ตอนที่ 121 ขอจุติพลังอีกรอบได้ใช่ไหม? (อ่านฟรี 24/12/2567)
“คงไม่มีอะไรแล้วมั้ง ออกไปก่อนดีกว่า” เย่ซีที่ทำการจุติพลังเสร็จแล้วเลยตัดสินใจเดินออกจากห้องไป เพราะอยู่ต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์ แถมเขายังไปทำกำแพงห้องเป็นรอยมืออีก
“แล้วข้าต้องไปไหนต่อ ? อืม.. เหลือเวลาอีก สองวัน สิบห้าชั่วโมง ไปตามหาสี่คนนั้นก่อนก็แล้วกัน” เมื่อเดินออกมาจากห้องทดสอบก็พบว่าไม่มีใครอยู่เลย เย่ซีจึงเดินออกจากห้องขนาดใหญ่แห่งนี้ไปยังด้านนอก
เมื่อออกจากห้องมาแล้วก็พบว่ากับทั้งสี่คนที่กำลังนั่งพูดคุยกินของว่างอย่างสบายอารมณ์เขาจึงเดินตรงเข้าไปหา ทั้งสี่คนเมื่อเห็นว่าเย่ซีเดินมาหาก็ทำท่าทางตื่นเต้นก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปรุมล้อมทันที
“คุณเย่ซี! ในที่สุดคุณก็ออกมาได้สักที ได้ออร่าสีอะไรเหรอคะ ?” อันหลานรีบถามออกมาด้วยความตื่นเต้น
“พวกเราได้สีทองกันหมดเลย มีแค่ซางเว่ยที่ได้สีดำ” เธอกล่าวต่อโดยไม่ได้รอให้ชายหนุ่มตอบ
“ติดขัดปัญหาในส่วนไหนหรือเปล่าครับ ? คุณใช้เวลานานกว่าปกติพอสมควรเลย” ซางเว่ยกล่าวถามออกมาด้วยความกังวล
ถ้าอีกฝ่ายจุติพลังไม่สำเร็จจะทำยังไง ? ถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาก็จะช่วยยื่นเรื่องจุติพลังอีกรอบให้เอง! ยังไงเขาก็เป็นผู้จุติพลังออร่าสีดำ ย่อมมีสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้นมาไม่ใช่น้อย
“อา.. มันไม่มีสีน่ะ” เย่ซีตอบคำถามกลับไปสั้น ๆ แต่นั่นกลับทำให้ทั้งสี่คนตื่นตกใจกันหมด
“มะ..ไม่จริงน่า คนที่แข็งแกร่งขนาดคุณเย่ซีจุติพลังไม่สำเร็จเหรอ?!” เหยาเซียงกล่าวออกมาพลางเอามือปิดปาก เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเลย
“ไม่เป็นไรนะครับ การปลุกพลังใช่ว่าทำได้ทีเดียว ขอแค่ยังปลุกพลังไม่สำเร็จย่อมมีโอกาสลองใหม่ได้เรื่อย ๆ” หลี่กงเหมินที่พอจะคาดเดาไว้ตั้งแต่แรกก็กล่าวให้กำลังใจอีกฝ่ายออกมา
ถึงยังไงอีกฝ่ายก็ช่วยชีวิตเขาไว้ ถ้าเป็นไปได้เขาก็จะช่วยให้อีกฝ่ายปลุกพลังอีกรอบให้ได้
“เดี๋ยวผมจะใช้สิทธิของผู้จุติพลังออร่าสีดำ ขอรับการจุติพลังอีกครั้งให้คุณเองครับ” ซางเว่ยกล่าวออกมาหลังจากตัดสินใจอย่างดีแล้ว
สิทธิจุติพลังนี้ต่อให้ไม่เก็บไว้ใช้เอง ก็สามารถนำไปขายได้ มีผู้คนมากมายที่ยอมจ่ายเป็นจำนวนมากเพื่อสิทธิการจุติพลังนี้ อย่างน้อยก็ทำให้คนธรรมดาอยู่ได้เป็นปีเลย
“ขอบคุณมาก ข้าขอรับไว้ด้วยความเต็มใจก็แล้วกัน” แทนที่จะปฏิเสธ เย่ซีกลับตอบรับเสียอย่างนั้น ซึ่งทั้งสี่คนก็อดดีใจไม่ได้ที่ชายหนุ่มไม่ตอบปฏิเสธ
เพราะอย่างน้อยก็จะได้ถือว่าพวกเขาตอบแทนบุญคุณให้อีกฝ่ายไปได้เรื่องหนึ่ง
“แล้ว พวกเจ้าจะทำอะไรต่อ ?” เย่ซีกล่าวถามออกมา
“ไปทำสอบพลังพิเศษที่ได้มาครับ พอจุติพลังสำเร็จ นอกจากร่างกายจะแข็งแกร่งขึ้น มีพลังเวทย์ภายในร่าง ยังได้รับพลังพิเศษคนละหนึ่งอย่างด้วยครับ” ซางเว่ยตอบกลับให้ชายหนุ่มฟังอย่างละเอียด ถึงยังไงก็ไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความลับอะไรอยู่แล้ว
“ข้าขอไปด้วยได้ไหม ? ถึงจะจุติพลังไม่สำเร็จแต่ข้าก็อยากทำสอบความแข็งแกร่งของตัวเองดูน่ะ” เย่ซีกล่าวถามออกมาพลางยิ้มให้
“ได้สิคะ ห้องทดสอบพลังมีไว้เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของตัวบุคคลอยู่แล้ว” อันหลานตอบกลับมา ซึ่งนั่นก็เป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นผู้จุติพลังหรือคนธรรมดาก็สามารถขอเข้าใช้งานห้องทำสอบพลังนี้ได้
เพราะใช่ว่าจะมีแต่ผู้จุติพลังที่แข็งแกร่งเท่านั้น มันก็มีมนุษย์บางส่วนที่แข็งแกร่งถึงแม้จะไม่มีพลังออร่าก็ตามอยู่ด้วย มนุษย์พวกนั้นส่วนใหญ่จะมาจากการได้รับพลังจากธรรมชาติหรือถูกดัดต่อพันธุกรรมโดยรัฐบาล
ครึ่งหลัง
...
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! ปั้ง!
ร่างของอันหลานกำลังลอยตัวอยู่เหนือพื้นห้องกว้างที่ได้รับการเสริมพลังจากเวทมนตร์เป็นอย่างดี เธอสะบัดดาบสร้างคมมีดออกไปรอบตัวเสียงดังสนั่น นอกจากนี้ยังสร้างม่านพลังจากเวทย์ลมได้อีกด้วย รอบตัวเธอเรืองแสงสีทองอ่อน ๆ บอกถึงระดับออร่าออกมา
แต่น่าเสียดายที่ความสามารถของเธอมีระยะอยู่แค่สองเมตรเท่านั้น แต่มันก็นับว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เป็นความสามารถของผู้ปลุกพลังออร่าสีทองที่ทัดเทียมกับออร่าสีดำได้ไม่ยากเลย
“ความสามารถของอันหลาน น่าสนใจไม่เลว” เย่ซีที่ร่วมรับชมอยู่ก็กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น การสร้างพลังลมออกมาได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องมีเคล็ดวิชาอันใดมาเกี่ยวข้องเช่นนี้ แทบจะเรียกว่าเป็นเทพสายลมได้เลยทีเดียว
“ต่อไปก็ตาฉันสินะ” เมื่ออันหลานเดินกลับมาอยู่ด้านข้างรวมกับเพื่อนของเธอ เหยาเซียงก็เป็นคนต่อไปที่ออกไปทดสอบความสามารถพิเศษของตัวเอง
ภายในห้องทดสอบมีอุปกรณ์มากมายวางเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเป้าทดสอบ แท่นฟื้นฟูพลังเวทย์ คู่ซ้อมจำลองที่สร้างจากเวทมนตร์ อาหารบำรุงกำลังต่าง ๆ
พลังของเหยาเซียงก็คือการเปลี่ยนสิ่งที่ถูกสัมผัสด้วยมือขวาของเธอให้กลายเป็นผ้า แต่มันก็จำกัดระยะของการเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นอยู่ที่หนึ่งเมตรเท่านั้น แถมยังต้องใช้พลังเวทย์ในการคงสภาพของสิ่งที่เปลี่ยนให้กลายเป็นผ้าด้วย
ความสามารถนี้แม้จะฟังดูไร้ประโยชน์ แต่มันก็ไม่สามารถดูถูกได้เลยเพราะลองนึกภาพมอนสเตอร์ที่มีเกราะหนาจนไม่อาจโจมตีเข้า ถูกเหยาเซียงเปลี่ยนให้เกราะบริเวณหนึ่งกลายเป็นผ้าแล้วโจมตีใส่ ก็สามารถเจาะทะลุจุดนั้นได้อย่างง่ายดาย!
เรียกได้ว่าเป็นความสามารถพิเศษที่โกงมากเลยทีเดียว แต่ก็ใช้ได้ยากเป็นอย่างยิ่ง
“ของฉันเปลี่ยนเส้นขน” หลี่กงเหมิน เป็นคนทดสอบคนต่อไป ความสามารถพิเศษที่เขาได้รับมาก็คือเปลี่ยนเส้นขนบนร่างกายของตนเองให้แข็งและนุ่มได้ตามใจอยาก ขอเพียงมีพลังเวทย์ที่เพียงพอ
เขาสามารถเปลี่ยนขนหน้าแข็งให้แข็งดุจเพชร และแหลมคมเพื่อใช้ในการเตะโจมตีได้ หรือเขาจะเปลี่ยนขนทั้งตัวให้กลายเป็นยางอันอ่อนนุ่มเพื่อสลายแรงปะทะจากการถูกโจมตีก็ได้เช่นกัน
เป็นความสามารถที่ยืดหยุ่นได้ดี เหมาะสำหรับนักสู้ที่เน้นการโจมตีระยะประชิดแบบเขาไม่น้อย
“เอาเลยซางเว่ย! แสดงความสามารถของออร่าสีดำให้ดูหน่อย!” เพื่อน ๆ ทั้งสามคนต่างร้องตะโกนเชียร์ออกมา ทำเอาซางเว่ยอดรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้
“ฉันจะพยายาม!” ซางเว่ยกล่าวตอบก่อนจะหยิบดาบเล่มหนึ่งจากสนามฝึกซ้อมขึ้นมา
ทุกคนต่างตั้งใจมองซางเว่ยตาไม่กระพริบไม่เว้นแม้แต่เย่ซีก็ตาม พวกเขาเห็นว่าซางเว่ยผู้ซึ่งได้รับออร่าสีดำ วิ่งเข้าใส่เป้าซ้อมที่ทำจากท่อนไม้เคลือบด้วยพลังเวทย์ซึ่งวางเอาไว้ ก่อนจะสะบัดดาบโจมตีเข้าใส่อย่างรวดเร็ว
แต่มันกลับไม่มีเอฟเฟคอลังการ หรือระเบิดตู้มต้ามเหมือนที่คาดหวังเอาไว้ มันเป็นเพียงการโจมตีปกติเท่านั้น ถึงแม้จะดูรุนแรงก็ตามที
“มัน... มีอะไรผิดพลาดรึเปล่า ?” หลี่กงเหมินกล่าวออกมาด้วยความไม่แน่ใจ
“หุ่นนั่นมันเป็นหุ่นที่ทำมาอย่างดีเลยนะ ได้ยินว่ามีแต่ผู้จุติออร่าดำระดับต้น ๆ ที่สามารถสร้างความเสียหายให้มันได้ แต่คะแนนก็ออกมาไม่น้อยเลยนะ” เหยาเซียงกล่าวออกมาพลางชี้ไปยังตัวเลขที่ใช้บอกค่าความเสียหาย แน่นอนว่าเขายังไม่นับรวมถึงพวกที่ได้ออร่าขาวซึ่งถือว่าเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว
“เป็นรองแค่พวกระดับท็อปของออร่าสีดำเองแหะ” หลี่กงเหมินที่สังเกตตามก็กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