ตอนที่6 ฐานดาวอังคาร
“นักเรียน ในวันนี้นักเรียนดีเด่นคนหนึ่งของเราได้เสร็จสิ้นการประเมินการสำเร็จการศึกษาก่อนกำหนด และต่อไปพลเอกเหลียงซิงเฉินจะมอบทำการตำแหน่งให้แก่เขา!”
หลังจากที่หลี่ฝู่หลินพูด เหลียงซิงเฉินก็ก้าวขึ้นไปบนเวที และผู้ชมด้านล่างก็เงียบลงในทันที
“ใครกันที่สามารถทำให้เทพสงครามแห่งกองทัพสหพันธ์เดินทางมามอบตำแหน่งให้เขาเป็นการส่วนตัวเช่นนี้?”
“พลยานเอกเหลียงซิงเฉิน วีรบุรุษของมนุษย์ชาติ! เขาปรากฏตัวต่อหน้าฉันด้วย!”
“ข้อมูลของแม่ทัพเหลียงถูกเก็บเป็นความลับไม่ใช่เหรอ ให้ปรากฏตัวโดยตรงอย่างนั้นจะดีงั้นเหรอ?”
“ความลับมีไว้สำหรับโลกภายนอก โอเคไหม! เราเป็นนักเรียนของวิทยาลัยและเราเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพสหพันธรัฐ!”
“ถ้าถ่ายรูปตอนนี้จะโดนจับไหม?”
"นายหมายถึงอะไรกัน?"
เมื่อมองเหลียงซิงเฉินขึ้นเวที ผู้ชมด้านล่างก็โกลาหลและหอประชุมทั้งหมดก็เต็มไปด้วยเสียงพึมพำ
"เงียบบบบบ!!!"
หลี่ฝู่หลินตะโกนและบรรยากาศก็เงียบลง คณบดียังคงสง่างามอยู่เล็กน้อย แม้ว่าเขามักจะถ่อมตัวเล็กน้อยในที่ส่วนตัวก็ตาม
“รักษาหน้ากันหน่อยย พวกคุณเป็นทหารนะ พวกคุณลืมวินัยพื้นฐานไปแล้วหรือไง!! ตอนนี้ผมขอเชิญหลินฟาน นักศึกษาภาคบัญชาการกองยานที่ 55 ของวิทยาลัยการทหารขึ้นเวที”
มันเป็นเขาเองงั้นเหรอ? ไม่น่าแปลกใจที่ทั้งทางวิทยาลัยบอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะในรอบพันปี ไม่น่าแปลกใจที่นายพลเหลียงซิงเฉินจะเดินทางมาเพื่อมอบตำแหน่งให้กับเขา
ทุกคนที่อยู่ล่างเวทีเข้าใจในทันที อย่างไรก็ดี ทุกคนก็รู้จักความอัจฉริยะของหลินฟานมานานแล้ว
ไม่มีใครเทียบพรสวรรค์การบัญชาการได้ทั่วทั้งวิทยาลัย แม้แต่บรรดาอาจารย์ก็ยังเต็มใจที่จะหลีกทางให้เขา เขาเคยทุบตี วูด สก็อตต์ ผู้ซึ่งเป็นพันเอกอนาคตไกลที่มีชื่อเสียงมาก่อนและหลายคนก็ยังเรียกเขาว่าผู้บัญชาการอัจฉริยะเหลียงซิงเฉินคนต่อไป
แต่ชื่อปีศาจอัจฉริยะของหลินฟานไม่ได้มาจากสิ่งนี้ ที่น่ากลัวกว่านั้นคือนอกจากความสามารถในการบัญชาการแล้ว ความสามารถในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของผู้ชายคนนี้ยังทำให้ทุกคนตาบอดได้อีกด้วย (แสงมันช่างจ้าซะเหลือเกิน!!)
หลังจากเข้าเรียนในวิทยาลัยเป็นเวลาสามปี ก็มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ถูกปล่อยออกมาบ้างครั้งคราว กุญแจสำคัญตัวงานวิจัยแต่เป็นความสำคัญของงานวิจัยต่อสหพันธรัฐ
การวิจัยที่มีชื่อเสียงที่สุดของหลินฟานการออกแบบอุปกรณ์แรงโน้มถ่วงเทียม
เขาจำได้ว่าเมื่อสองสามปีก่อนนั้นยังคงไม่มีแรงโน้มถ่วงในวิทยาลัยแห่งนี้ แต่หลังจากที่หลินฟาน ออกแบบอุปกรณ์แรงโน้มถ่วงเทียม วิทยาลัยพวกเขาก็ไม่แตกต่างจากอยู่บนโลก
แม้แต่แรงโน้มถ่วงเทียมที่ใช้ในกองยานของสหพันธ์ก็ยังมาจากการออกแบบของหลินฟาน
แน่นอนว่าสำหรับสถานการณ์นี้เป็นเพราะว่าหลินฟานบอกว่าเขาไม่ต้องการใช้มันจะมีใครปล่อยให้เทคโนโลยีของพวกทุกใช้ได้อิสระทุกครั้งกัน?
ในขณะนี้ หลินฟานได้สวมเครื่องแบบสีดำของกองยานสหพันธรัฐ และเดินมาหาเหลียงซิงเฉินที่ยืนอยู่นิ่งๆ เขาทำความเครพอย่างตั้งใจ
เหลียงซิงเฉิน มองไปที่หลินฟาน แล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาหันหลังกลับไปและหยิบ
อินธนูของยศพันเอกจากถาดที่ผู้ช่วยของเขาถืออยู่แล้ววางไว้บนไหล่หลินฟานอย่างเคร่งขรึม
"ยินดีด้วย! นับตั้งแต่วันนี้ คุณได้รับการแต่งตั้งเป็นทหารของสหพันธรัฐอย่างเป็นทางการ!"
“ครับท่าน!! ผมจะไม่ทำให้ท่าน ผบ. ผิดหวังครับ”
ขณะนี้ ทุกคนในกลุ่มผู้ชมกำลังดูอะไรบางอย่างอยู่ อะไรกัน? ยศบนไหล่ของหลินฟานนั่นก็คือ...
พันเอก!!
หลินฟาน อายุแค่ 19 ปีเองนะ
พันเอกอายุ 19 ปี มีใครเคยได้ยินบ้างมั้ย?
แต่นักเรียนทุกคนคิดว่ามันสมเหตุสมผล ท้ายที่สุด หลินฟานนั้นไม่ว่าจะเป็นการบัญชาการกองยานหรือการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะปีศาจ
เกี่ยวกับการปรากฏณ์ขึ้นของพันเอกอายุ 19 ปีไม่มีใครคัดค้านมาระยะหนึ่งแล้ว นี่ก็น่าทึ่งมากเช่นกัน
วินาทีถัดมา ทั้งหอประชุมต่างปรบมือกันเป็นเวลานาน
จากนั้น หลินฟานบนเวทีก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะระบบได้ส่งเสียงที่น่ารักดังก้องอยู่ในหู
[ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ทำภารกิจที่ 2: ได้รับการเลื่อนยศเป็นพันเอก และได้รับรางวัลเป็นน้ำยาปรับสภาพภาพยืน ซึ่งวางอยู่ในพื้นที่ของระบบ]
นี่เป็นยาเสริมสร้างยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่ในนิยายมนุษย์ งานภาพยนตร์และงานโทรทัศน์ต่างๆอยู่เสมอ หลินฟานมีหรือที่จะไม่รู้สึกตื่นเต้น!
แต่ไม่ว่าเขาจะตื่นเต้นแค่ไหน เขาไม่สามารถเอามันออกมาได้ในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะรู้สึกตื่นเต้นอยู่ภายใน แต่ใบหน้าของหลินฟาน ก็ยังคงความจริงจังไว้อย่างดี
เอ็มม่าที่อยู่ใต้เวทีจ้องไปที่หลินฟานบนเวทีอย่างว่างเปล่า พร้อมปรบมือขณะที่พูดเบาๆ ด้วยเสียงที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่ได้ยิน
“ฉันจะไปที่ฐานดาวอังคารเพื่อตามหานายในปีหน้า!”
เวลาบ่ายสี่โมงเย็น หลินฟานซึ่งเสร็จสิ้นพิธีมอบรางวัลพร้อมกับเหลียงซิงเฉินได้เริ่มการเดินทางไปยังฐานทัพที่ดาวอังคารด้วยการอำลาของหลี่ฟูหลิน
สามวันต่อมา ยานพิฆาตชั้นไห่เยี่ยน ที่หลินฟานโดยสารก็มาถึงฐานทัพดาวอังคาร
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินฟานมาที่ดาวอังคารตั้งแต่เขาข้ามมาที่นี่ ฐานทั้งหมดสร้างขึ้นบนวงโคจรของ ดาวอังคาร มันประกอบไปด้วยเมืองอวกาศขนาดเล็ก, ที่จอดยานขนาดใหญ่ 38 แห่งและท่าจอดยานขนาดเล็กและขนาดกลางอีกจำนวนนับไม่ถ้วน ยานรบ 20,000 ลำภายใต้กองยานที่4 และยานพลยานนจำนวนนับไม่ถ้วน
ทำไมมียานพลยานนจำนวนมาก? สาเหตุหลักอยู่ที่แถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคาร
กับดาวพฤหัสบดี เนื่องจากเป็นแหล่งทรัพยากรแห่งเดียวในปัจจุบันของสหพันธ์ จึงเป็นเรื่องปกติที่จะใช้ประโยชน์จากมันอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การขุดทรัพยากรแถบดาวเคราะห์น้อยเป็นสิ่งที่อันตราย
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้ต่อสู้กันอีกนับตั้งแต่ปีที่ 52 ของปฏิทินสหพันธรัฐ แต่จักรวรรดิอ็อกซ์ ก็ได้ส่งกองยานขนาดเล็กเข้าไปในแถบดาวเคราะห์น้อยเพื่อลอบโจมตีและเป้าหมายหลักของการโจมตีคือยานขุดทรัพยากรของสหพันธ์
ดังนั้น หนึ่งในภารกิจหลักของกองยานที่4 คือการล่องยานในแถบดาวเคราะห์น้อยและให้การ ปกป้องยานขุดทรัพยากร ในช่วงหกปีที่ผ่านมาจึงมีการต่อสู้ขนาดเล็กในแถบดาวเคราะห์จำนวน
นับไม่ถ้วน
จากท่ายานขนาดใหญ่ 38 แห่งที่อยู่บนฐานทัพดาวอังคาร มี 18 แห่งที่ถูกใช้โดยยานขุดทรัพยากรและยานขนส่ง
“นี่คือฐานทัพดาวอังคารเหรอ น่าทึ่งมาก!”
หลินฟาน มองไปที่ฉากข้างหน้าเขาผ่านหน้าต่างสังเกตการณ์บนยานรบ มียานรบไม่น้อยกว่า 1,000 ลำจอดเทียบท่าในท่าเทียบยานรบซึ่งมันน่าทึ่งมาก
เมื่อคิดว่ามีท่าเทียบยานรบอีก 19 แห่ง หลินฟาน ก็รู้สึกไม่สบายใจ
ในไม่ช้า ยานพิฆาตก็จอดเทียบท่าที่ท่าจอดยานของเมืองอวกาศขนาดเล็ก ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของฐานทัพดาวอังคาร
หลังจากลงจากยานอวกาศ เหลียงซิงเฉินก็พาหลินฟานไปที่สำนักงานของเขาและขอให้ผู้ช่วยของเขาแจ้งให้เหลียงเสวี่ยมาที่นี่
หลินฟานไม่รู้ว่าเหลียงเสวี่ยเป็นใครและเขาก็ไม่ได้สนใจ
“นี่คือตารางงานของคุณ มาดูกันเถอะ”
หลังจากที่ผู้ช่วยออกไปแล้ว เหลียงซิงเฉินก็นั่งลงบนที่นั่งของเขาและมองไปที่หลินฟานซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขาแล้วยื่นเอกสารให้
หลินฟานรับเอกสารและชำเลืองมองอย่างรวดเร็ว เขาลอบตกใจเหลียงซิงเฉินได้มอบกองยานรบให้ตัวเองด้วยตนเอง
เนื้อหาของเอกสารคือ หลังจากคำแนะนำของผู้บัญชาการกองยานที่สี่ นายพลเหลียงซิงเฉิน หลินฟาน ได้รับการเลื่อนยศเป็นพันเอกของกองยานสหพันธรัฐเป็นพิเศษ และในขณะเดียวกันก็เป็นผู้บัญชาการกองยานผสมที่ 101 ของกองยานที่สี่ เข้ารับตำแหน่งทันที
"กองยานผสมที่ 101 เป็นกองยานทดลองล่าสุดของกองยานที่สี่ของเรา มียานรบทั้งหมด 144 ลำ รวมถึงยานบรรทุกสรรพาวุธ 9 ลำ ยานลาดตระเวนประจัญบาน 9 ลำ ยานลาดตระเวน 18 ลำ ยานพิฆาต 36 ลำ และยานฟริเกต 72 ลำ"
"นอกจากนี้ ฐานทัพดาวอังคารจะจัดสรรท่าจอดยานขนาดกลางให้เป็นฐานเฉพาะสำหรับกองยานผสมที่ 101 "
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินฟานรู้สึกแปลกเล็กน้อย ท่าจอดยานขนาดกลางนั้น สามารถจุยานรบลาดตระเวนได้ 50 ลำและยานพิฆาตได้ 500 ลำ
แต่ตอนนี้เหลียงซิงเฉินบอกหลินฟานให้ใช้ท่านจอดยานขนาดกลาง ‘ซิงกัง’ เป็นฐานปฏิบัติการสำหรับกองยานผสมที่ 101
นี้ค่อนข้างผิดปกติ ยานรบ 144 ลำต้องการท่าจอดยานขนาดใหญ่เช่นนี้จริงงั้นหรือ?
“คุณคงสงสัยว่าทำไมท่าจอดยานใหญ่ขนาดนี้ถึงถูกมอบให้คุณใช้เป็นฐานปฏิบัติการใช่ไหม?”
“ครับ ท่านผู้บัญชาการ!”
“นั่นเป็นเพราะว่าท่ายานใหม่นี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นท่าจอดยานทดลองสำหรับยานรบและสามารถเทียบท่าได้เพียง 100 ลำเท่านั้นแต่สถานที่อื่นๆ เป็นโรงงานผลิตทุกประเภท เข้าใจไหม?”
เมื่อพูดคุย เหลียงซิงเฉินได้มองมาที่หลินฟานอย่างคาดหวัง