บทที่ 8 ความจริง?
บทที่ 8 ความจริง?
”ตามมาตรฐานของสหพันธรัฐ มันควรจะได้รับระดับ C อย่างไรก็ตาม หยางป๋อ อย่าไปใส่ใจกับระดับระดับพวกนี้ เพราะอุปกรณ์มีผลกระทบมากกว่า
"พี่อู๋ ทำไมพี่ถึงใช้นาฬิกาข้อมือถึงแม้ว่าพี่จะได้ระดับ C"
"หยางป๋อ พี่ไม่ควรเชื่อคำพูดของพวกนั้นที่บอกว่าไบโอชิปนั้นปลอดภัย ฉันจะบอกนายอย่างหนึ่ง 90% ของคนดังๆ ที่นายเห็นบนออนไลน์ พวกนั้นไม่ได้ฝังไบโอชิปเลย"
"ส่วนที่เหลือ 10% นั้น เป็นเพราะพวกเขาไร้ความสามารถหรือเป็นเพียงหุ่นเชิดเท่านั้น"
หยางป๋อผงกศีรษะด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าเขาจะคาดเดามาก่อนแล้ว แต่พอได้ยินอู้ปิงพูดออกมาก็ยังรู้สึกประหลาดใจอยู่ดี
"แน่นอนว่าการฝังไบโอชิปสำหรับคนธรรมดานั้นไม่มีอันตรายใดๆ ในทางกลับกัน ก็มีข้อดีเช่นกัน"
"ทำไมล่ะ?"
"เพราะในฐานะคนธรรมดา นายไม่มีค่าควรแก่การเอาใจใส่สำหรับคนอื่นเลย ที่จริงแล้วนับตั้งแต่อินเทอร์เน็ตเริ่มแพร่หลายไปเมื่อหลายปีก่อน คนธรรมดาก็ไม่เหลือความลับอะไรแล้ว ทุกคำพูดของนาย สุขภาพของนาย ครอบครัวของนาย เงินออมของนาย ทุกสิ่งทุกอย่าง พวกเขาสามารถรู้ได้หากพวกเขาต้องการรู้"
"นายจะฟังคำแนะนำของฉันไหม?" อู้ปิงถามต่อ
"พี่อู๋ บอกผมที"
"อย่างแรก ซื้อบ้านที่เป็นของนายเอง อย่างที่สอง หากรู้สึกว่าร่างกายไม่มีปัญหา ก็ไม่ควรไปตรวจร่างกาย ฉันเองก็ตรวจร่างกายไม่กี่ครั้งในชีวิต และอย่างสุดท้าย เปลี่ยนนาฬิกาข้อมือใหม่" หลังพูดจบ อู้ปิงก็รอดูปฏิกิริยาของหยางป๋อ
หยางป๋อคิดหนักอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า "ผมไม่มีเครดิตมากพอ"
"ฉันสามารถให้นายยืมได้ แต่นายต้องสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันจะส่งผลกระทบรุนแรงมากในวงการของพวกเรา" อู้ปิงคิดในใจว่า ถ้าให้เด็กคนนี้ซื้อบ้านก็จะมีค่าผ่อนบ้าน เด็กคนนี้ก็จำเป็นต้องทำงาน เมื่อได้ลิ้มรสชาติแห่งอิสรภาพ เขาก็จำต้องทำงานหนักขึ้นอีก
อู้ปิงไม่ได้ถามว่าหยางป๋อรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งมีชีวิตที่ผ่านการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมในบ่อปลานั่น
"พี่อู๋ ผมต้องคิดให้ดีก่อน" หยางป๋อตั้งใจอยากรู้เกี่ยวกับด้านพันธุกรรมให้มากขึ้น
"เอาล่ะ พรุ่งนี้ก็ให้คำตอบฉันมาแล้วกัน… เรากลับกันเถอะ..."
"แต่ยังไม่เสร็จเลยนะ"
"เสร็จแล้ว งานในครั้งนี้คือการตรวจสอบพื้นที่แถวนี้แล้วจัดการกับสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตราย งานตอนหลังจะส่งให้คนทำความสะอาดระดับล่างรับไปทำ ซึ่งหมายความว่าเวลานายทำงานเอง นายก็ต้องระวังให้มากขึ้น" อู้ปิงพยักหน้าพูด
หยางป๋อเข้าใจสิ่งที่อู๋ปิงพูด แม้จะมีคำถามมากมายในหัว แต่หยางป๋อก็ไม่ใช่เด็กแล้ว เขาจะไม่เชื่อที่อู๋ปิงพูดทั้งหมด เขาเคยพบคนที่หน้าซื่อใจคตมาแล้วในชาติก่อน
อู๋ปิงพาหยางป๋อกลับมาทางเดิม ตลอดทางกลับทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกัน เมื่อถึงที่หมาย อู๋ปิงส่งถุงให้กับเจ้าหน้าที่ แล้วทั้งคู่ก็รับนาฬิกาข้อมือของตัวเองคืน และกลับไปที่บริษัทด้วยรถ
หลังกลับถึงบริษัทและรับค่าจ้างแล้ว ช่วงบ่ายก็ไม่มีอะไรต้องทำอีก
หยางป๋อนั่งอยู่บนม้านั่งที่สวนสาธารณะ มองดูทะเลสาบในสวน ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนโสด คู่รักมีน้อยมาก คนเหล่านี้ดูเหมือนพวกไร้วิญญาณในสายตาของหยางป๋อ ทุกคนมีสีหน้าคล้ายๆ กัน บ้างเฉื่อยชา บ้างไม่แยแสไม่สนใจอะไร แม้แต่ท่าเดินก็เหมือนๆกัน
เพียงแต่เมื่อมีคู่รักเดินผ่านไปบ้าง จึงจะเห็นรอยยิ้มและสีหน้าท่าทางที่แตกต่างออกไป
หยางป๋อคิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย แต่ก็ไม่กล้าหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต เพราะกลัวว่าการค้นหาบางเรื่องอาจดึงดูดความสนใจของคนบางกลุ่มได้
เทคโนโลยีในยุคนี้ก้าวล้ำหน้ากว่ายุคอินเทอร์เน็ตไปมาก ในชาติก่อนถ้าคุณต้องการซื้อของ พอเปิดแอพก็จะมีการแนะนำสินค้าให้อยู่แล้ว ยิ่งยุคนี้ด้วยแล้ว
"วันนี้ได้รับความสามารถในการปลอมแปลงนะ ปลอมแปลง +4 มันหมายความว่าอย่างไงกัน ครั้งก่อนๆ ก็เพิ่มขึ้นทีละ 1 เท่านั้น" หยางป๋อนึกถึงความสามารถของตัวเอง เขาตั้งใจอยากรู้ว่าการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมนั้นเป็นอย่างไร มีความสามารถอะไรบ้าง และจะแสดงอาการอย่างไรในช่วงแรกๆ
"อ๊ะ?" ขณะที่หยางป๋อกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น มีชายวัยกลางคนเดินผ่านหน้าเขามาแล้วมองมาที่เขาโดยบังเอิญ หยางป๋อรู้สึกได้ทันทีว่ามีอะไรแปลกๆ
"ทำไมชายคนนี้ถึงจ้องมองฉันกันนะ?" หยางป๋อรู้สึกว่า ชายคนนี้เหมือนเดินผ่านมาเพื่อจ้องมองเขาโดยเฉพาะ
หยางป๋อสังเกตให้ดี พบว่าเมื่อมีคนอื่นๆ เดินผ่านไป แม้จะหันมามองทางนี้บ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกๆ อย่างกับเมื่อครู่
"นี่คือความสามารถของการปลอมแปลง +4 งั้นเหรอ?" หยางป๋อถามตัวเอง
"ใครกันนะที่จ้องมองผม บริษัทหรือคนอื่น หรือว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเจ้าของร่างเดิม?" หยางป๋อพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบเฉย แต่ในหัวนั้นคิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย
ที่บริษัท อู๋ปิงและหลิวจื้อเจี๋ยอยู่ในห้องนั้น
"หึๆ เด็กคนนั้นดูน่าสนใจดีนะ" หลิวจื้อเจี๋ยฟังคำอธิบายอย่างละเอียดของอู๋ปิง แล้วพูดออกมาด้วยความสนใจ
"ครับ หยางป๋อเด็กคนนี้ดูท่าจะมีพลังบางอย่างอยู่ ถ้าไม่ได้เห็นพลั่วถูกทิ้งลงในบ่อปลาคงไม่รู้เลย เพียงแต่ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ฉีดยาเสริมพันธุกรรมชนิดไหนลงไป อาจจะเป็นยาทดลองจากบางบริษัท" อู๋ปิงพยักหน้า
หลิวจื้อเจี๋ยขมวดคิ้ว "ส่วนนี้ค่อนข้างยากที่จะตรวจสอบ เมื่ออีกฝ่ายรู้ก็จะเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ"
"ผมสงสัยว่า หยางป๋ออาจจะมีคนคอยจับตามองอยู่หรือเปล่า เพราะหากเขาเป็นกรณีทดลองจริงๆ แล้วล่ะก็ เขาต้องมีคนคอยติดตามแน่ๆ" อู๋ปิงเอ่ยขึ้นมา
หลิวจื้อเจี๋ยได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเบา ๆ "แบบนั้นก็ดีนี่ ส่วนใหญ่ยาเสริมพันธุกรรมสำหรับการทดลองจะต้องใช้วัตถุดิบที่หายากหรือเป็นสิ่งค้นพบใหม่ ตราบใดที่เด็กคนนั้นเข้าร่วมกับที่บริษัทของพวกเรา เขาก็เป็นพวกเดียวกับเราไปแล้ว"
"แต่ผมเกรงว่าหยางป๋ออาจจะไม่อยากเข้าร่วมบริษัทของพวกเรา ตอนนี้สถานะเขาก็เพิ่งเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราวเท่านั้น"
"ไม่ต้องกังวลหรอก คนอย่างหยางป๋อพอคิดที่จะออกมาหาทำงานจริงๆ ย่อมต้องมีความคิดอะไรบางอย่างแน่ ไม่น่าจะกลับไปเป็นสุกรสุขสันต์พวกนั้นอีกแล้ว ฉันจะลองหาคนเช็กดูว่ายาเสริมพันธุกรรมที่หยางป๋อฉีดตอนนั้นเป็นของบริษัทไหนกันแน่" หลิวจื้อเจี๋ยพูด
"พรุ่งนี้เช้าผมต้องพาเขาไปอีกรอบไหม ถ้าไม่ ผมก็จะเตรียมการล่วงหน้า"
"เช้าพรุ่งนี้นายถามเขาดูก่อนว่าคิดอย่างไร แล้วก็กลับได้มาเลย ช่วงหลังๆ นี้ฉันรบกวนนายมากเกินไปแล้ว"
"เราจะมาพูดเรื่องนี้กันทำไม"
"ไม่เป็นอะไร ผมจะไปคุยกับเขาอีกครั้งพรุ่งนี้"
"โอเค"
หยางป๋อเดินกลับบ้านด้วยรู้สึกอึดอัด เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นภาพยนตร์เรื่อง The Truman Show ที่ไม่รู้เลยว่ามีคนจำนวนมากกำลังจับตามองอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ในใจเขาก็ย้ำกับตัวเองว่าเขาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
"นายท่าน ผมขอแนะนำให้นัดหมายแพทย์ประจำครอบครัวมาตรวจสุขภาพด้วยครับ" พอเข้าบ้าน ลำโพงอัจฉริยะในห้องก็ส่งเสียงแนะนำออกมา
...
ในขณะเดียวกันที่หนึ่งสถานที่ลับ ในห้องทำงาน มีคนกำลังจับตามองหยางป๋อที่เพิ่งเข้ามาในบ้าน และเมื่อได้ยินเสียงลำโพงอัจฉริยะ ก็มีคนหนึ่งเปิดปากพูดขึ้นว่า "หัวหน้า ปฏิกิริยาของเป้าหมายนั้นผิดปกติ จากข้อมูลจำนวนมากที่เราเคยศึกษามาก่อน หลังจากที่ระบบอัจฉริยะแจ้งเตือน เป้าหมายมีโอกาส 80% ที่จะออกคำสั่งนัดหมายแพทย์ทันที 12% ที่จะตอบรับด้วยคำว่า 'ได้' และ 8% ที่จะไม่ตอบอะไรเลย และสัญญาณของเป้าหมายก็หายไปนานกว่า 20 ชั่วโมงแล้ว"
"พบอะไรไหม?" ชายผมทองวัยกลางคนหนึ่งถามขณะจ้องมองภาพเสมือนจริงที่เห็นหยางป๋อกำลังเข้าห้องน้ำ
(จบบทที่ 8)