ตอนที่ 15 : สกิลกลายพันธุ์อันใหม่ !
ตอนที่ 15 : สกิลกลายพันธุ์อันใหม่ !
“[ จิตสับสน ] ?”
“[ อัลไซเมอร์ ] ?”
“สกิลกลายพันธุ์อีกสองอัน ?” หลินลั่วพูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ตอนนี้สกิลที่เขาเรียนรู้ได้มีแค่สองสกิลนี้
[ จิตสับสน Lv.1 – สกิลกลายพันธุ์ที่สามารถทำให้จิตใจของเป้าหมายปั่นป่วนเป็นเวลาสั้น ๆ (ขึ้นอยู่กับพลังป้องกันเวทย์ของเป้าหมาย) เหมือนกับคนบ้าและจะโจมตีทุกเป้าหมายรอบตัว ]
[ อัลไซเมอร์ Lv.1 – สกิลกลายพันธุ์ สามารถทำให้เป้าหมายลืมรึเข้าใจผิดเป็นเวลาสั้น ๆ (ขึ้นอยู่กับพลังป้องกันเวทย์ของเป้าหมาย) หากเป้าหมายใช้สกิลเวทย์ออกมา มันจะทำให้เกิดผลสะท้อนกลับ ]
“ฟรืด...” เมื่อเห็นคำอธิบายของสกิลทั้งสองอย่าง หลินลั่วก็ได้แต่ลืมหายใจ
นี่มันสกิลบ้าอะไร ?
สกิลแรก [ จิตสับสน ] น่ะดีกว่า ตามคำอธิบายของมัน มันน่าจะเป็นสกิลกลายพันธุ์จาก [ เจ็บป่วยทางจิต ], [ โรคประสาท ] รึ [ ออทิสติก ]
สกิลที่สอง [ อัลไซเมอร์ ] น่ะเป็นสกิลสำหรับใช้ฆ่าชัด ๆ !
เป้าหมายจะลืมรึเข้าใจผิดเกี่ยวกับสกิลที่พวกเขามี
นี่มันสกิลบ้าอะไรวะ ?
นี่ไม่ต้องพูดถึงสกิลผู้ปลุกพลังเป็นพัน ๆ อย่างที่ถูกบันทึกไว้ในสารานุกรม แม้แต่ ‘กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ’ ในอินเตอร์เน็ตที่บอกว่ารู้ทุกอย่างตลอด 500 ปีที่ผ่านมารวมถึงเรื่องอีก 5 ปีในอนาคตก็ยังไม่เคยได้ยินเรื่องสกิลนี้มาก่อน
ทำให้ผู้ปลุกพลังลืมสกิลที่ตัวเองมี !
มันทำให้เขานึกถึง [ น้ำของโลกใต้ดิน ]
นี่คือไอเท็มล้ำค่าที่ใช้ลบสกิล มันใช้ได้แค่ครั้งเดียวด้วย !
เขาต้องเรียนรู้สองสกิลนี้ !
คะแนนสกิล 2 หน่วยหายไปในทันทีพร้อมกับสกิลสองอย่างที่พร้อมใช้งาน
“ยังเหลืออีกสกิล งั้น...” เขาเปิดผังสกิลและเลือกอัพเกรดสกิล [ โรคห่าระบาด ]
นี่คือสกิลโจมตีที่แรงที่สุดที่เขามีตอนนี้ เขาต้องให้ความสำคัญกับมันอยู่แล้ว !
ตอนนี้เขามีสกิลดังนี้ :
[ ระเบิดผิวหนัง Lv.1 ]
[ ลำไส้อักเสบ Lv.1 ]
[ เพิ่มความเจ็บปวด Lv.1 ]
[ อัลไซเมอร์ Lv.1 ]
[ เผาเลือด Lv.2 ]
[ โรคห่าระบาด Lv.2 ]
[ จิตสับสน Lv.1 ]
7 สกิลกลายพันธุ์ !
“เอาล่ะ จัดการมอนเตอร์หมดแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาไปสู้กับบอสแล้ว !” เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ และมุ่งหน้าไปที่ลานสุดท้าย
หลังจากที่เดินทางอยู่กว่า 10 วินาที หลินลั่วก็ต้องเบิกตากว้าง
มันมีลานเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าหลินลั่ว
ขนาดของลานนี้ไม่อาจจะเทียบกับลานแห่งแรกได้เลย ทว่าอากาศโดยรอบนั้นปกคลุมด้วยหมอกดำ
ภายใต้หมอกพวกนี้ มันมีร่างขนาดใหญ่หลายร่างยืนล้อมมอนสเตอร์ที่อยู่ตรงกลางลานเอาไว้ !
หลินลั่วซ่อนอยู่ที่ปากทางเข้า เขาค่อย ๆ สังเกตพื้นที่โดยรอบ
เขาเห็นว่าลานนี้ไม่ได้ใหญ่นัก ทว่ามันมีช่องทางลมและค่ายกลแปลก ๆ ที่วาดอยู่ที่พื้น
ยิ่งกว่านั้นสีของค่ายกลพวกนี้ก็เป็นสีแดงเลือด
อากาศของชั้นนี้เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
ใจกลางลาน มันมีแท่นบูชาขนาดใหญ่สูงประมาณ 3 ม.
ใต้แท่นบูชานั้นมีกองศพของปิศาจกิ้งก่าจำนวนมาก บางตัวแขนขาด, บางตัวหัวขาด ร่างของพวกมันกองกระจายกันอยู่
ด้านล่างแท่นบูชามีปิศาจกิ้งก่าขาว 8 ตัว มันเหมือนมอนเตอร์ชั้นสูงที่หลินลั่วเพิ่งฆ่าไป
แต่สภาพพวกมันตอนนี้ไม่ได้สู้ดีนัก ปิศาจกิ้งก่าแทบทุกตัวทรุดลงไปนั่งกับพื้นและร้องโอดครวญออกมา มีเลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของมัน
สิ่งที่ทำให้หลินลั่วสนใจที่สุดคือใจกลางลานที่พวกมอนสเตอร์ชั้นสูงเฝ้าอยู่นั้น มันมีมอนสเตอร์น่ากลัวกว่าพวกมันอยู่
ตัวมันสูงไม่ถึง 2 ม. ผิวของมันเป็นสีดำแดง
ถึงหัวของมันจะเป็นกิ้งก่า ทว่ามันดูซูบผอม, ผมเทาแดงและดูแก่
ในหมู่พวกนี้ นี่คือมอนสเตอร์ที่หลินลั่วต้องระวังมากที่สุด
มอนสเตอร์แปลก ๆ นี่ถืออาวุธที่ดูคล้ายกับคทา !
“นักเวทย์ ?” หลินลั่วบอกได้ทันที ตาเขาเป็นประกายขึ้นมา
“หัวหน้าฝูงของปิศาจกิ้งก่าเป็นนักบวชรึนักเวทย์งั้นเหรอ ?”
“ถ้าฉันได้คทานั่นมาใช้ มันต้องเป็นของดีแน่ ๆ !”
ตอนนั้นมอนสเตอร์ที่อาจจะเป็นนักบวชก็ได้ยกคทาขึ้นร่ายเวทย์ออกมาราวกับกำลังฟื้นฟูลูกน้องตัวเอง
แต่มันเหมือนไม่ได้ผล
หลินลั่วหรี่ตาลงและรีบตรวจสอบข้อมูลของหัวหน้าฝูงจากจิตโลก
[ ชื่อ – นักบวชปิศาจกิ้งก่าแดง (บอสเงิน/ระดับลอร์ด)
เผ่า - ปิศาจ (บาดเจ็บเล็กน้อย/ติดพิษ)
เลเวล – 20
แรง – 25
ร่างกาย 48
สติปัญญา – 52
พลังโจมตี – 66-152
เลือด – 3,200-4,800
สกิล - กระหายเลือด, โจมตีทางจิต, เลือดเดือด, กลายร่าง, พันธนาการเลือด,ไฟวิญญาณ
คำอธิบาย – หัวหน้าฝูงปิศาจกิ้งก่าที่ติดเชื้อปิศาจซึ่งปลุกสติปัญญาขึ้นมาหลังจากที่วิวัฒนาการมานาน มันคอยคุ้มกันแท่นบูชาสีแดง ]
“ฟรืด....เลเวล 20 บอสสีเงิน !” หลินลั่วแปลกใจนิด ๆ
“บอสสีเงิน ! บอสที่มีแค่ผู้ปลุกพลังขั้น 2 เท่านั้นที่จะจัดการได้ ไม่คิดเลยว่าจะมีบอสแบบนี้อยู่ในเขตแดนลับนี่ !” ทว่าเมื่อลองทบทวนดูดี ๆ แล้ว เขาก็พอเข้าใจ
ยังไงซะเขตแดนลับนี่ก็อยู่ระดับยาก เลเวล 15 มันต้องใช้ผู้ปลุกพลังเลเวล 15 อย่างน้อย 10 คนเพื่อจะเคลียร์ที่นี่
มันถือว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้วที่เขามาถึงขนาดนี้ได้ !
“ด้วยสองสกิลที่ฉันเพิ่งได้มา ฉันน่าจะจัดการกับนักบวชปิศาจกิ้งก่านี่ได้”
“ยิ่งกว่านั้นมันก็ติดเชื้อโรคห่าไปแล้ว เลือดมันลดลงไป 1 ใน 3 แล้ว มันยังอยู่ในสถานะอ่อนแอ”
“ตอนนี้ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะที่จะฆ่ามัน !”
เมื่อคิดได้แบบนั้น หลินลั่วก็ไม่ลังเลอีกต่อไป
เขาเหวี่ยงคทาพร้อมลำแสงสีแดงพุ่งจากฟ้าเข้าใส่ปิศาจกิ้งก่าขาวตัวหนึ่ง
[ จิตสับสน ] !
“กรร !”