ตอนที่แล้วChapter 16 ถ้ามีเงินก็คงดี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 18 ตัดสินใจซื้อบ้าน

Chapter 17 การหมั้นของเด็ก


จี้ซีอัง รู้สึกขวยเขินจึงรีบดึง จี้ซีซวนออกไปด้วย

ฉินห่าวเหวิน หยิบถุงขนมออกจากกล่องของขวัญ เขาเปิดมันออกแล้วหยิบขนมวางลงบนมือของเด็กทั้งสองคน "ลองชิมดูสิอร่อยมั้ย"

เมื่อเห็นดังนี้ หลี่ซูจึงพยายามหยุดเขา “พี่คะ อย่าเปิดมันเลยค่ะ…”

เชิงซู่ฉิน กดมือของหลี่ซู่ ลง “อย่าห้ามเขาเลย เขาชอบเล่นกับเด็กๆน่ะ เราดูอายุเท่ากันเลย ฉันไม่รู้ว่าจะเรียกคุณว่าน้องสาวหรือพี่สาวดี”

หลี่ซู่ ถอนสายตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ฉันเกิดเมื่อปี 1964"

เชิงซู่ฉิน พูดด้วยความประหลาดใจ“ฉันก็เกิดปี 1964 เหมือนกัน คุณเดือนอะไรล่ะ?”

“ฉันเกิดเดือนสิงหาคม”

เชิงซู่ฉิน ยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็แก่กว่าคุณสองสามเดือน คุณต้องเรียกฉันว่าพี่แล้วล่ะ”

ในอีกด้านหนึ่ง ฉินห่าวเหวิน ถามอย่างสงสัย “วันนี้ไม่ใช่วันอังคารเหรอ? ทำไมเด็กๆ ถึงไม่ไปโรงเรียนล่ะ?”

ขณะที่เขาพูด เขาก็เปิดช็อกโกแลตอีกอันและวางมันลงบนมือของจี้หยวนหยวน

เขาไม่มีลูกสาว ดังนั้นเมื่อเขาเห็นว่าจี้หยวนหยวนน่ารักขนาดนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะลูบหัวของเธอ ทำให้ตอนนี้ผมเปียของเธอบิดเบี้ยว

หลี่โหย่งเล่าอย่างช่วยไม่ได้ “ทะเบียนบ้านของเด็กๆ ยังอยู่ที่บ้านพ่อของเขา มันไกลเกินไปสำหรับพวกเขาที่จะไปโรงเรียนจึงไม่ค่อยสะดวกนัก อีกอย่างมันไม่ง่ายเลยที่จะย้ายทะเบียนบ้านของพี่สาวและลูกๆกลับมาในตอนนี้”

ฉินห่าวเหวิน พยักหน้าอย่างครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจฟังเรื่องนี้

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่จี้ซีอังได้กินช็อกโกแลต ดวงตาของเขาเป็นประกายขณะที่เขามองไปที่ฉินห่าวเหวิน

ฉินห่าวเหวิน ยิ้มและมอบกล่องที่เหลือให้ จี้ซีอัง “ถ้าคุณชอบ ไว้ฉันกลับไปแล้วจะส่งมาให้คุณอีกนะ”

เสียงของ จี้ซีอัง ชัดเจนและสดใส “ขอบคุณครับคุณลุง”

“น้องสาวจ๊ะ เรื่องทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณคุณมากนะ ฉันได้ยินจากมู่เชิงว่าถ้าไม่ใช่เพราะคุณ…” เชิงซู่ฉิน พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความสะเทือนใจ

หลี่ซู่ ก็เป็นแม่เช่นกัน ดังนั้นเธอจึงเข้าใจความรู้สึกของเชิงซู่ฉินได้เป็นอย่างดี

เธอจับมือของ เชิงซู่ฉิน “พี่คะ ได้โปรดอย่าพูดอย่างนั้น เราไม่ได้ทำอะไรเลย มู่เชิงเขาเป็นเด็กฉลาดมากเลยนะคะ”

เชิงซู่ฉินโบกมือให้ จี้หยวนหยวน ซึ่งยืนอยู่ข้างหลี่ซู่

จี้หยวนหยวนมองดูแม่สามีของเขาเมื่อชาติที่แล้ว และอดไม่ได้ที่จะยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

เชิงซู่ฉินเป็นคนดีมาก ก่อนที่สามีของเธอจะจากไป เธอทำดีกับจี้หยวนหยวนมาโดยตลอด

"หนูชื่ออะไรจ๊ะ?" เชิงซู่ฉิน ถามอย่างอ่อนโยน

“หนูชื่อ จี้หยวนหยวนค่ะคุณป้า”

“คุณป้าไม่มีลูกสาว หนูมาเป็นลูกสาวของคุณป้าได้มั้ยจ๊ะ” หลังจากพูดอย่างนั้นออกไปโดยไม่รอฟังคำตอบของจี้หยวนหยวน… เธอก็มองไปยังหลี่ซูด้วยรอยยิ้ม  “น้องสาว นี่มันคงเป็นพรหมลิขิตของครอบครัวพวกเรานะ ฉันหมายถึงว่าทำไมเราไม่รับเธอเป็นลูกสาวบุญธรรมของเรา จากนี้ไปเราจะได้เป็นเหมือนญาติพี่น้องกันไงละ”

หลี่ซู่ รู้สึกท่วมท้นกับความเมตตาที่หยิบยื่นให้เธอกับลูก เห็นได้ชัดว่าครอบครัวนี้ร่ำรวยหรือไม่ก็เป็นชนชั้นสูง แต่พวกเขากำลังต้องการที่จะผูกสัมพันธ์เป็นเครือญาติกับหญิงหม้ายอย่างเธอในฐานะพ่อแม่อุปถัมภ์...

จี้หยวนหยวนแอบต่อต้านในใจ “โอ้!! ไม่นะ.. ฉันไม่อยากเป็นลูกบุญธรรมของคุณ ฉันอยากเป็นสะใภ้ของคุณในอนาคตต่างหาก”

จี้ซีอังยัดช็อคโกแลตเต็มปากแล้วพูดพึมพำขึ้นมาว่า “ทำไมไม่ให้พวกเขาหมั้นกันไว้ล่ะ? น้องสาวของฉัน เขาชอบมู่เชิงนะ”

คำพูดของ จี้ซีอัง ทำให้ทุกคนหัวเราะ หลี่โหย่งยิ้มและส่ายหัวเบาๆ “เจ้ายังเด็กอยู่.. รู้ไหมว่าความชอบคืออะไร”

จีซีอังเอียงหัวและดูจริงจังมาก “จริง ๆนะ หยวนหยวนมองเขามาตลอด เขาหล่อมาก ถ้าฉันเป็นผู้หญิงฉันก็อยากได้เขาเหมือนกัน”

ใบหน้าของ ฉินมู่เชิง เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นทันที ไม่มีใครรู้ว่าเขาเขินอายหรือโกรธกันแน่

แต่อย่างไรก็ตาม จี้หยวนหยวนยกนิ้วให้จี้ซีอังขึ้นในใจ อย่างที่คาดไว้พี่รองของฉัน เขาช่างรู้ใจฉันซะจริงๆ

ชายชรารู้สึกขบขันกับคำพูดของจี้ซีอัง เขาหัวเราะออกมาดัง ๆ “ถ้าอย่างนั้น เรามาทำแบบนี้กันเถอะ มาทำพิธีหมั้นเด็กๆกันเถอะ ในอนาคตเราจะได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น”

หลี่ซูตกใจ “เรื่องนั้นมันจะไม่…”

แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงผู้หญิงในชนบท จึงมีหลายสิ่งหลายอย่างติดอยู่ในใจของเธอ

ครอบครัวของเราเป็นเพียงครอบครัวธรรมดาในชนบท แต่อีกฝ่ายเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ครอบครัวธรรมดา

หากพวกเราปฏิเสธมิตรภาพของพวกเขาในเรื่องนี้ จะต้องขุ่นเคืองใจกันในอนาคตแน่นอน

“หยวนหยวน คุณชอบพี่มู่เชิงไหม?” เฉิงซู่ฉิน คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถาม

จี้หยวนหยวนพยักหน้าอย่างแข็งขัน “หนูชอบค่ะ”

เชิงซู่ฉิน มองไปที่ ฉินมู่เชิง อีกครั้ง “มู่เชิง คุณชอบน้องสาวคนนี้ไหม”

ฉินมู่เชิงเม้มริมฝีปากและมองดูจี้หยวนหยวนอย่างระมัดระวังก่อนที่จะพยักหน้า

เขาชอบน้องสาวตัวน้อยที่น่ารักคนนี้

แน่นอนว่า ฉินมู่เชิง ยังเด็กมาก ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่ามันเป็นความชอบหรืออย่างอื่น

เชิงซู่ฉิน มองไปที่ หลี่ซู่ ด้วยรอยยิ้ม “น้องสาว ฉันรู้ว่าคุณกังวลเรื่องอะไร ปัจจุบันนี้ การมีอิสระในเรื่องของความรักเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ความชอบของเด็กๆ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ตอนนี้ลูกทั้งสองคนชอบพอกันก็ขอหมั้นกันไว้ก่อนเถอะ  ถ้าในอนาคตฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ชอบอีกฝ่ายหรือมีคนอื่นที่ตนชอบมากกว่า ก็ให้เรามาเป็นพ่อแม่บุญธรรมแทน และเราจะไม่บังคับให้พวกเขาต้องอยู่ด้วยกัน  เป็นอย่างนี้ดีมั้ยล่ะ?”

หลี่ซู่ ยังคงลังเล ขณะที่เธอมองไปที่ จี้หยวนหยวนด้วยสีหน้าอึดอัดใจ

เธอไม่คาดคิดว่าลูกสาวของเธอจะได้แต่งงานกับบุคคลที่โดดเด่นเช่นนี้ในอนาคต ตราบใดที่หยวนหยวนจะมีความสุขตลอดไป นั่นก็เพียงพอแล้ว

ฉินเสี่ยวหมิ่นรู้ดีอยู่แล้วว่า หลี่ซู่กำลังกังวลเรื่องอะไร อย่างไรก็ตามนี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก เธอแทบจะรอไม่ไหวที่จะตกลงในนามของ หลี่ซู่ ในตอนนี้

แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะมีนามสกุลฉิน แต่ฉินของครอบครัวพวกเขาก็แตกต่างจากฉินของ ฉินมู่เชิง

ตระกูลฉินมีมรดกสืบทอดกันมาหลายร้อยปี ใครๆ ก็รู้ว่าครอบครัวของพวกเขาร่ำรวยขนาดไหน

สาขาของฉินมู่เชิงเป็นสาขาหลัก ความมั่งคั่งที่สะสมของตระกูลฉินมาตั้งแต่สมัยโบราณล้วนอยู่ในสาขานั้น

และพวกเขาก็เป็นเพียงกิ่งก้านสาขาเท่านั้น เนื่องจากพวกเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลฉิน พวกเขาจึงติดต่อกันตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ชายชราเดินทางไปแล้วทั่วโลก เขาไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อนเลย? โดยธรรมดาแล้ว เขาสามารถอ่านใจของหลี่ซู่ได้

ชายชราพอใจกับครอบครัวนี้มากยิ่งขึ้น

เขาไม่โลภกระหายความมั่งคั่งและสถานะทางสังคม เขาคิดถึงลูกๆ ของเขาก่อนเสมอในทุกสิ่ง

"เอาตามนั้นแหละ... พวกคุณลองดูว่าอะไรที่พอจะใช้แลกเปลี่ยนแทนของหมั้นกันได้บ้าง  เรามาเป็นญาติกันเถอะนะ”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉินห่าวเหวินจึงถอดจี้หยกที่คอของฉินมู่เชิงออกทันที “ใช้สิ่งนี้ก็แล้วกัน”

จากนั้นเขาก็เดินไปใส่ไว้ที่คอของจี้หยวนหยวน “พี่ชายของคุณมู่เชิง เขาสวมใส่สิ่งนี้มาตั้งแต่เขายังเด็ก มันสามารถรับประกันให้คุณได้ในอนาคต”

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลี่โหย่งก็รีบเดินไปข้างหน้าและผลักหลี่ซู “พี่สาว หยวนหยวนมีอะไรให้กับเขา?”

หลี่ซู่ กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้งและรู้สึกกังวล

ไม่มีสิ่งใดที่มีค่าบนร่างกายของจี้หยวนหยวน

เชิงซู่ฉินมองเห็นเมล็ดลูกพีชบนข้อมือของจี้หยวนหยวนอย่างรวดเร็ว

เธอยิ้มและพูดว่า “แล้วถ้าเป็นสิ่งนี้ล่ะ? เป็นการดีที่จะได้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลี่โหย่ง ก็รีบถอดมันออกแล้ววางลงบนมือของ ฉินมู่เชิง

จี้หยวนหยวนมองดูจี้หยกที่คอของเธอและเหม่อลอยไปชั่วขณะ

จี้หยกนี้เคยสวมไว้ที่คอของเธอเมื่อชาติที่แล้ว

ในวันที่สอง หลังงานแต่งงาน ฉินมู่เชิงมอบมันให้กับเธอโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว

มันเป็นสิ่งที่เขาใส่มาตั้งแต่เด็กเหรอ?

ฉินมู่เชิงถือเมล็ดลูกพีชเล็กๆ ไว้ในมือและแอบมองไปที่จี้หยวนหยวน

แต่เมื่อจี้หยวนหยวนหันมา เขาก็ก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว

เช่นเดียวกับภรรยาตัวน้อย จี้หยวนหยวนเม้มริมฝีปากลงขณะที่กำลังครุ่นคิด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด