บทที่ 46 ภารกิจผจญภัยต่อเนื่อง
*เปลี่ยนแปลงคำศัพท์จาก สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ขจัดปีศาจ→หกกระบวนท่าสังหารอินทรีย์ปราบมาร*
หกกระบวนท่าสังหารอินทรีย์ปราบมารที่ปรากฏครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือของลู่ผิง
เมื่อจับจังหวะได้ เขาก็ลงมือทันที
ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีแบบไหน ก็ไม่สำคัญ
ในฐานะที่เป็นเพียงดวงจิต การที่สามารถออกมือได้ในจังหวะวิกฤตเช่นนี้ ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว จะมาใส่ใจอีกหรือว่าเป็นวิถีในคัมภีร์หรือไม่
สำหรับการจัดการกับศิษย์วิถีมาร เขาก่อเรื่องได้ยิ่งกว่าพวกนั้นอีก
เพียงแต่เมื่อเห็นกระบวนท่าสังหารอินทรีย์ปราบมารทีหนึ่งกระทบลง แต่กลับทำได้แค่ทำลายธงมาร บาดเจ็บสาหัสเท่านั้น ไม่ได้ตายในทันที ลู่ผิงอดยอมรับไม่ได้ว่าชีวิตของคนนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ
หากมิใช่ศิษย์วิถีมารใช้คัมภีร์วิชามารสายเลือดเพื่อปกป้องร่างกายในตอนที่ตกใจ ผลลัพธ์คงไม่ได้แค่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น
ฝ่ายศิษย์วิถีมารนั้น แม้ว่าเขาจะไม่คิดว่าตนเองจะสูญเสียมาก เสียหายถึงขั้นความสำเร็จของธงมารสูญหายไปในพริบตา ในทันทีเขาก็โกรธจนผมลุกฮือ ตกอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่ง สูญเสียสติไป
ดวงตาแดงก่ำ ความคิดเดียวที่มีคือการฆ่าลู่ฉางเฟิงและคนอื่นๆให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
"ยังยืนงงอยู่ทำไม!"
ตามเขา เอาชีวิตเขา เมื่อเห็นศิษย์วิถีมารเสียสติ กำลังจะเริ่มลงมือ ลู่ผิงสร้างการติดต่อกับลู่ฉางเฟิงในทันที
"ทุ่มเทพลังทั้งหมดในการโจมตี สังหารมัน"
ความสามารถ [โจมตีเจาะจง] ถูกใช้กับลู่ฉางเฟิง ผลลัพธ์เริ่มต้นขึ้นทันที
เมื่อได้ยินเสียงดังขึ้นกะทันหันในใจ ฟังดูคุ้นหูอยู่บ้าง ลู่ฉางเฟิงก็เพียงแค่ชะงักไปครู่ ไม่มีเวลาคิดมากแล้ว
สภาพของศิษย์วิถีมาร ไม่ต้องพูดก็เห็น รู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป
กลับสู่ความจริงอย่างรวดเร็ว
"หงส์ทองพ่นไฟ!"
ลู่ฉางเฟิงเคลื่อนกระบี่เซียวเฟิง ใช้กระบวนท่าหงส์ทองพ่นไฟจากคัมภีร์วิชากระบี่ไล่ลมแบบไม่ปรานี ตรงไปยังศิษย์วิถีมาร
เปลวไฟสีแดงเพลิงเผาฟ้า เป็นรูปร่างอินทรีย์ทองคำ ภายใต้พลังจาก[โจมตีเจาะจง] ก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในชั่วพริบตาก็โจมตีเข้าใส่ร่างของศิษย์วิถีมาร ลุกท่วมประกายไฟสว่างจ้า ครอบคลุมศิษย์วิถีมารไว้ทั้งหมด แล้วระเบิดออกด้วยเสียงดัง
"เฮ้อ......"
ลู่ฉางเฟิงสังหารศิษย์วิถีมารสำเร็จ ถอนหายใจยาว ราวกับได้วางก้อนหินที่หนักอกออกไป
ศึกนี้ต้องสู้กันอย่างเลือดเนื้อกระเซ็น แม้แต่เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะชนะ
หากไม่ใช่เพราะกระบวนท่าสังหารอินทรีย์ปราบมารปรากฏขึ้น และมีลู่ผิงช่วยเหลือ ลู่ฉางเฟิงและคนอื่นๆจะต้องตายที่นี่ในวันนี้แน่นอน
โชคดีที่มีบิดาอย่างลู่ผิงติดตามอยู่ตลอด
แต่มองซากศพของศิษย์วิถีมารที่ค่อยๆถูกไฟหงส์ทองเผาผลาญ ในใจลู่ฉางเฟิงก็สงสัยอยู่บ้าง พบว่าไฟหงส์ทองครั้งนี้มีพลังมากกว่าที่ผ่านมามาก นี่ไม่ธรรมดาเลย
ถ้าจะบอกว่าเป็นการใช้ศักยภาพเกินตัว ก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี ในตอนที่ต่อสู้ก็ใช้พลังไปไม่น้อย แล้วจะสามารถใช้ท่าวิชาได้ดีขึ้นกะทันหันได้อย่างไร
หรือว่า อีกครั้งก็เป็นเพราะ 'ท่านผู้นั้น'
ลู่ฉางเฟิงรีบมองสี่ทิศ ก็ยังหาร่างที่น่าสงสัยไม่พบ มีแต่ซ่งหมิงฮุ่ยสามคนยืนอ้าปากค้างอยู่ข้างๆ ตกใจที่ศิษย์วิถีมารถูกกำจัดไป
ไม่ใช่สิ มีใครบ้างหรือ
ท่านเหนือหัวต้องการแค่ทำความดี แต่ไม่อยากปรากฏกาย?
คิดอย่างนี้ ลู่ฉางเฟิงก็ได้แต่คารวะไปทางฟ้า กล่าวด้วยสีหน้าเคารพนบนอบ
"ขอบคุณนายท่านที่ช่วยเหลือ ลู่ฉางเฟิงแห่งนิกายชิงซานขอจดจำบุญคุณไว้ในใจ"
เห็นดังนี้ ลู่ผิงอดหัวเราะไม่ได้
"พอแล้ว ไม่ต้องทำแบบนี้กับข้า"
เขาส่งเสียงเข้าไปในใจลู่ฉางเฟิง
"หืม?"
ลู่ฉางเฟิงตาสว่าง
เป็นท่านเหนือหัว ท่านเหนือหัวท่านนั้นติดต่อมาอีกแล้ว ต้องอยู่แถวนี้แน่
แต่เสียงนี้...... ทำไมฟังแล้วคุ้นหูจัง
"ขออนุญาตถามท่าน...... นายท่านมีนามใดหรือไม่ หากข้าน้อยได้ยินนามของนายท่าน วันหน้าข้าจะไปเยี่ยมเยือนถึงแห่ง เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ท่านช่วยชีวิตข้าน้อยในวันนี้"
ลู่ฉางเฟิงอดคิดถามไม่ได้ สุดท้ายก็พูดออกมาตามมารยาทไปประโยคหนึ่ง
ตอนนี้ลู่ผิงถึงกับหัวเราะไม่ออก
กลับบ้านตัวเอง แล้วมาคารวะต่อพ่อตัวเองเพื่อขอบคุณในบุญคุณ?
ฉากนี้ดูแปลกประหลาดมากทีเดียว
ลู่ผิงไม่อยากแกล้งลู่ฉางเฟิงอีกแล้ว จึงบอกชื่อตัวเองไป "ข้าชื่อลู่ผิง เป็นพ่อของเจ้า"
"พ่อ?!"
ร่างลู่ฉางเฟิงสั่นเทิ้ม จริงหรือ นายท่านที่เพิ่งบวมือ กลายเป็นพ่อแท้ๆของตัวเอง ผู้ก่อตั้งนิกายชิงซานอย่างลู่ผิง?!
ลู่ฉางเฟิงเงียบไปชั่วครู่ มีทั้งตื่นเต้น มีทั้งสงสัย ดีใจที่เสียงนี้เป็นของลู่ผิงจริงๆ ฟังผิดไม่ได้แน่ สงสัยที่ว่าท่านพ่อไม่ใช่ปิดตัวฝึกตนอยู่สามสิบปีแล้วหรอ ก็ยังไม่ได้ยินว่าออกมาเลย
ถึงแม้ท่านพ่อจะออกมาแล้ว แต่ตัวเองยังไม่รู้ แสดงว่าพ่อก็ไม่ควรหลบๆซ่อนๆ ต้องมาพบหน้าสิ
"ท่านพ่อขอรับ พ่ออยู่ที่ไหน"
ด้วยความคิดนี้ ลู่ฉางเฟิงก็มองหาไปรอบๆอีกครั้ง แม้กระทั่งวิ่งออกไปนอกลานดูด้วย ก็ยังไม่เห็นร่างของลู่ผิง ทำให้ซ่งหมิงฮุ่ยสามคนที่ยืนอยู่ข้างๆงุนงง ไม่เข้าใจว่าลู่ฉางเฟิงกำลังทำอะไรอยู่กันแน่
"ไม่ต้องหาแล้ว ตอนนี้ข้าไม่สะดวกพบเจ้า"
"อ๋อ งั้นคนที่ออกมือเมื่อครู่ ก็เป็นพ่อด้วยหรือ"
"ใช่"
เมื่อกระบวนท่าปราบมารที่ปรากฏขึ้นกะทันหัน รวมถึงการโจมตีที่เกินความสามารถของตัวเอง สิ่งเหล่านี้ก็อธิบายได้แล้ว
ในฐานะปรมาจารย์แก่นทองคำ ย่อมต้องมีวิชาอภินิหารบางอย่างที่ไม่ธรรมดา นี่ก็เข้าใจได้ไม่ยาก
ลู่ฉางเฟิงยังอยากถามอีกว่า ลู่ผิงมาได้นานเท่าไหร่แล้ว ทำไมไม่ลงมือฆ่าศิษย์วิถีมารด้วยตัวเอง แต่เสียงของลู่ผิงก็ดังมาเสียก่อน
"เรื่องที่ข้าตื่นขึ้นมา เดี๋ยวกลับไปนิกายค่อยคุยกันละเอียด"
เขาสั่งไปประโยคหนึ่ง แล้วเปลี่ยนเรื่อง "เก็บถุงเก็บของของศิษย์วิถีมารมาหน่อย ยึดของรางวัลมาด้วย"
ลู่ฉางเฟิงได้ยินดังนั้น ก็ได้แต่กลั้นความตื่นเต้นในใจไว้ แล้วไปหาถุงเก็บของของศิษย์วิถีมารในลาน
ขณะเดียวกัน ตรงหน้าลู่ผิง ก็ปรากฏหน้าต่างข้อความของระบบขึ้นมา
[ภารกิจผจญภัยสำเร็จ สังหารศิษย์วิถีมารเมืองฉาวอิ่นสำเร็จ]
[ได้รับรางวัลภารกิจผจญภัย: ค่าชื่อเสียง 192 คะแนน, กล่องเก็บดาบเพลิงลุกโชน x1]
[ติ๊ง! ตรวจพบว่าภารกิจผจญภัยนี้เป็นภารกิจต่อเนื่อง ขณะนี้เปิดใช้งานภารกิจต่อไป]
หลังจากได้รับรางวัลแล้ว ระบบก็ออกภารกิจผจญภัยอีกอันหนึ่ง เป็นภารกิจต่อเนื่อง
[ศิษย์วิถีมารในเมืองฉาวอิ่น กำจัดแล้ว แต่ศิษย์ร่วมสำนักอีกสามคนยังหลบซ่อนอยู่ใกล้ๆอำเภอกว้างเต๋อ กรุณาส่งศิษย์ไปที่อำเภอกว้างเต๋อ เพื่อกำจัดศิษย์วิถีมารที่ซ่อนตัวอยู่ทั้งสามคน]
[รางวัลภารกิจ: ค่าชื่อเสียง 239 คะแนน, เกราะทองประกายพราว x1]
มองภารกิจใหม่ คิ้วลู่ผิงก็ขมวดเข้าหากันทันที
"ทำไมยังมีภารกิจต่อเนื่องอะไรอีก"
ก่อนหน้านี้เขากังวลอยู่แล้วว่า หากไม่กำจัดศิษย์วิถีมารในเมืองฉาวอิ่น ต่อไปจะเป็นอันตรายต่ออำเภอกว้างเต๋อ ส่งผลต่อนิกายชิงซาน ตอนนี้อู๋เหิงถูกกำจัดไปแล้ว แต่ในอำเภอกว้างเต๋อกลับมีพวกพ้องของศิษย์วิถีมารปรากฏตัวขึ้นมา
เพื่อจัดการกับอู๋เหิงคนเดียว เกือบทำให้ลูกชายคนที่สองต้องตายที่นี่ ตัวเองก็ใช้ไปหนึ่งรายการแลกของ [โจมตีเจาะจง] และหนึ่งใบจารอินทรีย์ปราบมาร ถึงจะรอดมาได้อย่างหวุดหวิดเพื่อเสร็จสิ้นภารกิจ
ตอนนี้มาภารกิจต่อเนื่องอีก ทั้งที่เป็นศิษย์วิถีมารถึงสามคน นั่นไม่เท่ากับอู๋เหิงสามคนหรอกหรือ
จะต่อสู้อะไรกันอีกล่ะเนี่ย
สีหน้าลู่ผิงก็ดำคล้ำลงในทันที
ภารกิจต่อเนื่องนี้ ไม่ทำก็แล้วกัน
แต่สายตาลู่ผิงหันไปมองรางวัลภารกิจอีกครั้ง ก็เริ่มครุ่นคิดขึ้นมา "ค่าชื่อเสียงมีแค่ 239 คะแนน เทียบกับ 192 คะแนนค่าชื่อเสียงที่ได้จากการสังหารอู๋เหิง มีมากกว่าแค่ 102 คะแนน"
"นี่หมายความว่า ศิษย์วิถีมารสามคนที่อำเภอกว้างเต๋อนั้น พลังของพวกเขาแต่ละคนสู้อู๋เหิงไม่ได้ ดังนั้นค่าชื่อเสียงรวมของทั้งสามคนจึงมีแค่ 239 คะแนนหรือ"