บทที่ 9 ความลับที่ซ่อนเร้น
บทที่ 9 ความลับที่ซ่อนเร้น
"พบแล้วครับ เป้าหมายได้เข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง แต่เป็นบริษัทเอกชน นี่คือข้อมูลโดยละเอียดของบริษัท" ชายหนุ่มผมทองคนหนึ่งกล่าวพร้อมยื่นแฟ้มเอกสารให้
ชายหัวล้านมองแฟ้มกระดาษ รับรู้ถึงความรุนแรงของปัญหา พอเปิดอ่านก็อุทานออกมา "นี่มันบริษัทนั้นเองหรอ?"
"ใช่ครับท่านหัวหน้า บริษัทบริการอันจื๋อเจี๋ยหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่แห่งโลกสีเทา พวกเขามักจะจัดการเรื่องที่ไม่สะดวกแทนคนดังนักการเมืองและเศรษฐี แต่จะไม่ยุ่งกับงานด้านมืดครับ" ชายหนุ่มอธิบาย
"พวกนายมัวแต่ทำอะไรกันอยู่ เป้าหมายมีพฤติกรรมผิดปกติตั้งแต่เมื่อไหร่?" หัวหน้าได้ยินดังนั้นก็ปวดหัวตุบๆ พวกที่ช่วยนักการเมืองทำสกปรก ใครจะรู้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง
"เป้าหมายอยู่ในระดับการสังเกตต่ำสุด รายงานการตรวจร่างกายเมื่อครึ่งปีก่อนไม่มีอะไรผิดปกติ อีกสามเดือนเมื่อเขาอายุครบยี่สิบปี ซึ่งเราจะยกเลิกการสังเกตจากเขาโดยสิ้นเชิง ถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลนาฬิกาข้อมือของเป้าหมายขาดหายไป พวกเราคงไม่มีโอกาสได้เห็นข้อมูลของเป้าหมายอีกเลย" ชายหนุ่มอธิบายอย่างสมเหตุสมผล
ชายหัวล้านถามอีก "อัตราความสำเร็จของกลุ่มทดลองรุ่นนี้มีเท่าไหร่?"
"ไม่มีครับ ไม่มีสำเร็จแม้แต่รายเดียวครับ แถมอัตราตายถึง 12.4% ด้วย" ชายหนุ่มส่ายหน้า
ชายหัวล้านมองภาพเสมือนจริงของหยางป๋อ แล้วยื่นมือแตะที่หน้าจอ และก็ปรากฏข้อมูลต่างๆขึ้นมา พบว่าข้อมูลมากกว่า 50%เปป็นสีแดง
ชายหัวล้านยิ่งปวดหัวหนักขึ้น ข้อมูลสีแดงแสดงถึงการที่พฤติกรรมของบุคคลผิดแปลกไปจากเดิม ส่วนข้อมูลสีเขียวที่ปกติก็คือข้อมูลจากนาฬิกาข้อมือ เช่น ชีพจร อัตราการเต้นของหัวใจ อะไรทำนองนั้น
ตอนนี้ชายหนุ่มกล่าวขึ้นมาว่า "แต่ยังมีข่าวดีอย่างหนึ่งครับ เป้าหมายยังไม่ได้เซนต์สัญญากับอันจื๋อเจี๋ยอย่างเป็นทางการ ยังอยู่ในช่วงทดลองงานอีกหนึ่งวัน"
"หาทางสกัดกั้นอย่าให้เขาเข้าร่วมงานนี้โดยเด็ดขาด รีบเตรียมแผนการมาให้ฉันเร็วที่สุด" ชายหัวล้านรีบสั่ง
"ครับ" ชายหนุ่มผมทองเดินไปเตรียมการทันที
ชายหัวล้านพิจารณาภาพหยางป๋อเงียบๆพลางมองข้อมูลขนาดใหญ่ด้านข้างทำให้ต้องขมวดคิ้ว ตามสถิติ ความถี่ในการพูดของเป้าหมายก็ลดลงเฉลี่ยต่อชั่วโมง ล่าสุดแทบเป็นศูนย์ ซึ่งแปลว่าแทบไม่พูดอะไรในห้องเลย
"มีปัญหา" หัวล้านมองหยางป๋อทำงความสะอาดเงียบๆตามคำแนะนำของระบบ AI จัดเก็บห้องให้เรียบร้อย
แต่ระบบ AI เตือนมากกว่า 5 ครั้งว่าพรมมีอันตรายแฝง แต่เป้าหมายกลับไม่เปลี่ยน ซึ่งผิดปกติมาก ผิดปกติอย่างที่สุด
หัวล้านตรวจดูข้อมูลต่างๆของหยางป๋อในตอนนี้อย่างละเอียด แต่ยังไม่พบว่ามีแนวโน้มของการวิวัฒนาการทางพันธุกรรม
"เราควรจะจัดฉากสร้างอุบัติเหตุแล้วเอาตัวเขาไปที่โรงพยาบาลเพื่อดูข้อมูลทั้งหมดไหมนะ? อุปกรณ์ที่รัฐให้มาไม่มีความสามารถในการตรวจจับพลังงาน?" หัวล้านลูบคางครุ่นคิด เพราะอุปกรณ์จากรัฐบาลมีการควบคุมอย่างเข้มงวด จึงไม่มีฟังก์ชั่นการตรวจพลังงาน
ส่วนหยางป๋อที่ทำความสะอาดอยู่ในบ้าน บังคับให้ตัวเองสงบลง ชาติก่อนเขาเคยรับจ้างทำงานที่โหดกว่านี้อีก นานๆไปก็ชินชา ตอนนี้ก็ใช้ทัศนคติแบบนั้น
หลังจากเก็บกวาดเสร็จแล้ว หยางป๋อก็หยิบเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งที่หลังหน้าต่าง มองท่าอากาศยานบนท้องฟ้าที่เหมือนแหวนประดับระยิบระยับ
สมองกำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่อู๋ปิงพูดเมื่อวานนี้ โลกนี้มืดมนขนาดไหน สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดอะไรซ่อนอยู่ในอวกาศกันแน่ ส่วนสิ่งที่อู๋ปิงพูด หยางป๋อไม่ได้ไปค้นหา ชาติที่แล้วตัวเองอยู่ในโลกที่ล้าหลัง หากจะค้นหาบางสิ่งก็จะกระตุ้นการจับตาของบางองค์กร ยิ่งในที่นี่ด้วยแล้ว
หยางป๋อนึกถึงพลังที่ตัวเองได้รับมา "สังหารสัตว์ธรรมดาจะได้ +1 แต่ปลาประหลาดเกรด D ตัวนี้ได้ +4 หรือว่าระดับทั่วไปจะได้ 1 แต้ม, เกรด E ได้ 2 แต้ม, เกรด D ได้ 4 แต้ม, เกรด C ได้ 8 แต้ม แบบทวีคูณขึ้นไป?"
"เมื่อไหร่จะลองพิสูจน์ดู และส่วนสิทธิพิเศษของนักเดินทางข้ามเวลาอย่างตัวเขาเองยังไม่สมบูรณ์หรือยังไม่ได้ปลดล็อกออกมาทั้งหมด?"
"แล้วจะพัฒนาสิทธิพิเศษของนักเดินทางข้ามเวลาอย่างไรดี?" หยางป๋อเริ่มคิดใคร่ครวญ
"เกิดอะไรขึ้นกับนิกายศิลปะการต่อสู้โบราณที่วิวัฒนาการทางพันธุกรรม?"
"พรุ่งนี้ค่อยถามให้ละเอียด" เขากังวลจนนอนไม่หลับ
มีอีกคนที่นอนไม่หลับเช่นกัน นั่นคือหัวหน้าหัวล้าน เขามองแผนที่ส่งมา ด้วยเหตุผลบางอย่างที่เป็นความลับ ฝ่ายของเขาจึงเขียนมือด้วยกระดาษ เพราะการใช้เน็ตจะทิ้งร่องรอยไว้มากมาย
"แผนนี้ไม่ได้เรื่อง" หัวล้านมองชายหนุ่มพลางส่ายหน้า
ชายหนุ่มกล่าวว่า "ตามข้อมูล เป้าหมายชอบเล่นเกมและนักแสดงสาวหลี่ไอตั๋ว ความปรารถนาสูงสุดคืออยากซื้อหุ่นยนต์ที่เหมือนกับหลี่ไอตั๋ว"
"ส่วนด้านเกมนั้น บริษัทที่เกี่ยวข้องยิ่งใหญ่กว่าเรา แทบทำอะไรกับมันไม่ได้ ต้องเล่นผ่านทางนักแสดงสาวคนนี้เท่านั้น" ชายหนุ่มพูดต่อ
ชายหัวล้านดูรายชื่อเกมที่หยางป๋อชอบ มันถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทในเครือของหนึ่งในสิบบริษัทชั้นนำของโลก บริษัทนี้ทรงอิทธิพลมากจนอุปกรณ์ถ่ายทำอัจฉริยะจะเซ็นเซอร์ภาพหน้าจอเกมของบริษัทนี้โดยอัตโนมัติ ไม่อย่างนั้นเตรียมล้มละลายได้เลย
ชายหัวล้านคิดแล้วก็ปวดหัวตุบๆ ตอนนี้ยังเกี่ยวพันไปถึงบริษัทบันเทิงอีก ซึ่งระดับอำนาจของตัวเองคงทำอะไรไม่ได้
หัวล้านครุ่นคิดแล้วเอ่ยว่า "แล้วถ้าเป็นอุบัติเหตุหละ?"
"แต่หัวหน้า ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา แผนกของเราจะเป็นคนแรกที่รับผิดชอบ และแผนเราต้องขออนุมัติจากผู้ใหญ่..." ชายหนุ่มพูดเสียงเบา
ชายหัวล้านได้ยินแล้วตกใจ บริษัทก็คือบริษัท ลูกน้องก็คือลูกน้อง ถ้ามีเรื่องเกิดขึ้นจริง บริษัทต้องไม่รับรู้แน่ แล้วตัวเองก็คง...
"ยิ่งไปกว่านั้นหัวหน้าหากเป้าหมายแสดงความผิดปกติออกมาเอง มันอาจจะไม่เกี่ยวกับพวกเรามากนัก แต่ถ้าเป้าหมายประสบอุบัติเหตุแล้วเกี่ยวโยงมาถึงบริษัท พวกนั้นจะเอาพวกเราไปรับเคราะห์แทนหรือเปล่า?" ชายหนุ่มพูดต่อ
"ฉันจะไปรายงานทันที" ชายหัวล้านเห็นด้วยกับคำพูดของชายหนุ่ม
ส่วนหยางป๋อที่นอนไม่หลับในบ้านของตัวเอง วันนี้ได้รับข้อมูลมามากเกินไป ทำให้รู้สิกว่าห้องนี้ไม่ใช่บ้านอีกต่อไป กลับเหมือนคุกมากกว่า
วันต่อมา หยางป๋อเข้าบริษัทด้วยสภาพอ่อนเพลีย อู๋ปิงก็พาเขาไปห้องหนึ่งและถอดนาฬิกาข้อมือออกก่อนเข้าไป
"คิดยังไงบ้างล่ะ ฉันให้นายยืมเงินซื้อบ้านก่อนได้นะ" อู๋ปิงถามตรงๆ เมื่อเห็นสีหน้าของหยางป๋อ
"พี่อู๋ สิ่งที่พี่พูดมันยากที่จะเชื่อนะ พี่บอกว่าคนดังนักการเมืองไม่มีชิปเลย แล้วพวกเขาไม่ได้เป็นพวกกลายพันธุ์หรอกเหรอ?" หยางป๋อขยี้ขมับถาม
อู๋ปิงส่ายหน้า "ไม่ใช่หรอก พวกเขาแข็งแกร่งมากต่างหาก"
"งั้นพวกเขาเป็นผู้กลายพันธุ์ได้อย่างไร?" นี่ต่างหากที่หยางป๋ออยากถาม
"หยางป๋อ ความคิดนายหลงทางไปไกลแล้ว นายใช้ยาเสริมพันธุกรรมอย่างเดียวไม่ได้หรือไง จำเป็นต้องใช้ไบโอชิปด้วยเหรอ?" อู๋ปิงหัวเราะพลางพูด
หยางป๋อเงียบไป ทำไมเขาไม่คิดถึงจุดนี้เลย?
"คนพวกนี้มีหลายวิธีในการเป็นผู้กลายพันธุ์ หนึ่งคือใช้ยาเสริมพันธุกรรม สองคือศิลปะการต่อสู้โบราณ สามคือวิชาลับบางอย่าง"
"เรื่องยาเสริมพันธุกรรมไม่ต้องพูดถึงแล้วกัน คนดังนักการเมืองพวกนั้นใช้ยาเสริมพันธุกรรมที่ตระกูลตัวเองผลิตแน่นอน"
"ยาเสริมพันธุกรรมผลิตเองได้ด้วยเหรอ ผมว่ามันผิดกฎหมายนะ" หยางป๋อถาม
"ผลิตยาเสริมพันธุกรรมไม่ผิดกฎหมายหรอก แต่การผลิตขายยาเสริมพันธุกรรมเพื่อผลประโยชน์ต่างหากที่ผิด หรือหากยาเสริมพันธุกรรมทำให้คนอื่นได้รับอันตรายร้ายแรง นั่นก็ผิด แต่ถ้าผลิตไว้ใช้เองไม่ผิดหรอก" อู๋ปิงอธิบายต่อ
(จบบท)