บทที่ 140: ราชสีห์เปล่งเสียงคำราม
[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]
[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]
[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]
บทที่ 140: ราชสีห์เปล่งเสียงคำราม
ในฐานะผู้ชนะคนสำคัญของสนามรบที่ลาสเวกัส ซุนเฉิงจึงได้รับสิ่งมีค่าที่มากมาย
ออลสปาร์คสี่ชิ้น หัวของแบล็คเอาท์ และครึ่งหนึ่งของร่างกายจักรกลของแจ๊ส แม้ว่ากําไรเหล่านี้อาจไม่น่ามากเท่ากับที่กองทัพสหรัฐได้ไป แต่ก็ยังเหนือกว่าสิ่งที่ออโต้บอตส์และออนสลอตได้ไปมาก
แม้ว่าจะได้ของมามาก แต่ละชิ้นล้วนมีความสำคัญต่อเขา ทว่าเพราะอย่างนั้น ของที่เขาสามารถใช้แลกเปลี่ยนจึงน้อยลงไปอีก
ซุนเฉิงไม่เสียยอมเสียชิ้นส่วนออลสปาร์คทั้งสี่ชิ้นไปแน่ ชิ้นส่วนเหล่านี้ได้มาจากออลสปาร์ค และแม้ว่าพวกมันจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ก็ยังมีข้อมูลมากมาย นอกจากนี้พลังงานภายในชิ้นส่วนยังค่อย ๆ ฟื้นตัว ซึ่งทําให้พวกมันมีค่ามากสําหรับเขา
หัวของแบล็คเอาท์นั้นไร้ค่า แต่ชิปหน่วยความจําของเขามีค่ามาก ในมือของคนที่รู้ว่าจะทําอะไรกับมัน มันอาจจะถูกนำไปสร้างแบล็คเอาท์อีกตัวได้
ในตอนแรก ซุนเฉิงคิดที่จะแลกเปลี่ยนชิปหน่วยความจำกับออนสลอต เขารู้ดีว่าสําหรับสิ่งมีชีวิตจักรกลเช่นตัวเขา การได้รับข้อมูลหน่วยความจําของผู้อื่นเป็นวิธีสะสมความรู้ ทักษะการต่อสู้ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น ซุนเฉิงมั่นใจเลยว่าออนสลอตจะสนใจชิปของแบล็คเอาท์แน่นอน
แต่ว่า…ตัวตนของแบล็คเอาท์นั้นอ่อนไหวเกินไป
เขาเป็นผู้บังคับบัญชาคนที่สองที่แท้จริงของกองทัพดีเซปติคอน มือขวาของช็อคเวฟ และเป็นผู้ติดตามที่ภักดีของเมกะทรอน การแลกเปลี่ยนชิปหน่วยความจําของแบล็คเอาท์ ให้กับออนสลอต มันก็เหมือนกับการส่งอาวุธให้กับเขาโดยพละการ ซุนเฉิงจะไม่ทําผิดพลาดเช่นนี้แน่
หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งเดียวที่ซุนเฉิงสามารถแลกเปลี่ยนได้คือชิปหน่วยความจำของแจ๊ส
ออนสลอตน่าจะสนใจซากศพของแจ๊ส แม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของแจ๊สจะไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ แต่บทบาทของเขาในฐานะรองผู้บัญชาการทหารของออฟติมัสไพร์ม มันได้ทําให้เขามีร่างกายหุ่นยนต์ทรงอานุภาพยิ่ง เรียกว่าเหนือกว่านักรบดีเซปติคอนส่วนใหญ่ไปแล้ว
ซึ่งซุนเฉิงตั้งใจที่จะใช้ร่างจักรกลครึ่งหนึ่งของแจ๊สเพื่อสร้างร่างใหม่ให้กับตัวเขาเอง ดังนั้นเขาจึงไม่อยากแลกเปลี่ยนมันไป ทำให้ชิปหน่วยความจําเป็นตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่สําหรับการแลกเปลี่ยน
หลังจากส่งการสื่อสารไปยังออนสลอต ซุนเฉิงก็หยุดงานชั่วคราวและรอคำตอบอย่างอดทน
เขาไม่ต้องรอช้า หลังจากส่งข้อความไปไม่นาน ซุนเฉิงก็รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวในแกนหลักของเขา มันส่งสัญญาณการรับการสื่อสารระยะไกลกลับคืนมา
เมื่อเปิดข้อความ รอยยิ้มด้ปรากฎขึ้นบนริมฝีปากของซุนเฉิงทันที
มันเป็นคําตอบของออนสลอต เป็นข้อความสั้น ๆ ที่เขียนไว้ว่า "รองผู้นำของออฟติมัสไพร์มงั้นเหรอ? เจ้าต้องการอะไร?"
ออนสลอตไม่สามารถต้านทานสิ่งล่อตาล่อใจอย่างชิปหน่วยความจําที่เป็นของรองผู้บัญคับบัญชาของผู้นําออโต้บอตส์ได้ ทั้งออนสลอตและแจ๊สต่างก็เคยผ่านสงครามกลางเมืองไซเบอร์ตรอนเนียนครั้งที่สอง ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พบหน้ากัน แต่พวกเขาก็พอรู้จักหน้าค่าตากันอยู่
ดังนั้นออนสลอตจึงไม่อาจต้านทานการล่อลวงครั้งนี้ได้เลย
"รอข้าก่อน ข้าจะไปหาท่านเอง!"
การสื่อสารระยะไกลไม่สามารถสกัดกั้นได้ แถมเหตุการณ์การรบที่ลาสเวกัสเพิ่งเกิดขึ้น ซุนเฉิงจึงยังคงกังวลเกี่ยวกับเรื่องออโต้บอตส์ที่อาจติดตามเขามา ดังนั้นเขาจึงรีบออกจากฐานของเขาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของโคโลราโด และมุ่งหน้าไปยังฐานของออนสลอตในแกรนด์แคนยอน
ขณะที่เขาเดินทางไปอย่างระมัดระวัง ซุนเฉิงก็ยืนยันสิ่งที่เขาคาดเดาไว้ได้แล้ว
ดาวเทียมทหารอเมริกันได้ดำเนินการเฝ้าระวังตรวจการณ์แทบทุกจุด ในขณะที่เรดาร์ภาคพื้นดินพยายามครอบคลุมทุกมุมของประเทศ พวกเขาคงพยายามค้นหาดีเซปติคอนส์ที่เป็นตัวตนฝ่าย "ชั่วร้าย" หลังจากศึกในลาสเวกัส
แม้ว่าจะยังไม่แน่นอนว่าความร่วมมือระหว่างออโต้บอตส์ และรัฐบาลสหรัฐไปถึงขั้นไหน แต่ก็ชัดเจนว่าอยู่ในสหรัฐคงไม่ปลอดภัย การก่อสร้างฐานที่สองในบราซิลคงจําเป็นต้องเร่งดําเนินการแล้ว
ซุนเฉิงหลบเลี่ยงความเสี่ยงจากการสัมผัสสิ่งต่าง ๆ อย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงลงจอดนอกฐานของออนสลอตหลังจากผ่านไปสิบชั่วโมงและส่งข้อความเพื่อแจ้งเจ้าของฐานแล้ว เขาก็รีบไปยังส่วนลึกของฐาน
หลังจากนั้นหลายวัน ซุนเฉิงก็เห็นออนสลอตอีกครั้ง แม้ว่าสีหน้าของอีกฝ่ายจะดูมีอะไรผิดปกติ แต่มันก็มีความสนุกสนานแฝงอยู่ในดวงตาของเขา
"นายท่านออนสลอต ไม่ได้พบเจอกันนานเลยนะครับ!"
ตั้งแต่รู้จักอีกฝ่ายมา ซุนเฉิงรับรู้ได้ว่าเขากับออนสลอตเหมือนกัน ออนสลอตมีความทะเยอทะยาน แต่มีหลักการและชื่นชอบต่อสู้ แต่ก็เป็นพวกชอบความสมบูรณ์แบบพอสมควร บุคคลเช่นนี้จะไม่ยอมจํานนต่อใครง่าย ๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นท่านผู้นำเมกะทรอนแห่งกองทัพดีเซปติคอนก็ตาม
ดังนั้นในระหว่างการต่อสู้ที่ลาสเวกัส ออนสลอตจึงใช้ออโต้บอตส์องสามตัวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาก่อนจากนั้นจึงไล่ตามออลสปาร์คไปอย่างแข็งขัน โดยไม่คิดจะปกป้องเมกะทรอนอย่างซื่อสัตย์เหมือนที่แบล็คเอาท์ทําเลย
ซุนเฉิงสงสัยมาตลอดว่าในศึกก่อนหน้านี้ ออนสลอตอาจแอบสังเกตการต่อสู้ระหว่างเมกะทรอนและออฟติมัสไพร์มอยู่โดยไม่คิดจะเข้ามาช่วยเลย
บางทีหลังจากสัมผัสได้ว่าไม่มีสัญญาณจากออลสปาร์คและเมกะทรอนแล้ว ออนสลอตก็รู้ว่าออโต้บอตส์เป็นฝ่ายชนะ เพราะงั้นกระมังเขาจึงเลือกจากไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ลังเล
เขาคงกังวลว่าจะถูกล้อมหากอยู่ต่อนาน ดังนั้นตัวออนสลอตเองจึงไม่ได้มาตรวจสอบสนามรบ ทําให้ซุนเฉิงมีโอกาสได้ของดีมากมายไปครองตัวคนเดียว
ภายในฐาน ออนสลอตนั่งอยู่ตรงกลางห้องโถงในขณะที่หุ่นยนต์ทางการแพทย์คล้ายแมงมุมหลายตัวปีนขึ้นและลง ร่างกายของเขาบางครั้งก็เปล่งแสงสปาร์คขณะที่พวกมันรักษาบาดแผลของเขา
เมื่อเห็นซุนเฉิง ออนสลอตจ้องมองเขาอย่างตั้งใจอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาอิเล็กทรอนิกส์ทั้งสองกะพริบด้วยแสงที่ผิดปกติ เขาจะถามอย่างใจเย็นไปว่า "ออโต้บอตส์ได้รับออลสปาร์คไปงั้นเหรอ?"
เขาไม่ได้ถามเรื่องเมกะทรอน ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาสนใจออลสปาร์คมากกว่าผู้นํากองทัพดีเซปติคอน
ทัศนคตินี้ทําให้ซุนเฉิงเริ่มรู้สึกสงสัยมากขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกนอกหน้านอกตา
เขาส่ายหัวตอบด้วยความเสียใจไปว่า "มนุษย์คนหนึ่งได้ใช้ประโยชน์จากความประมาทของท่านผู้นำเมกะทรอน มันวางออลสปาร์คไว้ในสปาร์คของเขา ทำให้ออลสปาร์คถูกทําลาย..."
คำตอบนี้ทําให้ใบหน้าของออนสลอตบิดเบี้ยว บังเอิญในขณะนั้นดีเซปติคอนทางการแพทย์ตัวหนึ่งปีนขึ้นไปบนหัวของออนสลอต ซึ่งด้วยความหงุดหงิด ออนสลอตจึงบีบมันไว้ในมือของเขาและออกแรงเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานดีเซปติคอนทางการแพทย์ก็หายไปอย่างสมบูรณ์
"ช่างไร้ประโยชน์..."
เมื่อได้เห็นวิธีการแสดงความโกรธที่ฟุ่มเฟือยเช่นนี้ ซุนเฉิงก็รู้สึกอิจฉาอีกฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง
ตัวเขาไม่มีดีเซปติคอนทางการแพทย์แม้แต่ตัวเดียว ทุกครั้งที่เขาได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้ เขาต้องพึ่งพาฟังก์ชั่นการบํารุงรักษาของแกนหลักของเขาเอง ค่อย ๆ ใช้พลังงานภายในสปาร์คของเขาจนกว่าตัวเขาจะฟื้นฟูอย่างเต็มที่ เหตุใดเขากับออนสลอตจึงแตกต่างกันมากขนาดนี้นะ?
เขาทนดูไม่ไหวแล้ว ซุนเฉิงจึงเริ่มที่จะพูดไปว่า "ข้าเอาร่างจักรกลของแจ๊สครึ่งหนึ่งที่ถูกท่านผู้นำเมกะทรอนสังหารไป ข้าจำเป็นต้องใช้มันสำหรับร่างกายจักรกลของข้า แต่ข้ายินดีที่จะแลกเปลี่ยนชิปหน่วยความจําเพื่อแลกของบางอย่างกับท่าน ท่านออนสลอต"
ใบหน้าของออนสลอตกระตุกเล็กน้อย เขาสะบัดนิ้วเบา ๆ ส่งศพของดีเซปติคอนทางการแพทย์บินออกไป เขาหันกลับมาสนใจซุนเฉิง ดูเหมือนออนสลอตจะรู้สึกระตือรือร้นที่จะพูดคุยกันมาก
"เจ้าต้องการอะไรจากข้า?"
"วิศวกรยี่สิบตัว แมงมุมสี่สิบตัว พร้อมด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ด้านวิศวกรรมและการผลิตแมงมุม..."
เขาหยุดนิ่งพลางสังเกตเห็นว่าสีหน้าของออนสลอตค่อนข้างไม่พอใจนัก แต่เขากลับพูดต่ออีกว่า "นอกจากนี้ ข้าต้องการเทคโนโลยีการผลิตปืนโซนิคของท่านด้วย ท่านออนสลอต..."