ตอนที่แล้วระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 208 การรุกรานจากแคว้นพุทธ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 210 มุมมืด

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 209 หลัวโหย่วเฉียน


ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 209 หลัวโหย่วเฉียน

"บรรพบุรุษ???"

หลังจากได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ทำให้เขารู้สึกใกล้ชิดเป็นอย่างมาก

หลัวเหรินก็รีบเงยหน้าขึ้น

มองไปยังทิศทางที่มาของเสียง

ไม่ผิดแน่ หลัวจิ่วเกอผู้ดำรงตำแหน่งบรรพบุรุษตระกูลหลัว มีพลังเหนือจินตนาการ

ในตอนนี้กำลังสวมเสื้อคลุมสีขาวธรรมดา คาดกระบี่ขึ้นสนิมไว้ที่เอว มือไพล่หลัง

ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ ยืนนิ่งสงบอยู่ในห้องนี้

"ไม่ได้พบกันนานจริง ๆ"

"ดูเหมือนว่าเจ้าจะเติบโตขึ้นมากทีเดียว"

เมื่อมองคนตรงหน้าที่ฐานพลังยุทธ์อยู่ในขอบเขตอมตะ 3 สวรรค์ สีหน้าต่างไปจากตอนพันปีก่อนที่ยังคงอ่อนเยาว์ กลายเป็นอาการสงบนิ่งในตอนนี้

เมื่อเห็นหลัวเหรินเช่นนี้ หลัวจิ่วเกอก็คาดเดาได้คร่าว ๆ ว่าในช่วงพันปีนี้คนผู้นี้คงมีความเจริญก้าวหน้าไม่น้อย

เช่นนี้แล้ว ในห้อง หลัวเหรินก็เล่าให้หลัวจิ่วเกอฟัง

จนเมื่อผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง

หลัวจิ่วเกอ บรรพบุรุษตระกูลหลัวจึงทราบเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนทวีปซวนหยวนในช่วงพันปีนี้ได้ในระดับหนึ่ง

ตลอดจนความขัดแย้งในมณฑลซุยอวิ๋น

รวมถึงที่เรียกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์พุทธศาสนาแห่งมณทลหนานหัวบนทวีปซวนหยวน

"ฮุ่ยหมิงหรือ?"

"ผู้บรรลุขอบเขตเทพหรือ???"

หลังจากพึมพำ หลัวจิ่วเกอก็ค่อย ๆ หันหลังหายไปจากห้องนี้

จนกระทั่งเขาเดินจากไปไกล ในห้องนี้ถึงจะดังขึ้นมาอีกครั้ง

"โจมตีต่อไปเลย!"

"ในเมื่อแคว้นพุทธแห่งมณฑลหนานหัวกล้าโจมตีตระกูลหลัวของเรา ข้าก็จะทำให้พวกมันต้องจ่ายค่าเสียหายอย่างแน่นอน"

"ส่วนฮุ่ยหมิงหรือ?"

"ให้ข้าจัดการเอง!!!"

เสียงหลัวจิ่วเกอดังก้องช้า ๆ

ในห้องที่เริ่มว่างเปล่า ณ อาณาเขตตระกูลหลัว

จ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบัน หลัวเหรินนั่งอยู่บนตำแหน่งจ้าวตระกูล

ในตอนนี้ ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ

"แคว้นพุทธแห่งมณฑลหนานหัว?

"ถึงเวลาที่จะจัดการเจ้าแล้ว!!!"

แต่ก่อน เพราะฮุ่ยหมิง ประกอบกับบรรพบุรุษตระกูลหลัวหลัวจิ่วเกอหายตัวไปตลอดพันปี ทำให้ตระกูลหลัวยังต้องอดทนอดกลั้นจนถึงตอนนี้

แต่ในเมื่อบรรพบุรุษตระกูลหลัวกลับมาแล้ว

ตระกูลหลัวต้องทนต่อไปอีกเพื่อเหตุใด?

แคว้นพุทธแห่งมณฑลหนานหัว??

ถูกขนานนามว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์พุทธศาสนา???

คราวนี้ตระกูลหลัวอยากจะลองดูว่าในท้ายที่สุดแล้วแคว้นพุทธ หรือว่าตระกูลหลัวจะเหนือกว่ากัน!!!!

อีกไม่นาน หลัวเหรินก็เรียกประชุมตระกูลหลัว

เปิดการประชุมเรื่องมณฑลซุยอวิ๋น

ในความคิดเห็นเดียวกันของเหล่าผูบริหารระดับสูงของตระกูลหลัว รวมถึงจ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบันหลัวเหริน ตระกูลหลัวและราชวงศ์หลัวก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง

ผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนจำนวนมหาศาลถูกเรียกระดมพลังอย่างต่อเนื่อง

เรือเหาะเป็นจำนวนมาก?

ปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่นที่ 1?

ปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่นที่ 2?

ปืนใหญ่ถล่มฟ้ารุ่นที่ 3?

รวมถึงทรัพยากรสงครามมากมายเหลือคณานับ ล้วนถูกตระกูลหลัวทยอยนำออกมาใช้

กลิ่นอายสงครามกำลังก่อตัวขึ้นอย่างแผ่วเบา

ในลานหรูหราที่อาณาเขตตระกูลหลัว

มีหนุ่มน้อยร่างอวบท่าทางเกียจคร้านกำลังหรี่ตาเล็กน้อย และนั่งเงียบ ๆ ใต้ศาลาหิน เหมือนกำลังเพลิดเพลินกับความสงบในช่วงเวลานี้

"ลูกเอ๋ย"

"เจ้าไม่ร้อนใจบ้างหรือ?"

"การคัดเลือกจ้าวตระกูลหลัวคนต่อไปกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า"

"เจ้าไม่ได้ตั้งเป้าหมายเป็นจ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบันหรือ?"

"แล้วเหตุใดตอนนี้เจ้าถึงได้สบายใจถึงเพียงนี้?"

"พวกคู่แข่งของเจ้า ตอนนี้กำลังพยายามเพิ่มความได้เปรียบให้ตัวเองอยู่!!!"

เสียงร้อนรนดังก้องขึ้น

ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วน

ตอนนี้กำลังแสดงสีหน้าร้อนรนกระวนกระวาย ยืนอยู่ด้านหลังของชายหนุ่ม พูดไม่หยุดปาก

อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มผู้นี้ดูเหมือนว่าจะยังไม่ใส่ใจต่อเรื่องนี้อยู่ดี

"ท่านพ่อ ท่านรับรู้ถึงกลิ่นอายอันรุนแรงนั่นหรือไม่?"

ทันใดนั้น ชายหนุ่มรูปร่างอวบท่าทางเกียจคร้านก็ถามขึ้นมา

"กลิ่นอายอะไรกัน?"

"ลูกพูดอะไรกันแน่?"

"เหตุใดช่วงนี้ชอบพูดจาไม่เข้าท่าอยู่เรื่อยเลย???"

ชายวัยกลางคนว่าไม่เข้าใจอะไรเลย

"ท่านพ่อ สงครามกำลังจะเกิด.."

"พวกเราต้องเตรียมตัวแล้ว!!!"

ทันใดนั้น ชายหนุ่มรูปร่างอวบท่าทางเกียจคร้านก็พูดขึ้นอีกครั้ง

"สงคราม???"

ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนได้ยินคำพูดนี้ คิ้วก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

ในใจเขายิ่งสงสัยมากขึ้น

สงครามอะไรกัน?

เหตุใดถึงบอกว่าสงครามกำลังจะเกิด??

สงครามระหว่างใครกับใคร???

ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนในใจเต็มไปด้วยคำถาม แต่เมื่อมองท่าทางเอาแต่ใจของบุตรชาย เขาก็คงจะไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน

"เฮ้อ เช่นนั้น เรื่องการคัดเลือกจ้าวตระกูลหลัวคนต่อไป เจ้าก็ทำอย่างที่เจ้าคิดแล้วกัน"

"ข้าไม่ขอยุ่งด้วยแล้ว"

หลังพูดจบ

ชายวัยกลางคนก็ถอนหายใจ แล้วหันหลังเดินออกไปจากลานหรูหรานี้อย่างช้า ๆ

ส่วนชายหนุ่มที่นั่งนิ่งใต้ศาลาหิน รูปร่างอวบเล็กน้อย ในขณะนี้ก็ลืมตาฉลาดหลักแหลมของเขาขึ้น

ในดวงตา ความเจิดจ้ากระจ่างชัดเจน

"บรรพบุรุษตระกูลกลับมาแล้วหรือ?

"ดังนั้นจ้าวตระกูลจึงมีความมั่นใจที่จะสู้กับพวกลาหัวล้านแล้วหรือ???"

เขาเอ่ยเสียงเบา

เขาค่อย ๆ ปิดดวงตาอีกครั้ง

ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ

สงคราม?

เช่นนั้น ย่อมต้องมีการสูญเสียจำนวนมาก

หลังสงครามจบลง

แน่นอน ย่อมต้องใช้ทรัพยากรและเศรษฐกิจจำนวนมหาศาลเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเจริญก้าวหน้า

"ดูเหมือนจะได้กำไรมหาศาลอีกแล้ว..."

"ดีจริง ๆ"

"หากรวบรวมเงินได้เพียงพอ ค่อยไปติดสินบนพวกผู้อาวุโสบางคน ตำแหน่งจ้าวตระกูลหลัวคนต่อไปก็จะตกมาอยู่ในมือข้าเองหรือไม่???"

ชายหนุ่มอ้วนครุ่นคิดในใจเช่นนี้ไว้

ส่วนการกระทำแบบนี้จะสมเหตุสมผลหรือไม่

ตามปกติก็ย่อมไม่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว

แต่หากเป็นในโลกที่เย็นชาและเต็มไปด้วยความจริงนี้ การทำเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ยิ่งไปกว่านั้น...

คำพูดของบรรพบุรุษที่มีพลังเหนือจินตนาการของเขา

เขาก็เข้าใจอยู่บ้าง

[หากอยากที่จะดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้ดีขึ้น ก็จำเป็นต้องทิ้งความเมตตาที่ไร้ประโยชน์ในใจไป ไม่เช่นนั้น... สักวันหนึ่งจะต้องได้รับผลร้ายจากความเมตตาในใจตัวเองแน่]

นี่คือคำพูดเต็มไปด้วยคติธรรมที่มาจากบรรพบุรุษผู้มีพลังเหนือจินตนาการของเขา

เขาที่รู้ดีถึงความโหดร้ายทารุณของโลกนี้

แน่นอน ก็ยึดถือคำพูดนี้เป็นความเชื่อของตัวเองเช่นกัน

ดังนั้น...

ในเมื่อบรรพบุรุษตระกูลก็ทำถึงเพียงนี้แล้ว หากเขาสามารถซื้อใจพวกผู้อาวุโสพวกนั้นได้จริง ๆ

คิดว่า นี่ก็ไม่ใช่การกระทำที่ผิดกฎอะไร

ส่วนชายหนุ่มอ้วนผู้นั้น?

เขาชื่อหลัวโหย่วเฉียน เขาถือว่าเป็นตัวเต็งการชิงตำแหน่งจ้าวตระกูลหลัวคนใหม่ในครั้งนี้

แม้ฐานพลังยุทธ์จะไม่สูงมาก

ความสามารถด้านผู้นำก็เทียบกับจ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบันหลัวเหริน และจ้าวตระกูลหลัวคนก่อนหลัวเหิงไม่ได้ด้วยซ้ำ

แต่หากว่าด้วยเรื่องความสามารถในการหาเงิน

ในตระกูลหลัวแล้ว หากเขายอมรับว่าตนเป็นรอง เชื่อว่าไม่มีใครในตระกูลหลัวกล้าอ้างตัวเป็นที่หนึ่ง

นี่คือความมั่นใจในการชิงตำแหน่งจ้าวตระกูลหลัวคนใหม่ของเขา!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด