บทที่ 6 ความแปลกประหลาด
บทที่ 6 ความแปลกประหลาด
"พี่อู๋ หมายถึงอะไร!” หยางป๋อรู้สึกสับสนเล็กน้อยกับประโยคนี้ดูเหมือนจะมีอะไรผิดปกติ
อู๋ปิงหัวเราะฮิฮิแล้วถามว่า "หยางป๋อ นายคิดว่าฉันเป็นผู้อยู่อาศัยระดับ F หรือไง"
"พี่อู๋ แต่พี่สวมนาฬิกา …..." หยางป๋อยิ่งงงมากขึ้น
"ดูสิ นาฬิกานี่เป็นนาฬิกาที่รับรองโดยทางการ โลกนี้มีความลับมากมาย สิ่งที่นายเห็นเป็นเพียงสิ่งที่พวกเขายินดีให้นายเห็น เอาล่ะ ทำงานให้เสร็จก่อน ถ้าถึงตอนนั้นนายยังต้องการทำงานนี้อยู่ ฉันจะอธิบายให้นายฟังอย่างละเอียด" อู๋ปิงส่ายหน้าแล้วเอ่ยปาก
หยางป๋อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ผิดปกติมาก หรือว่าบริษัททำความสะอาดแห่งนี้จะทำกิจการสีเทาหรือเปล่านะ
"ถึงจะทำงานสีเทา ก็ต้องได้เงิน" เมื่อคิดถึงการทำงานสีเทา หยางป๋อกลับรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ในชาติที่แล้วเขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ตายไปแล้วครั้งนึง ไม่อยากใช้ชีวิตเรียบง่ายอีกแล้ว มีชีวิตอยู่เหมือนหญ้าธรรมดาๆ ต้นหนึ่ง
ถึงแม้จะกลายเป็นผีเสื้อที่บินได้เพียงไม่กี่วัน ก็เพียงพอแล้ว อย่างน้อยชีวิตก็ได้สนุกสุดเหวี่ยงไปแล้ว
อู๋ปิงเป็นคนถือรายการงาน หยางป๋อมีระดับไม่พอ จึงไม่ให้ดู แต่อุปกรณ์ที่ได้มาทำให้หยางป๋อรู้สึกผิดปกติ กล่องแม่กุญแจหนึ่งกล่อง แล้วก็ถุงมือถือหนึ่งใบ ด้านในมีถุงขยะอยู่ปึกหนึ่ง แต่ถุงขยะแบบนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน มันดูเหมือนกับถุงหนังงูโบราณ
ยังมีคนมารับงานด้วย หลังจากที่หยางป๋อขึ้นรถไปแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองพบสาเหตุที่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจกับชีวิตในปัจจุบันอย่างมาก นั่นก็คือไม่อยากใช้ชีวิตเหมือนหญ้าต้นหนึ่ง หรือเป็นกองขยะที่ถูกคนคอยจับตามอง
อู๋ปิงมองหยางป๋อที่สีหน้าเคร่งเครียด ในใจก็พึมพำ 'ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนี้สวัสดิการสังคมดีเกินไป หาคนยาก เด็กหนุ่มแบบนี้ก็ไม่มีทางได้เข้ามาในบริษัทหรอก คนจำนวนมากยินดีที่จะเป็นหมูที่มีความสุข มากกว่าที่จะออกมาทำงาน
คราวนี้รถมาถึงตรงเชิงเขา มีกำแพงสูงล้อมรอบ ที่ประตูใหญ่มองเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนอยู่ ทั้งสองคนถูกพาไปตรวจสอบที่กระท่อม สายรัดข้อมือถูกถอดออกและวางไว้ในกล่องแบบพิเศษ
ทั้งสองแลกบัตรประจำตัว แล้วก็มีคนนำทางแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนำทาง เมื่อเข้าไปทางประตูใหญ่ก็เป็นทางเดินที่ปูด้วยแผ่นหิน แผ่นหินดูเหมือนจะมีอายุมาก รอบๆ เป็นต้นไม้เขียวขจี ดูออกว่าไม่ได้ปลูกเอง เพราะหลายต้นขึ้นรกเรื้อ
เดินไปสักพักก็ขึ้นเขาแล้ว ขั้นบันไดหินที่ปูเป็นชั้นๆ อย่างไม่เป็นระเบียบ ในรอยแตกของแผ่นหินก็มีทั้งเฟิร์น วัชพืช รอบๆ ก็เป็นเถาวัลย์ พุ่มไม้ ให้ความรู้สึกเหมือนเส้นทางเปลี่ยวๆ ที่ไม่ค่อยมีคนใช้งานมานาน
พอขึ้นมาถึงกลางเขา หยางป๋อหันหลังกลับมามอง เขาจึงพบว่าที่ตีนเขายังมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ด้วย นอกจากนี้พื้นที่ตรงนี้กว้างใหญ่มาก ไม่รู้ว่าทิศทางไหนไปไหน รอบๆ ล้วนแต่เป็นภูเขา
วัด? เมื่อปีนขึ้นบันไดจนสุดแล้วก็เห็นสิ่งก่อสร้างตรงหน้า หยางป๋อรู้สึกตกใจเล็กน้อย เมื่อเขามองให้ดีแล้วก็ดูเหมือนจะเป็นศาลเจ้า
ทั้งคู่ไม่ได้เข้าไปในวัดหรือศาลเจ้านี้ ไม่ได้เข้าไปก็แยกไม่ออกว่าเป็นศาลเจ้าหรือวัด
ตามทางเดินเล็กๆ ที่ปูด้วยแผ่นหินข้างๆ ศาลเจ้า มีสวนไผ่ขนาดใหญ่ จากตรงนี้มองเห็นได้ว่ามีทางไปหลายที่ เพราะมีทางแยกหลายทาง
"คุณสองคน นี่คือพื้นที่ทำงานของพวกคุณ โปรดปฏิบัติตามสัญญาอย่างเคร่งครัด" เมื่อมาถึงหน้าลานเล็กๆ แห่งหนึ่ง พนักงานก็เอ่ยปากพูด
"เข้าใจแล้ว" อู๋ปิงพยักหน้า
ลานดูเหมือนจะเป็นลานเล็กๆ แบบชนบท มีรั้วไม้ไผ่ ในลานปูด้วยแผ่นหิน มีทั้งดอกไม้ หญ้า ต้นไม้ มีบ่อปลาเล็กๆ บ่อหนึ่ง ดูเหมือนจะมีปลาทองอยู่ในนั้นด้วย
บ้านทั้งหลังก็สร้างจากไม้ไผ่ สีดูเหมือนจะมีอายุหลายปีแล้ว ดูแล้วมีเอกลักษณ์มาก รวมถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ...
แต่มันทำให้หยางป๋อรู้สึกหดหู่ ป่าไผ่รอบๆ หนาแน่นเกินไป ด้านหลังภูเขาก็สูงเกินไป สิ่งแวดล้อมแบบนี้ดูดีพอสมควร แต่ถ้าจะให้อยู่จริงๆ ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อย่างแรกคือความชื้นสูง อีกอย่างคือป่าไผ่ที่หนาแน่นไม่ถ่ายเทอากาศ อีกทั้งยุงและแมลงก็มีมากมาย แต่ละวันอาจจะมีแสงแดดส่องเข้ามาได้แค่ตอนเที่ยงวันเท่านั้น
หยางป๋อยังไม่ได้ดูงานวันนี้ จึงถามขึ้นมาว่า "พี่อู๋ วันนี้เรามีงานอะไรบ้างครับ"
"นายอยู่ในลานนี้แหละ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปเอาของออกมา พอเอาของออกมาแล้วก็เอาใส่ถุงพวกนี้ทั้งหมดเลย" อู๋ปิงพูดพลางเปิดกล่อง
"ครับ" หยางป๋อพยักหน้า
อู๋ปิงเปิดกล่อง กล่องนี้ยาวประมาณห้าสิบเซนติเมตร กว้างสี่สิบเซนติเมตร สูงสามสิบเซนติเมตร หยางป๋อก็อยากรู้เหมือนกันว่าในกล่องนี้มีอะไรบ้าง พออู๋ปิงเปิดกล่อง ข้างในเป็นแผ่น... โล่? ขนาดเท่ากับฝาหม้อผัดขนาดใหญ่
โล่ทั้งหมดเป็นสีบรอนซ์เขียว มีลวดลายลึกลับบางอย่างอยู่บนนั้น ดูแล้วเหมือนกับภาชนะสำริดที่เขาเคยเห็นในย่านโบราณวัตถุในชาติที่แล้ว
กล่องมีชั้นที่สองด้วย ใต้ชั้นที่สองเป็นดาบสั้น ดาบสั้นดูเหมือนจะทำจากทองแดง
"จำไว้ อย่าไปแตะต้องอะไรตรงนี้" อู๋ปิงถือดาบสั้นมือหนึ่ง อีกมือถือโล่ สั่งหยางป๋อ
หยางป๋อพยักหน้า ในใจมีคำถามมากมาย มองไปรอบๆ ไม่เห็นคนอื่นอยู่ที่นี่เลย พืชพรรณในลานนี้ สภาพแวดล้อมดูธรรมดามากๆ
"น้องชาย อย่าสงสัยในคำพูดของฉัน โลกนี้ซับซ้อนและโหดร้ายกว่าที่นายเห็นมาก ลองคิดดูสิ ถ้ามนุษย์สามารถถูกเสริมสร้างพันธุกรรมให้มีระดับต่างๆ กันได้ แล้วสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ล่ะ?" อู๋ปิงมองหยางป๋อ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเจือแวววามลึกลับ
คำพูดนั้นทำให้หยางป๋อสะดุ้งวาบ ใช่แล้ว ถ้ามนุษย์สามารถกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการเสริมสร้างพันธุกรรมได้ แล้วสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จะเป็นอย่างไร
ถ้าพันธุกรรมของมนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แล้วสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกันหรอกหลอ...
