อสู้อีกต่อไปอีกแล้ว ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับทาวน์เนีย จักรวรรดิ ผู้คน สัตว์ประหลาด และเศษชิ้นส่วนนั้น ที่มี่มีทุกสิ่งที่ต้องการแล้ว”
สิ่งนั่นจะเกิดขึ้น
ถ้าโลกถูกทำลายก็ไม่มีประโยชน์ที่จะต่อสู้
พรีออสวางดาบของเขาลงเบาๆ
“ฉันเพิ่งตระหนักว่ามันสายเกินไป ตอนแรกฉันคิดว่าฉันกำลังต่อสู้เพื่อจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อประชาชนชาวทาวน์เนียร์และอาณาจักรอันทรงเกียรติ ฉันต้องทรมาณกับการใช้ชีวิต 17 ครั้งภายใต้ภาพลวงตาที่โง่เขลานั้น”
“...”
“ใครเห็นก็คิดว่าฉันเป็นเจ้าชายที่สมบูรณ์แบบ”
ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเสียใจ
“ฉันผิดไปแล้วเฟรียซิส ไม่เป็นไรเลยทาวน์เนียและคนอื่นๆจะถูกทำลายไป มันไม่สำคัญอะไรเลย สิ่งที่ฉันต้องการปกป้องนั้นมัน…คือสิ่งนั้น…คือสิ่งนั้นตั้งแต่เเรก”
"นั่นคือ……."
“เฟรียซิส อัล รักนา”
เจ้าชายสบตากับเฟรียซิสอย่างมีความหมาย
“ใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติที่นี่เถอะ”
"ฝ่าบาท"
“นั้น…มันทำให้ฉันใจสลายเวลาได้ยินเธอเรียกด้วยความห่างเหิน”
เฟรียซิสหลับตาลงนิ่งๆ
“เหตุผลที่ฝ่าบาทพาเรามาที่นี้ก็เพื่อโน้มน้าวหรือเปล่า?”
“ฉันแค่อยากจะบอกให้รู้เฉยๆ ว่าโลกนี้ไม่ใช่ที่ๆคุ้มค่าที่จะสละชีวิตเพื่อปกป้อง”
“แล้งฝ่าบาทจะให้หม่อมฉันมาทำอะไรที่นี่?”
“ทำได้ทุกสิ่งที่เธอต้องการ”
“สิ่งที่หม่อมฉันปรารถนาไม่ได้อยู่ที่นี่…”
“เฟรียซิสนี้มันยังไม่ชัดเจนเหรอ?”
“หม่อมฉันไม่เห็นอะไรเลย….”
เฟรียซิสลืมตาขึ้นมา
“กรุณาส่งพวกเรากลับไป มีคนรอหม่อมฉันอยู่ที่นั้น”
“พวกมันเป็นแค่ภาพลวงตา”
“มันไม่ใช่ภาพลวงตา!”
“มันเป็นแค่เครื่องมืออย่างหนึ่งของเทพธิดา”
“นั้น…มันไม่สำคัญ”
พรีออสขมวดคิ้ว
“สถานการณ์ที่มีการควบคุมเกิดขึ้นแบบนี้เธอกำลังถูกเอาเปรียบ”
“ฉันเตรียมใจไว้แล้ว”
“ไม่ใช่เรื่องของความมุ่งมั่นแบบนั้นนะเฟรียซิส!”
เจ้าชายคว้าไหล่ของเฟรียซิสเเล้วเขย่าแรงๆ
“ทาวน์เนียไม่สามารถช่วยได้อีกแล้ว เธอ ราชาทหารรับจ้าง กองทัพของเธอ และแม้แต่คนของเธอจะต้องตายทุกคนถูกกลืนกินและจะหายตัวไป พูดไม่เข้าใจหรือไงห่ะ!!!!”
"ท่านพี่"
และฉันก็เงยหน้าขึ้นมองพรีออสหันจากเฟรียซิสเรียกเขา
“น้องรู้ดีว่าท่านพี่ห่วงใยน้องมากแค่ไหน แต่…จะให้น้องวิ่งหนีงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช้วิ่งหนี”
“หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำลายล้างได้….”
พรีออสพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“น้องจะสู้และตายอย่างภาคภูมิใจ”
“...”
“น้องไม่อยากเห็นท่านพี่เป็นแบบนี้ ท่านพี่คือฮีโร่ของของน้อง ท่านพี่ที่ไม่เคยยอมแพ้ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม ท่านที่จะอยู่ข้างหน้าน้องและชี้ให้น้องเห็นทางสว่างและพาน้องแก้ปัญหา แต่แล้วอยู่ๆท่านพี่ก็ทิ้งทุกคนและหนีไป”
“ไม่เข้าใจเหรอเฟรียซิส? แม้ว่าจะตายในการต่อสู้….”
“ถ้าน้องกลับมามีชีวิตอีกครั้ง น้องก็จะสู้อีกครั้ง”
"……เฟรียซิส"
เสียงของเจ้าชายสั่นไหว
“ได้โปรดส่งน้องกลับไปยังสนามรบ”
"เธอ……."
“ท่านพี่ของน้องไม่ได้สอนน้องหรือว่าน้องควรมั่นใจในความเชื่อของตัวเองอยู่เสมอ?”
เฟรียซิสก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“การต่อสู้ยังไม่จบ ถ้าน้องไม่กลับไป ผู้รุกรานจะกวาดล้างทาวน์เนีย เราไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนี้แล้ว เราต้องไปกันตอนนี้เลย”
“....”
“ถ้าท่านพี่อยากหยุดน้องก็ฆ่าน้องซะ”
เฟรียซิสเชิดหน้าขึ้นด้วยความมมั่นใจและหันหลังเดินออกมา
เธอเดินมาหาฉัน
“ฮาน…รู้ไหมว่าทางออกอยู่ที่ไหน?”
"ดูก่อนนะ"
ฉันมองไปรอบๆ
ฉันมองหาทางออกมาตั้งแต่ตอนแรกที่มาถึง แต่ฉันไม่เห็นอะไรเลยที่เหมือนกับทางออก
“ฉันเดาว่าฉันจะต้องไปหาทางออกให้เจอ รอเดี๋ยวนะ”
เฟรียซิสเดินเข้าไปในทุ่งข้าวสาลี
ฉันเอนหลังพิงต้นไม้และมองตามเธอไป
ในไม่ช้า ร่างเธอก็ค่อยๆหายไป
“...”
พรีออสเองก็ยืนยังอยู่ที่นั่นเหมือนผีที่จิตวิญญาณ
ฉันพูดถามเขาขึ้นมา
“ถ้าไม่มีทางอื่นทำไมไม่มัดมันเธอไว้ให้แน่นล่ะ? อย่างน้อยนายก็ยังสามารถป้องกันการหลบหนีได้ใช่ไหมล่ะ?”
“ไร้สาระ”
“.....”
“เพราะเหตุใดทุกอย่างจึงไร้ความหมาย? ทำไมเขาไม่ฟังฉัน….”
ตุ้บ!!!1
ทันใดนั้น เจ้าชายก็ล้มลงและมีเลือดจำนวนหนึ่งไหลออกมาจากปากเขา
เลือดที่ตกลงบนพื้นดินเป็นสีดำสนิท
“ฉัน…ใช้พลังมากเกินไป”
พรีออสยิ้มอย่างขมขื่นออกมา