ตอนที่แล้วบทที่ 1 จุดเริ่มต้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 3 เป็นหรือตาย?

บทที่ 2 การต่อสู้อันดุเดือด


หลงเทียนอายุเพียงแค่ 8 ปี หลังจากที่เขาบรรลุระดับหลอมกายาขั้นสูงสุด นั่นคือขั้นสิบ ทั่วทั้งอาณาจักร เขาอยู่ในระดับแนวหน้า พรสวรรค์ของเขาไม่มีใครเทียบเคียงได้ในหมู่คนรุ่นเดียวกัน แม้แต่เหล่าลูกหลานจากตระกูลจักรพรรดิเองก็เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และฝึกฝนอย่างหนักอยู่เสมอ

มีเพียงแรงจูงใจเดียวเท่านั้น ที่อยู่เบื้องหลังการฝึกฝนหนักของเขา ความตายของพ่อเขา ทำให้เขาต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งพอที่จะทำให้แม่ของเขาไม่ต้องเป็นวิตกกังวน และแข็งแกร่งพอที่จะสืบหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังการตายของพ่อและทำการแก้แค้น สุดท้ายเขาต้องการแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องทุกคนเพื่อไม่ให้คนในตระกูลประสบอันตรายเช่นเดียวกับพ่อของเขา

เขาพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาตัวเอง ฝึกฝนอย่างหนักทุกวันเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แล้วทุกครั้งที่เขาทะลวงผ่าน เขาจะวิ่งไปหาแม่ของเขาอย่างมีความสุขและพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพียงแค่อยากเห็นสีหน้าที่ภาคภูมิใจและมีความสุขของแม่ มันก็ทำให้หลงเทียนรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่แม่ของเขาชม และอีกเรื่องหนึ่งที่เขาชอบคือการอ่าน เขาได้อ่านตำราทุกเล่มที่มีอยู่ในตระกูลในตอนที่เขาอายุ 8 ปี เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาไม่ได้ฝึกฝน เขาก็มักจะอ่านตำราอยู่เสมอ

วิถีชีวิตของเขาในทุกๆวันจะเป็นเช่นนี้ เขาอยากจะไปอ่านตำราที่หอตำราของอาณาจักร หอตำราของอาณาจักรนั้นมีตำรามากมายรวบรวมอยู่ที่นี่ แม้ว่าหอตำราของตระกูลหลงจะใหญ่ แต่ก็เน้นไปที่เนื้อหามากกว่าจำนวน ในทางกลับกัน ในแง่ของปริมาณ หอตำราของอาณาจักรมีตำราหายากมากมายรวบรวมอยู่ ดังนั้น หลงเทียนเลยไปที่หอตำราของอาณาจักรอยู่บ่อยครั้ง และใช้เวลาอ่านหลายชั่วโมงก่อนที่จะกลับบ้าน

เนื่องจากเขาเป็นนายน้อยของตระกูลหลง และยังเป็นอัจฉริยะหาตัวจับได้ยาก เขาเลยมีผู้คุ้มกันสองคนคอยปกป้องและแอบติดตามหลงเทียนอย่างลับๆตามคำสั่งของผู้นำตระกูล ซึ่งทั้งสองคนนั้นเป็นจอมยุทธระดับก่อจิตวิญญาณ ในตอนนี้หลงเทียนอยู่บนรถม้าสีทอง ซึ่งมีตราสัญลักษณ์มังกรอันยิ่งใหญ่ประดับอยู่ เผยให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลหลง

โจรธรรมดาทั่วไปคงไม่คิดหรือแม้แต่จะฝันด้วยซ้ำที่จะปล้นรถม้าคันนั้น พวกเขารู้ว่าตราสัญลักษณ์นั่นหมายถึงอะไร เพราะตระกูลหลงเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของอาณาจักร

หลงเทียนอยู่ในรถม้าของเขา เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เขาได้อ่านในตำราเก่าแก่เล่มหนึ่งในหอตำรา มันเป็นตำราที่อธิบายเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับและตำนานของทวีป แต่ทันใดนั้นเอง รถม้าก็หยุดกะทันหัน มีเพียงแค่ความเงียบงันเท่านั้นที่เกิดขึ้นด้านนอกรถม้า ด้วยความสับสน หลงเทียนเลยออกไปจากรถม้าเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทันทีที่เขาออกมาจากรถม้า เขาก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เขาเห็นเบื้องหน้า

คนขับรถม้าของเขานอนตายอยู่บนพื้น และมีชายสวมหน้ากากคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ด้านหน้ารถม้า ถึงแม้ว่าเขาจะทะลวงผ่านระดับหลอมกายาขั้นสูงสุดแล้ว แต่เขาก็มองระดับบ่มเพาะพลังของบุคคคลที่อยู่เบื้องหน้าไม่ได้เลย

มีเพียงผู้ที่อยู่ในระดับก่อจิตวิญญาณเท่านั้นถึงจะมองเห็นระดับบ่มเพาะพลังของอีกฝ่ายได้ มันมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างผู้ที่อยู่ระดับหลอมกายาขั้นสูงสุดและระดับก่อจิตวิญญาณอยู่ หลงเทียนรู้ว่าตัวเขาตกอยู่ในอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะอีกฝ่ายสามารถสังหารคนขับรถม้าและผู้คุ้มกันได้อย่างง่ายดาย

เขารู้ว่าผู้คุ้มกันของเขาได้ตายไปแล้ว ด้วยน้ำมือของนักฆ่าที่สวมหน้ากาก นั่นเป็นเพราะผู้คุ้มกันของเขายังไม่ปรากฏตัวออกมาปกป้องเขา ดังนั้นคำตอบจึงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ทั้งสองคนได้ตายไปแล้ว หลงเทียนสามารถรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าเขาคือเป้าหมายหลัก คนขับรถม้าและผู้คุ้มกันเป็นแค่ตัวประกอบ และนี่เป็นกับดักที่จะฆ่าเขา และเป็นกับดักที่เขาไม่สามารถหลบหนีได้

หลงเทียนพยายามซ่อนมือไว้ด้านหลัง ในมือของเขามีหยกสีแดงที่ไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอยู่ เขาแอบบดขยี้มันและเผชิญหน้ากับชายสวมหน้ากาก

มันเป็นหยกที่ปู่ของเขามอบให้ เพื่อคุ้มครองเขาหลังจากที่พ่อของเขาถูกลอบสังหาร ซึ่งมันเป็นชิ้นส่วนของหยกคู่หนึ่ง ก้อนแรกอยู่กับปู่ของเขา ส่วนอีกก้อนหนึ่งอยู่ที่เขา เมื่อใดที่หยกก้อนหนึ่งถูกบดขยี้ หยกอีกก้อนหนึ่งก็จะแตก เพื่อให้ผู้ที่ครอบครองอีกคนทราบ

ในตอนที่ปู่ของเขามอบหยกก้อนนี้ ปู่ของเขาได้ขอให้เขาสัญญาว่าจะพกมันติดตัวอยู่เสมอ และใช้มันทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับอันตราย แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

“เจ้ารู้สึกปลอดภัยขึ้นไหมเมื่อบดขยี้หยกก้อนนั้น?” ชายสวมหน้ากากล้อเลียน แววตาของเขาแสดงให้เห็นถึงความเย้ยหยันเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

“เจ้าเป็นใคร?” หลงเทียนถาม แม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นคำถามที่โง่ที่อีกฝ่ายไม่มีทางตอบ แต่เขาก็ต้องถ่วงเวลาศัตรูเพื่อรอให้ปู่ของเขามาช่วย

“กลยุทธ์พวกนั้นใช้ไม่ได้ผลกับข้า เจ้าหนู ข้ารู้ว่าหยกก้อนนั้นคืออะไร ข้าเดาว่าปู่ของเจ้าจะมาถึงที่นี่ภายใน 5 นาที แต่ประเด็นคือ เจ้าหนู เวลาแค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะให้ข้าสังหารเจ้าได้ร้อยรอบ” ชายสวมหน้ากากหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

‘มันรู้ได้ยังไงว่าหยกก้อนนี้มีความสามารถอะไร?’ หลงเทียนคิด

เขารู้สึกตกใจที่อีกฝ่ายรู้ความสามารถของหยกก้อนนี้ ซึ่งมันเป็นหนทางรอดเพียงอย่างเดียวของเขา มันต้องใช้เวลาสักพักกว่าปู่ของเขาจะมาถึงที่นี่ สถานการณ์ในตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดในชีวิตของเขา เขาต้องมีชีวิตรอดจากศัตรูที่อาจเป็นจอมยุทธเหนือกว่าระดับก่อจิตวิญญาณ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ อีกฝ่ายมีระดับบ่มเพาะพลังเหนือกว่าเขาสองระดับ

“ทำไมเจ้าถึงอยากสังหารข้าล่ะ?” หลงเทียนถามอย่างระมัดระวัง

“ข้าจำเป็นต้องบอกเจ้างั้นรึ เจ้าเด็กน้อย? เจ้าควรจะดีใจมากกว่าที่กำลังจะได้ด้วยน้ำมือของคนอย่างข้า” ชายสวมหน้ากากหัวเราะ

“อย่างน้อยก็บอกชื่อของเจ้าได้หรือไม่? เจ้ากลัวคนที่กำลังจะถูกฆ่าตายอย่างนั้นรึ? หรือว่าเจ้าไม่มั่นใจว่าจะสังหารข้าได้?” หลงเทียนเยาะเย้ย

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ข้า? กลัวเจ้า? เจ้าหนู เจ้ากำลังจะทำให้ข้าหัวเราะจนตายอย่างนั้นเรอะ?” ชายสวมหน้ากากตอบกลับ

“เสวนากันพอแล้ว ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว เจ้าหนู!” ชายสวมหน้ากากตะโกน ขณะที่เขาพุ่งเข้าหาหลงเทียน

แม้ว่าหลงเทียนจะยืนห่างจากมือสังหาร 50 เมตร แต่เขาก็สัมผัสถึงจิตสังหารของอีกฝ่ายได้ อีกฝ่ายเป็นนักฆ่าที่สังหารผู้คนมานับไม่ถ้วนอย่างไม่ต้องสงสัย มันมีจิตสังหารที่แข็งแกร่งมาก

หลงเทียนเตรียมพร้อมที่จะสู้ เพราะเขารู้ว่ามันเป็นทางเลือกเดียวที่เขาจะมีชีวิตรอดจนกว่าปู่ของเขาจะมาช่วย เขาต้องอดทนอีกเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

แม้ว่าห้านาทีจะดูเหมือนช่วงเวลาสั้นๆ แต่สำหรับหลงเทียนมันเหมือนกับเป็นชั่วนิรันดร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคนที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่เป็นนักฆ่าที่มีระดับบ่มเพาะพลังเหนือกว่าเขาสองระดับ หลงเทียนลวงมือเข้าไปในกระเป้าข้างหนึ่งและหยิบยันต์อาคมออกมา

ทันใดนั้น ทั้งสองคนก็เผชิญหน้ากัน นักฆ่าสวมหน้ากากเป็นจอมยุทธระดับแก่นทองขั้นต้น ซึ่งกำลังต่อสู้กับเด็กที่บรรลุระดับหลอมกายาขั้นสูงสุด การต่อสู้เป็นตายกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ความอยู่รอดของเขาขึ้นอยู่กับผลการต่อสู้ในครั้งนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด