ตอนที่แล้วบทที่ 30 ขยายไร่วิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32 ราชันตั๊กแตนตำข้าว

บทที่ 31 ภัยแมลงร้ายบุกรุกไร่ปลูกพืชวิญญาณ


[แลกเปลี่ยนระบบเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากรสำเร็จ กรุณาเลือกทรัพยากรที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ]

เมือใช้ค่าชื่อเสียง 50 คะแนนแลกเปลี่ยน[ระบบเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากร] ก็มีระบบขึ้นมาถามต่อ

ไม่ต้องคิดอะไรมาก ลู่ผิงเปิดหน้าต่างทรัพยากรนิกาย เลือกที่ไร่ปลูกพืชวิญญาณ

มีรายละเอียดแสดงออกมา

[ไร่ปลูกพืชวิญญาณ 25 ไร่: ไร่ขั้นที่ 1 คุณภาพยอดเยี่ยม (ข้าววิญญาณขั้นที่ 1 คุณภาพยอดเยี่ยม)]

[รายได้โดยประมาณ: 1040 หินวิญญาณ/ปี (ปีแรกไร่ใหม่จะมีผลผลิต 510 หินวิญญาณ, ในปีที่ 2 ผลผลิตจะคงตัว)]

การประเมินมูลค่าไร่นี้ค่อนข้างแม่นยำ

ก่อนขยายไร่ ข้าววิญญาณจากไร่ 10 ไร่ขั้นที่ 1 ของนิกาย หากไม่นับเบี้ยเลี้ยงแล้ว การขายออกไปสามารถทำรายได้ราว 530 หินวิญญาณ

ปีนี้ผลผลิตข้าววิญญาณเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว 300 กว่ากิโลกรัม รวมเป็น 3,300 กว่ากิโลกรัม รายได้หินวิญญาณจึงเพิ่มขึ้นนิดหน่อย

นี่คือรายได้ก่อนขยายไร่

หลังขยายไร่ 15 ไร่แล้ว ไร่ใหม่ก็เพาะปลูกข้าววิญญาณเช่นกัน

ตามหลัก ไร่ 25 ไร่ ปริมาณผลผลิตรวมทั้งปีควรสูงถึง 8,000 กิโลกรัม

รายได้จะเพิ่มขึ้นเกินเท่าตัว แตะหลัก 1,300 หินวิญญาณ

คิดแบบนี้ก็ไม่ผิด

แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ เนื่องจากเป็นไร่ใหม่ ปลูกข้าววิญญาณเป็นครั้งแรก ดินย่อมมีปราณต้นกำเนิดและความอุดมสมบูรณ์ไม่เท่าไร่เก่า

ดินยังขาดการบำรุง ต้องค่อยๆเพิ่มความอุดมสมบูรณ์

ศิษย์น้องใช้วิชาดลฝนเพิ่มความชุ่มชื้นให้ไร่ 15 ไร่ใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากปัจจัยดิน ผลผลิตข้าววิญญาณในปีแรกย่อมไม่ถึงระดับผลผลิตของไร่เก่า

ตอนนี้ระบบประเมินผลผลิตของไร่ใหม่ เป็น 'ปีแรกไร่ใหม่จะมีผลผลิต 510 หินวิญญาณ, ในปีที่ 2 ผลผลิตจะแน่นอน' สาเหตุอยู่ตรงนี้เอง

ผลผลิตข้าววิญญาณไม่มาก แต่ปีที่ 2 ปีที่ 3 ก็จะค่อยๆดีขึ้น ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

"ไร่ 25 ไร่ รายได้ปีหน้าเป็น 1040 หินวิญญาณ แยกจ่ายเข้ารายจ่ายอื่นๆของนิกายแล้ว เหลือหินวิญญาณไม่มากนัก"

รวบยอด ลู่ผิงไม่มีอะไรลังเลแล้ว

เพิ่มประสิทธิภาพให้ไร่รวม ก็ไม่น่าจะขาดทุน

เขาตัดสินใจให้เพิ่มประสิทธิภาพไร่เลย

[กำลังเพิ่มประสิทธิภาพไร่...]

ระบบขึ้นกล่องแจ้ง

[เพิ่มประสิทธิภาพไร่ 25 ไร่ขั้นที่ 1 สำเร็จ ยกระดับเป็นไร่ขั้นที่ 2 คุณภาพปานกลาง]

ด้านล่างมีรายละเอียดทรัพยากร

[ไร่ปลูกพืชวิญญาณ 25 ไร่: ไร่ขั้นที่ 2 คุณภาพปานกลาง (ข้าววิญญาณขั้นที่ 2 คุณภาพปานกลาง)]

[รายได้โดยประมาณ: 2095 หินวิญญาณ/ปี (ปีแรกไร่ใหม่จะมีผลผลิต 1035 หินวิญญาณ, ในปีที่ 2 ผลผลิตจะแน่นอน)]

"หือ? ครั้งนี้เพิ่มประสิทธิภาพ ทำให้ไร่ยกระดับเป็นขั้นที่ 2 คุณภาพปานกลาง ข้าววิญญาณก็ยกระดับตามไปด้วย เป็นข้าววิญญาณขั้นที่ 2!"

ไตร่ตรองดูผลการเพิ่มประสิทธิภาพ สีหน้าลู่ผิงยินดีขึ้นมา

ช่างโชคดีนัก

เป็นครั้งแรกที่เขาใช้ [เพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากร] ยกระดับไร่จากขั้นที่ 1 คุณภาพยอดเยี่ยม เป็นขั้นที่ 2 คุณภาพปานกลางในครั้งเดียว ยกระดับได้ทั้งขั้น

ข้าววิญญาณก็ยกระดับ จากขั้นที่ 1 เป็นขั้นที่ 2 คุณภาพปานกลาง

ผลผลิตโดยรวม เมื่อเทียบกับก่อนเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว!

ผลผลิตจากไร่ขั้นที่ 2 และข้าววิญญาณขั้นที่ 2 ปีหน้าจะทำรายได้ 2095 หินวิญญาณ!

นับเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ตอนนี้แค่ส่วนรายได้จากไร่ก็พอทำให้นิกายเดินหน้าต่อได้แล้ว ขอแค่ดูแลไร่ให้ดีไม่ให้มีปัญหาอะไร

ส่วนการขยายสวนสมุนไพรและร้านในตลาด หากลงทุนขยายแล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มพลังให้เศรษฐกิจของนิกาย

มองแบบนี้แล้ว ยังมีหวังในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจนิกายอยู่

คิดได้เช่นนี้ ลู่ผิงก็รู้สึกดีใจมาก

นิกายเริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นแล้ว

แต่ผ่านไปสิบกว่าวัน ข้อความแจ้งเตือนจากระบบทำให้ลู่ผิงงงงวยไปเล็กน้อย

[เกิดภัยแมลงร้ายขั้นที่ 1 ในไร่ปลูกพืชวิญญาณ หลี่จื่อชี่ผู้ดูแลไร่ได้รับบาดเจ็บจากแมลงร้าย สูญเสียพลังต่อสู้]

เกิดอะไรขึ้น?

เห็นข้อความแจ้งเตือนระบบ ลู่ผิงก็งงงวย

ไร่เกิดภัยแมลงร้าย เรื่องนี้ปกติมาก

ไร่เก่าทุกปีจะเกิดปัญหาแมลงรบกวนบ้าง ศิษย์น้องก็ต้องรีบกำจัดให้ทัน แก้ปัญหาแมลงร้าย

แมลงร้ายนี่ เหมือนวัชพืช พอพัดลมเป็นปุ๋ยก็งอกใหม่ ยากจะกำจัดให้หมดสิ้น

ไร่ใหม่ก็เช่นกัน

ตอนเปิดไร่ใหม่ นิกายก็กำจัดแมลงร้ายทั่วบริเวณด้วยวิธีทำลายล้างครั้งใหญ่ เพื่อล้างแมลงในดิน เช่น หนอนกัดกินปราณออกให้หมด

แม้ศิษย์น้องจะทำความสะอาดละเอียดแค่ไหน แต่ก็ยังมีตกค้างบ้าง

ทิ้งไว้นานๆก็มีแมลงร้ายเกิดใหม่ได้ ก็เป็นเรื่องยากจะหลีกเลี่ยง

ทำไร่นั้นต้องต่อสู้กับแมลง วัชพืช ภูมิอากาศหลายอย่าง มาแต่ไหนแต่ไร

แต่ปัญหาคือ ต่อให้แมลงร้ายในไร่จะดุร้ายแค่ไหน มันก็เป็นแค่แมลงตัวเล็กๆไม่ใช่เหรอ

หลี่จื่อชี่ผู้ดูแลไร่ เป็นผู้ฝึกตนขั้นฝึกปราณชั้น 3 ยังหนุ่มแน่นอยู่เลย ก็ดูแลไร่มาหลายปี มีประสบการณ์พอตัว แล้วจะถูกแมลงร้ายทำร้ายได้ยังไง

แถมยังบาดเจ็บถึงขั้นสูญเสียพลังต่อสู้ด้วย

เรื่องผิดปกติย่อมต้องมีความผิดปกติแอบแฝงอยู่แน่

ลู่ผิงไม่เชื่อเลยว่าหลี่จื่อชี่จะประมาท ถูกแมลงร้ายทำร้ายได้ถึงขั้นนี้

สมมติฐานก็ถูกต้อง

ข้อความแจ้งเตือนจากระบบอีกข้อความก็ดังขึ้นมา

[หลี่จั๋วผู้ดูแลไร่ต่อสู้กับแมลงร้ายอย่างดุเดือด ได้รับบาดเจ็บจากแมลงร้าย]

แย่แล้ว ต้องเกิดเหตุการณ์ไม่ดีแน่ๆ!

หากมีคนเดียวเกิดเรื่อง ลู่ผิงอาจคิดไปเองได้สักหน่อย ก็ไม่รีบไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้มีศิษย์น้องบาดเจ็บอีก ลู่ผิงก็นั่งไม่ติดแล้ว

"ลู่จือเวย เจ้าจงรีบไปที่ไร่ปลูกพืชวิญญาณ!"

ไม่มีเวลาคิดมากแล้ว พิจารณาจากความเร็วในการเคลื่อนที่ของตัวเอง หากไปถึงไร่ตอนสายเกินแก้แล้วคงช่วยอะไรไม่ได้ ลู่ผิงจึงรีบติดต่อหาลู่จือเวยเลย

เมื่อเทียบกับลูกอีกสองคน ลู่ฉางเฟิงยังไม่รู้เรื่องที่ลู่ผิงตื่นขึ้นมา ลู่ผิงเลยยังไม่ติดต่อลู่ฉางเฟิงในตอนนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการอธิบายตัวตนว่าเป็นพ่ออีกยาว

ส่วนลู่หยวนซานผู้เป็นประมุขนิกาย ก็ต้องวุ่นกับกิจการนิกายอยู่แล้ว จึงไม่ควรรบกวน

การติดต่อศิษย์น้องคนอื่นๆ ลู่ผิงยังไม่คิดทำในตอนนี้ การอธิบายตัวตนเองก็วุ่นวายอยู่เหมือนกัน

ลู่ผิงเลยติดต่อลู่จือเวยโดยตรง

ได้ยินลู่ผิงติดต่อเข้ามา ลู่จือเวยมองซ้ายมองขวาโดยสัญชาตญาณ มองดูว่าใครมาพูดข้างๆ

ได้ยินเสียงลู่ผิง นางก็ตระหนักว่า อ้อ พ่อนี่เอง

คุณพ่อให้ข้าไปไร่ปลูกพืชวิญญาณทำไมนะ?

แม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ไร่ แต่ก็ไม่กล้าทำให้เสียเวลา ลูกสาวลู่ผิงรีบเดินทางไปไร่ปลูกพืชวิญญาณทันที

ในเวลาเดียวกัน ลู่ผิงก็เหาะไปทางไร่ปลูกพืชวิญญาณเช่นกัน

พอเขามาถึง เห็นลู่จือเวยกำลังบังคับกระบี่บินต่อสู้อย่างดุเดือดกับสิ่งมีชีวิตสีเขียวเหลืองคล้ายแมลงอยู่กลางไร่พอดี

หลี่จั๋วและหลี่จื่อชี่ ตอนนี้ต่างยืนอยู่บนคันนาไม่ไกล ทั้งสองคนเต็มไปด้วยบาดแผลฉีกขาด มองการต่อสู้ในไร่อย่างตึงเครียด

เป็ดขนเหลืองในไร่ เพราะการปรากฎตัวของแมลงร้าย ถูกทำให้ตื่นตกใจ รีบหนีไปซ่อนในคอกเป็ด ส่งเสียงก๊าบก๊าบอย่างตื่นตระหนกตกใจ

โดยรอบไร่ มีศิษย์น้องอีกไม่กี่คนได้ยินเสียงต่อสู้ รีบเร่งวิ่งมารวมตัวกันที่นี่

"นี่คือแมลงร้าย?"

เพียงมองแวบเดียว ลู่ผิงก็พบตัวการแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด