ตอนที่แล้วบทที่ 6 ความแปลกประหลาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 ความจริง?

บทที่ 7 หนูทดลอง


บทที่ 7 หนูทดลอง

เมื่อเสียงผิวปากดังขึ้น หยางป๋อรู้สึกตกใจ เพราะหลังจากเสียงผิวปากภาพที่สะท้อนอยู่ในหัวของเขาก็พบว่า อู๋ปิงที่เพิ่งคุยกับเขาไป ไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆ เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องนี้ .

ส่วนทางด้านของบ่อปลาดูเหมือนกับหลุมดำที่มีพื้นขนาดใหญ่และมืดสนิท

หยางป๋อรู้สึกขาสั่น แต่ไม่ใช่เพราะกลัว แต่กลับเป็นความตื่นเต้น เหมือนกับตอนที่เคยต่อยตีกันในชาติที่แล้ว ขาของเขาก็ไม่ฟังคำสั่งไม่สามารถควบคุมได้

หยางป๋อหายใจเข้าลึกๆ แล้วหยิบพลั่วของตัวเองขึ้นมา แล้วค่อยๆ เดินเข้าใกล้บ่อปลา

บ่อปลามีขนาดไม่ใหญ่ อาจจะกว้างแค่ 3-5 ตารางเมตร ข้างในมีเนินหินเทียม บนเนินหินตะไคร่น้ำและเฟิร์นเกาะอยู่ ในน้ำมีสาหร่าย และปลาทองตัวเล็กๆ สิบกว่าตัว

ปัง!

เมื่อเขาเข้าใกล้บ่อปลา หยางป๋อก็ยกพลั่วในมือคว้างลงไปในบ่อปลา โดยไม่ดูผล เขาก็รีบวิ่งตรงไปที่ประตูสวนทันที ถ้าเกิดอะไรผิดพลาด หนีก่อนค่อยว่ากัน

พอวิ่งออกมาถึงประตูสวน หยางป๋อเห็นได้ด้วยหางตาว่าพลั่วทุบลงไปในบ่อปลา น้ำกระเซ็นไปทั่ว แล้วก็มีปลาสีดำตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาในบ่อ ดูน่ากลัวมาก มันอ้าปากกว้างพ่นน้ำใส่หยางป๋อ

พอเห็นปลาประหลาดสีดำในบ่อปลา หยางป๋อก็รู้ว่าไม่ดีแล้ว รีบกลิ้งหนีทันที ออกนอกสวนได้ในพริบตา

ปลอมตัว +4!

ข้อความหนึ่งปรากฏขึ้นมาในหัว หยางป๋อชะงัก

จากนั้นหยางป๋อก็วิ่งต่อ วิ่งออกไปสิบกว่าเมตร มาหลบหลังก้อนหิน เขาหอบหายใจหนักๆ มองกลับไปที่สวน

พอเห็นก็ชะงัก อู๋ปิงกำลังถือดาบสั้น ตรงหน้าเป็นปลาดำตัวใหญ่ หัวโตมาก ไม่มีท้อง ไม่มีเอว ด้านหลังมีหางปลา ดาบสั้นในมืออู๋ปิงเสียบอยู่ที่หัวของปลาตัวนี้

"หยางป๋อ เข้ามาสิ" อู๋ปิงเห็นหยางป๋อโผล่หน้าออกมาที่หลังหิน ก็เช็ดเหงื่อ ถ้าหยางป๋อเอาเรื่องในวันนี้ไปเล่าให้ใครฟัง เขาก็คงจะกลายเป็นตัวตลกไปแล้ว

"พี่อู๋ นั่นพี่จริงๆ เหรอ" หยางป๋อยังไม่กล้าเข้าไป กลัวว่าอู๋ปิงคนนี้เป็นจะเป็นตัวปลอมอีก เขาเลยเปิดปากถาม

"ใช่ฉันเอง ครั้งนี้ฉันพลาดเอง เข้ามาสิ" อู๋ปิงพูดต่อ

หยางป๋อได้ยินแบบนี้ ก็ตะโกนต่อ "พี่อู๋ เมื่อวานเราไปทำอะไรมา"

"ไปช่วยคนอื่นเก็บสวน"

"ตอนเที่ยงกินอะไร..."

จนอู๋ปิงตอบจบ หยางป๋อถึงค่อยเดินออกมา ตอนนี้ขายังสั่นอยู่เลย

"ขอโทษนะ ครั้งนี้ฉันพลาดไป" เห็นท่าทางหยางป๋อ เละรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นของหยางป๋อ อู๋ปิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเสียใจ

"พี่อู๋ นี่มันเรื่องอะไรกัน หัวของของมันเละเป็นโจ๊กเลย" หยางป๋อเห็นปลาตัวนี้ เส้นผ่าศูนย์กลางหัวประมาณครึ่งเมตร ความยาวแค่หนึ่งเมตรกว่า ดูผิดปกติมาก

"นายเอาถุงออกมาจัดการก่อน เก็บเสร็จแล้วฉันจะอธิบายให้ฟังละเอียด" อู๋ปิงพูด

หยางป๋อเลยหยิบถุงที่รับขึ้นมา อู๋ปิงก็โยนปลาตัวนั้นลงไปในถุง แล้วเช็ดรอยเลือดสีดำแดงบนพื้นด้วย อู๋ปิงเอาถุงมือของตัวเอง รวมถึงพลั่วที่หยางป๋อทุบออกไปใส่ลงไปในถุงด้วย ปิดผนึกถุงเรียบร้อย อู๋ปิงถึงพูดว่า

"ไปข้างในคุยกันเถอะ" อู๋ปิงถือถุงพูด

"หยางป๋อ สิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ นายอย่าเอาออกไปพูดจ่อจะดีกว่า เพราะถ้าพูด นายจะหายตัวไปแน่นอน" อู๋ปิงพูดออกมา

หยางป๋อพยักหน้า อู๋ปิงถึงเริ่มพูด "ก่อนอื่นต้องบอกนายว่า จริงๆ แล้วมนุษย์ไม่ได้ครอบครองจักรวาลจริงๆ มนุษย์ในจักรวาลเป็นเพียงเศษเสี้ยว ถ้าไม่เชื่อนายลองกลับไปหาข้อมูลดูว่ามนุษย์มีดาวเคราะห์ที่มีการปกครองกี่ดวง แล้วนายจะพบว่ามีหลายดวงที่ไม่มีข่าวคราวใดๆ แล้ว เพราะดาวเคราะห์เหล่านั้นถูกทำลายไปแล้ว"

"การวิวัฒนาการทางพันธุกรรมไม่ใช่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาเป็นคนแรก แต่เป็นสิ่งมีชีวิตในจักรวาล นายอาจไม่รู้ว่าเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อทำลายล้างดาวเคราะห์ ไม่ได้มีไว้เพื่อต่อต้านมนุษย์ แต่มีไว้เพื่อต่อต้านสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่ไม่รู้จัก"

"ส่วนสิ่งที่นายเพิ่งเห็น จริงๆ แล้วเป็นเพราะมนุษย์ที่มีการวิวัฒนาการทางพันธุกรรม เลือดของมนุษย์หรือของเสียในบ้าน จะไปปนเปื้อนสิ่งมีชีวิตอื่น จากนั้นสัตว์ป่าก็เริ่มวิวัฒนาการด้วย"

"สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดที่มนุษย์ค้นพบในโลกนี้ เป็นสิ่งที่พรรณนาไม่ถูก รายละเอียดฉันก็ไม่รู้ แต่รู้ว่าหนึ่งในกองเรือหลักของมนุษย์ถูกโจมตีจนพังยับเยิน"

"ต่อไปฉันจะพูดถึงงานของฉัน จริงๆ แล้วก็คือการรับใช้คนรวย คนรวยพวกนี้มียานอวกาศของตัวเอง ดังนั้นนายคงจินตนาการไม่ออกหรอกว่าในของสะสมของคนรวยจะมีของแปลกประหลาดอะไรบ้าง"

"สวนที่เราไปเก็บเมื่อวาน ฉันจำได้ว่ามีพืชที่อยู่ในบัญชีอนุรักษ์พันธุ์หายากของสหพันธ์ดาวถึง 38 ชนิด ถ้าคนธรรมดาแตะต้องพืชพวกนี้จะต้องเจอกับบทลงโทษที่รุนแรง แต่ในสวนของพวกเขา มันกลับถูกเราเก็บเหมือนเป็นขยะ"

"วันนี้ตรงบ่อปลา ฉันไม่รู้ว่าเจ้าของที่นี่เป็นอะไร แต่เดาว่าน่าจะตายไปแล้ว ข้อมูลของนายจ้างที่เรารู้ก็คือเขาเป็นผู้กลายพันธุ์ที่ทรงพลัง"

"ข้อมูลของปลาตัวนี้นายจะหาไม่เจอที่ไหนเลย ฉันบอกนายได้แค่ว่า ปลาตัวนี้ถูกจัดอยู่ในระดับ D มีความสามารถในการลวงตาและการพรางตัว"

ได้ยินถึงตรงนี้ หยางป๋อบ่นในใจ ปลาตัวนี้มีความสามารถสองอย่าง แต่ตัวเองได้มาแค่อย่างเดียว?

"พูดถึงยาเสริมพันธุกรรมหยางป๋อนายคงไม่คิดหรอกว่า ผู้กลายพันธุ์B หรือสูงกว่าจะมาจากความพยายามของตัวเอง?"

"ผิดแล้ว เพราะพวกเขาใช้ยาเสริมพันธุกรรมระดับ B หรือสูงกว่า ยาวิวัฒนาการที่ใช้วัตถุดิบต่างกัน ระดับก็จะต่างกัน"

"ที่การวิวัฒนาการทางพันธุกรรมของนายล้มเหลว ฉันเดาว่าน่าจะเป็นเพราะบริษัทยาพัฒนายาวิวัฒนาการชนิดใหม่ หรือไม่ก็ไม่ใช่ยาวิวัฒนาการเลย นายแค่เป็นหนูทดลองหรือไม่ก็พวกเขาไม่ต้องการผู้กลายพันธุ์มากขนาดนั้น"

ได้ยินแบบนี้ หยางป๋ออึ้งไปเลย เจ้าของร่างเดิมอาจจะตายเพราะสาเหตุนี้ก็ได้

"ฉันจะบอกข้อเท็จจริงอีกอย่างให้นายฟัง ยาวิวัฒนาการพันธุกรรมเมื่อหลายร้อยปีก่อน ก็ประสบความสำเร็จแล้ว แค่ผลลัพธ์ของแต่ละคนต่างกันเท่านั้น"

หยางป๋อตาค้างไปเลย แต่พอคิดก็ปกติ ถ้าทุกคนวิวัฒนาการทางพันธุกรรมสำเร็จ แล้วจะแสดงความแตกต่างกันระหว่างชั้นทางสังคมได้ยังไง

"คิดดีๆ นะ ถ้าไม่ใช่วันนี้ฉันประมาทเกือบทำให้นายตาย นายอาจจะไม่มีวันรู้เรื่องพวกนี้เลย" อู๋ปิงพูดจบแล้วก็รอให้หยางป๋อประมวลผลสิ่งที่ตัวเองพูด

หยางป๋อคิดในใจอย่างละเอียด ก่อนจะเปิดปากถามว่า "พี่อู๋ สังคมมืดมนขนาดนั้นเลยเหรอ?"

"เฮอะๆ นายไปศึกษาประวัติศาสตร์ดูนะ ว่าสังคมในอดีตเป็นยังไง" อู๋ปิงก็อดไม่ได้ที่จะมองหยางป๋ออย่างทึ่ง เขาพูดอะไรไปมากขนาดนั้น แต่เด็กหนุ่มคนนี้ยังนิ่งอยู่ได้

หยางป๋อคิดเกียวกับมัน และมันก็ถูกต้อง ขอแค่เป็นสังคมที่มนุษย์รวมกลุ่มกัน ด้านมืดก็หลีกเลี่ยงไม่ได้

รออยู่สักพัก อู๋ปิงเห็นหยางป๋อยังไม่ถามอะไรตัวเอง จึงถามว่า "ไม่มีอะไรจะถามเหรอ"

"พี่อู๋ ตอนนี้พี่มีพลังเทียบเท่าระดับไหนแล้ว" หยางป๋ออดสงสัยส่วนตัวไม่ได้

(จบบท)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด