บทที่ 208 เคล็ดวิชากายดารา
ไอน้ำที่ระเหยออกมาเมื่อครู่จากเตาหลอม ตอนนี้ก็ได้หยุดลงอย่างกะทันหัน ทุกอย่างตรงนั้นราวกับถูกหยุดนิ่งไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว
เป็นเช่นนั้นอยู่เพียงไม่กี่อึดใจ เตาหลอมโอสถก็ระเบิดแสงอันเจิดจรัส ส่องสว่างไปทั่วลานฝึกยุทธ์
ขณะนี้ ทั่วทั้งลานฝึกเต็มไปด้วยกลิ่นหอมคละคลุ้งของมวลบุปผาสีแดง มันทั้งงดงามหอมหวลและทรงพลังยิ่ง
หยางเสี่ยวเทียนเพียงแค่ได้สัมผัสกลิ่นอันรัญจวนของมัน ทั่วทั้งร่างก็ราวกับมีพละกำลังอันมหาศาลพลุ่งพล่าน
เขาแค่สูดกลิ่นอายของมันเท่านั้น ก็ทำให้ทั่วทั้งสรรพางค์กายรู้สึกสบาย และผ่อนคลายยิ่งนักในขณะนี้
นี่เป็นเพียงกลิ่นอายของโอสถวิญญาณเก้าหยางเท่านั้น แต่มันกลับมีผลอันน่าตกตะลึงเช่นนี้ หากกลืนเข้าไปเกรงว่าพลังของมันคงยากเกินกว่าจะจินตนาการถึงได้
ไม่กี่ลมหายใจ เม็ดโอสถขนาดเท่านัยน์ตามังกร ก็ลอยออกมาจากเตาหลอมโอสถ ตกลงบนมือของหยางเสี่ยวเทียนทันที
โอสถเม็ดนี้เต็มไปด้วยแสงทองประกายอยู่รายล้อม หากสังเกตให้ดี มันดูราวกับมีแสงเก้าดวงเคลื่อนไหวอยู่ภายในโอสถเม็ดนี้ ช่างเป็นสิ่งที่ตื่นตาและงดงามยิ่ง
ทั่วทั้งลานฝึกยุทธ์ขณะนี้ สว่างไสวท่อประกายด้วยแสงเก้าประการ
อูฉี เลี่ยวคุน จางจิงหรง หลัวชิง อัตและอาลี่พร้อมทั้งคนอื่นๆ ล้วนถูกดึงดูดด้วยประกายแสงอันจรัส เก้าสีนี้
“นี่มัน โอสถวิญญาณเก้าหยางระดับนิรันดร์!” อูฉีโพล่งเข้ามาด้วยความประหลาดใจ แล้วพลันอุทานทันทีที่พบว่านี่เป็นโอสถชนิดใด
โอสถวิญญาณเก้าหยางระดับนิรันดร์งั้นหรือ!
เลี่ยวคุน จางจิงหรง หลัวชิง และคนอื่นๆ ต่างแสดงสีหน้าตกตะลึงไปตามกัน
แม้แต่หยางเสี่ยวเทียนผู้เป็นคนหลอมมัน ก็ยังแสดงรอยยิ้มเมื่อมองไปยังโอสถวิญญาณเก้าหยางที่อยู่บนมือเขาขณะนี้
เขาไม่คาดคิดเลยว่า ตนนั้นจะสามารถหลอมโอสถวิญญาณเก้าหยางประสบความสำเร็จ ในระดับนิรันดร์ตั้งแต่ครั้งแรกเช่นนี้
เดิมที เขาคิดว่าคงสามารถหลอมได้ดีสุด ก็คงเป็นระดับสูงสุดหรือไม่ก็ระดับสวรรค์เท่านั้น
ครั้นมองไปยังอูฉีที่แสดงสีหน้าตื่นเต้นในขณะนี้ หยางเสี่ยวเทียนก็ควบคุมโอสถวิญญาณเก้าหยางให้ลอยไปหาอูฉีทันที “ท่านอู ข้าจะให้ท่านกลืนโอสถวิญญาณเก้าหยางนี้เป็นคนแรก”
อูฉีหยิบโอสถวิญญาณเก้าหยาง แล้วเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจยิ่ง “นายน้อย ให้ข้างั้นหรือ”
หยางเสี่ยวเทียนพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส และตอนนี้เส้นลมปราณของท่านถูกปิดกั้น หากท่านใช้โอสถชนิดนี้ อาการบาดเจ็บที่มีมาดั้งเดิมก็จะหายจนหมดสิ้น ทำให้เส้นลมปราณของท่านกลับมาเป็นปกติอีกด้วย”
เนื่องจากในอดีตนั้น อูฉีได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเส้นลมปราณถูกปิดกั้น จึงทำให้พลังชีวิตของเขาถูกลดทอนลง ด้วยเหตุนี้อูฉีจึงเหลืออายุขัยอีกเพียงยี่สิบหรือสามสิบปีเท่านั้น
แต่หากเขาได้กลืนโอสถวิญญาณเก้าหยางที่ไม่เพียงวิจิตรงดงามเม็ดนี้ มันจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บ และเพิ่มอายุขัยขึ้นอีกด้วย
เมื่ออูฉีได้ฟังคำตอบ ที่เปี่ยมพร้อมด้วยความใส่ใจนั้น เขาก็รู้สึกประทับใจอย่างหาที่สุดมิได้ ก่อนโค้งคำนับด้วยซาบซึ้งจากก้นบึ้งของหัวใจ
“นายน้อย ข้าขอบคุณต่อน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของท่าน”
อูฉีเคยกลืนโอสถวิญญาณเก้าหยางมาก่อน แต่นั้นเป็นเพียงโอสถวิญญาณเก้าหยางธรรมดาทั่วไป ไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเขาให้หายได้
มีเพียงโอสถวิญญาณเก้าหยางระดับนิรันดร์เท่านั้น ที่จะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บรุนแรงเช่นนี้ได้
อย่างไรก็ตาม เขาออกตามหามันมานานนับสิบๆ ปี แต่ก็ไม่เคยได้พบโอสถวิญญาณเก้าหยางระดับนิรันดร์แม้เพียงเม็ด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาออกล่าเปลวไฟดารา เพราะเขานั้นต้องการจะหลอมมันขึ้นเอง
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของท่านนายน้อย” หลิวอันและอีกสี่คนก็โค้งคำนับอย่างสุดซึ้งต่อหยางเสี่ยวเทียนเช่นเดียวกัน
พวกเขารับรู้อยู่แก่ใจดี ว่าอาจารย์ของพวกตนต้องทนทุกข์กับอาการบาดเจ็บนี้มานานนับหลายสิบปีแล้ว
“พวกท่านไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า มันเป็นสิ่งที่ข้าสมควรทำ” หยางเสี่ยวเทียนรีบช่วยพยุงอูฉีให้ลุกขึ้น
ทุกวันนี้ อูฉีได้ชี้แนะบิดามารดาเขาในการฝึกฝน เวลาว่างของเขานั้น เขายังทุ่มเทเวลาของตนในการหลอมโอสถให้ทุกคนณ ที่แห่งนี้ เขาพยายามอย่างเต็มที่โดยไม่มีเกียจคร้าน หยางเสี่ยวเทียนจะไม่เห็นได้อย่างไร
ระหว่างที่หยางเสี่ยวเทียนหลอมโอสถวิญญาณเก้าหยาง อีกด้านหนึ่ง หูซิงก็กำลังทุ่มเทฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งอยู่ในสำนักเสินเจี้ยน
เพราะเขาได้ทราบข่าวมาว่า สำนักเทียนโต้วจะรับลงทะเบียนศิษย์ล่วงหน้าครึ่งปี นั่นทำให้ศิษย์จากทุกสำนักทั่วทั้งอาณาจักรโดยรอบ ต่างตั้งใจฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งด้วยเป้าหมายเข้าร่วมสำนักเทียนโต้ว
ขณะนี้ หูซิงกำลังนั่งบ่มเพาะพลังอยู่บนเตียง โดยมีดวงดาวกระพริบมากมายอยู่ทั่วร่าง ซึ่งเขากำลังฝึกฝนทักษะโบราณอันน่ามหัศจรรย์ นั่นคือ เคล็ดวิชากายดารา
เคล็ดวิชากายดารา เป็นทักษะบ่มเพาะปราณที่ถูกสร้างขึ้นโดยสำนักมหาอำนาจบางอาณาจักรในสมัยโบราณ
ซึ่งเขาได้เคล็ดวิชานี้มาโดยบังเอิญแล้วจึงแอบฝึกฝนมันอย่างลับๆ เพราะในการแข่งขันระดับสำนักครานี้ เขาต้องทำให้ผู้คนตกตะลึงได้อย่างแน่นอน
ทันใดนั้น กายหูซิงก็ส่องแสงระยิบระยับไปด้วยดวงดารา และกลิ่นอายอันน่าพิศวงก็แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งร่าง ปรากฏดาวสี่ดวงขึ้นบนท้องฟ้าเหนือศีรษะของเขา
หลังจากนั้นเป็นเวลานาน แสงดาวจากร่างของหูซิงก็พลันอันตรธานหาย และในขณะที่เขาค่อยๆ เปิดตาขึ้น แสงจากดาราก็ส่องวาวภายในดวงตาเขา
“ในที่สุด ในที่สุดข้าก็สามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นราชันยุทธ์ระดับสี่ได้แล้ว!” ใบหน้าหูซิงเปี่ยมไปด้วยความสุขสำราญยิ่ง เขาจะต้องได้เป็นอันดับหนึ่งในการประลองระดับสำนักอย่างแน่นอน!
“หยางเสี่ยวเทียน ข้าได้เข้าร่วมกับสำนักเทียนโต้วเมื่อไร ข้าจะทรมานเจ้าให้สาสม!” เขาพึมพำขณะแววตาทอประกายเย็นเฉียบ