บทที่ 14 การขับหุ่นยนต์ +8!
บทที่ 14 การขับหุ่นยนต์ +8!
"อนิจจา" หยางป๋อพูดไม่ออกหลังจากมองดูสวนที่ว่างเปล่า ในสวนส่วนใหญ่เป็นพืชมีพิษ แมลงมีพิษ แต่ไม่มีสัตว์สักตัว
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ความคาดหวังที่เขาจะได้รับทักษะเพิ่มเติมจากการสอบนั้นสูญเปล่า
ผลการสอบ 98 คะแนน โดนหักคะแนนเรื่องการจัดการแมงมุมมีพิษไม่ถูกต้องตามระเบียบ หยางป๋อฟาดแมงมุมใหญ่เท่าไข่นกเขาตายด้วยฝ่ามือเดียว
หยางป๋อไม่ได้ตั้งใจจริงๆ พอแมงมุมโผล่ออกมาเขาก็ตอบสนองด้วยสัญชาตญาณ ตามระเบียบแล้วควรจะถอยห่างเพื่อรักษาระยะปลอดภัย แล้วใช้เครื่องมือจัดการ พยายามไม่สัมผัสสัตว์และพืชมีพิษโดยตรง แม้จะสวมชุดป้องกันอยู่ก็ตาม
"ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้ก็จะได้ไปทำงานแล้ว" หยางป๋อคิดอย่างหดหู่หลังจากการสอบเสร็จสิ้น
ผลสอบของหยางป๋อออกมาแล้ว หลิวจื่อเจี๋ยเบิกตากว้างมองอันดับของหยางป๋อ
"98 คะแนนเลยงั้นเหรอ ทิศทางการกลายพันธุ์ของหยางป๋อจะเกี่ยวกับสติปัญญาหรือเปล่านะ?" หลิวจื่อเจี๋ยรู้ดีว่าการสอบยากแค่ไหน เพราะคนธรรมดายากที่จะจำพืชและสัตว์มีพิษได้ทั้งหมด เขาถึงได้บอกว่า 60 คะแนนก็ถือว่าสอบผ่านแล้ว
แต่หลิวจื่อเจี๋ยก็ไม่แน่ใจนัก เพราะการจะระบุทิศทางการกลายพันธุ์ต้องใช้การทดสอบที่ซับซ้อนมาก แม้แต่พื้นฐานที่สุดก็ต้องใช้ตัวอย่างเลือด
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าการกลายพันธุ์มีกี่ทิศทางกันแน่ ประการแรกเพราะสภาพร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทิศทางการกลายพันธุ์ก็ไม่เหมือนกัน อีกอย่างคือเรื่องการปกปิด ผู้กลายพันธุ์จะเก็บความสามารถของตัวเองเป็นความลับ เพราะถ้าคนอื่นรู้ความสามารถการกลายพันธุ์ของตน ก็จะมีการวางแผนรับมือต่างๆได้
เช้าวันรุ่งขึ้น หยางป๋อตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ เพราะหยางป๋อใช้พลังควบคุมแสงเพื่อเผาผลาญพลังงานของตัวเองทุกคืน ทำให้นอนหลับสบายและหลับยาวจนกว่าจะตื่น
เตรียมตัวเสร็จแล้วมาที่ป้ายรถเมล์ หยางป๋อครุ่นคิดว่าจะถามเจ้านายเกี่ยวกับบางอย่างดู ไม่รู้ว่าเจ้านายจะตอบได้ไหม
หยางป๋อไม่ทันสังเกตว่ามีชายหนุ่มใส่แว่นตาดำสวมเสื้อฮู้ดคนหนึ่งจ้องมองเขาด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวอยู่ใต้แว่น
ในโลกนี้ การใส่แว่นตาดำกับเสื้อฮู้ดโดยเอาฮู้ดคลุมหัวมีอยู่มากมาย เพราะส่วนใหญ่เป็นแค่ผู้อยู่อาศัยทั่วไป ผู้อยู่อาศัยเหล่านี้นานวันเข้าก็กลายเป็นพวกติดบ้าน แทบไม่มีสังคมสักเท่าไร
เมื่อรถเมล์มาถึง หยางป๋อก็เข้าคิวขึ้นรถ โดยไม่รู้ตัวว่าชายหนุ่มใส่แว่นตาดำคนนั้นเข้ามาใกล้และแตะหลังมือกับหลังมือของเขา
ชายหนุ่มสะดุ้งราวกับถูกช็อตทั้งตัว สมองสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ที่ไหน มองไปรอบๆด้วยสายตางุนงง แล้วถูกผู้โดยสารด้านหลังผลักเข้าไปในตัวรถ
หยางป๋อรู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างประหลาด ราวกับโดนไฟฟ้าสถิตย์ช็อต จึงมองไปรอบๆด้วยความสงสัย
เมื่อลงจากรถแล้วเข้าไปในบริษัท หลิวจื่อเจี๋ยเรียกหยางป๋อเข้าไปในออฟฟิศแล้วถามว่า "ผลสอบของนายไม่เลวเลย รู้สึกยังไงบ้าง?"
"ผมรู้สึกเหมือนตัวเองผิดปกติไปนิด รู้สึกฆ่าสัตว์พวกนั้นไปโดยไม่มีความรู้สึกผิดเลย" หยางป๋อลังเลใจก่อนจะตอบ
"นี่คือธรรมชาติของมนุษย์ เธอลองไปดูประวัติศาสตร์ดู จำนวนคนตายจากสงครามมากกว่าจากเรื่องอื่นๆมากนัก เช่น ภัยพิบัติ โรคระบาด อะไรพวกนี้"
"คนก็เป็นสัตว์ชั้นสูง อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร ลองคิดดูสิ เหล่าสัตว์ร้ายใช้อะไรเพื่อรักษาตำแหน่งบนสุดของห่วงโซ่อาหาร ก็คือการฆ่า การล่า เธอไม่ต้องคิดมากหรอก ภารกิจเลือกได้ ถ้ารู้สึกไม่ดีก็เลือกแบบที่ไม่เกี่ยวกับสัตว์ก็ได้" หลิวจื่อเจี๋ยพูด
หยางป๋อพยักหน้า "ครับ เจ้านาย"
"ลงไปรับภารกิจได้แล้ว ตอนนี้เธอเป็นระดับ E ต่ำสุด รับได้แค่งานระดับ E เท่านั้น" หลิวจื่อเจี๋ยพูดต่อ
หยางป๋อพยักหน้า แล้วออกไปรับภารกิจ ปรากฏว่ามีงานให้เลือกมากมา อย่างน้อยก็เกือบ 20 งานได้ แต่บางงานก็หายไปแล้ว คงโดนคนอื่นรับไปจัดการแล้ว
"ทำความสะอาดห้องใต้ดิน" หยางป๋อรับภารกิจระดับ E ค่าจ้าง 1,500 เครดิต เพื่อไปจัดการของเก่าเก็บในห้องใต้ดิน
หยิบอุปกรณ์ที่ต้องใช้แล้วจึงขึ้นรถ ซึ่งก็ยังเป็นฝ่ายลูกค้าจัดรถมารอรับเหมือนเดิม
หลิวจื่อเจี๋ยเคยบอกไว้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนดัง นักการเมือง คนเหล่านี้ไม่อยากให้ข้อมูลบางอย่างหลุดออกไป เหมือนสวนที่คราวก่อนไปจัดการ ซึ่งมีพืชใกล้สูญพันธุ์หลายสิบชนิด ถ้าเรื่องแพร่ออกไปคนดังพวกนั้นคงสนุกแน่
ในเวลาเดียวกัน ห่างจากหยางป๋อไปกว่าร้อยกิโลเมตร ชายหนุ่มใส่แว่นตาดำและเสื้อฮู้ดคนหนึ่งลงจากรถด้วยความสับสน เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ในหัวมีภาพผุดขึ้นมาเป็นช่วงๆ
แหวน! คำว่าแหวนผุดขึ้นมาในสมองของชายหนุ่ม เขามองแหวนที่นิ้วตัวเอง ถอดออกมาพลางเดินไปพลาง
แต่แล้วอยู่ๆชายหนุ่มก็ชักกระตุกล้มลง แหวนหลุดออกจากมือ รถเมล์ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงจากด้านหลังชนชายหนุ่มจนร่วง แม้รถเมล์จะมีระบบอัจฉริยะ แต่พฤติกรรมแปลกๆของชายหนุ่มทำให้ระบบไม่สามารถเตือนได้ทัน
เมื่อรถเมล์จอด ประตูก็เปิดออกทันที พร้อมประกาศเสียงดังว่า "ผู้โดยสารทุกท่านโปรดอพยพออกจากรถด่วน โปรดอพยพด่วน"
ภายในสิบวินาที โดรนตำรวจสีขาวดำติดอาวุธเลเซอร์สองตัวบินลอยอยู่กลางอากาศ
ยี่สิบห้าวินาที รถยนต์ต้านแรงโน้มถ่วงสองคันมาถึง หนึ่งคันเป็นรถพยาบาล อีกคันเป็นรถตำรวจ
และในตอนนั้นหยางป๋อที่ยังอยู่ในรถก็งงงวยไปหมด
เพราะพลันข้อความหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา - การขับหุ่นยนต์ +8!
"นี่มันเรื่องอะไรกัน"
หยางป๋อรู้สึกสับสน แล้วลองตรวจสอบดูในใจ ก็พบว่ามีทักษะนี้จริงๆ
"บ้าชิบ..." หยางป๋อรู้สึกงงไปหมด นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ก็ไม่ได้ไปฆ่าใครนี่นา
หยางป๋อพยายามคิดทบทวนอย่างละเอียด ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า แล้วมาที่ทำงาน ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกตินี่
คิดไปคิดมา ก็นึกถึงตอนที่อยู่บนรถเมล์แล้วเหมือนโดนไฟฟ้าสถิตย์ช็อต
"หรือว่าจะโดนใครทำอะไรไว้?" คิดได้ดังนั้น หยางป๋อก็เพ่งมองดูหลังมือตัวเอง มีจุดแดงจางๆเหมือนรอยเข็มเล็กๆอยู่จุดหนึ่ง
ขณะที่หยางป๋อยังคิดสงสัยอยู่นั้นเอง ด้านชายหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุก็มีความคืบหน้า
ตำรวจสองนายขมวดคิ้ว "พลเมืองระดับ C เกินอำนาจของเราแล้ว เราจัดการเองไม่ได้ รายงานขึ้นไปข้างบนก่อนเถอะ"
ชายหนุ่มจึงถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาล แต่หมอตรวจแล้วพบว่าเขาหยุดหายใจไปแล้ว แต่ก็ยังต้องทำตามขั้นตอนช่วยชีวิต อย่างไรก็ดีเนื่องจากไม่ทราบตัวตนของผู้ประสบเหตุ การทำ CPR จึงใช้วิธีพื้นฐานที่สุด เพราะบางคนแพ้ยาบางชนิด หรือบางคนที่กลายพันธุ์แล้วก็ไม่สามารถรับยาบางอย่างได้
หยางป๋อที่ลงจากรถไปเตรียมตัวทำงานก็คาดเดาเหตุการณ์ได้คร่าวๆ "ระดับ C? สิ่งที่ตายไปนี้ให้ทักษะระดับ 8 น่าจะต้องเป็นผู้กลายพันธุ์ระดับ C ผู้กลายพันธุ์ระดับ C นั่งรถเมล์? หรือว่าจะมาตามล่าเขาโดยเฉพาะ?"
"คนนั้นเอาอะไรบางอย่างมาแทงฉันเบาๆ พลังไฟฟ้าจากร่างกายฉันน่าจะปล่อยออกไปจนทำลายไบโอชิปของอีกฝ่ายจนพัง"
"ความรู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าสถิตย์นั่น จริงๆแล้วคือกระแสไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากในตัวฉันเอง?"
"กลับไปดูข่าวก่อนละกัน ดูว่าวันนี้มีคนตายที่ไหนบ้าง พลเมืองระดับ C ตายไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ"
หยางป๋อเก็บของเรียบร้อยแล้ว พึมพำกับตัวเองแล้วเดินเข้าไปในห้องใต้ดินเตรียมลงมือทำงาน
(จบตอน)