บทที่ 96 ผูกขาดตลาดอาวุธวิเศษ
บทที่ 96 ผูกขาดตลาดอาวุธวิเศษ
หลังจากเข้าร่วมงานเลี้ยงขอบเขตคฤหาสน์ม่วงของบรรพบุรุษหยางแล้ว เฉินเต้าเสวียนไม่ได้เลือกที่จะกลับไปที่เกาะซวงหู แต่ตรงไปที่เกาะหลิงเป่ยโดยตรง
ที่จริง ไม่ใช่แค่เฉินเต้าเสวียนเท่านั้น ตลอดทาง ผู้ฝึกตนหลายคนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงขอบเขตคฤหาสน์ม่วงของบรรพบุรุษหยาง ต่างก็ขับเรือมุ่งหน้าไปยังทิศทางของเกาะหลิงเป่ยด้วยกันทั้งสิ้น
เพราะงานประมูลสุดยิ่งใหญ่ที่ตระกูลโจวจัดขึ้น มันกำลังจะเริ่มต้นแล้ว
งานประมูลครั้งนี้ จัดขึ้นในเมืองกวงอันทุกๆ สองหรือสามปี
ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากความถี่ในการมาเยือนเมืองกวงอันของเรือขนส่งแนวหน้าน้อยลงเรื่อยๆ งานประมูลครั้งต่อไปที่จัดขึ้นในระดับนี้ ไม่รู้ว่าต้องรอไปอีกกี่ปี
สำหรับงานชุมนุมครั้งยิ่งใหญ่ในรอบนี้ ทุกคนย่อมไม่อยากพลาด
……
เมืองกวงอัน ตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระ
ร้านค้ากระบี่บินหงอิน
เฉินเต้าเสวียนจ้องมองเฉินเต้าชวนที่ไม่ได้เจอกันนานกว่าครึ่งปีด้วยความประหลาดใจ “เมื่อกี้เจ้าบอกว่า ท่านอาสิบสามไปที่สาขาทางฝั่งตะวันตกของตลาด?”
“เรียนท่านผู้นำตระกูลรุ่นเยาว์ ถูกต้องขอรับ”
เฉินเต้าชวนที่ตอนนี้อายุสิบสามปีแล้ว หลังจากผ่านการฝึกฝนมาครึ่งปี เขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากฟังคำบรรยายของเฉินเต้าชวน
เฉินเต้าเสวียนก็ยิ่งชื่นชมวิธีการบริหารจัดการของเฉินเซียนเหอมากยิ่งขึ้นไปอีก
อาสิบสามเลือกเปิดสาขาขึ้นใหม่ ที่อยู่ทางด้านฝั่งตะวันตกของตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระ
เพราะร้านค้ากระบี่บินหงอินที่เฉินเต้าเสวียนยืนอยู่นี้ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระ
ซึ่งร้านอยู่ห่างไกลจากฝั่งตะวันตกมาก
ตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระทั้งหมด
ตอนนี้เหลือเพียงฝั่งตะวันตก ที่มีร้านค้าอาวุธวิเศษไม่กี่ร้าน พวกเขายังคงดิ้นรนเอาชีวิตรอด และไม่ยอมปิดร้าน
แน่นอนว่าเรื่องนี้ สำหรับตระกูลเฉินที่มองตลาดอาวุธวิเศษของผู้ฝึกตนอิสระเป็นของตัวเอง ย่อมไม่สามารถทนได้
ดังนั้น
เฉินเซียนเหอจึงเลือกที่จะเปิดสาขาอยู่ข้างๆ ร้านค้าอาวุธวิเศษไม่กี่ร้านที่เหลืออยู่ทางฝั่งตะวันตก
เฉินเซียนเหอต้องแข่งขันกับร้านที่เหลืออย่างใกล้ชิด!
และคราวนี้…
ทำเอาร้านค้าอาวุธวิเศษที่เหลืออยู่ไม่กี่ร้านนั้น ต่างหวาดกลัวและขุ่นเคืองไปตามๆ กัน
ถึงพวกเขาจะโกรธมาก แต่หากต้องการเล่นแรงๆ ละก็…. บทเรียนจากการถูกริบทรัพย์และสังหารล้างตระกูลของตระกูลหมั่ว มันยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ!
ต่อให้พวกเขากล้าแค่ไหน พวกเขาก็ไม่กล้าทำเรื่องแบบขัดขวางผู้ฝึกตนของตระกูลเฉินกลางคันอย่างแน่นอน
ในเมื่อเล่นแรงไม่ได้ พวกเขาก็ทำได้เพียงแก้ปัญหาผ่านช่องทางการค้าปกติเท่านั้น
ส่วนการดำเนินการตามปกติ…
ร้านค้าอาวุธวิเศษมือสองเหล่านี้ จะไปแข่งกับร้านค้าอาวุธวิเศษมือหนึ่งของตระกูลเฉินได้อย่างไร?
ไม่ต้องพูดถึงความแตกต่างของคุณภาพอาวุธวิเศษ
เพียงแค่พูดถึงต้นทุนของทั้งสองฝ่าย ร้านค้าอาวุธวิเศษเหล่านี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้แล้ว!
อาวุธวิเศษมือสองของร้านค้าอาวุธวิเศษเหล่านี้ ล้วนได้มาจากการซื้อหาจากทายาทของตระกูลต่างๆ ผ่านช่องทางพิเศษ
โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะสูงกว่าการหลอมสร้างอาวุธวิเศษอันใหม่เสียอีก
แล้วต้นทุนการหลอมสร้างกระบี่บินของตระกูลเฉินต่ำมากแค่ไหน?
แร่ทองแดงแดงที่ใช้ในการหลอมสร้างกระบี่บินเงาแดงที่ตระกูลเฉินหลอมสร้างขึ้น เกือบทั้งหมดได้มาจากการค้าขายกับเผ่าเงือก
ตระกูลเฉินใช้ประโยชน์จากการขายอาวุธวิเศษราคาสูงให้กับเผ่าเงือก รวมถึงวิธีใช้คะแนนสะสมนของเฉินเต้าเสวียน ที่จริงแล้วราคาแร่จิตวิญญาณที่ได้มาจากเผ่าเงือกนั้น ต่ำมากจนน่าหัวร่อ…
บวกกับการผลิตแบบสายพานลำเลียงของโรงงานผลิตกระบี่บนเกาะซวงหู
หากอีกฝ่ายดำเนินการตามปกติอย่างตรงไปตรงมาก็แล้วไป หากคิดจะแข่งขันด้านราคากับร้านค้าหงอิน คาดว่าพวกเขาคงจะขาดทุนจนกระอักเลือด
แม้ว่าพวกเขาจะขาดทุนจนกระอักเลือด
ตระกูลเฉินก็ยังคงได้กำไรอยู่ดี เพียงแต่ได้มากหรือน้อยเท่านั้น
ส่วนการขาดทุน เรื่องนี้ไม่เคยมีอยู่จริง!
หลังจากพูดคุยกับเฉินเต้าชวนอีกเล็กน้อย และถามถึงสถานการณ์เรื่องบำเพ็ญเพียรของเขาในช่วงเวลานี้
เมื่อรู้ว่าเฉินเต้าชวนไม่ได้ผ่อนคลายการบำเพ็ญเพียร เพราะติดตามเฉินเซียนเหอในการบริหารร้านค้า เขาก็พยักหน้าด้วยความโล่งใจ
ดูเหมือนว่า แม้จะออกจากเกาะซวงหูแล้ว เฉินเต้าชวนก็ยังไม่ลืมนิสัยมุ่งมั่นบำเพ็ญเพียรที่ปลูกฝังมาในตระกูล
สิ่งนี้… ทำให้เฉินเต้าเสวียนพอใจอย่างมาก
การบำเพ็ญเพียร เป็นเรื่องที่ต้องยืนหยัดอย่างต่อเนื่อง
บางคน แม้ว่าจะมีรากจิตวิญญาณไม่ดี แม้แต่ทรัพยากรบ่มเพาะก็ไม่ดีเท่าผู้อื่น แต่ด้วยการยืนหยัดอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน สุดท้ายคนพวกนี้กลับไปได้ไกลกว่าผู้ที่มีรากจิตวิญญาณระดับสูงกว่าเสียอีก
นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ ที่เกิดจากการมั่นเพียรเป็นเวลานาน
หากผู้ฝึกตนคนใดอาศัยว่าตนเองมีรากจิตวิญญาณดีเลิศ เลยบำเพ็ญเพียรแบบขอไปที ทำสามวันหยุดสองวัน ถึงแม้จะเป็นผู้มีรากวิญญาณระดับสวรรค์ สุดท้ายความสำเร็จก็มีจำกัด
ประสบการณ์เหล่านี้ เฉินเต้าเสวียนเคยเน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในตอนที่สอนการบ่มเพาะพลังขั้นพื้นฐานให้กับเฉินเต้าชวนและคนอื่นๆ ….
หลังจากให้กำลังใจเฉินเต้าชวนสองสามประโยค
หลังจากสอบถามสถานที่ตั้งของสาขาอย่างชัดเจนแล้ว เฉินเต้าเสวียนก็นั่งรถม้าสัตว์อสูรเหยียบเมฆา มุ่งหน้าไปยังสาขาเขตตะวันตก
หนึ่งก้านธูปต่อมา
เฉินเต้าเสวียนลงจากรถ
เขามองไปยังสาขาที่ตกแต่งอย่างหรูหราโอ่อ่ากว่าร้านค้าทางฝั่งตะวันออก ด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ
ตลอดมา…
เฉินเซียนเหอล้วนยึดมั่นในวิธีการทำสิ่งต่างๆ อย่างระมัดระวัง รักษาระดับต่ำ และทำตัวรอบคอบ
แต่คราวนี้ เขากลับเปลี่ยนวิธีการทำสิ่งต่างๆ กลายเป็นคนเปิดเผย และโอ้อวด!
แต่เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วน ยิ่งตระกูลเฉินเปิดเผยและโอ้อวดในตอนนี้ ตระกูลเล็กๆ เหล่านั้นก็ยิ่งไม่กล้าล่วงเกินตระกูลเฉิน
พูดตามตรง นี่ก็ถือเป็นการข่มขู่รูปแบบหนึ่ง
แน่นอน มันก็ไม่ใช่ว่าตระกูลเฉินจะโกหกทั้งหมด เพราะโจวมู่เฉิงก็เป็นผู้อุปถัมภ์ของตระกูลเฉิน
ในช่วงเวลานี้อย่างแท้จริง
และคนที่เฉินเซียนเหอติดต่อด้วยอย่างใกล้ชิดที่สุดในตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระ ก็คือผู้ดูแลหน่วยลาดตระเวนของตระกูลโจวผู้นี้
เป็นเพราะมีโจวมู่เฉิงคอยยับยั้ง ตระกูลเล็กๆ บางตระกูลที่คิดจะฉวยโอกาส พวกเขาจึงไม่กล้าล้ำเส้นแม้แต่น้อย
เมื่อเดินเข้าไปในสาขา
เฉินเซียนเหอที่ตั้งใจทำธุรกิจ กลับไม่ทันสังเกตเห็นการมาเยือนของเฉินเต้าเสวียน
เพราะเมื่อเทียบกับทางฝั่งตะวันออกแล้ว
ร้านค้ากระบี่บินหงอินฝั่งตะวันตกดูเหมือนจะขายดีกว่า
หลังจากสอบถามอย่างละเอียดจึงได้รู้ว่า
ราคาขายกระบี่ที่นี่ มีส่วนลด 5 หินจิตวิญญาณจากราคาเดิม
กล่าวคือ…. กระบี่บินเงาแดงเล่มหนึ่งซื้อได้ในราคาเพียง 45 หินจิตวิญญาณเท่านั้น!
ลดลงจากราคาเดิม 50 หินจิตวิญญาณถึงหนึ่งส่วน!
ส่วนต่างของราคานี้ มันไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย
เป็นเพราะตระกูลเฉินอาศัยวิธีการผลิตแบบสายพานลำเลียง และวัตถุดิบราคาถูกจากเผ่าเงือกนั่นแหละ
พวกเขาจึงกล้าทำเช่นนี้…
มิฉะนั้น กระบี่บินเงาแดงธรรมดา เพียงแค่ต้นทุนการหลอมสร้างก็สูงถึง 31 หินจิตวิญญาณแล้ว เมื่อรวมกับต้นทุนแรงงาน ต้นทุนการขนส่ง ค่าใช้จ่ายของร้านค้า ภาษีของเมืองกวงอัน จะต้องขาดทุนอย่างแน่นอน
ในขณะที่เฉินเต้าเสวียนกำลังประหลาดใจอยู่นั้น ผู้ฝึกตนชราผู้หนึ่งสวมชุดคลุมสีดำก็เดินเข้ามาจากนอกร้านด้วยท่าทางรีบร้อน
ขณะที่เดิน ผู้เฒ่าคนนี้ก็ยังหัวเราะเสียงดัง “เถ้าแก่เฉิน…. ข่าวดี! ร้านค้าอาวุธวิเศษของตระกูลหวังเพิ่งปิดร้านไป นี่เป็นร้านค้าอาวุธวิเศษร้านสุดท้ายในตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระ นอกจากร้านค้ากระบี่บินหงอินของพวกเราแล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น
ผู้คนต่างก็พากันฮือฮาขึ้นมาทันที
“ร้านค้าอาวุธวิเศษร้านสุดท้ายก็ปิดร้าน! ดูเหมือนว่า… ตลาดอาวุธวิเศษของตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระแห่งนี้ จะตกเป็นของตระกูลเฉินโดยสมบูรณ์แล้ว”
“ใช่แล้ว แต่ก็ไม่น่าแปลก กระบี่ของตระกูลเฉินมีคุณภาพดีเยี่ยม แถมราคายังถูกมาก ใครๆ ก็อยากซื้อจากร้านนี้”
“กลัวแต่ว่า ถ้าต่อไปเหลือร้านค้าอาวุธวิเศษเพียงร้านเดียว ตระกูลเฉินจะฉวยโอกาสขึ้นราคาเนี้ยสิ?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ ผู้คนต่างก็พากันเห็นด้วย
แม้ว่าในทะเลหมื่นดวงดาวจะไม่มีแนวคิดเรื่องการผูกขาด แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า เมื่อมีเพียงตระกูลเฉินเท่านั้นที่ขายอาวุธวิเศษระดับต่ำในตลาดนัดผู้ฝึกตนอิสระ พวกเขาก็จะได้สิทธิ์ในการกำหนดราคาไปโดยปริยาย
เมื่อสิ่งนี้ตกไปอยู่ในมือของตระกูลเฉิน พวกเขาก็สามารถขายในราคา 45 หินจิตวิญญาณในวันนี้ และขึ้นราคาเป็น 65 หินจิตวิญญาณในวันพรุ่งนี้ได้
ส่วนผู้ฝึกตนอิสระ นอกจากกัดฟันกลืนเลือดตัวเองแล้ว พวกเขาก็ไม่มีทางอื่นอีก
ราวกับได้ยินคำถามของทุกคน เฉินเซียนเหอก็รีบพูดปลอบใจ “ทุกท่านโปรดวางใจ ร้านค้ากระบี่บินหงอินของพวกเราเคยกล่าวไว้แล้วว่า สาเหตุที่ลดราคากระบี่ เป็นเพราะว่าหลังจากที่เรือขนส่งแนวหน้ามาถึง ราคาแร่ทองแดงแดงก็ลดลง ต่อไป หากราคาแร่ทองแดงแดงกลับมาสูงขึ้น พวกเราก็แค่กลับไปขายในราคา 50 หินจิตวิญญาณเหมือนเดิม จะไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาอย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ยินคำรับรองของเฉินเซียนเหอ
ผู้คนจึงค่อยๆ สงบลง…