ตอนที่แล้วChapter 203 : ราชินีมดกลืนพลังงาน - สมบัติระดับตำนาน! (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 205 : ยามาโมโตะ เรียวมะหายสาบสูญ (2)

Chapter 204 : ยามาโมโตะ เรียวมะหายสาบสูญ (1)


ดาบพิษเปิดใช้งาน ‘อัสนีวสโย’ เพื่อเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และตามติดมดมรกตที่กำลังบินหนีไปอย่างกระชั้นชิด

สิ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับหลินเซวียนก็คือแม้จะทำถึงขั้นนี้แล้วอีกฝ่ายก็ยังรวดเร็วเข้าขั้นน่าฉงนอยู่ดี

“ต้องลองใช้สกิลตรวจสอบลองส่องดู”

หลินเซวียนควบคุมให้ดาบพิษโยนสกิลตรวจสอบขั้นสูงออกไปทำให้ทราบข้อมูลของมดที่กำลังบินหนีอยู่เบื้องหน้าในทันที

“ขอบเขตที่7เลเวล6 ค่าสถานะคือ....ความอดทน10 , พละกำลัง10 , พลังเวทย์300 , ความเร็ว650?”

“สกิลแรกคือ [บุตรแห่งผืนป่า] ที่เวลาอยู่ในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้จะเพิ่มความเร็วขึ้น20%”

“สกิลที่สองคือ [บุตรแห่งผืนฟ้า] ซึ่งจะเพิ่มความเร็วในการบินขึ้น25%อย่างถาวร”

“สกิลสุดท้ายคือ [การตกผลึกของต้นไม้บรรพกาล] เกรดทองดำ - เพิ่มความเร็วอีก15%!”

หลินเซวียนตกตะลึงยิ่งนัก

เชี่ย...เจ้านี่มันแม่แบบชั้นดีของราชันย์แดนลับเลยนี่หว่า

ถ้าเจ้ามดมรกตนี่รอดไปได้และเติบโตต่อไปมันคงกลายเป็นอสูรขอบเขตที่9ในอนาคตแน่ๆ

ยิ่งไปกว่านั้นสกิล [การตกผลึกของต้นไม้บรรพกาล] เองก็น่าจะเป็นสกิลที่เกิดมาจากสมบัติระดับตำนานที่ชิมาดะ ริวยะเอ่ยว่าอัดแน่นไปด้วยพลังชีวิต

“หนีไปเถอะแล้วมารอดูกันว่าแกจะหนีได้ซักกี่น้ำ!”

หลินเซวียนควบคุมร่างดาบพิษให้เร่งความเร็วขข้นไปอีก

ข้อได้เปรียบเดียวของเจ้ามดบินได้นี่ก็คือความเร็วของมัน สกิลบนร่างของมันแทบทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับความเร็วทั้งสิ้น

ข้อเสียของมันนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนคือมันบอบบางประดุจกระดาษ

ค่าสถานะเกือบทั้งหมดเองก็ไปยัดรวมกันอยู่ที่ค่าความเร็วจนสิ้นและค่าความอดทนเองก็ต่ำจนน่าสังเวชมีเพียง10แต้มเท่านั้น!

พลังชีวิตที่ได้จากค่าความอดทน10แต้มนั้นน้อยจนน่าสมเพช ตราบใดที่ดาบพิษเข้าไปในระยะ10เมตรของเจ้ามดบินได้นั่นได้เขาก็สามารถใช้สกิลโจมตีมันได้จากระยะไกล!

คราแรกนั้นความเร็วในการบินของเจ้ามดนั่นค่อนข้างรวดเร็วมากแต่เมื่อปีกมันถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องความเร็วกฌค่อยๆลดลง

ระยะห่างระหว่างดาบพิษและมันจึงค่อยๆหดแคบลงเหลือเพียง500เมตร 400เมตร 300เมตร...100เมตร 50เมตรและ30เมตร! จนกระทั่งเหลือเพียง10เมตร!

เมื่อถึงจุดนี้ฝ่ามือของดาบพิษก็พลันควบแน่นสายฟ้าออกมาก่อนจะเขวี้ยงมันเข้าใส่มดบินได้ตัวนั้น

ประกายสายฟ้าฟาดเข้าใส่มดมรกตอย่างแม่นยำและพลันก่อเกิดเป็นตรวนอัสนีเส้นใหญ่กักขังพันธนาการมันเอาไว้

มดบินได้ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวชและปีกทั้งสองข้างของมันเองก็ถูกสายฟ้าเผาไหม้เป็นตอตะโก

ความเร็วของมันจึงลดลงอย่างมหาศาลเพราะเหตุนี้

เมื่อเห็นเช่นนี้ดาบพิษก็มีความสุขขึ้นมาเล็กน้อย เขารีบเดินเข้าไปคว้าร่างของมันขึ้นมาในทันที

“ในที่สุดก็จับแกได้แล้ว” หลินเซวียนยิ้มแต้

ในเวลานี้เองเขาที่ใช้สกิลตรวจจับขั้นสูงอยู่ตลอดพลันพบว่ามีใครบางคนกำลังมุ่งหน้าตรงเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูงยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่เสียด้วย

“ยามาโมโตะ เรียวมะ? ดูเหมือนจะมาคนเดียวซะด้วย”

หลินเซวียนขมวดคิ้ว

เจ้าหมอนี่คิดจะฆ่าเขางั้นหรอ?

ไม่ถึงสามนาทีต่อมาร่างของยามาโมโตะ เรียวมะก็ปรากฏตัวขึ้นราวกับลมพายุและจับจ้องมองมาที่ดาบพิษด้วยแววตาเย็นชา

ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังสังเกตเห็นร่างของมดมรกตในมือของดาบพิษด้วยเช่นกัน

มดมรกตตัวนั้นเป็นเป็นสิ่งมีชีวิตดังนั้นจึงไม่อาจเก็บเข้าไปในอุปกรณ์เก็บของหรือมิติส่วนตัวได้

“มีแค่นายคนเดียวงั้นหรอ?” ดาบพิษถามขึ้น

ยามาโมโตะ เรียวมะแค่นเสียงเยาะ “คิดว่าฆ่าแกต้องใช้คนซักกี่คนล่ะ?”

หลังจากกล่าวจบเขาก็หยุดไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ส่งมดมรกตนั่นมาแล้วฉันจะเหลือซากศพสมบูรณ์ไว้ให้”

ดาบพิษหัวเราะคิกคัก

ในเมื่อไม่มีใครตามเจ้าหมอนี่มาแถมยังไม่มีคนอยู่รอบๆบริเวณนี้อีกถ้างั้นก็คงไม่มีใครรู้เรื่องราว

หลินเซวียนเดิมทีก็วางแผนว่าก่อนจะออกจากแดนต้นกกก็จะฆ่าเจ้าหมอนี่ทิ้งอยู่แล้ว

เช่นนั้นแล้วต่อให้ยามาโมโตะ ชินจิรู้เรื่องเข้าแล้วเกิดหัวร้อนขึ้นมาก็คงไม่อาจหาตัวเขาเจออยู่ดี

แต่ตอนนี้เมื่อไม่มีใครอยู่รอบๆพอดีถ้างั้นก็เป็นโอกาสอันดีที่จะลงมือ

ดาบพิษกระชากปีกที่ถูกเผาจนยับเยินของมดมรกตออกและเอาเชือกจากมิติส่วนตัวออกมามัดร่างของมันเอาไว้จนแน่นหนาก่อนจะโยนมันออกไปข้างๆ

ในเวลาเดียวกับที่มดมรกตถูกโยนลงบนพื้นยามาโมโตะ เรียวมะก็กระทืบเท้าลงบนพื้นอย่างรุนแรงและพุ่งเข้ามาราวกับกระทิงคลั่ง

ดาบทาชิตรงเอวของเขาถูกชักและเหวี่ยงออกมาอย่างรวดเร็ว!

อย่างไรก็ตามเขากลับไม่รู้สึกเลยว่าดาบของตัวเองฟันโดนสิ่งมีชีวิต

การโจมตีครั้งนี้พลาดเป้า!

ยามาโมโตะ เรียวมะเป็นนักสู้ที่มีประสบการณ์การต่อสู้อยู่ล้นเหลือ เมื่อเห็นว่าการฟันครั้งแรกพลาดเป้าเขาก็หยิบมีดสั้นออกมาจากเอวและแทงไปทางด้านหลังโดยไม่แม้แต่จะหันไปมอง!

เคร้ง!

อาวุธทั้งสองปะทะกันจนบังเกิดเสียงโลหะเสียดสี

แรงกระแทกมหาศาลผลักดันให้ร่างของยามาโมโตะ เรียวมะล่าถอยออกไปอย่างต่อเนื่องและข้อนิ้วบริเวณนิ้วโป้งเองก็ชาหนึบ

อย่างไรก็ตามดาบพิษกลับถอยออกไปเพียงสามก้าวเท่านั้น

“ไม่เลวๆสมแล้วที่เป็นถึงนักสู้เลื่องชื่อที่สุดของตระกูลยามาโมโตะอันโด่งดัง” ดาบพิษเอ่ยปากชม

สีหน้าของยามาโมโตะ เรียวมะมืดครึ้มลงเล็กน้อย

ด้วยระดับของเขาหากอยากจะรู้ว่าศัตรูแช็งแกร่งหรือเปล่าแค่ทดสอบกันที่การปะดาบครั้งแรกก็รู้แล้ว

หลังจากการโจมตีเมื่อครู่แล้วทั้งสองกระเด็นถอยออกไปนั้นตัวเขากลับล่าถอยออกมาไกลยิ่งกว่าดาบพิษ

นี่ก็หมายความว่าความแข็งแกร่งของเขาด้อยกว่าดาบพิษอยู่มากโข!

เรื่องนี้ทำให้เขาอดขมวดคิ้วมุ่นขึ้นมาไม่ได้

เป็นไปไม่ได้!

ค่าสถานะหลักของเขาคือค่าความแข็งแกร่งเชียวนะ ค่าความแข็งแกร่งของเขาสูงถึง287แต้มซึ่งก็เหนือกว่านักสู้ขอบเขตที่7เลเวล7ส่วนใหญ่เสียอีก!

ถ้างั้นเหตุใดความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายถึงเหนือกว่าเขาล่ะ?

“อย่าพยายามคิดในสิ่งที่ไม่มีวันเข้าใจเลย” ดาบพิษหัวเราะเสียงเย็นก่อนจะกระทืบเท้าลงบนพื้นและพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายโดยไม่ให้ตั้งตัว

เมื่อย่นระยะเข้ามาเหลือเพียง10เมตรระยะเวลาคูลดาวน์ของสกิล [อัสนีวาโย] ก็สิ้นสุดลงพอดี

หลังจากเปิดใช้งานมันอีกครั้งความเร็วของเขาก็พุ่งทะยานและปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าของยามาโมโตะ เรียวมะในชั่วพริบตาราวกับผีสาง

ดาบสั้นแหลมคมที่ปกคลุมไปด้วยพิษร้ายถูกจ้วงแทงเข้าใส่หัวใจของเขา!

ยามาโมโตะ เรียวมะผงะถอยไปครึ่งก้าวและพลันปรากฏโล่ขนาดเล็กขึ้นมาขวางหน้าเขาเอาไว้

“กำลังรอโล่นี่ของนายอยู่เลย” ดาบพิษแค่นเสียง

เขาใช้สกิลตรวจสอบขั้นสูงมองดูข้อมูลทั้งหมดของยามาโมโตะ เรียวมัมาแล้ว

ความสามารถของโล่นี่ป้องกันได้เพียงการโจมตีกายภาพและพิษเท่านั้น

เห็นได้ชัดเลยว่ายามาโมโตะ เรียวมะนั้นตัดสินจากวิธีการลงมือและคุณสมบัติในการลงมือสังหารของดาบพิษทำให้คิดไปว่าดาบพิษนั้นใช้การโจมตีกายภาพกับการโจมตีด้วยพิษเป็นหลัก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด