บทที่ 207 โอสถวิญญาณเก้าหยาง
หลังจากที่ หยางหลิงเอ๋อร์ถูกสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์พาไปแล้ว หยางเสี่ยวเทียนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ
อย่างไรก็ตาม ด้วยแรงกดดันอันมหาศาลจากผู้ที่มาในครานี้ ทำให้หยางเสี่ยวเทียนฝึกฝนหนักมากขึ้นกว่าเดิมนัก เขาใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนฝึกฝนมันอย่างต่อเนื่องโดยมิได้ออกจากจวนไปไหนแต่อย่างใด
ซึ่งทักษะที่เขาหมั่นฝึกเน้นเป็นพิเศษคือ เพลงกระบี่ตงเทียน เวทย์หมื่นปราณกระบี่ และปราณมังกรแรกเริ่ม
ในคราวแรกที่เขาฝึกฝนทักษะหมื่นปราณกระบี่ หยางเสี่ยวเทียนก็ได้ฝึกฝนมันจนบรรลุขั้นบทเรียนเริ่มต้นแล้ว
วันต่อมา เขาก็ยังคงฝึกฝนมันเช่นเคย แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือทักษะหมื่นปราณกระบี่นั้น ได้บรรลุไปจนถึงขั้นสำเร็จเล็กน้อย
หลังผ่านไปเพียงสามวัน ทักษะหมื่นปราณกระบี่ก็ได้บรรลุขั้นฉลาดล้ำเลิศ
เมื่อฝึกฝนทักษะหมื่นปราณกระบี่จนบรรลุขั้นฉลาดล้ำเลิศ หยางเสี่ยวเทียนก็เลือกที่จะหยุดไว้เท่านี้ก่อน ต่อให้เขาต้องการฝึกฝนมันให้บรรลุขั้นสมบูรณ์แบบในคราวเดียวก็ตาม
แต่เขารับรู้เป็นอย่างดีว่า ทักษะระดับมหาจอมเวทย์เช่นทักษะหมื่นปราณกระบี่ ตัวเขาในตอนนี้ไม่สามารถฝึกฝนมันให้บรรลุขั้นสมบูรณ์แบบได้ภายในเวลาเพียงสิบวันครึ่ง ทั้งเขายังมีสิ่งอื่นที่ต้องทำเช่นกัน
วันนี้ท้องฟ้าครามกระจ่างดุจเดียวกับมหาสมุทร
หยางเสี่ยวเทียนยืนอยู่ที่ลานฝึกยุทธ์ พร้อมกับกองสมุนไพรวางอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้าเขาขณะนี้ ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้มีมากกว่าร้อยชนิด
แม้ในทุกๆ วัน เขาจะมุ่งเน้นไปยังการฝึกเพลงกระบี่และรากฐานปราณ แต่เขาก็ยังได้ศึกษาคัมภีร์เคล็ดวิชาหลอมโอสถควบคู่ไปด้วย
หลังจากได้ค้นคว้าและเตรียมการอยู่หลายวัน ที่สุดแล้ว วันนี้เขาจึงตัดสินใจหลอมโอสถ
จากคัมภีร์ที่เขียนบันทึกเอาไว้ มีโอสถทั้งหมดเจ็ดชนิด ที่มีฤทธิ์ในการขัดเกลาปราณแท้ในตันเถียน
และโอสถที่เขาต้องการจะหลอมมันขึ้นในวันนี้ คือโอสถวิญญาณเก้าหยาง ซึ่งมันยากต่อการหลอมมากสุดในบรรดาโอสถทั้งเจ็ดชนิด
สำคัญกว่านั้นคือ โอสถวิญญาณเก้าหยางมีฤทธิ์ดีที่สุดสำหรับขัดเกลาปราณแท้
ครั้นทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ หยางเสี่ยวเทียนก็เริ่มโบกสะบัดปลายนิ้ว ทันใดนั้น สมุนไพรที่วางอยู่บนโต๊ะก็ลอยขึ้นมาสองชนิดเบื้องหน้า
จากนั้น หยางเสี่ยวเทียนก็วาดปลายนิ้วอีกครา ไม่ช้าเปลวไฟแห่งสวรรค์และโลก ก็พวยพุ่งออกมาโอบล้อมสมุนไพรทั้งสองแล้วเริ่มหมุนเวียนทันที
ในแต่ละครั้งที่มันหมุนวน สมุนไพรทั้งสองชนิดจะถูกหลอมละลายไปหนึ่งส่วน
ครั้นเปลวไฟโคจรรอบสมุนไพรทั้งสองครบสิบครั้ง มันก็ละลายกลายเป็นของเหลวจนหมดสิ้น เมื่อมันละลายครบแล้ว เปลวไฟแห่งสวรรค์และโลกก็หายไปเฉกเช่นเดียวกัน
ทักษะการควบคุมอันยอดเยี่ยมของหยางเสี่ยวเทียน มันทั้งเสถียรและแม่นยำจนน่าทึ่งเป็นอย่างมาก
ต่อให้เป็นนักปรุงโอสถระดับตำนานหลายคนแห่งจักรวรรดิใดก็ตามที่ใช้ชีวิตในการหลอมโอสถมาหลายร้อยปี ก็ยังมิอาจมีความสามารถในการควบคุมเปลวไฟให้เสถียรได้มากถึงปานนี้
หลังจากสมุนไพรทั้งสองละลายกลายเป็นของเหลว มันก็หยดลงสู่เตาหลอมโอสถราวกับเม็ดฝน
ในการหลอมโอสถวิญญาณเก้าหยางนี้ จำต้องทำให้จบในคราวเดียว โดยไม่รอช้า หยางเสี่ยวเทียนก็พลันสะบัดนิ้วอีกหน พร้อมกับสมุนไพรอีกสามชนิดลอยขึ้นมาเบื้องหน้า
ทว่า ครั้งนี้กลับแตกต่าง แทนที่เขาจะควบคุมเปลวไฟสามลูกเพื่อละลายสมุนไพรสามชนิด เขากลับเพิ่มปริมาณเปลวไฟเป็นสองเท่า คือใช้เปลวไฟหกลูกต่อสมุนไพรสามชนิด
ซึ่งเปลวไฟแห่งสวรรค์และโลกสองลูก เข้าไปห้อมล้อมสมุนไพรเพียงหนึ่งชนิด ด้วยการกระทำเช่นนี้มันจะเสริมสร้างประสิทธิภาพในการหลอมละลายมากขึ้น
ด้วยความร้อนของเปลวไฟจากสวรรค์และโลกที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ทำให้สมุนไพรละลายเร็วกว่าก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก
ใช้เวลาไปเพียงไม่นาน สมุนไพรทั้งสามชนิดก็ละลายกลายเป็นของเหลว แล้วหยดลงสู่เตาหลอมโอสถในทันที
สาเหตุที่โอสถวิญญาณเก้าหยางหลอมสำเร็จได้ยาก ก็เพราะในบรรดาสมุนไพรกว่าร้อยชนิด บางครั้งจำเป็นต้องทำให้สมุนไพรละลายพร้อมกันสองชนิด
บางครั้งก็จำเป็นต้องละลายสมุนไพรสามชนิดพร้อมกัน ผู้ที่จะสามารถทำได้เช่นนี้นั้น จะต้องมีความสามารถในการควบคุมเปลวไฟได้อย่างใจนึก จึงจะสามารถหลอมสมุนไพรเหล่านี้พร้อมกันได้
อย่างไรก็ตาม หากผู้ไร้พรสวรรค์ในการควบคุมเปลวไฟ แล้วไม่สามารถทำให้สมุนไพรละลายพร้อมกันได้ สรรพคุณทางโอสถจะขาดหาย และไม่อาจเรียกมันว่าเป็นโอสถวิญญาณเก้าหยางได้อีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงสุดท้ายของการหลอมโอสถชนิดนี้ จำเป็นต้องละลายสมุนไพรหลายสิบชนิดในเวลาเดียวกัน
ซึ่งแต่ละชนิดของสมุนไพร การละลายล้วนใช้ความร้อนที่แตกต่าง หากใช้ความร้อนเดียวกันในการหลอม บางชนิดจะถูกละลายพอดี บางชนิดอาจไม่ละลาย หรือบางชนิดอาจถูกความร้อนแผดเผาจนเป็นเถ้าถ่าน ดังนั้นจึงต้องใช้ทักษะควบคุมเปลวไฟในระดับที่สูงมาก
อย่างไรก็ตาม สำหรับหยางเสี่ยวเทียนมันก็มิได้แตกต่างอันใดจากการหลอมโอสถอื่นๆ เขาโบกมือสร้างค่ายกลเปลวไฟแห่งสวรรค์และโลก ทำให้สมุนไพรมากกว่าสิบชนิดหลอมละลายกลายเป็นของเหลวทันที ก่อนจากนั้นมันจะหยดสู่เตาหลอมโอสถ
เมื่อเห็นว่าสมุนไพรทั้งหมดถูกหลอมละลายรวมกันแล้ว หยางเสี่ยวเทียนก็ผลักมือไปข้างหน้าเพื่อปลดปล่อยเปลวไฟเก้าหงส์สุวรรณออกมา เข้าห้อมล้อมเตาหลอมโอสถเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว
ภายในเตาหลอมโอสถขณะนี้ สมุนไพรที่กลายเป็นของเหลวกว่าร้อยชนิด เริ่มเข้าควบแน่นกันอย่างต่อเนื่อง
ไอน้ำบางๆ พร้อมกับแสงสว่างเรืองรองเล็กน้อย เริ่มถูกส่งออกมาจากภายในเตาหลอมอยู่เรื่อยๆ
ครั้นเปลวไฟเก้าหงส์สุวรรณสยายปีกของมันอีกครั้งแล้วหายวูบไป กระบวนการหลอมโอสถก็เสร็จสิ้น