ตอนที่แล้วบทที่ 205 ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 207 โอสถวิญญาณเก้าหยาง

บทที่ 206 เป็นความผิดข้างั้นหรือ


บ่ายวันนี้ ก็ได้เวลาที่จางเฮ่าหลินและบรรดาผู้อาวุโสสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์ ต้องพาหยางหลิงเอ๋อร์ไป ซึ่งแน่นอนว่าก่อนจาก นางก็หลั่งน้ำตาคร่ำครวญด้วยคะนึงถึง

“เด็กน้อย เมื่อเจ้าไปถึงสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์ เจ้าต้องหมั่นฝึกฝนอย่างหนัก” หยางเสี่ยวเทียน กล่าวกับหยางหลิงเอ๋อร์ “อย่างไร พี่ใหญ่ก็จะไปเยี่ยมเจ้าอยู่แล้ว”

ได้ฟังดังนั้น นางก็พยักหน้าด้วยความมุ่งมั่น “พี่ใหญ่ ข้าจะเชื่อฟัง ฝึกฝนอย่างหนักและกลายเป็นคนเข้มแข็งในอนาคต จากนั้น ข้าจะปกป้องท่านและท่านพ่อท่านแม่ด้วย”

หยางเสี่ยวเทียนแย้มยิ้ม “ดีมาก จากนี้ไปจะเป็นทีเจ้าบ้าง ที่ต้องปกป้องข้าแล้ว”

จางเฮ่าหลินกล่าวบอกหยางหลิงเอ๋อร์อย่างสำราญใจ “มิต้องกังวล ในเมื่อเจ้าเข้าร่วมสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์เราแล้ว ไม่ช้า เจ้าก็ต้องแข็งแกร่งและสามารถปกป้องเขาได้แน่”

หยางหลิงเอ๋อร์กล่าวอำลาหยางเฉาและหวงอิ๋ง กระทั่งที่สุด นางก็จากไปพร้อมกับจางเฮ่าหลิน รวมบรรดาผู้อาวุโสสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์

หลังจากไป จางเฮ่าหลินยังใจกว้างมอบหินวิญญาณระดับสูงร้อยก้อนแลโอสถวิญญาณสี่ประการระดับนิรันดร์อีกยี่สิบเม็ด ให้แก่หยางเฉาและหวงอิ๋งเป็นการตอบแทน ซึ่งหยางเสี่ยวเทียนเห็นแล้วส่ายศีรษะ

ส่วนหวงอิ๋งและหยางเฉาก็เพียงเฉยๆ กับโอสถเหล่านี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่บุตรตนสามารถหลอมใช้เองได้ แลไม่มีวันหมดแค่ยี่สิบเม็ดเท่านั้นด้วย

แม้โอสถวิญญาณสี่ประการระดับนิรันดร์ยี่สิบเม็ด จะนับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับอาณาจักรเสินไห่ แต่สำหรับสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์ พวกเขาค่อนข้างไม่ตระหนี่เลยสักนิด

ถึงตอนนี้จะมิอาจรู้ได้ ว่าสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์ที่น้องสาวเขาเลือก จะดีต่อนางจริงหรือไม่

“สำนักเทพมังกรบริสุทธิ์ ข้าหวังว่าเจ้าจะปฏิบัติตามสัญญาและพยายามเต็มที่เพื่อฝึกฝนน้องสาวข้า” หยางเสี่ยวเทียนพึมพำ ขณะมองยังทิศทางที่จางเฮ่าหลินจากไป

“หากเจ้าปล่อยให้น้องสาวข้าต้องทนทุกข์ทรมานกับความอยุติธรรมในสำนักพวกเจ้า ข้าจะพลิกสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่จมหายลงทั้งสำนักแน่นอน”

ปราณกระบี่อันน่ายำเกรงรอบกายหยางเสี่ยวเทียน พุ่งทะยานขึ้นเหนือท้องฟ้าทันที

จิตวิญญาณแห่งกระบี่นั้น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทุกอย่างและสร้างความแกร่งของตนได้ มิจำเป็นต้องก้มหัวให้ผู้ใดเพื่อพลังอำนาจ!

หยางเฉา อูฉีและคนอื่นๆ ซึ่งยืนอยู่เบื้องหลังหยางเสี่ยวเทียน สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ส่งผ่านจากปราณกระบี่เขา มันทั้งแข็งแกร่งแลไร้ซึ่งความอ่อนข้อต่ออำนาจหรืออิทธิพลใด ที่คิดไม่ซื่อใช้เล่ห์เหลี่ยมกับเขา

“พ่อยังอยู่ ไม่มีผู้ใดกล้าทำอะไรน้องสาวเจ้าได้” หยางเฉากล่าวขณะสืบเท้าเข้าโอบไหล่หยางเสี่ยวเทียน ซึ่งหวงอิ๋งเข้าโอบอีกฝั่งส่งแรงเสริมให้ผู้เป็นบุตรชายคลายกังวล

“นายน้อยอย่ากังวล หากสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์ ปล่อยให้คุณหนูหลิงเอ๋อร์ทนทุกข์ทรมาน ข้าอูฉี จะติดตามนายน้อยจัดการคนทั้งสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์ให้สิ้นซากเอง” อูฉีกล่าวเสริมอีกผู้อย่างเคร่งขรึม

ซึ่งในเวลาเดียวกัน อูฉีก็นึกรู้สึกสมเพชบรรดาตัวแทนจากสำนักกระบี่มังกรเร้นลับ และสำนักเทพพิสุทธิ์ หนึ่งในสิบสำนักชั้นยอดพวกนี้ ล้วนมีชื่อเสียงเลื่องลือด้านความเก่งกาจแข็งแกร่ง แต่วิสัยทัศน์โดยเฉพาะสติปัญญานั้นหามีไม่

เป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่บรรดาสำนักสุดยอดเหล่านี้ตาบอด มองไม่ออกว่ามีทองคำฝังด้วยหยกใต้โคลนตม

เพลานี้ ทุกคนล้วนรับรู้ถึงความรู้สึกหยางเสี่ยวเทียนเป็นอย่างดี ซึ่งไม่ว่าเขาจะกระทำหรือคิดสิ่งใด ล้วนมีเหตุและผลในตัวมันเสมอ

ไม่กี่ชั่วลมหายใจ ข่าวที่หยางหลิงเอ๋อร์มีวิญญาจารย์ผู้ทรงพลังจากสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์เลือกเข้าร่วมสำนัก แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วอาณาจักรเสินไห่

เหล่าคนจากตระกูลน้อยใหญ่ทุกผู้ในอาณาจักรเสินไห่ มิมีผู้ใดไม่ประหลาดใจ โดยเฉพาะความรู้สึกอิจฉาที่นางมีพรสวรรค์สูงส่งจนน่าชื่นชม แลริษยาที่นางเก่งกาจเกินพวกตนจนโกรธแค้น

แน่นอนว่าข่าวอันโจษขานไปทั่วทั้งอาณาจักรนี้ ต้องถึงเมืองซิงเยว่ ให้คนในเมืองต่างโห่ร้องปลาบปลื่มยินดีกันทั่ว ด้วยนางก็เป็นบุคคลผู้สร้างชื่อเสียงให้แก่เมืองเช่นกัน

ส่วนหยางหมิงที่กำลังร่ายรำกระบี่สีหน้าจริงจังกลางลานฝึกยุทธ์ ณ จวนสกุลหยาง ก็พลันได้หยุดชะงักลงหลังประสบเห็นทหารยามประจำหมู่บ้าน วิ่งปรี่เข้ามาหาตนจนอาการเหนื่อยหอบ

กว่าเขาจะรายงานให้หยางหมิงทราบได้ ว่าหยางหลิงเอ๋อร์ถูกบุคคลผู้มีอำนาจสูงส่งเลือกเข้าร่วม สำนักเทพมังกรบริสุทธิ์อันทรงเกียรติยศ ก็ทำเอาเขาคิ้วขมวดด้วยฉุนเฉียวไปหลายครา

แต่ครั้นจับต้นชนปลายจากประโยคเหล่านั้นจวนเข้าใจ กระบี่ในมือหยางหมิงก็มิรู้ว่าร่วงหลุดจากมือหล่นลงพื้นเสียงดังไปตั้งแต่เมื่อไร

เขายืนแข็งทื่อ มือไม้สั่นเทาหลังทราบว่าหลานสาวตัวน้อยซึ่งเขาไม่เคยชื่นชอบ หรือแม้แต่เหลียวแลด้วยเมตตามาก่อน ได้มีเกียรติเข้าร่วมสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์อันยิ่งใหญ่ ที่ใครๆ ก็ได้แค่ใฝ่ฝันแต่มิมีโอกาสเอื้อมถึง

เพราะผู้ใดต่างก็ล่วงรู้ดี ว่าสำนักเทพมังกรบริสุทธิ์ ถือเป็นสำนักที่มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือสำนักอื่นๆ ทั้งหมด ณ ดินแดนชางเสินแห่งนี้ ยิ่งหากมีคนในตระกูลได้รับเลือกให้เข้าร่วมสำนักชั้นยอด เขายิ่งรู้ดีว่าหมายความอย่างไร

“เป็นความผิดข้างั้นหรือ” หยางหมิงใคร่ครวญกับตัวเองอย่างสับสน คิดทบทวนจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว

เขาเดินเหม่อลอยราวคนไม่มีวิญญาณระหว่างกลับเรือน ทำบ่าวที่พลอยประสบเห็น จดจำท่าทางผู้เคยเคร่งขรึมดุร้ายแทบไม่ได้

“ทะ ท่านพ่อ เรายอมให้น้องรองและคนอื่นๆ ย้ายกลับมาที่นี่ดีหรือไม่” ในเวลานี้เอง หยางไห่ผู้เพิ่งกลับจากข้างนอก ก็รีบปรี่เข้ามาหาหยางหมิงก่อนเอ่ยถามอย่างลังเล

หยางหมิงเงยหน้ามองหยางไห่ ก่อนจู่ๆ จะร้องไห้และหัวเราะออกมาราวกับคนเสียสติ “ฮ่าฮ่า ให้น้องรองเจ้าและคนอื่นๆ ย้ายกลับมาที่นี่อย่างนั้นหรือ”

หยางไห่ผงะตกใจ ครั้นประสบเห็นท่าทางวิกลจริตของผู้เป็นบิดา “ท่านพ่อ ทะ ท่านสบายดีหรือไม่”

หยางหมิงดูเหมือนจะไม่ได้ยินสิ่งที่หยางไห่พูด เขาเอาแต่หัวเราะและร้องไห้ฟูมฟายกล่าวย้ำประโยคเดิมไม่หยุด “ฮ่าฮ่า ยอมให้น้องรองและคนอื่นๆ ย้ายกลับมาที่นี่!”

จากนั้นเขาก็เดินจิตใจล่องลอยผ่านหยางไห่กลับเรือนตน เพิกเฉยแลปิดกั้นทุกสิ่งอย่างจากโลกภายนอกแม้แต่สุ้มเสียงแมลงใดๆ

“ยอมให้น้องรองและคนอื่นๆ ย้ายกลับมาที่นี่ หยางเฉา…” ในห้อง หยางหมิงยังคงเอ่ยเลื่อนลอยกล่าวย้ำๆ ซ้ำๆ ไม่หยุด

ส่วนหยางไห่ผู้เพิ่งเคยประสบพบเห็นผู้เป็นบิดาอย่างกับคนไร้สติ อารมณ์แลความนึกคิดก็แปรเปลี่ยนไปหลากหลาย

ยิ่งได้คิดถึงหยางหลิงเอ๋อร์ หยางไห่ก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพร้อมพึมพำเบาๆ อย่างสิ้นหวัง

“สำนักเทพมังกรบริสุทธิ์”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด