160 (ฟรี)
160 (ฟรี)
ต่อมาเป็นเวลาอาหาร
ฉู่รั่วเสวี่ยใช้มีดและส้อมทั้งสองมือ ค่อยๆ เคี้ยวอาหารอย่างช้าๆ ยกแก้วไวน์แดงขึ้นมาจิบเป็นครั้งคราวก็ ดูสง่างามเช่นเคย
แต่พอถึงตาฝั่งเย่ซิงเฉิน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
ป้าหลี่ก้มหน้าก้มตากินอย่างเอร็ดอร่อย “อืม! อร่อย! อันนี้อร่อย! อันนั้นก็อร่อย! อร่อยทุกอย่างเลย....อร่อยจนหยุดไม่ได้!”
บางครั้งกินเยอะๆ เข้า เธอก็ยกแก้วไวน์แดงขึ้นดื่มอึกใหญ่ แสดงถึงความหิวกระหาย
เย่ซิงเฉินทนสายตาประหลาดๆ จากคนรอบข้างไม่ไหว พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึงว่า “กินช้าๆ หน่อย ไม่มีใครแย่งหรอก!”
ป้าหลี่ทำน้ำเสียงน้อยใจ “แต่มันอร่อยจริงๆ นี่นา!”
“อร่อยก็ไม่เห็นต้องรีบขนาดนั้น!”
“ฉันรู้แล้วน่า!” ป้าหลี่ตักเค้กที่เพิ่งมาเสิร์ฟเข้าปาก ดวงตาของเธอเป็นประกาย “เค้กนี้อร่อยดี ฉันแบ่งให้ครึ่งหนึ่ง!”
เธอตักเค้กใส่จานของเย่ซิงเฉินทันที
เย่ซิงเฉิน “......”
เมื่อกินไปได้ครึ่งหนึ่ง ป้าหลี่ก็ร้องเรียกพนักงาน “พนักงานคะ ฉันใช้ส้อมกับมีดไม่ถนัด ขอตะเกียบได้ไหมคะ?”
“ได้สิครับ! เชิญรับตะเกียบครับ” พนักงานรีบนำตะเกียบมาให้
“ขอบคุณค่ะ!” ป้าหลี่ยิ้มรับตะเกียบมา “ตะเกียบอันนี้ใช้ดีจัง ขอเพิ่มอีกสองสามคู่ได้ไหมคะ?”
พนักงานทำหน้างง “คุณผู้หญิง มีแขกมาเพิ่มเหรอครับ?”
ป้าหลี่ส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ ฉันอยากได้ตะเกียบกลับบ้านด้วย!”
เย่ซิงเฉิน “พรวดดด!”
จากนั้นป้าหลี่ก็ยังคงสร้างความปั่นป่วนต่อไป จนเย่ซิงเฉินกินข้าวต่อไม่ลง
สุดท้ายเขาก็ได้แต่ถอนหายใจ เงยหน้ามองฟ้า “นี่มันเวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย!”
ฉู่รั่วเสวี่ยที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจากโต๊ะที่อยู่ไกลออกไป หัวเราะคิกคักไม่หยุด
หลินเป่ยฝานพูดอย่างจนใจ “เธอกำลังหัวเราะอะไรอยู่?”
“ก็หัวเราะไอ้เจ้าสกุลเย่นั่นแหละ! แค่เพื่อเข้าหาฉัน เขาถึงขั้นหาป้าแก่ๆที่ชอบทำตัวแปลกๆมา ก็ถือว่าสมน้ำหน้าแล้ว! นี่แหละที่เขาเรียกว่า…สมควรแล้ว!” ฉู่รั่วเสวี่ยหัวเราะจนตัวโยน
หลินเป่ยฝานถอนหายใจ “เธอนี่ร้ายจริงๆ เลยสหายเย่ก็ไม่ได้ทำอะไร เธอกลับทำกับเขาแบบนี้…”
ฉู่รั่วเสวี่ยทำเสียงแข็งขึ้นมาทันที “ฉันว่าคนที่แย่จริงๆ คือนายนั่นแหละ! รู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่ชอบเขา ยังจะพาเขามาอีก! บอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้ายังทำแบบนี้อีก ฉันโกรธจริงๆ แน่!”
หลินเป่ยฝานได้แต่ไว้ทุกข์ในใจ
สหายเย่ ใช่ว่าฉันไม่ช่วยคุณนะ แต่คุณถูกเกลียดเข้าขั้นรังเกียจแล้ว ฉันช่วยต่อไม่ไหวจริงๆ
ฉู่รั่วเสวี่ยโบกมือ “พอแล้ว ไม่พูดเรื่องน่าหงุดหงิดใจแล้ว เรามาคุยเรื่องการลงทุนกันดีกว่า!”
หลินเป่ยฝานตกใจ “เธอบอกว่าจะไม่พูดเรื่องน่าหงุดหงิดใจไม่ใช่เหรอ ทำไมยังพูดถึงอยู่อีก!”
ฉู่รั่วเสวี่ยต่อยหมัดเข้าใส่หลินเป่ยฝานด้วยความหมั่นไส้ แต่เขากลับคว้าหมัดเธอไว้ได้
เย่ซิงเฉินมองดูฉากกุ๊กกิ๊กของทั้งสองจากที่ไกลๆ ดวงตาของเขาแทบพ่นไฟ
ที่สาธารณะแบบนี้ ทำตัวให้มันดีๆ หน่อยไม่ได้รึไง?
เห็นใจความรู้สึกของฉันบ้างสิ!
เย่ซิงเฉินรู้สึกกังวลใจมาก ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ได้การแน่!
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉู่รั่วเสวี่ยจะยิ่งห่างไกลจากเขา และสุดท้ายก็จะกลับไปซบอกหลินเป่ยฝาน!
เขากลับชาติมาเกิดใหม่ ไม่ใช่เพื่อที่จะโดนสวมเขาซ้ำสอง!
แต่เพื่อที่จะแก้แค้น และครอบครองหญิงงาม!
ต้องหาวิธีแล้ว! เย่ซิงเฉินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของหลินเป่ยฝานก็สั่น เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นข้อความจากเย่ซิงเฉิน
เย่ซิงเฉิน: คุณหลิน ช่วยอะไรผมอีกอย่างได้ไหม?
หลินเป่ยฝาน: เรื่องอะไร?
เย่ซิงเฉิน: ผมอยากมองฉู่รั่วเสวี่ยให้นานกว่านี้อีกหน่อย! เดี๋ยวหลังกินข้าวเสร็จ คุณช่วยชวนเธอไปเดินเล่นที่เขื่อนริมแม่น้ำเจียงปินได้ไหม? ขอร้องล่ะ คุณหลิน!
หลินเป่ยฝาน: ได้สิ รอข่าวดีจากผมได้เลย!
สักพักต่อมา
หลินเป่ยฝาน: สหาย เธอตกลงแล้ว!
เย่ซิงเฉิน: ขอบคุณมากครับ คุณหลิน!
หลินเป่ยฝาน: แต่ว่าเธอมีข้อแม้ข้อหนึ่ง คือห้ามพาคุณไปด้วย!
เย่ซิงเฉิน: …..
เย่ซิงเฉินแทบล้มทั้งยืน!
ถ้าเขาไม่ไป แล้วจะนัดออกมาทำไม?
หรือว่าจะยอมยกให้หลินเป่ยฝานไปเลย?
เย่ซิงเฉิน: คุณหลิน คุณพอจะมีวิธีแก้ไขไหม?
หลินเป่ยฝาน: มีสิ!
เย่ซิงเฉิน: บอกมาเร็วเข้า!
หลินเป่ยฝาน: ผมไม่พาคุณไป แต่คุณไปเองก็ได้นี่? จริงไหมสหาย!
เย่ซิงเฉิน: จริงด้วย!
หลินเป่ยฝาน: แล้วก็อย่าลืมพาป้าหลี่ไปด้วยล่ะ!
เย่ซิงเฉิน: ทำไมต้องพาเธอไปด้วยอีกล่ะ?
หลินเป่ยฝาน: ถ้าไม่พาเธอไป ผมรับรองเลยว่าฉู่รั่วเสวี่ยจะต้องเดินหนีกลับไปแน่! แต่ถ้าคุณพาเธอไปด้วย อย่างน้อยก็ยังพอมีความหวังอยู่บ้าง!
เย่ซิงเฉิน: …..
หลินเป่ยฝาน: สหายเย่ ผมไม่ได้จะไม่ช่วย แต่นี่คือทั้งหมดที่ผมทำได้แล้ว!
เย่ซิงเฉิน: .....ก็ได้ ผมจะพยายาม!
เย่ซิงเฉินวางโทรศัพท์ลง บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มฝืนๆ เขาสูดหายใจลึกเพื่อรวบรวมความกล้า แล้วพูดว่า “พี่หลี่ เดี๋ยวเราไปเดินเล่นที่เขื่อนริมแม่น้ำเจียงปินกันไหม?”
“จริงเหรอ? ฉันอยากไปนะ แต่เราดูเหมือนจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่!” ป้าหลี่รู้สึกทั้งดีใจและลำบากใจ
“ทำไมถึงไม่สะดวก?” เย่ซิงเฉินทำหน้างง
ป้าหลี่ก้มหน้าลงมอง “นี่ไง เรายังมีของต้องห่อกลับบ้านตั้งเยอะ! พกของไปเยอะแยะแบบนี้มันไม่สะดวกหรอก!”
เย่ซิงเฉิน “พรวดดด!”
“ไม่เป็นไร ฉันช่วยถือเอง!”
หลังจากจัดการกับป้าหลี่เรียบร้อย เย่ซิงเฉินก็คิดทบทวน เขารู้สึกว่ามันยังไม่พอ
ฉันต้องสร้างสถานการณ์ไม่คาดฝัน เพื่อทำให้รั่วเสวี่ยมองฉันใหม่!
จากนั้น เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง
อีกด้านหนึ่ง หลินเป่ยฝานวางโทรศัพท์ลง
ฉู่รั่วเสวี่ยจิบไวน์แดงไปพลาง เอ่ยถามอย่างเฉยเมย “คุยกับเจ้าสกุลเย่นั่นเสร็จแล้วเหรอ?”
หลินเป่ยฝาน: “........”
“อย่ามาตบตาฉัน! ฉันรู้ไส้รู้พุงนายหมดแล้ว ฉันดูนายออก!” ฉู่รั่วเสวี่ยหรี่ตาลง พูดอย่างรู้ทัน
หลินเป่ยฝานพูดอย่างใจเย็น “บางทีผู้หญิงที่ฉลาดเกินไปก็ไม่ดีหรอกนะ”
“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้แหละ! บอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าเขามาด้วย ฉันไม่ไปเด็ดขาด ใครพูดก็ไม่สน!” ฉู่รั่วเสวี่ยเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งผยอง ทำท่าทางราวกับเป็นราชินี
หลินเป่ยฝานดื่มเหล้าโดยไม่มีท่าทีเปลี่ยนแปลง “ฉันชวนป้าหลี่ไปด้วย ไปไม่ไป?”
ฉู่รั่วเสวี่ยเอียงคอเล็กๆ แล้วหัวเราะเบาๆ “แบบนี้ค่อยน่าคิดหน่อย!”
หลินเป่ยฝาน "......"
ทุกอย่างเป็นอันเรียบร้อย
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ทั้งสี่คนก็เดินเล่นไปตามเขื่อนริมแม่น้ำเจียงปิน ชมทัศนียภาพยามค่ำคืนริมแม่น้ำ
หลินเป่ยฝานและฉู่รั่วเสวี่ยเดินนำหน้า คล้ายกับคู่รักที่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
ส่วนเย่ซิงเฉินและป้าหลี่เดินตามหลังมา
สาเหตุที่พวกเขาเดินช้า ประการแรกเป็นเพราะป้าหลี่กินเยอะเกินไป จนเดินเร็วไม่ไหว ประการที่สองเป็นเพราะเย่ซิงเฉินยังคงนั่งรถเข็นอยู่ จะเร็วได้ยังไง?
ประการที่สามเป็นเพราะ บนรถเข็นของเขามีถุงหิ้วอาหารที่ห่อกลับบ้านเต็มไปหมด แถมยังเป็นกับข้าวประเภทน้ำๆ อีก เลยทำให้ไปเร็วไม่ได้
ทั้งสี่คนจึงเดินเล่นไปเรื่อยๆ
เย่ซิงเฉินอดไม่ได้ที่จะมองไปรอบๆ ด้วยความกระวนกระวายใจ
“ทำไมพวกเขายังไม่มาอีกนะ?”