ฝูงมอนสเตอร์นับร้อยตัว! การต่อสู้ที่ยากลำบาก (อ่านฟรี 02/08/2567)

“เกิดอะไรขึ้น! ทำไมพื้นมันสั่นแบบนี้?” มีเสียงโวยวายังขึ้นมาท่ามกลางแผ่นดินไหล

“รีบออกจากที่พักกันก่อน! เก็บของมีค่าที่จำเป็นแล้วหนี!” ใครบางคนตะโกนแนะนำออกมา

ในเวลานี้นักผจญภัยทุกคนต่างเอาตัวรอดอย่างทุลักทุเล ยิ่งกับคนที่เพิ่งจะตื่นนอนยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ เพราะว่าร่างกายยังปรับสภาพไม่ทัน

ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่ใช่นักผจญภัยมืออาชีพที่กินนอนอยู่กลางดันเจี้ยนตลอดเวลา จึงไม่ได้มีประสบการณ์ในการเฝ้าระวังหรือตื่นตัวตอนนอนมากขนาดนั้น

“จัดขบวนเร็วเข้า! มีมอสเตอร์บุกมานับร้อยตัวเลย!!” มีเสียงของใครบางคนตะโกนออกมา สร้างความตื่นตกใจให้นักผจญภัยทุกคนเป็นอย่างมาก

แต่ถึงพวกเขาจะตื่นตกใจแต่ก็สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้ในเวลาไม่นาน เพราะถ้าพวกเขาไม่มีสติก็ต้องตายอย่างแน่นอน!

ในเวลานี้นักผจญภัยของทั้งสองกลุ่มที่มีสมาชิกรวมกันทั้งหมดห้าสิบคนพากันเก็บของและจัดรูปขบวนอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นเพียงการจัดขบวนแบบหละหลวมแต่ก็นับว่าพอใช้ได้แล้วในสถานการณ์เช่นนี้

“พวกมันมีมอนสเตอร์ระดับสาม สิบตัว มอนสเตอร์ระดับสอง สามสิบตัว มอนสเตอร์ระดับหนึ่ง หกสิบตัว!” หญิงสาวคนหนึ่งที่มีอาชีพเป็นผู้เฝ้ามองกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

อาชีพของเธอไม่ได้มีประโยชน์ในการต่อสู้ด้วยตนเอง แต่มีประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้แบบในเจี้ยนหรือหอคอยในฐานะแนวหลัง เพราะทักษะของเธอส่วนใหญ่จะเป็นการสังเกตพื้นที่ สังเกตมอนสเตอร์ ตรวจเช็คสิ่งที่หลบซ่อนอยู่ได้ ทำให้ทีมส่วนใหญ่ล้วนต้องการตัวผู้เฝ้ามองไม่น้อยกว่าผู้ที่มีทักษะในการรักษาเลยทีเดียว!

“ถอย! อย่าหยุดอยู่กับที่! ไม่งั้นพวกเราตายหมดแน่!” มีเสียงของชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา

การล่าถอยเป็นไปอย่างยากลำบาก พวกเขาพากันถอยไปด้วยแต่ก็สาดการโจมตีกลับไปด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากความรีบร้อนของการถอยหนีทำให้มีนักผจญภัยเริ่มได้รับบาดเจ็บบางส่วน แต่พวกเขาก็สามารถกำจัดมอนสเตอร์ระดับหนึ่งและสองไปได้หลายตัว

กลุ่มนักผจญภัยล่าถอยกันเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง จนในที่สุดพวกเขาก็พบเจอเข้ากับช่องแคบระหว่างภูเขาหินขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า

“ทุกคนเข้าไปในช่องแคบนั่นแล้วจัดขบวนต่อสู้กันใหม่! พวกเราจะใช้ทางแคบในการกำจัดพวกมอนสเตอร์ทีละตัว!” เสียงของชายที่ตะโกนสั่งการมาตลอดดังขึ้นอีกครั้ง เขาเป็นผู้ปลุกพลังที่ได้รับอาชีพนักวางแผนมาในครอบครอง อาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีทักษะเกี่ยวกับการสั่งการและมองภาพรวมของสนามรบ รวมถึงมีทักษะในการเพิ่มพลังของกองทัพอีกด้วย

เมื่อมีนักวางแผนและผู้เฝ้ามองอยู่คู่กันในทีมแบบนี้ มันก็ทำให้สถานการณ์ที่เสียเปรียบกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่สูสีได้อย่างน่าประทับใจ!

“จัดขบวน! ให้แทงค์สองคนดังมอนสเตอร์ระดับสามทีละหนึ่ง แทงค์สี่คอยดึงมอนสเตอร์ระดับหนึ่งและสองจำนวนมาก สุดท้ายแทงค์อีกสองคนให้ยืนอยู่กับกองหลังเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้!” ชายที่มีอาชีพนักวางแผนตะโกนสั่งการออกมา เขาเปิดใช้งานทักษะเพิ่มพลังของกองทัพห้าเปอร์เซ็นต์ไปด้วย

โชคดีที่หินทั้งสองข้างมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และมอนสเตอร์ระดับสามนั้นมีขนาดตัวที่ใหญ่จนเกินไป ทำให้พวกมันไม่อาจเข้ามาในช่องแคบพร้อมกันได้ ต้องผ่านเข้ามาทีละตัว ส่วนมอนสเตอร์ระดับหนึ่งและสองเนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่กว่ามนุษย์เพียงเล็กน้อยทำให้พวกมันถาโถมเข้ามาพร้อมกันได้

แต่ด้วยการจัดกองกำลังของนักวางแผน ทำให้แทงค์สามารถดังมอนสเตอร์ไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะส่วนใหญ่นักผจญภัยที่มีอาชีพแทงค์จะมีพลังชีวิตและพลังป้องกันที่มหาศาลอยู่แล้ว แถมยังมีทักษะยั่วยุที่ใช้ดึงมอนสเตอร์ได้อีกด้วย

การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด แม้จะมีการจัดรูปขบวนขึ้นมาแล้วแต่พวกเขาก็ไม่ได้ปักหลักอยู่กับที่ พวกเขาอาศัยการต้านรับแล้วโจมตีสวนกลับไป พร้อมกับค่อย ๆ ขยับขบวนทัพเดินหน้าไปเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน

“คุณคริสครับ! คุณช่วยจัดการมอนสเตอร์ระดับหนึ่งหน่อยได้ไหมครับ ?” ทวันซูที่กำลังดึงมอนสเตอร์ระดับหนึ่งกับสองเอาไว้นับสิบตัวกล่าวออกมา เขาจำได้ว่าคริสมีฝีมืออยู่ไม่น้อย น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระได้ อย่างน้อยก็ดีกว่าให้เขายืนแบกสัมภาระแล้วของหยิบของส่งให้

ครึ่งหลัง

“ได้ ข้าจัดการเอง” คริสกล่าวตอบรับอย่างว่าง่าย เพราะยังไงเขาก็อยากจะลองต่อสู้ดูอยู่แล้ว

คริสมองไปยังนักผจญภัยทั้งหมดในตอนนี้ เท่าที่เขาสังเกตและได้ยินมาจะมีแทงค์อยู่แปดคน นักสู้ระยะประชิดสิบห้าคน อาชีพโจมตีระยะไกลสิบคน นักเวทย์หกคน ฮีลเลอร์หนึ่งคน นักบุญหนึ่งคน หมอยาสองคน นักวางแผนหนึ่งคน ผู้เฝ้ามองหนึ่งคน คนแบกของห้าคน รวมทั้งสิ้นเป็นห้าสิบคนพอดี

ความจริงในตอนแรกมีจำนวนนักผจญภัยที่เยอะกว่านี้ แต่เป็นเพราะการต่อสู้อันยากลำบากทำให้มีคนตายไปเกือบสิบคนแล้ว ซึ่งศพของนักผจญภัยเหล่านั้นก็ถูกทิ้งไว้ตามทางอย่างไร้การเหลียวแล แต่มีสิ่งหนึ่งที่คริสสังเกตเห็นก็คือ ศพเหล่านั้นหลังผ่านไปไม่กี่นาทีพวกมันก็จมหายลงไปในทรายอย่างน่าประหลาดใจ!

“เฮ้! นายเป็นคนแบกกระเป๋าไม่ใช่เหรอ? มาทำอะไรตรงนี้กัน!” นักดาบคนหนึ่งที่กำลังต่อสู้อยู่กับมอนสเตอร์ระดับหนึ่งที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์กิ้งก่ากล่าวออกมาด้วยความตกใจ

เขาจำได้ว่าชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผู้นี้เป็นคนแบกกระเป๋าของอีกทีมหนึ่ง ถึงแม้สถานการณ์ในตอนนี้จะเสียเปรียบยังไงแต่การทำให้คนแบกกระเป๋าออกมาต่อสู้แบบนี้มันก็ไม่ต่างจากการส่งคนไปฆ่าตัวตายหรอก!

“ไม่ต้องห่วงข้า” คริสตอบกลับไปก่อนจะวิ่งเข้าหามอนสเตอร์ที่หลุดรอดมาได้อย่างรวดเร็ว

เนื่องจากคริสไม่มีอาวุธเลยสักชิ้น ชายหนุ่มจึงต่อสู้โดยมือเปล่าแทน เขาซัดหมัดเข้าใส่จุดต่าง ๆ ของมอนสเตอร์หมาป่าระดับหนึ่งที่วิ่งเข้ามาอย่างแรง เพียงการโจมตีธรรมดาไม่กี่ครั้งของคริสก็ทำให้มอนสเตอร์หมาป่าตายลง

นักผจญภัยที่เห็นการต่อสู้ของคริสก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่คนแบกของสามารถกำจัดมอนสเตอร์ระดับหนึ่งได้ด้วยมือเปล่า แต่เมื่อคิดดูอีกทีการที่นักผจญภัยแรงค์ F สามารถจัดการมอนสเตอร์ระดับหนึ่งได้ก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรนัก

มอนสเตอร์ส่วนใหญ่จะเป็นจำพวกแมลง สัตว์ป่า ไม่ว่าจะเป็นด้วง แมงป่อง ตะขาบ ตั๊กแตน หมาป่า กิ้งก่า มากมายเต็มไปหมด รวมถึงยังมีหนอนทรายที่มุดอยู่ในดินแล้วฉวยโอกาสพุ่งเข้าโจมตีที่ใจกลางของกลุ่มนักผจญภัย โชคดีที่ผู้เฝ้ามองและโจรสามารถตรวจจับมันได้ก่อน ทำให้สามารถรับมือได้ทันท่วงที

“จัดการพวกมอนสเตอร์ระดับสามก่อน! อย่าปล่อยให้มันหลุดมาได้!” นักวางแผนกล่าวออกมาหลังจากที่ประเมินสถานการณ์โดยรวมแล้ว

พวกเขาต่อสู้ไปด้วยพลางถอยไปด้วย พอมีคริสเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยก็ทำให้มอนสเตอร์ระดับหนึ่งถูกกวาดล้างอย่างง่ายดายทำให้นักผจญภัยที่เหลือสามารถทุ่มกำลังไปที่มอนสเตอร์ระดับสามได้อย่างเต็มที่

การโจมตีหลัก ๆ จะมาจากนักเวทย์ทั้งหกคนซึ่งประกอบไปด้วยนักเวทย์ไฟสองคน นักเวทย์น้ำ ลม น้ำแข็ง ดิน อย่างละหนึ่งคน โดยส่วนใหญ่จะโจมตีด้วยทักษะเวทมนตร์ที่ใช้งานด้วยนักเวทย์เพียงคนเดียว

แต่ก็จะมีการโจมตีที่ผสานทักษะทำให้พลังทำลายรุนแรงขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ให้นักเวทย์ลมยิงบอลเวทย์ธาตุลมไปก่อนแล้วค่อยให้นักเวทย์ธาตุไฟยิงบอลไฟเข้าไปผสม ก่อให้เกิดเป็นพายุเพลิงที่มีพลังทำลายล้างที่รุนแรงและเป็นวงกว้างอีกด้วย

‘พลังทำลายรุนแรงมาก ถ้าข้าโดนเข้าไปคงได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง’ คริสที่กำลังต่อสู้อยู่แต่ก็เก็บข้อมูลทุกอย่างเอาไว้ในหัวอย่างไม่ตกหล่น

ด้วยความที่สเตตัชส่วนใหญ่ของชายหนุ่มอยู่ที่แรงค์ D ทำให้การโจมตีของนักผจญภัยในทีมที่เป็นเพียงแรงค์ E ทำความเสียหายให้กับเขาได้ไม่มากนักแต่การโจมตีผสานเช่นนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มได้เปิดหูเปิดตาเช่นกัน