หยางป๋อไม่ได้ถามอะไรต่อ แต่ในใจรู้สึกเสียดายที่มาทำงานเป็นคนทำความสะอาด โดยไม่รู้เลยว่าบริษัทแห่งนี้มีความลับอะไรบ้าง...
แต่หลังจากนั้นหยางป๋อก็รู้สึกแปลกใจที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกกลัว หรืออาจจะเป็นเพราะเขาเคยตายมาแล้วหนึ่ง!
เมื่อเขานึกถึงคำเตือนของอู๋ปิง หยางป๋อจึงเดินออกห่างจากบ้านไผ่ด้วยตนเอง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เขาก็จะสามารถวิ่งหนีได้ทันที
หยางป๋อมองไปรอบๆ บริเวณลานหน้าบ้าน พื้นปูด้วยแผ่นหินสีน้ำเงิน รั้วไผ่เปลี่ยนสีซีดจางไปตามกาลเวลา มีพืชพันธุ์ต่างๆเลื้อยพันอยู่ ส่วนพืชพรรณที่ปลูกอยู่ตามกระถางดินเผาทั่วไปนั้นดูผิดปกติไปหน่อย
ใกล้ๆ กับบ้านไผ่ยังมีบ่อปลาเล็กๆ เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ไม่สม่ำเสมอ มีก้อนหินเล็กๆ สร้างเป็นเนินเขาจำลอง และมีพืชผักขึ้นอยู่บนนั้นด้วย
บรรยากาศโดยรวมดูธรรมชาติ เรียบง่าย และมีสไตล์ชนบท
ในเวลานี้ อู๋ปิงก็เดินออกมาจากในบ้านด้วยมือเปล่า หยางป๋อรู้สึกแปลก หลังจากเตรียมการอย่างยิ่งใหญ่เแต่กลับเดินออกมาเฉยๆ
"พี่อู๋?" หยางป๋อรีบเดินเข้าไปใกล้พร้อมเอ่ยถาม
"นายไปจัดการที่โน่นซะ" ใบหน้าของอู๋ปิงนิ่งเฉยเง็กน้อย ชี้ไปบ่อปลาข้างๆ แล้วสั่ง
เมื่อหยางป๋อได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ตอบโดยไม่รู้ตัว "ครับ”
จากนั้นเขาก็หันกลับมาแล้วกำลังจะเดินไปทางบ่อปลา แต่ในชั่วขณะที่กำลังหันตัว หยางป๋อรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ เสียงของอ๋งที่ได้ยินฟังเหมือนจะมาจากทางด้านข้างของตัวเขา ไม่ใช่มาจากตรงหน้าซึ่งอู๋ปิงกำลังยืนอยู่
ความสามารถคลื่นเสียงระบุตำแหน่ง ตรวจพบเบาะแสดังกล่าวได้
เมื่อเงยหน้ามองไปทางทิศทางที่เสียงมา ปรากฏว่ามาจากสระน้ำเล็กๆ ที่ไม่น่าสนใจนั่นเอง
หัวใจเต้นรัว หยางป๋อเลยผิวปาก
(จบบท)