บทที่ 39 หยวนซาน พ่อจะเปิดม่านพลังให้เจ้า

ในร้านค้าไม่มีสินค้าที่น่าสนใจ ก็ได้แต่ลองรีเฟรชดูซักครั้งเท่านั้น

สูญเสียค่าชื่อเสียง 10 แต้ม ลู่ผิงเริ่มรีเฟรชร้านค้า

หน้าร้านค้าเริ่มกระพริบ ในขณะที่สินค้าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ก็มีสินค้าใหม่สามรายการโผล่ขึ้นมา

นั่นคือ [หนึ่งดาว-สอนวิชาภายใน], [หนึ่งดาว-โจมตีเจาะจง], [สองดาว-ยกระดับรากวิญญาณ]

หนึ่งรายการส่งผลเพิ่มพลังทั้งนิกาย อีกสองรายการส่งผลต่อสมาชิกเพียงคนเดียว

เมื่อเห็นสินค้าสองดาวที่สุ่มได้ มีตัวอักษรว่ายกระดับรากวิญญาณ ดวงตาของลู่ผิงก็สว่างวาบในทันใด

ของสิ่งนี้ สามารถยกระดับรากวิญญาณได้งั้นหรือ

นี่มันมีของแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย

ลองคลิกเข้าไปดูก็รู้แล้ว

ลู่ผิงคลิกเข้าไปหนึ่งครั้ง รายละเอียดก็ปรากฏขึ้น

[ยกระดับรากวิญญาณ: สองดาว]

[ผลลัพธ์: ดำเนินการยกระดับรากวิญญาณให้แก่สมาชิกนิกายหนึ่งคน ทำให้รากวิญญาณของเขาได้รับการปรับปรุง เลื่อนระดับขึ้นหนึ่งชั้น]

[ค่าชื่อเสียง: 100]

ทำให้รากวิญญาณได้รับการปรับปรุง สามารถเลื่อนระดับขึ้นหนึ่งชั้น...

หมายความว่า รากวิญญาณสามสามารถยกระดับเป็นรากวิญญาณคู่ได้ รากวิญญาณคู่ยกระดับเป็นรากวิญญาณสวรรค์ได้อย่างงั้นหรือ?!

หากมีผลเช่นนี้จริงๆ ผลลัพธ์นี่สุดยอดเสียจริง!

ในใจลู่ผิงรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง

รากวิญญาณเป็นสิ่งลึกลับซับซ้อน มันเป็นพรสวรรค์ที่มีมาแต่กำเนิด จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีวิธีใดที่สามารถยกระดับปรับปรุงรากวิญญาณได้

อย่างน้อยที่สุด เขาผู้เป็นเซียนขั้นแก่นทองคำคนนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย

และผลสำเร็จในเส้นทางการฝึกตนของผู้ฝึกตน มักถูกกำหนดด้วยพรสวรรค์

ยิ่งพรสวรรค์ดี ฝึกตนได้เร็ว สำเร็จที่ได้รับก็จะยิ่งสูง

อย่างเช่นรากวิญญาณสวรรค์ เจ้าของรากวิญญาณประเภทนี้ ขอเพียงไม่ตายเร็วเกินไป ก็จะทะลวงไปสู่ขั้นวิญญาณแรกกำเนิดได้อย่างแน่นอน

ส่วนรากวิญญาณคู่ด้อยกว่าเล็กน้อย โดยทั่วไปสามารถไปถึงขั้นแก่นทองคำได้

รากวิญญาณสาม หรือรากวิญญาณสี่ รวมถึงรากวิญญาณห้า ความสำเร็จในการฝึกตนลดลงเป็นลำดับ มักหยุดอยู่ที่ขั้นสร้างฐานเท่านั้น

ข้อบกพร่องในด้านพรสวรรค์นั้น มักไม่ใช่สิ่งที่แก้ไขได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร การฝึกตนอย่างถ่องแท้

นอกจากจะมีโชคชะตาพลิกผัน ได้รับความโปรดปรานจากฟ้าดิน

แต่ผู้ฝึกตนที่ได้ใช้ม่านพลังแบบนี้มีจำนวนน้อยนิด นับได้ทั่วทั้งโลกบำเพ็ญเซียน

ลู่ผิงในฐานะผู้ข้ามมิติ ด้วยรากวิญญาณสาม ร่วมกับปัญญาจากการมีชีวิตสองภพ จึงสามารถมาถึงระดับขั้นแก่นทองคำได้

การก้าวต่อไปทะลวงสู่ขั้นวิญญาณแรกกำเนิด ยากเหลือเกิน

หาไม่แล้วเขาก็คงไม่อยู่ในสภาพเช่นนี้

"ไม่ว่าจะเลื่อนระดับรากวิญญาณได้จริงหรือไม่ อย่างไรเมื่อใช้ไปแล้ว รากวิญญาณต้องดีขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ"

"ขอแค่ได้ผลแค่นี้ก็คุ้มแล้ว"

ลู่ผิงข่มความวุ่นวายในใจไว้ ชั่วคราวยังไม่รีบแลก เขาเลือกที่จะดูสินค้าอีกสองชิ้นก่อน

[สอนวิชาภายใน: หนึ่งดาว]

[ผลลัพธ์: เพิ่มความเข้าใจในวิชากลของสมาชิกทั้งนิกาย +15% เป็นเวลาหนึ่งปี]

[ค่าชื่อเสียง: 30]

...

[โจมตีเจาะจง: หนึ่งดาว]

[ผลลัพธ์: เลือกสมาชิกนิกายหนึ่งคน เมื่อใช้ท่วงท่าต่อสู้จะได้รับพลังโจมตีเจาะจงเพิ่ม ทำให้พลังโจมตี +50%]

[ค่าชื่อเสียง: 10]

...

อย่างเป็นกลาง แม้ว่าสองสินค้านี้จะไม่ตื่นเต้นเท่า [ยกระดับรากวิญญาณ] แต่หากใช้อย่างเหมาะสมก็ให้ผลไม่เลวเช่นกัน

[สอนวิชาภายใน] ใช้ได้กับสมาชิกทั้งนิกาย เพิ่มความเข้าใจในวิชาได้ 15% นาน 1 ปี รายการนี้คุ้มค่าแลกแน่นอน

[โจมตีเจาะจง] นั้นเหมาะกับการต่อสู้ ยังเก็บเอาไว้ก่อนแล้วกัน

ตัดสินใจแล้ว ลู่ผิงจึงแลกเอา [สอนวิชาภายใน] ในทันที

หักค่าชื่อเสียง 30 แต้ม กล่องข้อความปรากฏขึ้น

[แลกซื้อสอนวิชาภายในสำเร็จ ต้องการใช้เลยหรือไม่]

"ใช้"

เรื่องนี้จะมีอะไรให้ลังเลล่ะ

[ใช้สอนวิชาภายในสำเร็จ ความเข้าใจวิชากลของสมาชิกทั้งนิกาย +15% จะหมดอายุภายใน 364 วัน 23 ชม. 56 น. 58 วิ.]

หลังจากที่ผลลัพธ์ปรากฎ การเปลี่ยนแปลงที่แน่ชัด ลู่ผิงก็สัมผัสไม่ได้

ขณะเดียวกัน ภายในนิกายชิงซาน ศิษย์สองสามคนที่กำลังฝึกฝนบำเพ็ญตน ก็รู้สึกว่าตนเองเข้าใจวิชากลได้เร็วขึ้นเล็กน้อย

ความเข้าใจในวิชากล ดีกว่าในอดีตเล็กน้อย

แต่ความรู้สึกนี้อธิบายได้ยาก

ถึงขนาดที่พวกเขาพึมพำกับตัวเอง นี่เป็นความรู้สึกผิดพลาดหรือเปล่า

จางเนี่ยนชวนพึมพำเบาๆ

"อาจเป็นเพราะวันนี้สภาพการบำเพ็ญตนดีเป็นพิเศษกระมัง"

ด้วยความคิดเช่นนี้ จึงไม่ได้คิดมากอะไร แล้วก็ฝึกฝนต่อไป

ภายในถ้ำ ลู่ผิงที่เพิ่มพลังความเข้าใจในวิชากล 15% ให้สมาชิกทั้งนิกาย รู้สึกอิ่มเอมใจยิ่งนัก

การที่พลังของนิกายเพิ่มขึ้น เป็นเรื่องที่เขายินดีปรีดา

เหลือค่าชื่อเสียง 111 แต้ม สามารถลองแลก [ยกระดับรากวิญญาณ] ทดสอบผลลัพธ์ได้

สำหรับผู้ที่จะใช้ ลู่ผิงไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน เขาตัดสินใจเลือกใช้กับลูกชายคนใดคนหนึ่งในสามคนก่อน

คนอื่นๆ เขาไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่

หากมอบการยกระดับรากวิญญาณให้ศิษย์คนหนึ่ง กลายเป็นรากวิญญาณคู่ หรือแม้กระทั่งรากวิญญาณสวรรค์ แล้วภายหลังศิษย์คนนั้นเปลี่ยนใจไปเข้านิกายอื่นจะทำอย่างไร

นั่นคงขาดทุนยับเยินเลย

เรื่องเช่นนี้ ไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นได้ ต้องป้องกันไว้ก่อน

ฉะนั้นการให้ศิษย์ใช้ก่อนนั้นเป็นไปไม่ได้

แต่สำหรับลูกๆทั้งสามนั้น ไม่มีอะไรต้องกังวล คนในครอบครัวเดียวกันคงไม่มีทางหันหลังให้กัน หนีไปอยู่นิกายอื่นหรอกนะ

ลู่ผิงเชื่อว่าลูกๆจะไม่ทำเรื่องเช่นนี้

ถ้าเกิดขึ้นจริง ต้องตัดขาพวกมันแน่ๆ

ในการเลือกจากลูกทั้งสาม คิดหาตัวเลือกที่จะใช้ ลู่ผิงก็ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว

ลูกสาวคนเล็กลู่จือเวย เขาเคยใช้ [เสริมกำลังใจมุ่งมั่น] ให้นางไปแล้ว หลังจากนั้นความตั้งใจในการบำเพ็ญเซียนของนางก็ไม่เลวแน่นอน

ด้วยกำลังใจในการแสวงหาเต๋านี้ พึ่งพารากวิญญาณคู่ทองแดง-ไม้ ความสำเร็จในอนาคตของนางจะไปถึงขั้นแก่นทองคำก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ส่วนลู่ฉางเฟิง เด็กหนุ่มคนนี้มีพรสวรรค์เป็นรากวิญญาณสามไฟ-ไม้-ทอง ถ้าให้เขาใช้ อย่างมากก็แค่ยกระดับเป็นรากวิญญาณคู่ได้เท่านั้น

เมื่อเทียบกับลู่หยวนซานพี่ชายคนโต ถ้าให้ลู่หยวนซานใช้ โอกาสที่รากวิญญาณคู่ไม้-ดินของเขาจะยกระดับเป็นรากวิญญาณสวรรค์นั้นสูงมาก!

การให้ลู่หยวนซานใช้นั้นเหมาะสมกว่าอย่างชัดเจน

ยิ่งไปกว่านั้น ลู่หยวนซานเป็นประมุขของนิกายชิงซาน พลังการฝึกฝนของเขาจำเป็นต้องก้าวนำสมาชิกทั้งนิกายอยู่แล้ว จุดนี้ไม่มีอะไรต้องโต้แย้ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนนี้ลู่ผิงนึกถึงคำพูดของทังจื้อเสียนในหอประชุมนิกายเมื่อครั้งก่อน

"ข้ามาจากตระกูลทัง ประมุขตระกูลทังก้าวข้ามไปสู่ขั้นสร้างฐานเมื่อปีก่อน เพราะสิ่งนี้ตระกูลทังจึงได้เลื่อนฐานะเป็นตระกูลขั้นสร้างฐาน ทำให้มีตำแหน่งไม่น้อยในเขตหลูซาน"

"แต่กลับมาดูที่นิกายชิงซาน หลายปีผ่านไป พลังโดยรวมของนิกายกลับตกต่ำลงเรื่อยๆ แม้แต่ท่านประมุขเองก็ยังคงอยู่แค่ขั้นฝึกปราณ..."

ตอนที่ลู่ผิงได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง

ประมุขนิกายชิงซานผู้หนึ่ง มีพลังเพียงขั้นฝึกปราณชั้น 9 เอ่ยปากออกมาได้ยากนัก

ลู่ผิงยังฟังแล้วเจ็บปวดใจ นับประสาอะไรกับตัวลู่หยวนซานเอง ตอนนั้นในใจเขาคงรู้สึกละอายใจ ไม่สบายใจเป็นแน่

ฉะนั้น โอกาสในการยกระดับรากวิญญาณครั้งแรกนี้ จำเป็นต้องให้ลู่หยวนซาน

หลังเลือกคนที่จะใช้ได้แล้ว ลู่ผิงก็แลก [ยกระดับรากวิญญาณ] ออกมาทันที

ก่อนใช้ เขาก็ไม่ลืมที่จะติดต่อกับลู่หยวนซาน

"หยวนซาน พ่อจะเปิดม่านพลังให้เจ้า"

ในหอประชุมนิกาย เมื่อได้ยินเสียงจิตของเซียนพ่อ ลู่หยวนซานก็ชะงักไปเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด

ใช้ชีวิตร่วมกับลู่ผิงมาเกือบสามสิบปี ได้ยินคำพูดแปลกๆจากปากของลู่ผิงบ่อยๆ เขาก็คุ้นชินแล้ว

พอจะเข้าใจความหมายของการ "เปิดม่านพลัง"

"ขอรับ ท่านพ่อ"

ส่งเสียงจิตตอบรับไปหนึ่งประโยค ในใจลู่หยวนซานพลันเกิดความคาดหวังบางอย่าง