ตอนที่แล้วระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 205 แผนการบูรณะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 207 กายากระบี่โกลาหล

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 206 ปิดด่าน


ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 206 ปิดด่าน

ภายในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายโบราณ และปราณพุทธะในแคว้นพุทธ มณฑลหนานหัว ทวีปซวนหยวน

ในเวลานี้ ฮุ่ยเจิน เจ้าอาวาสคนปัจจุบันแห่งแคว้นพุทธกำลังหลับตาพริ้ม นั่งนิ่งอยู่บนเบาะนั่งนุ่มนิ่ม มือซ้ายกำลูกประคำ ปากท่องบทสวดอย่างต่อเนื่อง

"เจ้าอาวาส"

"กองทัพมนุษย์เงือกหมื่นล้านถูกทำลายลงในเขตแดนมณฑลตงหวง"

"มณฑลซุยอวิ๋นถูกตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวงยึดครอง"

"มณฑลเซวียนหมิงถูกตระกูลซวนหยวนแห่งมณฑลจงยึดครอง"

ภายในพระราชวังที่จุดด้วยเทียนมากมาย

พระภิกษุวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังเอ่ยบอกข้อมูลเหล่านี้ที่ข้างหูของฮุ่ยเจิน เจ้าอาวาสคนปัจจุบันแห่งแคว้นพุทธ

"กองทัพมนุษย์เงือกหมื่นล้านถูกทำลายลงในเขตแดนมณฑลตงหวง?"

"มณฑลซุยอวิ๋นถูกตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวงยึดครอง?"

"มณฑลเซวียนหมิงถูกตระกูลซวนหยวนแห่งมณฑลจงยึดครอง???"

ได้ยินเช่นนั้น ฮุ่ยเจินจึงค่อย ๆ ลืมตาที่หลับพริ้มอยู่ขึ้นมา

ดวงตาที่ดูขุ่นมัวเมื่อครู่ บัดนี้กลับวาบประกายเย็นเยียบ และน่าขนลุกขึ้นมาในพริบตา

"ข้าเข้าใจแล้ว"

"เจ้ากลับไปก่อนเถิด..."

ฮุ่ยเจินโบกมือ แล้วจึงหลับตาลงอีกครั้ง พลางเล่นลูกประคำในมือ ปากก็ยังคงสวดบทสวดไม่หยุดหย่อน

รอจนกระทั่งพระภิกษุวัยกลางคนผู้นั้นออกจากพระราชวังไป

ฮุ่ยเจินเจ้าอาวาสคนปัจจุบันแห่งแคว้นพุทธในมณฑลหนานหัวจึงลืมตาอีกครั้ง

เห็นได้ว่าเขายืนขึ้นอย่างช้า ๆ ก้มหน้ามองไปทางมณฑลตงหวงและมณฑลจง ครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นรอยยิ้มเย็นชาก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าเหี่ยวย่นของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว

"ตระกูลซวนหยวน แห่งมณฑลจง?"

"ขุมอำนาจนี้สามารถทิ้งไว้ก่อน แต่ตระกูลหลัว จ้าวเหนือหัวคนใหม่ของมณฑลตงหวงนั่น..."

"หรือจะลองวางแผนสักเล็กน้อยดีหรือไม่!!!"

เขาพึมพำเบา ๆ

ฮุ่ยเจิน เรียกพระภิกษุแห่งแคว้นพุทธระดับกึ่งเทพอีกหลายรูปเข้ามา ออกคำสั่งบางอย่าง

พระภิกษุเหล่านั้นก็หายตัวไปจากพระราชวังทีละรูป

เคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ไปทางมณฑลตงหวง

"มณฑลตงหวง..."

"ตระกูลหลัว..."

"สามารถทำให้กองทัพมนุษย์เงือกหมื่นล้านสูญเสียไปได้ แน่นอนว่าต้องมีกำลังไม่อ่อนแอ"

"แต่ถึงอย่างนั้น ก็จะเป็นอย่างไรเล่า?"

"บางครั้ง การครอบครองสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเองก็อาจทำให้เอาชีวิตไม่รอดได้เหมือนกัน!!!"

เมื่อพูดจบ พระภิกษุแห่งแคว้นพุทธผู้สวมจีวร กำลูกประคำในมือ เจ้าอาวาสคนปัจจุบันของแคว้นพุทธในมณฑลหนานหัว ก็กลับมานั่งบนเบาะนุ่มอีกครั้ง

หลับตาลงอีกหน ริมฝีปากก็เริ่มสวดบทสวดมนต์อีกรอบ

การสูญสิ้นของกองทัพมนุษย์เงือกหมื่นล้านอย่างกะทันหันทำให้ฮุ่ยเจินเจ้าอาวาสคนปัจจุบันของแคว้นพุทธในมณฑลหนานหัวค่อนข้างประหลาดใจ

ตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวง?

ตระกูลซวนหยวนแห่งมณฑลจง?

สองขุมอำนาจนี้ถล่มกำลังออกมาอย่างฉับพลัน นับว่าเหนือความคาดหมายของฮุ่ยเจินไปมากโข

แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นอย่างไรเล่า???

สำหรับแคว้นพุทธที่ตั้งมั่นในมณฑลหนานหัว

ดำรงอยู่และพัฒนาเติบโตบนทวีปซวนหยวนมาเกินหลายแสนปีแล้ว

ตระกูลหลัวมณฑลตงหวง???

ขุมอำนาจหน้าใหม่เท่านั้น ถึงแม้จะมีผู้บำเพ็ญเพียรที่ได้บรรลุถึงขอบเขตเทพชั้นต่ำหนึ่งคน แต่แคว้นพุทธแห่งมณฑลหนานหัวก็สามารถขยี้พวกเขาได้อย่างง่ายดาย

ตระกูลซวนหยวนแห่งมณฑลจง???

ถึงแม้ว่าเมื่อแสนปีที่แล้ว ขุมอำนาจนี้จะปกครองมณฑลทั้งสิบสามทั่วทวีปซวนหยวนก็ตาม

แต่แล้วอย่างไร?

รุ่งเรืองแล้วเสื่อมถอย ตระกูลซวนหยวนในปัจจุบันก็เป็นเพียงตระกูลที่เสื่อมโทรมไปแล้ว ดังนั้นแคว้นพุทธแห่งมณฑลหนานหัวจะเกรงกลัวพวกเขาเพื่อเหตุใดกัน???

ส่วนเหตุผลที่เลือกตระกูลหลัวแห่งมณฑลตงหวงแทนที่จะเป็นตระกูลซวนหยวนแห่งมณฑลจง

มีคำตอบเดียวเท่านั้น...

แน่นอนว่าต้องเลือกคนที่บีบบังคับง่ายกว่า!!!

ภายในราชวังเผ่ามนุษย์เงือกใต้ท้องทะเลในบริเวณพรมแดนมณฑลซุยอวิ๋น ซึ่งซ่อนอยู่ในแดนลับที่น้อยคนจะรู้จัก มนุษย์เงือกขอบเขตเทพชั้นต่ำระดับกลางคนหนึ่งปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทองทั่วร่าง กำลังนั่งขัดสมาธิข้างรอยแยกเล็ก ๆ ที่กว้างราว 3 เมตร ดูดซับกลิ่นอายปีศาจที่แผ่ออกมาจากรอยแยกนั้นไม่หยุดหย่อน

ทว่า เวลาผ่านไป ราวครึ่งชั่วโมงให้หลัง มนุษย์เงือกเกล็ดสีทองขอบเขตเทพชั้นต่ำระดับกลางก็ลืมตาที่แดงกล่ำขึ้นมาฉับพลัน

"ลูกของข้า..."

"ตายไปแล้วหรือ???"

หลังจากมองไปยังทิศทางหนึ่ง กลิ่นอายอำมหิตของมนุษย์เงือกก็พวยพุ่งขึ้นฟ้าทันใด

น้ำทะเลรอบด้านก็ปั่นป่วนขึ้นมาในเวลานี้ด้วย

"ใครกัน?"

"เป็นใครกันแน่??"

"ใครกันที่กล้าทำร้ายลูกของข้า???"

เสียงเย็นเยียบแหบพร่าดังก้องขึ้นมาจากแดนลับนี้

แต่ไม่นานนักเสียงก็เงียบหายไป

เพราะปล่อยวางความแค้นหรือ?

แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ เซิงต้าจี๋ ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของเผ่ามนุษย์เงือกเพียงแค่ปิดด่านครู่หนึ่ง แล้วก็พบว่าบุตรชาย 2 คนที่มีก็ถูกกำจัดไปหมดแล้ว

อีกทั้งสายเลือดราชวงศ์เผ่ามนุษย์เงือกก็ยากจะสืบทอดเป็นอย่างมาก

ความแค้นเช่นนี้จะทิ้งได้อย่างไร?

ที่เสียงเงียบลง กลิ่นอายชั่วร้ายพุ่งฟ้าก็หายไปในชั่วพริบตา มีเหตุผลเดียวเท่านั้น...

ภายในรอยแยกเล็ก ๆ กว้างราว 3 เมตรนั้น

มีสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวเกินกว่าจะบรรยายได้ ซึ่งสามารถบดขยี้เซิงต้าจี๋ได้อย่างง่ายดายกำลังกวาดสายตามาที่นี่

เวลาล่วงเลยไป กระทั่งผ่านไปอีก 3 วัน หลังจากสายตาจับจ้องนั่นจางหายไป

เซิงต้าจี๋ผู้แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามนุษย์เงือก และเป็นจ้าวเผ่ามนุษย์เงือกคนปัจจุบัน จึงค่อย ๆ ถอนหายใจโล่งอก

เห็นได้ว่ามันลุกขึ้นยืน ตาที่ค่อนข้างแดงกล่ำหรี่ลงเล็กน้อย จับจ้องไปยังทิศทางหนึ่ง นั่นก็คือทิศทางที่หลัวจิ่วเกออยู่ แล้วเงียบไปราวชั่วครู่

เซิงต้าจี๋นั่งขัดสมาธิลง

หลับตาอีกครั้ง

แค้นนี้ต้องชำระ!

แต่ไม่ใช่เวลานี้ ตอนนี้เซิงต้าจี๋ผู้แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามนุษย์เงือก  รวมถึงเป็นจ้าวเผ่ามนุษย์เงือกคนปัจจุบัน

เรื่องสำคัญที่สุดคือการบำเพ็ญตนจนถึงขอบเขตเทพชั้นต่ำระดับสมบูรณ์

เมื่อถึงเวลาที่เซิงต้าจี๋บำเพ็ญตนสำเร็จจนถึงขอบเขตเทพชั้นต่ำขั้นสมบูรณ์ นั่นก็จะเป็นวันที่เขาล้างแค้น และเป็นยุคสมัยที่ทวีปซวนหยวนเปลี่ยนเจ้าของอย่างแท้จริง

ที่เมืองขนาดมหึมาแห่งหนึ่งบริเวณพรมแดนมณฑลตงหวง

หลัวจิ่วเกอผู้เดินทางอยู่ในถิ่นถุรกันดารขมวดคิ้วขึ้นมาฉับพลัน

เพราะเมื่อครู่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า มีจิตสำนึกกำลังจ้องมองมายังทิศทางที่เขาอยู่ แต่ดูเหมือนจะเป็นเพราะสาเหตุบางอย่าง จิตสำนึกนั้นจึงสลายไปในทันที

"จิตสำนึกไม่อ่อนแอกว่าเทพชั้นต่ำระดับต้น"

"จะเป็นใครกันนะ???"

เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย ครุ่นคิดครู่หนึ่ง

หลัวจิ่วเกอไม่ยอมครุ่นคิดเรื่องนี้อีก

ตอนนี้ มณฑลซุยอวิ๋นถูกตระกูลเขายึดครอง มณฑลเซวียนหมิงกลายเป็นของตระกูลซวนหยวน

สถานการณ์ทั่วทั้งทวีปซวนหยวนถึงจะดูสงบนิ่งอยู่ในเวลานี้ แต่จริง ๆ แล้ว หลัวจิ่วเกอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าระยะห่างจากยุคแห่งความโกลาหลอันแท้จริงของทวีปซวนหยวนเหลืออีกไม่ไกลแล้ว

"ยังคงต้องแข็งแกร่งกว่านี้!"

"พลังขอบเขตเทพชั้นต่ำระดับต้น ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ"

หลัวจิ่วเกอหรี่ตาลง รับรู้กำลังภายในร่างกายที่มหาศาลแต่ดูเหมือนจะไม่พออีกต่อไปนั้น

ดวงตาของเขาเริ่มเผยความปรารถนาในพลังกำลังออกมา

"ดูท่าจะต้องปิดด่านซักพักแล้วกระมัง"

เขาส่ายหน้า

หลัวจิ่วเกอขจัดอารมณ์อื่น ๆ ในใจออกไป แล้วก็เดินไปยังทิศทางอาณาเขตตระกูลหลัวอย่างเชื่องช้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด