ตอนที่แล้วบทที่ 97 มีชีวิตอยู่ก็คืออยู่ ตายก็คือตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 99 ตำราโอสถมีชีวิต

บทที่ 98 อาวุธวิเศษคุ้มกาย


บทที่ 98 อาวุธวิเศษคุ้มกาย

ในไม่ช้า

หนึ่งเดือนก็ผ่านไป

ภายในหนึ่งเดือนนี้ เฉินเต้าเสวียนพบว่า ผู้ฝึกตนอิสระและทายาทตระกูลในเมืองกวงอันเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามวันมานี้

เขารู้ว่า ทายาทตระกูลเหล่านี้ ส่วนใหญ่รีบร้อนมาเข้าร่วมงานประมูลสุดยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นโดยโรงประมูลตระกูลโจว

อันที่จริง…

ตระกูลโจวไม่ได้จัดแค่งานประมูลสุดยิ่งใหญ่เท่านั้น ร้านค้าต่างๆ ในย่านการค้าใจกลางเมืองและตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระ ต่างก็เต็มไปด้วยสินค้ามากมาย

เนื่องจากการมาถึงของเรือขนส่งแนวหน้า

ราคาทรัพยากรบ่มเพาะต่างๆ ในเมืองกวงอันจึงลดลงไม่น้อย

การที่ราคากระบี่ในร้านกระบี่บินหงอินลดลง มันย่อมไม่ใช่กรณีพิเศษ

ศาลาสมบัติตระกูลอู๋ ร้านโอสถจิตวิญญาณตระกูลโจว ร้านสมุนไพรจิตวิญญาณตระกูลจ้าว หรือแม้แต่อู่ต่อเรือของตระกูลหยาง ทั้งหมดต่างก็ลดราคาสินค้าลงเช่นกัน

เมืองกวงอันทั้งหมด ตกอยู่ในบรรยากาศแห่งความคึกคักราวกับอยู่ในช่วงเทศกาล

……….

ณ ย่านการค้าใจกลางเมือง

โรงประมูลตระกูลโจว

ในเวลานี้ ถนนทั้งสายที่โรงประมูลตระกูลโจวตั้งอยู่ ล้วนถูกปิดล้อมโดยหน่วยพิทักษ์กฎของตระกูลโจว

ผู้ฝึกตนอิสระบางคนที่อยากมาดูความครึกครื้น แม้จะอยากเห็นฉากนี้ แต่พวกเขาก็ได้แต่มองเข้ามาจากด้านนอก

ส่วนผู้ฝึกตนอิสระคนไหนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง คิดจะเข้าไปเปิดหูเปิดตา หน่วยพิทักษ์กฎของตระกูลโจวจะให้เขารู้ว่า จุดจบของการหาเรื่องมีผลลัพธ์อย่างไร?

แน่นอนว่า…

ผู้ฝึกตนอิสระในที่นี้ ย่อมหมายถึงผู้ฝึกตนอิสระขั้นหลอมรวมพลังปราณ

หากเป็นผู้ฝึกตนอิสระขอบเขตสร้างรากฐานที่ต้องการเข้าไป ย่อมไม่มีใครขัดขวาง

เฉินเต้าเสวียนเดินไปหาเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของตระกูลโจว

จากนั้นก็ยื่นบัตรเชิญขอบสีทองให้กับอีกฝ่าย

“ที่แท้ก็สหายเต๋าจากตระกูลเฉินแห่งเกาะซวงหู เชิญด้านในขอรับ!”

เจ้าหน้าที่ตระกูลโจวยิ้มแล้วทำท่าทางเชื้อเชิญ

สำหรับตระกูลเฉินแห่งเกาะซวงหูที่โด่งดังในตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระช่วงนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์กฎผู้นี้ย่อมเคยได้ยินชื่อเสียงมาบ้าง

พวกเขาไม่ได้ถูกกลั่นแกล้งเหมือนครั้งที่แล้ว

ไม่นานนัก เฉินเซียนเหอและเฉินเต้าเสวียนทั้งสองคนจึงเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของโรงประมูลได้อย่างง่ายดาย

ทั้งสองก้าวเข้าไปในห้องโถงใหญ่

แม้แต่เฉินเต้าเสวียนก็ยังต้องตกตะลึงกับความร่ำรวยของตระกูลโจว

ห้องโถงประมูลตรงหน้า แบ่งออกเป็นสามชั้น แต่ละชั้นมีพื้นที่มากกว่าหนึ่งหมื่นตารางเมตร

แต่ละชั้นที่นี่ ถูกแบ่งออกเป็นห้องเล็กๆ คล้ายกับโรงประมูลสาขา

ถึงแม้ว่าชื่อเสียงของตระกูลเฉินจะโด่งดัง แต่ก็เป็นเพียงตระกูลผู้ฝึกตนขอบเขตหลอมรวมพลังปราณ ดังนั้นจึงถูกจัดให้อยู่ในห้องบิ่ง(丙หรือ C) ชั้นหนึ่ง

ถ้าเราขึ้นไปชั้นสอง

จำนวนห้องก็จะน้อยลง และกว้างขวางขึ้น ที่นี่จัดไว้สำหรับผู้ฝึกตนตระกูลขอบเขตสร้างรากฐานของเมืองกวงอันและเมืองอื่นๆ ของแคว้นชางโจว

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ชั้นสามก็คือที่สำหรับผู้ฝึกตนตระกูลขอบเขตคฤหาสน์ม่วงนั่นเอง

แน่นอนว่า ต้องรวมถึงผู้ฝึกตนตระกูลโจวด้วย พวกเขาเองก็อยู่ที่ห้องชั้นสามเช่นกัน

ทันทีที่เข้าไปในห้องโถง เฉินเต้าเสวียนก็เห็นบุคคลที่เพิ่งเจอเมื่อหนึ่งเดือนก่อน

ในเวลานี้ หยางกงว่านถูกล้อมรอบด้วยผู้คนราวกับดวงดาวที่ล้อมรอบดวงจันทร์ รอบๆ ตัวล้วนเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตสร้างรากฐานของตระกูลหยาง

ในฐานะที่เป็นตระกูลขอบเขตคฤหาสน์ม่วงตระกูลใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาเป็นผู้นำพันธมิตรเซียนกวงอัน การปฏิบัติต่อตระกูลหยางจึงไม่ธรรมดา

ไม่เพียงแต่จะถูกจัดให้อยู่ในห้องชั้นสาม แต่ตระกูลโจวยังส่งบุคคลสำคัญมาต้อนรับอีกด้วย

“โจวมู่ไป๋!”

หยางกงว่านมองผู้ฝึกตนหนุ่มที่สวมชุดคลุมยาวสีขาวตรงหน้าด้วยแววตาซับซ้อน

นางเป็นคนมั่นใจในตัวเองมาโดยตลอด

หยางกงว่านมั่นใจว่า ต่อให้นางเกิดในนิกายกระบี่เฉียนหยวน นางก็ต้องได้เป็นศิษย์สายตรงอย่างแน่นอน

แต่ต่อหน้าโจวมู่ไป๋ อัจฉริยะแห่งเมืองกวงอันผู้นี้ นางกลับรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าโดยไม่ทราบสาเหตุ

นี่ไม่ใช่แค่ความแตกต่างทางด้านชาติตระกูลที่ทำให้เกิดความรู้สึกเช่นนี้

ที่สำคัญกว่านั้น พรสวรรค์ด้านวิชากระบี่ของโจวมู่ไป๋นั้นสูงส่งมากเกินไปจริงๆ

เพียงแค่ขอบเขตสร้างรากฐาน เขาก็บรรลุเจตจำนงกระบี่ และกลายเป็นมือกระบี่แล้ว แถมยังติดอันดับบนกระดานอัจฉริยะขอบเขตคฤหาสน์ม่วงแห่งทะเลหมื่นดวงดาวอีกต่างหาก

หยางกงว่านพยายามอย่างหนักในการกดขอบเขตบ่มเพาะของตัวเอง นางไม่ยอมทะลวงไปขอบเขตคฤหาสน์ม่วง ก็เพราะนางต้องการบรรลุเจตจำนงกระบี่ในขอบเขตสร้างรากฐาน

ด้วยวิธีนี้ นางก็จะสามารถเปลี่ยนปราณหยวนให้กลายเป็นปราณกระบี่ และกลายเป็นมือกระบี่ได้

มิฉะนั้น หากทะลวงไปขอบเขตคฤหาสน์ม่วงแล้วค่อยบรรลุเจตจำนงกระบี่ นางก็จะสูญเสียโอกาสในการใช้เจตจำนงกระบี่ในการชำระล้างปราณหยวน และทำให้ความแข็งแกร่งของนาง ด้อยกว่ามือกระบี่ในระดับเดียวกัน

แพ้ก้าวเดียว แพ้ตลอดไป!

หยางกงว่านเข้าใจหลักการนี้ดี

ดังนั้น นางจึงพยายามอย่างหนักเพื่อบรรลุเจตจำนงกระบี่ในขอบเขตสร้างรากฐาน โดยไม่สนใจคำทัดทานของท่านปู่เลย

แต่น่าเสียดาย ยิ่งหยางกงว่านใจร้อนเท่าไหร่ นางก็ยิ่งไม่สามารถบรรลุเจตจำนงกระบี่ได้

“หยางเซียนสื่อ(นางเซียนแซ่หยาง) ไม่ได้เจอกันนาน เจ้าสบายดีหรือไม่?”

โจวมู่ไป๋ที่มีคิ้วดั่งกระบี่ แววตาเป็นประกาย ใบหน้าหล่อเหลา และรูปร่างสง่างาม ยกมือขึ้นทักทายด้วยรอยยิ้ม

“ต้องขอบคุณคุณชายโจวที่เป็นห่วง ข้าสบายดี”

หยางกงว่านเน้นย้ำคำว่าสบายดีเป็นพิเศษ ทำเอาโจวมู่ไป๋รู้สึกเขินเล็กน้อย

สำหรับเรื่องที่ตระกูลหยางรวมตัวกับตระกูลใหญ่ๆ ในเมืองกวงอัน และก่อตั้งพันธมิตรเซียนกวงอัน ภายในตระกูลโจวก็ถกเถียงกันไม่หยุดหย่อน

ฝ่ายหัวรุนแรง บอกว่าควรเชือดไก่ให้ลิงดู สอนบทเรียนให้กับตระกูลเล็กๆ ที่กล้าเข้าร่วมพันธมิตรเซียนกวงอัน

ส่วนฝ่ายอนุรักษ์นิยม พวกเขาสนับสนุนให้ดึงดูดตระกูลเล็กๆ ในเมืองกวงอัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดึงดูดตระกูลที่เป็นกลางที่ยังไม่ได้เลือกข้าง

โจวมู่ไป๋อยู่ฝ่ายหลัง

เขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับพฤติกรรมที่เอาแต่ใจของตระกูลโจวมาโดยตลอด

ในสายตาของโจวมู่ไป๋ พฤติกรรมที่เอาแต่ใจของตระกูลโจว ไม่ต่างอะไรกับตระกูลเย่ในอดีต

ส่วนตระกูลเย่ พวกเขาคือตระกูลที่โจวมู่ไป๋เกลียดชังที่สุด

เพราะน้องชายของเขา ถูกเย่อู๋เต้า บรรพบุรุษของตระกูลเย่เป็นคนฆ่าทางอ้อม!

ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองฝ่ายต่างพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ

จากนั้น หยางกงว่านก็พาคนในตระกูลขึ้นไปชั้นบน

ตอนที่หันหลังกลับ นางเหลือบมองเห็นเฉินเต้าเสวียนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องโถงพอดี นางจึงอดไม่ได้ที่จะหยุดฝีเท้าเล็กน้อย

“หยางเซียนสื่อ เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?”

โจวมู่ไป๋ถามด้วยความประหลาดใจ

“ไม่มีอะไร”

หยางกงว่านส่ายหน้า แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน

โจวมู่ไป๋มองตามสายตาของหยางกงว่านไป เห็นเฉินเต้าเสวียนและเฉินเซียนเหอทั้งสองคนพอดี

เขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง

เขาก็ส่งเสียงผ่านจิตสำนึก สั่งทายาทตระกูลโจวคนหนึ่ง “ไปสืบประวัติสองคนนั้นมาให้ข้า”

“ขอรับ ท่านผู้นำตระกูลรุ่นเยาว์!”

ทายาทตระกูลโจวรับคำสั่งทันที

หลังจากนั่งลงในห้อง

เฉินเต้าเสวียนก็สงบสติอารมณ์ลง แล้วรอคอยการเริ่มต้นของงานประมูลอย่างเงียบๆ

เวลาผ่านไปนานถึงหนึ่งชั่วยาม

งานประมูลสุดยิ่งใหญ่ก็เริ่มต้นขึ้นในที่สุด

ผู้ดำเนินการประมูลในครั้งนี้ ไม่ใช่อาวุโสที่เฉินเต้าเสวียนพบครั้งที่แล้ว แต่เป็นผู้ฝึกตนตระกูลโจวชายหญิงอย่างละหนึ่งคน

ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองคนล้วนมีขอบเขตบ่มเพาะสร้างรากฐานขั้นปลาย

งานประมูลงานเดียว ผู้ดำเนินการประมูลล้วนเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตสร้างรากฐานขั้นปลาย แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลโจวได้เป็นอย่างดี

หลังจากที่ทั้งสองคนกล่าวเปิดงานอย่างคล่องแคล่ว

งานประมูลก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

“สินค้าชิ้นแรกที่นำมาประมูลในวันนี้คือ หยกบันทึกมรดกที่ยึดได้จากสนามรบอาณาจักรฉู่หยุน”

เมื่อได้ยินว่าสินค้าชิ้นแรกที่นำมาประมูลคือหยกบันทึกมรดก ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

หยกบันทึกมรดก ไม่ใช่สิ่งที่เห็นได้ทั่วไปในงานประมูล

สิ่งของที่สามารถเพิ่มพูนรากฐานของตระกูลแบบนี้ โดยทั่วไปแล้ว ตระกูลต่างๆ ไม่ค่อยยอมนำออกมาขาย

ราวกับสัมผัสได้ถึงอารมณ์ตื่นเต้นของทุกคน

น้ำเสียงของผู้ดำเนินการประมูลทั้งสองคนก็ยิ่งดังขึ้น

“หยกบันทึกมรดกชิ้นนี้ บันทึกวิธีการหลอมสร้างอาวุธวิเศษคุ้มกายระดับหนึ่ง”

แม้ว่าจะเป็นอาวุธวิเศษคุ้มกาย แต่เมื่อได้ยินว่าเป็นอาวุธวิเศษระดับหนึ่ง อารมณ์ของทุกคนก็ตกลงเล็กน้อย

“อย่างไรก็ตาม อาวุธวิเศษระดับหนึ่งชิ้นนี้ ไม่ใช่อาวุธวิเศษประเภทป้องกันทั่วไป แต่เป็นอาวุธวิเศษประเภทป้องกันที่หายาก และเป็นอาวุธวิเศษประเภทชุดเกราะที่ล้ำค่าที่สุดในบรรดาอาวุธวิเศษประเภทป้องกัน!”

“ตู้ม!!!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น

ทางเบื้องล่างก็ฮือฮาขึ้นมาทันที

ในบรรดาอาวุธวิเศษประเภทป้องกันทั้งหมด อาวุธวิเศษประเภทชุดเกราะถือเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด