ตอนที่แล้วตอนที่4 การประเมินเสร็จสมบูรณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่6 ฐานดาวอังคาร

ตอนที่5 ความจริงของแนวหน้า


หลังจากได้รับใบรับรองการสำเร็จการศึกษาจากหลี่ฝู่หลินและได้รับแจ้งว่าทางวิทยาลัยจะจัดพิธีมอบรางวัลให้กับตัวเองตอนเวลา 15.00 น.

หลินฟานและเอ็มม่าก็ออกจากอาคารจำลองสงคราม

“วันนี้นายจะไปแล้วใช่ไหม”

เอ็มม่าเดินไปที่ด้านข้างของหลินฟานและถามเบาๆ

“ก็ ผบ.บอกว่าจะพาฉันไปหลังบ่าย”

"แต่แนวหน้าตอนนี้...ก็..."

เอ็มม่าแค่อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หลินฟานก็เอื้อมมือไปปิดปากของเธอ

“ฉันรู้เรื่องแนวหน้าแล้ว และรู้มากกว่าเธอด้วย”

เอ็มม่าจ้องที่หลินฟานด้วยดวงตาที่สวยงามของเธอ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมหลินฟานถึงรู้  ข่าวเหล่านี้ควรถูกบล็อกไว้อย่างสมบูรณ์ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ถ้าไม่ใช่สำหรับครอบครัวที่มีอำนาจอย่างแคมป์เบลล์

ถูกต้อง ข้อเท็จจริงที่ว่าสหพันธ์ดูจะสงบในตอนนี้ มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย

เนื่องจากมนุษยชาติได้ก่อตั้งสหพันธรัฐขึ้นและเริ่มเดินทางเข้าสู่ห้วงอวกาศ ภายในระยะเวลาสั้น ๆ กว่าสิบปี พวกเขาได้ค้นพบระบบดวงดาว 3 ระบบได้แก่ พร็อกซิม่า,บาร์นาร์ด และเทียนหยวน ทั้งสามได้ถูกรวมเป็นอาณาเขตของสหพันธ์

ในช่วงเวลาหนึ่ง มนุษยชาติได้เกิดยุคการเดินทางข้ามดวงดาวขึ้น แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ อีกไม่กี่ปีต่อมา พวกเขาจะได้พบกับจักรวรรดิอ็อกซ์อันทรงพลังในจักรวาล

ไม่สำคัญว่าใครพบใครก่อน แต่ภายใต้กฎแห่งป่าของจักรวาล การโจมตีอารยธรรมอื่นๆนั้นไม่ใช้สิ่งที่ผิดศีลธรรมแต่อย่างใด

ในช่วงสามสิบปีต่อมา สหพันธ์และจักรวรรดิอ็อกซ์ได้ต่อสู้ในสงครามนับไม่ถ้วน

จากเทียนหยวนไล่ไปถึงบาร์นาร์ดและต่อไปที่พร็อกซิม่า

ในที่สุด กองยานทั้งสามนอกระบบสุริยะของสหพันธรัฐก็ถูกกำจัด และในเวลาเดียวกันระบบดวงดาวทั้งสามก็ถูกประกาศยึดครอง

ณ จุดนี้ กองยานหลักทั้งสี่ของสหพันธรัฐมนุษย์หลงเหลือเพียงกองยานที่สี่ที่ประจำการอยู่ในระบบสุริยะเท่านั้น จำนวนยานรบโดยรวมลดลงอย่างรวดเร็วจาก 150,000 เป็น 30,000 ลำ แบ่งเป็น

20,000 ลำภายใต้กองยานที่สี่และ 10,000 ลำภายใต้กองยานผู้พิทักษ์

และแล้วเรือรบ 200,000 ลำของจักรวรรดิอ๊อกซ์ก็พุ่งตรงมายังระบบสุริยะ

ในปีที่ 52 ของปฏิทินสหพันธรัฐ กองยานอ็อกซ์ได้เข้าสู่ระบบสุริยะ ในขณะนั้นเหลียงซิงเฉินซึ่งเพิ่งเป็นผู้บัญชาการกองยานที่สี่ ยืนหยัดต่อแรงกดดันและสั่งให้กองยานทั้งหมดถอยกลับไปยังฐานทัพดาวอังคาร

เหลียงซิงเฉิน รู้ว่าด้วยพลังต่อสู้ที่ต่างกันถึงสิบเท่า ไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะศัตรูได้อย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน เมื่อเผชิญหน้ากัน ความเสียหายสูงสุด 1 ลำ แลก 3 ลำก็ถึงขีดจำกัดแล้ว โอกาสเดียวคือใช้แถบดาวเคราะห์น้อยเพื่อค้นหาโอกาสที่จะทำลายศัตรู

ในไม่ช้า กองยานของจักรวรรดิอ็อกซ์ก็ถึงมาดาวพฤหัสบดี ตลอดทางจนถึงตอนนี้ เหลือเพียงแถบดาวเคราะห์น้อยเท่านั้นที่คั่นอยู่ระหว่างทั้งสองฝ่าย

สามเดือนต่อมา ยานรบ 200,000 ลำของจักรวรรดิอ็อกซ์ ได้เดินทางเข้าสู่แถบดาวเคราะห์น้อย และในที่สุดเหลียงซิงเฉินก็พบโอกาศซุ่มโจมตี

การสู้รบนี้กินเวลาถึง 3 วันและจบลงด้วยการที่กองเรือที่สี่ของสหพันธรัฐสูญเสียยานรบ 8,000 ลำแลกกับจักรวรรดิอ็อกซ์สูญเสียยานรบ 80,000 ลำและเดินทางถอยร่นกลับสู่ดาวพฤหัสบดี

การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เหลียงซิงเฉินได้รับการขนานนามให้เป็นเทพสงครามแห่งกองทัพสหพันธ์

หลังจากนั้นเพื่อประโยชน์ของความมั่นคงภายใน สหพันธ์ได้เปลี่ยนคำแถลงการว่าได้ทำลายยานประจัญบาน 200,000 ลำของจักรวรรดิอ็อกซ์และประกาศว่าได้เอาชนะจักรวรรดิอ็อกซ์แล้ว ทำให้ทุกคนในสหพันธ์เชื่อว่าสงครามสิ้นสุดลงแล้ว

อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือแม้ว่าจักรวรรดิอ็อกซ์จะประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่ก็ยังมียานรบอีก 120,000 ลำอยู่ที่ดาวพฤหัสบดี และมนุษย์ยังคงติดอยู่ในแถบดาวเคราะห์น้อยและไม่สามารถออกไปได้

ตามความคิดของเหลียงซิงเฉิน  จักรวรรดิอ็อกซ์ไม่ได้มีการโจมตีครั้งที่สองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะจุดประสงค์ของมันคือเพื่อรอกำลังเสริม

ดังนั้นสถานการณ์ของมนุษย์ในปัจจุบันจึงค่อนข้างยากลำบากซึ่งตรงกันข้ามกับการร้องเพลงและการเต้นรำฉลองในสหพันธ์อย่างสิ้นเชิง

“อย่ากังวลไปเลย บางทีเมื่อเธอมาที่ฐานดาวอังคารตอนปีหน้า ฉันอาจจะได้อยู่ท่ามกลางดวงดาวแล้ว”

“หลินฟานตอนนี้นายอายุแค่ 19 ปี ปีหน้านายอายุแค่ 20 แต่อยากเป็นคนใหญ่คนโตแล้วเหรอ คิดดีๆ! ตอนพลเรือเอกเหลียงซิงเฉินกลายเป็นผู้บัญชาการสูงสุด เขาก็มีอายุถึง 28 ปีแล้วนะ!”

“งั้นมาพนันกัน ถ้าปีหน้าเธอมาถึงฐานทัพดาวอังคาร แล้วฉันได้กลายเป็นผู้บัญชาการสูงสุด

เธอต้องมาเป็นแฟนฉัน!"

“ใคร... ใครจะไปเดิมพันอะไรแบบนี้กับนายกัน!”

ใบหน้าของเอ็มม่าเปลี่ยนเป็นสีแดงและเริ่มการทุบตีหลิงฟ่าน จากนั้นเธอก็หันหลังกลับและวิ่งหนีไป

"ไม่ซื่อสัตย์ต่อตัวเองเลย! เฮ้อ ฉันจะไปตอนบ่ายแล้ว ไปรายงานตัวกับผู้อาวุโสดีกว่า ลำบากจริงๆ!"

ทันใดนั้น  หลินฟานก็กลับไปที่หอพักของเขาเพื่อเตรียมเก็บของ แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ต้องทำก่อนที่จะเก็บของ ซึ่งก็คือการโทรหาพ่อของเขา

ไม่นานก็ต่อสายได้ และเสียงที่สง่างามก็ดังออกมา

“ผมหลินเฉินพูด!”

"พ่อ ผมเอง!!"

"มีอะไรว่ามา!"

“ผมเพิ่งเสร็จสิ้นการประเมินการสำเร็จการศึกษาล่วงหน้า หลังจากรับรางวัลในตอนบ่ายแล้ว ผมจะตามพลเรือเอกเหลียงซิงเฉิน ไปยังฐานดาวอังคาร”

"จริงเหรอ?"

“จริงเหรออะไรกัน พ่อพูดคำอื่นไม่เป็นแล้วหรือไงกัน?”

“พ่อไม่มีเวลาคุยกับแกเยอะนัก มีอะไรก็พูดมา พ่อยุ่งมาก!”

“พ่อไม่ว่างอะไรกัน ไม่จริง!!”

“คิดว่าฉันเป็นแกรึไง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ไอ้หนูตัวเหม็นที่เอาแต่นอนทั้งวันในวิทยาลัย!”

“การนอนของผมมันทำไมกัน การนอนทำให้ผมมีความสุข การนอนทำให้ผมแข็งแกร่ง นอนยังไง ก็ยังแข็งแกร่งที่สุด!”

“แกนี่มัน!! น่ารำคาญจริงๆ”

แม้ว่าเขาจะโกรธ แต่หลินเฉินก็ไม่สามารถหักล้างคำพูดนี้ได้จริงๆ หลินฟานนอนหลับแล้วได้เก่งขึ้นจริงๆ

ตามรายงานที่เขาได้รับ เจ้าลูกคนนี้ นอนในห้องเรียนและก็ยังนอนหลังเลิกเรียน....

สรุปคือเขาได้มองหาโอกาสที่จะนอนหลับตลอดเวลา แต่ปัญหาคือเจ้าเด็กนี่หลับสนิทแล้วดันแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ หลังจากทำแบบนี้ไปไม่กี่ปี แม้แต่อาจารย์ของทั้งวิทยาลัย ก็ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้

หลินฟานเป็นเด็กที่มารยาทดีและขยันทำงานเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็กและมันก็กลายเป็นแบบนี้เมื่อเขาโตขึ้น

หลินเฉินโกรธมากขึ้นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

“โอเคพ่อ ผมติดต่อมาเพื่อบอกลา ใครจะรู้ว่าเราจะมีโอกาสได้คุยกันอีกไหมในอนาคต”

หลินเฉินเงียบ คนอื่นอาจไม่รู้แต่เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในแนวหน้าเพราะเขาเป็นประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐ

สำหรับหลินฟานนั้น หลินเฉินไม่ต้องการให้สถานะของตัวเขาส่งผลไม่ดีต่อการเติบโตของหลิน ฟ่าน ดังนั้นเขาจึงเก็บข้อมูลของหลินฟานไว้เป็นความลับตั้งแต่เนิ่นๆ และข้อมูลที่เปิดเผยต่อโลกภายนอกนั้นเป็นข้อมูลที่ได้ทำการแก้ไขเป็นข้อมูลเท็จเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นแม้แต่ คณบดีหลี่ฟูหลิน ก็ไม่รู้ว่าหลินฟานเป็นลูกชายขอท่านประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐ

ซักพักก็ไม่มีใครพูดอะไรและบรรยากาศก็เงียบลงเล็กน้อย

“ระวังตัวด้วย พ่อไม่อยากไปงานศพของลูกชายตัวเองหรอกนะ”

“แกควรให้ความสำคัญกับร่างกายของตัวเองมากกว่านี้!”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ บทสนทนาระหว่างหลินเฉินและหลินฟาน ลูกชายของเขาจะเป็นแบบนี้เสมอ

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทะเลาะกันทั้งวัน แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นห่วงซึ่งกันและกันมาก นี่เป็นวิธีการสื่อสารที่ไม่เหมือนใคร

หลังจากโทรคุยเสร็จแล้ว หลินฟานก็เริ่มทำความสะอา และเมื่อเห็นว่ายังมีเวลาเหลืออีกมาก เขาจึงนอนลงบนเตียงและเข้านอน โอ้ ไม่ มันคือการฝึกต่างหาก!

ตอนบ่ายสามโมง ณ หอประชุมกลางของวิทยาลัย นักเรียนและอาจารย์ทั้งหมดได้มารวมตัวกันที่นี่เพื่อเข้าพิธีมอบรางวัล

สำหรับนักเรียนที่มารวมกันที่นี่ พวกเขาค่อนข้างจะมึนงง งานประกาศรางวัลจัดขึ้นปีละครั้งไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงมีการรางวัลอีกครั้ง หลังจากครั้งล่าสุด? ใครได้รับรางวัล?

ไม่ต้องพูดถึงนักเรียน แม้แต่อาจารย์ทุกคนก็ยังสับสน

หลังจากที่หลี่ฟูหลินขึ้นไปบนเวทีและพูดทุกคนก็เริ่มตื่นเต้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด