ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 226 บรรพบุรุษตระกูลถังที่แท้จริง
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 226 บรรพบุรุษตระกูลถังที่แท้จริง
ยามค่ำคืน
ดวงจันทร์เสี้ยวกลมโตสะอาดบริสุทธิ์ลอยอยู่บนฟากฟ้า ส่องประกายแสงสว่างไสวให้แก่สรรพสิ่ง
อากาศโดยรอบเย็นขึ้น
และเมื่อเวลาผ่านไป
ก็ยิ่งเย็นยะเยือก
"พระอาจารย์"
"วันนี้ พุทธศาสนาในมณฑลซุยอวิ๋นของเรา สูญเสียหนักหนาสาหัสยิ่งนัก!!!"
พรมแดนมณฑลซุยอวิ๋น
ภายในกระโจมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
พระหนุ่มผู้มีฐานพลังยุทธ์ขอบเขตกึ่งเทพผู้หนึ่ง ขมวดคิ้ว ยืนอยู่ในกระโจม
ส่วนฮุ่ยหมิง ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 3พระอริยะแห่งแคว้นพุทธมณฑลหนานหัว เป็นที่พึ่งสุดท้ายในใจพระภิกษุนับไม่ถ้วนแห่งพุทธศาสนามณฑลซุยอวิ๋น กำลังหลับตานั่งสงบนิ่งอยู่บนเบาะนั่งนุ่มนิ่มแห่งหนึ่ง
"สูญเสียไปเท่าใด?"
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ฮุ่ยหมิงก็ค่อย ๆ ลืมตาที่ดูขุ่นมัวขึ้นมาเล็กน้อย ถามเสียงเบา
"พระอาจารย์"
"นับรวมกับเมื่อวานและวันนี้"
"พุทธศาสนามณฑลซุยอวิ๋นของเรา กองทัพผู้บำเพ็ญเพียรพระภิกษุขอบเขตเซียนนับหมื่นล้าน อาจเหลืออยู่เพียง 7 พันล้านเท่านั้น"
"หากยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไป เกรงว่าพุทธศาสนามณฑลซุยอวิ๋นของเราจะสามารถยืนหยัดได้อีกเพียงไม่กี่วัน"
"ก็จะถูกกองทัพตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวงโจมตีจนพ่ายแพ้ราบคาบ"
"ส่วนมณฑลซุยอวิ๋นนี้..."
"เกรงว่าจะตกไปอยู่ในมือตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวง!!!"
พระหนุ่มสูดหายใจลึก ๆ จากนั้นก็เดินขึ้นไปข้างหน้า
เงยหน้ามองไปยังพระอาจารย์ของตน ตอบกลับไป
"เหลือแค่..."
"พระภิกษุขอบเขตเซียน 7 พันล้านแล้วหรือ???"
ฮุ่ยหมิง ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 3 พระอริยะแห่งแคว้นพุทธมณฑลหนานหัว ผู้มีใบหน้าผ่านประสบการณ์โลกมาอย่างโชกโชนนี้พึมพำเสียงเบา จากนั้นก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3 นาที
ฮุ่ยหมิงจึงยิ้มแล้วส่ายหน้า
สีหน้าดูจนปัญญาอย่างยิ่ง
"พุทธศาสนามณฑลซุยอวิ๋นพัฒนาได้ไม่เท่าแคว้นพุทธมณฑลหนานหัวจริง ๆ หรือ?"
"ช่างมันเถิด"
พูดจบ ฮุ่ยหมิงก็ลุกขึ้นยืนช้า ๆ
เขาหันไปมองศิษย์ที่ยืนอยู่ข้างหลัง กล่าวเสียงเบาว่า
"เตรียมตัวให้พร้อม"
"เช้าวันพรุ่งนี้ จะสังหารกองทัพตระกูลหลัวนับหมื่นล้าน"
"และจะบุกตรงไปยังตระกูลหลัว!!!"
เสียงเงียบหายไป
ฮุ่ยหมิงกลับไปนั่งลงบนเบาะนุ่มนิ่มอีกครั้ง แล้วก็หลับตาลง
ปากท่องบทสวดไม่หยุดหย่อน
มือก็พลิกเล่นลูกประคำเก่า ๆ เส้นหนึ่ง
ส่วนพระหนุ่มที่อยู่ด้านหลังฮุ่ยหมิง เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว คิ้วที่ขมวดก็คลายออก
เมื่อเขาออกจากกระโจมไปแล้ว
ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้มจาง ๆ ผุดขึ้นบนใบหน้า
"สังหารกองทัพตระกูลหลัว และบุกตรงไปยังตระกูลหลัวในเช้าวันพรุ่งนี้หรือ???"
พระหนุ่มพึมพำเสียงเบา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นช้า ๆ หรี่ตาลงเล็กน้อย
มองไปยังอาณาเขตกองทัพตระกูลหลัวนับหมื่นล้านที่พรมแดนมณฑลตงหวง
ในดวงตาที่หรี่ลงเล็กน้อย
วูบหนึ่งเปล่งประกายเย็นเยียบออกมา
"ตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวง......"
"พวกเจ้าถึงคราวตายในเช้าวันพรุ่งนี้แล้ว!!!"
ยามค่ำคืนลึก ดวงจันทร์เสี้ยวลอยอยู่บนฟากฟ้า
ทวีปซวนหยวนตกอยู่ในความเงียบงัน
อากาศยิ่งเย็นเยียบขึ้นทุกที
มณฑลตงหวง ภายในร้านเหล้าหรูหราแห่งหนึ่ง
เกาฉงผู้เป็นผู้อาวุโสใหญ่คนปัจจุบันของตระกูลเกา
ในเวลานี้ มือกำลังจับแหวนเก็บของที่ส่งตรงมาจากอาณาเขตตระกูลเกาแห่งมณฑลชิงเซวียนวงหนึ่ง
ใบหน้าของเกาฉงค่อย ๆ ผุดรอยยิ้ม
"เป็นอย่างไร?"
"เตรียมการเรียบร้อยหรือยัง???"
จู่ ๆ เกาฉงผู้เป็นผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลเกาก็ถามชายสวมเสื้อคลุมสีดำที่เป็นสมาชิกตระกูลเกา
"ผู้อาวุโสใหญ่วางใจเถิด"
"ทุกสิ่งที่ท่านสั่งการไว้ ล้วนเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว"
ชายสวมเสื้อคลุมสีดำที่เป็นสมาชิกตระกูลเกาตอบเสียงเบา
ได้คำตอบแล้ว เกาฉงก็โบกมือ
เมื่อสมาชิกตระกูลเกาผู้นั้นจากไป
เกาฉงผู้เป็นผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลเกาก็นั่งลงบนเตียงไม้ช้า ๆ รอยยิ้มในดวงตาเข้มข้นยิ่งขึ้น
"มีหินวิญญาณและหินเซียนจำนวนมากในมือ"
"ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเกากับพุทธศาสนามณฑลหนานหัว"
"เหตุใดตระกูลจางจะไม่ยอมขายอาหาร???"
"ครั้งแรก เพราะไม่รู้จักตระกูลจางพอ ครั้งที่ 2 เพราะไม่มีเจตนาดีพอ ครั้งนี้ข้าจะนำเจตนาดีอย่างเต็มเปี่ยมไปหาตระกูลจาง ข้าวในคลังของตระกูลจาง ตระกูลเกาของข้าต้องการทั้งหมด!!!"
พูดจบแล้ว เกาฉงนั่งขัดสมาธิบนเตียงไม้ หลับตาลงช้า ๆ
เขาใช้พลังเซียนภายในร่างกายอันมหาศาล ไล่ตามการบรรลุขอบเขตกึ่งเทพไปเรื่อย ๆ
ในคืนสำคัญเช่นนี้ แน่นอนว่าเกาฉงไม่อาจนอนหลับได้
ส่วนจ้าวตระกูลจางคนปัจจุบัน?
ในเวลานี้ กำลังอยู่ในอาณาเขตตระกูลจาง นอนเอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ไท่ชือ หรี่ตาลงเล็กน้อย
มือกำลังถือถ้วยชากระจ่างเต๋า
หรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
"หินวิญญาณและหินเซียนอยู่ในมือแล้วหรือ?"
"ดีจริง ๆ..."
"หากเช่นนั้นก็รอการซื้อขายในวันพรุ่งนี้เท่านั้น"
"ถึงวันพรุ่งนี้ก็จะถึงเวลาที่ข้าหลัวโหย่วเฉียนจะเก็บเกี่ยว!!!"
หลัวโหย่วเฉียนพึมพำเสียงเบา จากนั้นค่อย ๆ ยกถ้วยชากระจ่างเต๋าขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด
แล้วก็นอนอย่างสบาย ๆ บนเก้าอี้ไม้ไท่ชือที่ทำจากไม้ท้อ หรี่ตาลงเล็กน้อย ดื่มด่ำความเงียบสงบในชั่วขณะนี้
เขานอนหลับหรือ?
ในคืนสำคัญเช่นนี้ ในฐานะนายพรานที่รอคอยอยู่นานและกำลังจะเก็บแห ย่อมไม่อาจหลับใหลได้
เมื่อเวลาผ่านไป
ท้องฟ้าค่อย ๆ สว่างวาบขึ้น
อากาศยังคงเย็นเยียบอยู่
อย่างไรก็ตาม ในชั่วโมงนี้ที่ชาวบ้านยังไม่ตื่น
ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งของมณฑลตงหวง
เกาฉง จ้าวตระกูลเกาคนปัจจุบันกลับตื่นเช้ามาเตรียมตัวให้พร้อมแล้วแล้วก็นำคนกลุ่มใหญ่จากตระกูลเกาเดินไปยังทิศทางอาณาเขตตระกูลจางอย่างช้า ๆ
ส่วนพรมแดนมณฑลซุยอวิ๋น
ในกระโจมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
พระชราฮุ่ยหมิงที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะนุ่มนิ่มก็ลืมตาที่ดูขุ่นมัวขึ้นมาเล็กน้อยในขณะนี้เช่นกัน
"ได้เวลาลงมือแล้ว"
พึมพำเสียงเบา จากนั้นฮุ่ยหมิงก็ลุกขึ้นยืน เดินออกจากกระโจมหลังนี้
ส่วนพระหนุ่มที่อยู่ด้านหลังฮุ่ยหมิง
ในเวลานี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เพราะในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวงก็จะสูญสิ้นไปจากกระแสประวัติศาสตร์
ทวีปซวนหยวน มณฑลว่านกู่ สำนักใหญ่หอพันโอสถ
ภายในตำหนักที่ดูมืดสลัวอยู่บ้างแห่งหนึ่ง
ถังยวี่ผู้เป็นบรรพบุรุษเทียมของตระกูลถัง ผู้กุมอำนาจแท้จริงของหอพันโอสถ
ในตอนนี้กำลังยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง
ส่วนชายชราผู้หนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีเทา ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย ที่นั่งสงบนิ่งอยู่บนตำแหน่งจ้าวสำนัก
ในขณะนี้ จู่ ๆ ก็ลืมตาเย็นชาขึ้นมา
เหลือบมองถังยวี่ จากนั้นก็หายตัวไปจากตำหนักหลังนี้
ส่วนถังยวี่?
ในตอนนี้ ย่อมเดินตามหลังชายชราในเสื้อคลุมสีเทาไป หายตัวไปจากตำหนักหลังนี้เช่นกัน
ส่วนตัวตนของชายชรานี้คือใคร?
คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว...
นั่นก็คือถังซิวเหวิน ผู้ก่อตั้งหอพันโอสถ ปิดด่านมาหลายแสนปีจนชาวโลกลืมเลือน ได้บรรลุขอบเขตเทพอย่างแท้จริงและหล่อหลอมแก่นเทวะเทพชั้นต่ำแล้ว
ฐานพลังยุทธ์ถึงขั้นเทพชั้นต่ำระดับต้น บรรพบุรุษตระกูลถังที่แท้จริง!!!