ตอนที่4 การประเมินเสร็จสมบูรณ์
ภายในโดมจำลอง เหลียงซิงเฉินมองไปที่กองยานของเขาเองที่มีตำแหน่งโจมตีที่ดีที่สุด แต่กองยานของหลินฟานก็ยังคงไม่ตอบสนอง
‘ฉันมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่มันคืออะไรกัน’ เหลียงซิงเฉินเผชิญกับสถานการณ์นี้เป็นครั้งแรก
แต่ไม่ว่ายังไงเนื้อก็มาวางอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว!
แต่เมื่อเหลียงซิงเฉินกำลังจะโจมตี เขาพบว่ากองยานของเขาถูกโจมตีและการยิงก็มาจากทางด้านขวาของเขา
จากเรดาร์ เหลียงซิงเฉิน พบว่ามีกองยานสามกองปรากฏขึ้นที่ด้านขวาของกองยานของเขา มีจำนวนยานรบทั้งหมด 100 ลำ
เป็นไปได้ยังไง? ทำไมหลินฟานถึงมียานรบ 200 ลำ?
ด้วยความสงสัยของเหลียงซิงเฉินเขามองกองยานบนเรดาร์อีกครั้ง แต่ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความน่าเหลือเชื่อ
กระจุกแสงรูปยานอวกาศ 100 ดวงที่เดิมทีอยู่บนเรดาร์นั้นเริ่มมีความสมบูรณ์น้อยลงเรื่อยๆ
จะเห็นได้ชัดเจนว่ากลุ่มแสงแต่ละกลุ่มที่มีรูปร่างเหมือนยานประจัญบานนั้นจริงๆ แล้วประกอบด้วยไปกลุ่มแสงเล็กๆ หลายสิบหรือหลายร้อยกลุ่ม
“มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง? ฉันถูกเขาจับทางตั้งแต่ต้นแล้วงั้นเหรอ? ตอนนี้ฉันคงโดนผู้อาวุโสหลี่หัวเราะเยาะไปหลายรอบแล้ว!”
“แม้ว่าฉันจะหันยานไปหากลุ่มที่สอง แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะได้รับชัยชนะ!”
เหลียงซิงเฉินไม่ได้หันกองยานไปทางขวาเพื่อไปเผชิญหน้ากับศัตรู แต่สั่งให้กองยานเร่งความเร็วและเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุดโดยไม่ลังเล
ในเวลาเดียวกัน ภายในโดมจำลองอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกล หลินฟานขมวดคิ้ว
ในความคิดของเขา เหลียงซิงเฉินควรหันไปหาศัตรูและในระหว่างการเลี้ยวเขาจะสามารถทําลายยานรบอย่างน้อย 30 ลำ
จากนั้นยานรบอีก 70 ลำของเขาต้องเผชิญกับยานรบ 100 ลำของหลินฟานและหลินฟานมีความมั่นใจที่จะชนะสงครามครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์
แต่เหลียงซิงเฉินกลับไม่ได้หันไปหาศัตรู แต่เร่งความเร็วไปข้างหน้าแทน
หลังจากที่หลินฟานคำนวณในสมองในชั่วพริบตา ผลลัพธ์ก็ถูกคำนวณทันที
ถ้าเหลียงซิงเฉินหนีเป็นเส้นตรง เขาจะสามารถทำลายยานรบอย่างน้อย 40 ลำ จากทางด้านข้างระหว่างการหลบหนี และจะเริ่มกัดหางของเขาและทำการไล่ล่า
แล้วสุดท้ายฉันจะชนะศึกนี้ได้ง่ายขึ้น!
แต่สิ่งที่ทำให้หลินฟานไม่เข้าใจก็คือ เหลียงซิงเฉินไร้ความสามารถจริงๆเหรอ? วิธีการต่อสู้นี้คล้ายกับวิธีของคนไร้ความสามารถบางคนในวิทยาลัยมาก!
ไม่กี่นาทีต่อมา หลินฟานได้ตรวจสอบข้อมูลบนเรดาร์ คู่ต่อสู้สูญเสียยานรบไปแล้ว 42 ลำ และกำลังจะพุ่งออกจากระยะยิงของเขา
แม้ว่า หลินฟานมีข้อสงสัยมากมายในใจ แต่สถานการณ์ปัจจุบันไม่สามารถนิ่งเฉยได้ หากเขาไม่ดำเนินการในทันที เขาจะไม่สามารถกัดหางของกองยานฝ่ายตรงข้ามเพื่อไล่ล่าได้
เขาระงับความสงสัยในหัวใจของเขาไว้ชั่วคราว และสั่งให้กองยานเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มกำลังและเริ่มไล่ตาม
ยานรบที่ไม่บุบสลาย 100 ลำไล่ตามยานรบ 58 ลำที่ส่วนใหญ่ได้รับความเสีบหาย ไม่ว่าจะมองยังไง เหลียงซิงเฉินไม่มีความหวังเลย แต่หลินฟานรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกว่าเขาพลาดอะไรบางอย่างไป
ในไม่ช้ากองยานก็เลี้ยวโค้งสำเร็จและมาที่ด้านหลังของกองยานของฝ่ายตรงข้าม แต่หลินฟาน ซึ่งกำลังจะโจมตีอีกครั้งพบความผิดปกติบนจอเรดาร์
ข้างหลังกองยานของเขา มีจุดแสงจำนวนมากปรากฏขึ้นในทันใด ซึ่งมีจำนวน 3,000 ดวง และพวกมันก็อยู่ค่อนข้างใกล้กับกองยานของพวกเขา
“ให้ตายสิ ฉันโดนหลอก!! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่เลือกหันไปหาศัตรู แต่เร่งให้เร็วขึ้น กลับกลายเป็นว่าเขาจะพาฉันมาที่ตำแหน่งนี้!!!”
หลินฟานเข้าใจการกระทำแปลกๆของเหลียงซิงเฉินทันที เพื่อที่จะไล่ล่าคู่ต่อสู้ เขาต้องเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและหมุนตัว เดินหน้าออกไปเป็นทางโค้งเพื่อไปข้างหลังเหลียงซิงเฉิน
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตรงข้ามได้ปล่อยหุ่นรบ 3,000 ตัวไว้ที่นี่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดหลินฟานก็สามารถคาดเดารายละเอียดต่างๆได้แล้ว
ต้องกลายเป็นว่าเมื่อฝ่ายตรงข้ามเร่งความเร็วในตอนนั้น ขณะที่กองยานทั้งสองฝั่งถูกคั่นกลางด้วยบรรดาดาวเคราะห์น้อย ส่วนหนึ่งของหุ่นรบก็ถูกปล่อยมาอย่างเร่งด่วน และทั้งหมดถูกซ่อนอยู่หลังดาวเคราะห์น้อยแต่ละดวง
แท้จริงแล้ว เหลียงซิงเฉินยังคงเป็นเทพสงครามของกองยานสหพันธรัฐ ฉันยังคงแย่กว่าเขามาก
สำหรับผลของการต่อสู้ครั้งนี้ หลินฟานได้คำนวณแล้วว่ากองยานที่อยู่ใกล้ๆหุ่นรบทั้ง 3000 ตัวจะถูกสังหารโดยไม่สามารถต่อต้านได้
ใครจะอยากปล่อยให้หุ่นรบและโดรนของเขาโจมตีกัน? แต่ปืนของกองยานบนยานประจัญบานนั้น อย่าลืมว่า พวกมันเป็นประเภทที่มีความเร็วในการยิงช้าและกำลังสูง มันเป็นเรื่องตลกที่จะโจมตีหุ่นยนต์ที่มีความเร็วเคลื่อนที่ได้สูงเป็นพิเศษในระยะประชิดใช่ไหม
และหน่วยหุ่นและโดรนของหลินฟานก็อยู่ไกลมากและสายเกินไปที่จะกลับมา แม้ว่าเขาต้องการใช้พวกมันเพื่อโจมตีกองยานของเหลียงซิงเฉิน มันก็คงไม่ง่ายแน่นอน
เพราะยานบรรทุกสรรพาวุธทั้ง 5 ลำในกองยานของเหลียงซิงเฉินยังคงไม่บุบสลาย และมียานรบบินคนขับขนาดเล็กนับหมื่นลำอยู่ภายใน
ในสถานที่นี้ หุ่นรบและยานบินไร้คนขับยังของเขายังไกลจากกองยานของเหลียงซิงเฉิน
แม้ว่าจะมีการกล่าวกันว่าหุ่นรบคือศัตรูตัวฉกาจของยานรบแต่ก็เป็นหลังจากที่หุ่นรบเข้าใกล้เท่านั้น เมื่อไม่ได้อยู่ใกล้ยานรบคือศัตรูตัวฉกาจของหุ่นรบ
หากคุณต้องการเข้าใกล้กองยานเป็นเส้นตรง คุณจะถูกยานรบฆ่าตายอย่างแน่นอน และอีก ครึ่งหนึ่งที่เหลือจะถูกกำจัดโดยยานบินไร้คนขับ 10,000 ลำของเหลียงซิงเฉิน
“ฉันแพ้...ฮิฮิ นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ข้ามมา เขาสมกับเป็นเทพสงครามจริงๆ!”
เมื่อมองดูยานประจัญบานที่ถูกทำลายทีละลำ หลินฟานต้องถอนหายใจเมื่อต้องพ่ายแพ้ครั้งแรกในชีวิต
สิบนาทีต่อมา การจำลองสงครามก็สิ้นสุดลงเหลียงซิงเฉินได้กวาดล้างยานรบ 100 ลำของหลิฟ่าน โดยเสียยานรบไป 42 ลำ
“หลินฟาน คุณเก่งมากนี่เป็นครั้งแรกที่มีใครบางคนสามารถทำให้ผมต้องทนทุกข์ทรมานมากขนาดนี้!”
เหลียงซิงเฉินที่เดินออกจากโดมจำลองมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆกับตัวเอง หลินฟานทำความเคารพและกล่าวว่า
“เมื่อเทียบกับผู้บัญชาการเหลียง ผมยังตามหลังอยู่มาก ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ที่ผู้บัญชาการมอบให้ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน”
“สิ่งที่คุณขาดคือการเผชิญหน้ากับการต่อสู้ระหว่างชีวิตและความตาย หลังจากที่คุณได้สัมผัสมันแล้วกลยุทธ์ของคุณจะดีขึ้น ท้ายที่สุดแล้ววิทยาลัยก็คือวิทยาลัย มาที่ฐานดาวอังคารเถอะที่ที่คุณสามารถพบเจอประสบการณ์จริงได้!”
“ครับท่านผู้บัญชาการ!”
เปลี่ยนจากเรียกผู้บัญชาการเหลียงเป็นผู้บัญชาการ แม้จะขาดหายไปเพียงคำเดียว แต่ก็บ่งบอกอย่างชัดเจนถึงความหมายของหลินฟาน
เขายินดีที่จะเข้าร่วมฐานดาวอังคารและต่อสู้ที่แนวหน้าของมนุษยชาติ! เหลียงซิงเฉินมองไปที่ หลินฟานด้วยความพึงพอใจ พยักหน้าและพูดต่อ
“ดีมาก ผมจะลงนามในคำสั่งโอนย้ายของคุณในภายหลัง และผมจะมอบตำแหน่งให้คุณในวิทยาลัยในตอนบ่ายและคุณจะกลับไปที่ฐานดาวอังคารกับผมหลังจากเสร็จสิ้นพิธีมอบรางวัล”
"รับทราบ!"
จากนั้นทั้งสองก็มาที่ห้องสังเกตการณ์ด้วยกัน “ไงเสี่ยวเหลียง เธอพอใจไหม”
หลี่ฝู่หลินแสดงรอยยิ้มที่อ่อนน้อมถ่อมตนและมองไปที่เหลียงซิงเฉินด้วยสีหน้าที่ไร้ความปราณี
“อาจารย์ อย่าล้อผมสิครับ หลินฟานเก่งมาก ผมจะมอบยศให้เขาในตอนบ่ายและพาเขากลับไปที่ฐานดาวอังคาร”
เหลียงซิงเฉินมองไปที่การแสดงออกของหลี่ฝู่หลินและยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
อาจารย์? หลินฟานและเอ็มม่าสับสนเล็กน้อย คณบดีคืออาจารย์ของผู้บัญชาการเหลียง?
เมื่อมองทั้งสองคนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ หลี่ฝู่หลินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“คุณสองคนอย่าตกใจเลย เขาเป็นศิษย์ของวิทยาลัยรุ่น 32 และเขายังเป็นรุ่นพี่ของพวกคุณด้วย แต่ข้อมูลของผู้ชายคนนี้เป็นความลับระดับ SSS ดังนั้นพวกคุณจึงไม่รู้”
“เข้าใจแล้วครับ”
หลินฟานกล่าว คำอธิบายนี้สมเหตุสมผล เมื่อมองไปที่หลี่ฝู่หลินผู้ที่อธิบายทุกอย่างเสร็จแล้ว เขากระแอมในลำคอ เลิกยิ้มแล้วพูดอย่างเป็นทางการ
“ตอนนี้ฉันขอประกาศว่า หลินฟาน นักเรียนภาคบัญชาการที่ 55 ของวิทยาลัยการทหารระหว่างดวงดาวได้ผ่านการประเมิณการสำเร็จการศึกษาอย่างสมบูรณ์แล้ว!”
