บทที่ 30 ขยายไร่วิญญาณ
แม้ว่าจับปลาหางฟ้าวิญญาณมาได้แล้ว และสามารถเลี้ยงได้ แต่ความสามารถในการเลี้ยงสัตว์ของลู่เสวี่ยเหลียนก็ยังถือว่าเป็นมือใหม่ การเพาะเลี้ยงพวกมันค่อนข้างยุ่งยาก ต้องลองผิดลองถูกว่าจะเลี้ยงอย่างไร กระบวนการนี้ต้องใช้เวลา
ก็ยังดีอยู่บ้าง แม้ว่าในปีแรกจะสร้างรายได้ไม่มาก เพียง 65 ก้อนหินวิญญาณ แต่การสร้างอุตสาหกรรมใหม่อย่างการเพาะเลี้ยงปลาวิญญาณ ในช่วงแรกไม่ขาดทุนก็ถือว่าดีแล้ว
หนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็วสำหรับผู้ฝึกตน เวลาจะผ่านไปเร็วมาก
หลังจากดูทรัพยากรใหม่ ปลาหางฟ้าวิญญาณแล้ว ลู่ผิงก็ไม่สนใจมันอีก
【ค่าชื่อเสียง: 191】
เขาตรวจสอบคะแนนค่าชื่อเสียงแล้ว สะสมได้ 191 แล้ว เพียงพอสำหรับการแลกเปลี่ยน 【การเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากร】ได้แล้ว
ระบบ 【การเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากร】 ลู่ผิงวางแผนจะนำมาใช้กับไร่ปลูกวิญญาณของนิกายก่อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
แต่ลู่ฉางเฟิงและคนอื่นๆยังไม่กลับมาจากการจัดซื้อ ไร่ปลูกวิญญาณก็ยังไม่ได้ขยาย ไม่ต้องรีบร้อนในตอนนี้
สิ่งที่ต้องทำต่อไป ก็คือรอคอยอย่างอดทน
คิดได้เช่นนี้ ลู่ผิงก็หันไปดูรางวัลอีกชิ้นหนึ่ง อาคมสายฟ้าขับไล่ปีศาจ
ควรจะกล่าวไว้ก่อนว่า หลังจากตรวจสอบดูแล้ว ลู่ผิงพบอย่างน่ายินดีว่า เขาสามารถใช้อาคมใบนี้ได้ด้วยตัวเอง
นั่นก็คือ หากจำเป็น ลู่ผิงสามารถใช้อาคมสายฟ้าขับไล่ปีศาจนี้ป้องกันตัวได้ โดยไม่ต้องส่งต่อให้สมาชิกนิกายคนใดคนหนึ่งช่วยใช้
นี่ถือเป็นความน่ายินดีที่ไม่คาดคิด
เช่นนี้แล้ว การเก็บอาคมใบนี้เอาไว้กับตัวเองจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
หากส่งต่อมันไป มอบให้สมาชิกนิกายคนใดคนหนึ่ง ก็คงเลือกคนได้ไม่ถูกเท่าไร
ลู่ผิงไม่ความสามารถที่จะมองเห็นอนาคตได้ ไม่รู้ว่าในอนาคต ใครจะจำเป็นต้องใช้อาคมใบนี้เพื่อปกป้องชีวิตมากกว่ากัน และจะมีบทบาทสำคัญเพียงใด
หากเก็บเอาไว้กับตัว ในอนาคตหากเจอศิษย์คนไหนมีปัญหา เกือบเอาชีวิตไม่รอด ค่อยส่งต่อหรือใช้ก็ยังไม่สาย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เดือนกว่าผ่านไป
หลังจากอยู่ในตลาดชิงเหอเป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่า ขายข้าววิญญาณจนหมด ลู่ฉางเฟิงจัดซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็ว แล้วพาพวกศิษย์ออกจากตลาดชิงเหอ กลับนิกายชิงซาน
วันต่อมา ลู่หยวนซานจัดสรรคนมาขยายไร่ปลูกวิญญาณ
บริเวณไร่ปลูกวิญญาณ ตั้งอยู่ที่ตำแหน่งกลางเนินเขาขึ้นไปของภูชิงเหลียน บริเวณนี้มีพื้นดินอุดมสมบูรณ์กว้างใหญ่ ปราณต้นกำเนิดอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการปลูกพืชและการฝึกตน
ลู่หยวนซานเลือกขยายไปทางตะวันออก เพิ่มจาก 10 หมู่ไร่ปลูกวิญญาณที่มีอยู่เดิม ขยายเป็น 25 หมู่ เพื่อเพิ่มขนาดการปลูกข้าววิญญาณ
ชนิดข้าววิญญาณที่ปลูก ยังคงเป็นข้าวหยกคริสตัล
ข้าวหยกคริสตัลจัดเป็นข้าววิญญาณขั้น 1 ระดับสูง ประสิทธิภาพการผลิตและราคา เมื่อเทียบกับข้าววิญญาณระดับเดียวกัน ถือว่าสูงกว่า เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับนิกายชิงซาน
ปีก่อนๆนิกายก็ปลูกข้าวหยกคริสตัล มีประสบการณ์การปลูกมากมาย จึงตัดสินใจปลูกข้าวชนิดนี้ต่อไป
"เก็บเกี่ยวข้าววิญญาณผ่านไปกว่าสองเดือนแล้ว ตั้งแต่วันนี้เราจะรีบขยายไร่ปลูกวิญญาณใหม่ เพื่อเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าววิญญาณให้มากขึ้น"
"ซ่งหมิงฮุ่ย ช่วงนี้ให้เจ้าพาศิษย์สิบคนไปเตรียมไร่ปลูก เตรียมให้เป็นพื้นที่ 25 หมู่ให้พร้อม"
"รอจนกว่าไร่ปลูกจะพร้อม ศิษย์ที่มีรากน้ำ รากไม้ รากดิน ทั้งสามและฝึกวิชาชวนปราณโปรยฝน พวกเจ้าต้องร่ายคาถา ทุกๆสามวันครั้ง ใช้คาถาชวนปราณโปรยฝนบนไร่ปลูกใหม่ เพื่อหล่อเลี้ยงดินให้ชุ่มชื้น และสะสมปราณในผืนดิน"
"เนื่องจากเป็นไร่ปลูกใหม่ ความอุดมสมบูรณ์ของดินและปราณจะไม่เท่าไร่ปลูกเก่า ดังนั้นพวกเจ้าจงใช้คาถาชวนปราณโปรยฝนหลายๆครั้ง"
"หลังจากใช้คาถาชวนปราณโปรยฝนห้าครั้ง ก็พอจะหว่านเมล็ดข้าวได้แล้ว"
"เมื่อหว่านเมล็ดข้าวแล้ว การใช้คาถาชวนปราณโปรยฝนต่อไป จะเป็นหน้าที่ของศิษย์ที่รับหน้าที่เฝ้าไร่ปลูก"
นิกายมีศิษย์รวม 25 คนเข้าร่วม ศิษย์ที่มีรากน้ำ รากไม้ รากดิน ทั้งสามมีไม่น้อย ศิษย์เหล่านี้เหมาะสมที่สุดสำหรับการฝึกวิชาชวนปราณโปรยฝน และได้ผลรวดเร็วที่สุด
การเรียนวิชาชวนปราณโปรยฝน เป็นวิชาบังคับของศิษย์นิกายชิงซานในช่วงไม่กี่ปีนี้ และเป็นวิชาที่เหมาะที่สุดสำหรับการปลูกพืชและใช้รดน้ำไร่และสวนยา
เมื่อได้ฟังการจัดสรรงานของลู่หยวนซาน ศิษย์ทั้งหลายไม่กล้าละเลย ต่างเข้าใจความสำคัญของการขยายไร่ปลูกต่อนิกาย
การขยายไร่ปลูกข้าว เกี่ยวข้องกับอนาคตของทุกคน
ตราบใดที่ปลูกข้าววิญญาณในไร่ดี นิกายก็จะมีเสบียงอาหารเพียงพอ มีข้าววิญญาณจำนวนมากสำหรับขาย นิกายก็จะค่อยๆรุ่งเรืองขึ้น สะสมหินวิญญาณมาฝึกฝนศิษย์ และเลี้ยงดูสมาชิก
สำหรับแรงงานที่ศิษย์อุทิศให้ นิกายก็จะให้รางวัลตอบแทนตามสมควร จะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำงานเปล่าๆ ผลประโยชน์ที่ควรได้ก็ยังคงจะให้
ดังนั้นในวันนั้นเอง ศิษย์ทั้งหลายก็เริ่มวุ่นวายแล้ว แต่ละคนแบ่งงานกันอย่างชัดเจน เริ่มวางแผนพื้นที่ขยายไร่ก่อน จากนั้นก็เริ่มถอนหญ้า กำจัดเศษหิน พรวนดิน ทำงานทีละขั้นตอนอย่างจริงจัง
การถอนหญ้าและกำจัดเศษหิน ขั้นตอนนี้ง่ายมาก ใช้เวลาเพียงหนึ่งวัน ในวันที่สองทุกคนเริ่มพรวนดิน
เนื่องจากดินที่มีปราณจะแข็งกว่าดินอุดมสมบูรณ์ทั่วไปเล็กน้อย และยังมีแมลงวิญญาณอาศัยอยู่บางส่วน ดังนั้นขั้นตอนนี้ ทุกคนเตรียมใช้เวลาสามวัน
ในช่วงแรกของการพรวนดิน ความก้าวหน้าค่อนข้างช้า
"ศิษย์น้องหญิง วิธีพรวนดินของเจ้าไม่ถูกต้อง"
"ดูข้าสิ เจ้าต้องใช้ปราณเมื่อจอบวิญญาณขุดลงดิน เพื่อกระตุ้นจอบวิญญาณให้ทำงาน มิฉะนั้นเจ้าจะจับจังหวะและแรงไม่ถูก หากคอยรวมปราณอยู่ตลอด จะหมดปราณไปอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนั้นคงไม่ไหวแล้ว"
"ต้องจำไว้ให้ดี ใช้แรงในจุดสำคัญ เจ้าไม่เคยทำอะไรพวกนี้มาก่อน ก็หัดเรียนรู้ไป"
"เข้าใจแล้วค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ นี่ก็เป็นครั้งแรกของข้านะเจ้าคะ"
ในหมู่ศิษย์ที่เข้าร่วม มีศิษย์ใหม่อยู่ไม่น้อย ศิษย์น้องหญิงที่ชื่อหลิวซือเยี่ยวก็เป็นหนึ่งในนั้น
นางสวมหมวกใบใหญ่ เหงื่อไหลพราก กำลังจับจอบวิญญาณพรวนดินอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำได้ขยันขันแข็งมาก แต่วิธีการยังไม่ค่อยถูกต้อง
สำหรับดินไร่ปลูกวิญญาณที่แข็งแรง คนธรรมดาพลิกได้ยาก ต้องให้ผู้ฝึกตนใช้จอบวิญญาณ จึงจะประหยัดเวลาและแรง
เทียบกับหลิวซือเยี่ยว การทำงานของเช่อชิงชิงช่ำชองกว่ามาก ถือว่าเป็นแบบอย่างให้ทุกคนได้เรียนรู้เลยทีเดียว
และขณะพรวนดิน ก็ต้องระวังว่ามีแมลงวิญญาณในดินหรือไม่ด้วย
เช่น แมลงกัดกินปราณที่พบได้บ่อยที่สุด พวกมันจะกินหญ้าวิญญาณ ข้าววิญญาณเป็นอาหาร นับเป็นศัตรูพืช
ขณะพรวนดิน หากพบแมลงกัดกินปราณ ก็ต้องกำจัดทันที
ซากแมลงวิญญาณที่ตายแล้ว สามารถทิ้งไว้ในไร่นาเป็นปุ๋ย บำรุงดิน เพิ่มสารอาหารในดินได้
อีกสามวันต่อมา ไร่ปลูกวิญญาณทั้งหมดก็พลิกเสร็จแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องของการรดน้ำและหว่านเมล็ด
วิธีปลูกข้าววิญญาณ แตกต่างจากการปลูกข้าวของปุถุชนทั่วไปเล็กน้อย เวลาก็ไม่เหมือนกันด้วย
ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ในอีกสองวันถัดมา ในที่สุดก็ปลูกในไร่เสร็จสิ้น
การขยายไร่ปลูกวิญญาณใหม่ประสบความสำเร็จ
เมล็ดข้าวหยกคริสตัล อยู่ในไร่ปลูกวิญญาณได้ไม่นาน ก็เริ่มหยั่งรากและเติบโตอย่างรวดเร็ว
มองไปทางไหน ก็เขียวขจีไปหมด
"ไร่ปลูกวิญญาณขยายเสร็จแล้ว รวมกับ 10 หมู่ก่อนหน้านี้ ตอนนี้มี 25 หมู่แล้ว หวังว่าปีหน้าจะได้ผลผลิตข้าววิญญาณล้นเหลือ"
"รายได้หลักของนิกายในอีกสามปีข้างหน้า ขึ้นอยู่กับไร่ปลูกวิญญาณแห่งนี้แล้วล่ะ"
ในหนึ่งเดือนถัดมา ลู่หยวนซานนำเป็ดลายเหลือง 50 ตัว มาที่บริเวณไร่ปลูกวิญญาณ
เป็ดลายเหลืองยังไม่ถือเป็นสัตว์วิญญาณขั้น 1 แต่แข็งแรงกว่าเป็ดทั่วไปเล็กน้อย
พวกมันมีลายสีเหลืองบนตัว ขนาดพอๆกับเป็ดธรรมดา มีนิสัยอ่อนโยน
แน่นอนว่าซื้อเป็ดพวกนี้มา ไม่ใช่ซื้อมากินหรอก
พวกมันเป็นผู้ช่วยที่ดีในการปลูกไร่วิญญาณต่างหาก
ปล่อยเป็ดลายเหลืองลงในไร่ปลูกวิญญาณ พวกมันไม่เพียงจะกินแมลงวิญญาณบนต้นข้าววิญญาณ แต่ยังกินวัชพืชด้วย
คลื่นน้ำที่เกิดจากการว่ายน้ำของเป็ดลายเหลือง จะช่วยส่งสารอาหารในน้ำไปยังรากของข้าววิญญาณได้เป็นอย่างดี
พร้อมกันนั้น ขณะที่พวกมันว่ายน้ำ ก็ทำให้ผิวน้ำขุ่นขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้วัชพืชเจริญเติบโตได้ง่ายๆ
เมื่อมีพวกมันอยู่ การดูแลไร่ปลูกวิญญาณก็ง่ายขึ้นมาก
เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่าง สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือใช้วิชาชวนปราณโปรยฝนเป็นครั้งคราวเพื่อเติมปราณและรดน้ำบำรุงใบและก้านข้าววิญญาณ
งานนี้ก็มีศิษย์ที่รับหน้าที่เฝ้าไร่ปลูกเป็นผู้จัดการ
ตอนนี้ความสนใจของลู่หยวนซาน ก็ผละจากไร่ปลูกวิญญาณได้แล้ว พร้อมจะไปทำงานสำคัญอย่างอื่นต่อไป
จริงๆแล้ว ตลอดกระบวนการขยายไร่ปลูกวิญญาณ ลู่ผิงเฝ้าดูอยู่ตลอด รู้สึกปลาบปลื้มที่ศิษย์ทั้งหลายทุ่มเทแรงกายแรงใจ ร่วมมือกันปลูกในไร่นา
ตอนนี้ขยายไร่ปลูกวิญญาณเสร็จแล้ว หว่านเมล็ดข้าววิญญาณแล้ว ก็สามารถใช้ระบบ 【การเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากร】 เพื่ออัพเกรดไร่ปลูกได้แล้ว
-----------------------------------------------
PS: พบกันพรุ่งนี้นะครับ