บทที่ 10 ค่ำคืนแรกของพ่อมดฝึกหัด
บทที่ 10 ค่ำคืนแรกของพ่อมดฝึกหัด
โซลมองสาวใช้เหล่าอย่างเขินอาย
ตัวเขาตอนนี้ อายุเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้น!
โซลรีบดึงรถเข็นเข้ามาในห้องและกระแทกใส่หน้าสาวใช้
สาวใช้ยืดตัวขึ้นหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ
ในเวลานี้สาวใช้ที่ทำหน้าที่ส่ง หนังสือให้แก่ห้อง 603 ก็เข้ามาด้วยรถเข็นคันเปล่า
นางมองสาวใช้อีกคนที่อยู่ห้องนอก และรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย "เขาไม่ให้เจ้าเข้าไปงั้นหรือ?"
"ช่างมันเถอะ" สาวคนนั้นนำเสื้อคลุมของนางมาใส่ ตัวนางสั่นเล็กน้อย "ในเมื่อเขาไม่ต้องการมัน"
โซลไม่รู้ว่า เหล่าสาวใช้ที่อยู่ด้านนอกประตูตอนนี้มองเขาเป็นแค่เหยื่อ ตอนนี้เขาหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านด้วยสีหน้าที่มีความสุข
แต่ละเล่มหนาอย่างมาก
บ้างเกี่ยวกับสัตว์วิเศษ พืช และแร่ธาตุต่างๆ บนโลกนี้
บางก็เล่าถึงเรื่องราวกับตำนานภูติผีและสัตว์ประหลาดต่างๆ
บางเล่มเหมือนหนังสือเรียกต่างแดน มันทั้งซับซ้อนและเข้าใจได้ยาก
ด้วยภาพประกอบ ภายในที่ดูแปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัว หากเขาจ้องมองนานมันจะทำให้เขาเวียนหัว
หลังจากพลิกดูหนังสือแต่ละเล่มคราวๆ ต่อมาโซลก็มาดูถุงหนังสีดำ
มีลูกแก้ว ที่เขาเคยเห็นก่อนหน้านี้ แต่มันไม่ใช่สีดำบริสุทธิ์ แต่มันเป็นสีโปร่งใส
มีชุดบีกเกอร์ หลอด ทดลอง ที่ทำจากแก้วพร้อมกับถ้วยตวงเล็กๆ
นอกจากนี้ยังมีกล่องไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งมีช่องจำนวนมาก บรรจุสิ่งของต่างๆ เช่น ชุดพ่อมดฝึกหัดระดับ 1
สิ่งเหล่านี้ได้อธิบายเอาไว้ในคู่มือพ่อมดฝึกหัดหมดแล้ว โซลนำคู่มือออกมาเทียบทีละรายการในที่สุดก็ได้เข้าใจ
โซลดึงตราพ่อมดฝึกหัดมากลัดไว้บนเสื้อนอกของเขาและใช้นิ้วลูบมัน
เมื่อคิดถึงชั้นเรียนแรกในวันพรุ่งนี้ โซลก็อดไม่ได้ที่จะหยิบหนังสือขึ้นมาดู "ภาษาพ่อมด : ภาษาโนอาห์" ออกมาและเริ่มลองอ่านดู
สุดท้ายแล้ว ตัวเขาเคยผ่านการทดสอบของวิทยาลัยในชีวิตก่อนหน้านี้ โซลค่อนข้างคุ้นเคยกับการท่องจำเนื้อหาภายในหนังสือ
มันไม่มีหน้าต่างในห้องของพ่อมดฝึกหัดระดับ 1 ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้ เขาทำได้เพียงดูเวลาจากนาฬิกาทรายสีน้ำเงินที่อยู่เหนือเขาเท่านั้น
ทรายสีน้ำเงินค่อยๆ ตกมาทีละนิด พร้อมกับเวลาที่ค่อยๆ ไหลไป ทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นเงียบสงัด
โซลกิน อาหารกลางวันและอาหารเย็นที่สาวใช้นำมาให้โดยไม่ลังเล เมื่อโซลเงยหน้าขึ้นก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
ชั้นเรียนจะเริ่มต้นขึ้นในพรุ่งนี้ ดังนั้นเขาไม่ควรนอนดึกเกินไป จะได้ไม่แปลงพลังงาน
โซลบิดขี้เกียจ กล้ามเนื้อในร่างกายของเขาส่งเสียงคำรามออกมา แต่ตัวเขายังรู้สึกแจ่มใสไม่ได้ง่วงหรือเหนื่อย
หลังจากผ่านการทดสอบพลังจิตของพ่อมดฝึกหัด เขาก็ว่าพลังจิตของเขานั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม ราวกับว่าร่างกายของเขาปลดล๊อคขึ้นไปอีกระดับ
แถมในสมัยก่อน เขายังเป็นข้ารับใช้ที่ต้องทำงานจนถึง 4 ทุ่ม และถูกสั่งให้ลุกจากเตียงในตอน ตี 4 เพื่อมาทำงาน
ในตอนนั้นเขามักรู้สึกว่าตัวเขานอนไม่พอ
แต่พอกลายเป็นพ่อมดฝึกหัด เขากับไม่รู้สึกอยากนอนเมื่อมีเวลานอน
"หรือว่าข้าจะคิดไปเอง? ดูเหมือนว่าพลังจิตจะทำให้ข้ารู้สึกแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมมาก"
โซลเริ่มไม่แน่ใจสภาพของเขา และ เตรียมตัดสินใจที่จะขอคำแนะนำเหล่าผู้อาวุโสในวันพรุ่งนี้
จากนั้นเขาก็เดินออกไปยังผนัง หรี่แสงเทียนลงให้อ่อนที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นในห้องหรือทางเดิน มันก็สามารถหรี่ความสว่างของแสงเทียนได้โดยไม่ต้องหลับ
นี้เป็นเรื่องที่แม้แต่ข้ารับใช้ก็ยังรู้
เพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันถึงชีวิตนั้นเอง
ขณะที่นอนอยู่บนเตียง โซลรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
เตียงยาวประมาณ 1 เมตรครึ่ง ซึ่งนอนสบายมากกว่าเตียง 2 ชั้นที่เขาเคยนอนมาก
โซลกางแขนขาออกมาพยายามให้มันครอบคลุมเตียงทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ตัวเขายังเป็นเพียงเด็กและผอมบาง ดังนั้นจึงมีพื้นที่เพียงพอไม่ต้องนอนตะแคงอีกต่อไป
หลังจากสัมผัสบรรยากาศเช่นนี้ไปได้สักพัก โซลรู้สึกว่าตัวเขานอนไม่หลับ เขาเดินไปยับลูกแก้วเล็กๆ นั้นมาและคลุมโปงด้วยผ้าห่ม จากนั้นเขาก็รู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก
ครั้งนี้ เขาหลับไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อถึงเวลาตี 4 15 นาฬิกาทรายก็ปลุกให้โซลตื่นขึ้น
เขาลุกขึ้นหลังและหาวออกมา สูดอากาศที่เย็นสบายเข้าในปิดและบังคับตัวเองให้ตื่นในทันที
แสงเทียนสว่างสาดส่องลงมา โซลกลับมานั่งที่โต๊ะยาว
ขณะที่เขากำลังเปิดหนังสือดู จู่ ๆ ก็มีบางอย่างปรากฏขึ้นในใจของเขา เขาเดินไปที่ประตูผลักประตูให้เป็นรอยแยกเล็กๆ และมองออกไป
ห้องของเขาคือห้อง 604 ที่อยู่ใกล้ทางเดิน ซึ่งเขาทางมองเห็นทางลาดที่เป็นทางขึ้นของชั้นล่างได้
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่แผ่วเบา และร่างของเด็กชายที่ปรากฏขึ้นท่ามกลางแสงเทียนสลัวๆ พยายามเข็นรถเข็นขึ้นมา
นั้นบราวน์ไม่ใช่หรือ?
โซลเบิกตากว้าง ตัวเขาต้องการที่จะออกไปแต่สุดท้ายเขาก็สามารถระงับแรงกระตุ้นภายในใจได้
แม้ว่าสถานะของเขาจะเปลี่ยนเป็นพ่อมดฝึกหัดแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ยังคงเหมือนวันก่อนๆ
เขาปิดประตูและกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง
"ข้าจำได้ว่าบราวน์ทำงานในตอนเช้าเมื่อ 2 วันก่อนไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมวันนี้ถึงยังเป็นเขาอีกละ"
"หรือเป็นเพราะข้ามาเป็นพ่อมดฝึกหัดงั้นหรือ?"
แม้ว่าโซลจะผ่านการทดสอบของพ่อมดฝึกหัดได้ด้วยการโกง มีพ่อมดฝึกหัดหลายคนรู้เรื่องนี้
แต่เหล่าข้ารับใช้ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขารู้แค่ว่าโซลนั้นได้เปลี่ยนสถานะจากข้ารับใช้มาเป็นพ่อมดฝึกหัด ที่ทรงพลังและน่าสะพรึงกลัว
แล้วบราวน์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหัวโจกที่คอยกลั่นแกล้งเขา ต้องทำงานในตอนเช้า
โซลต้องการถามบราวน์ ว่าใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและต้องการสังหารเขา?
แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ดี ประการแรก โซลยังไม่มีความสามารถในการเค้นหาความจริง ประการที่ 2 มันกลายเป็นทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังรู้ตัว
เขามองไปข้างๆ เมื่อเห็นว่าสมุดปกแข็งที่ลอยอยู่ และเอื้อมมือไปแตะสมุดที่คอยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ น่าเสียดายที่นิ้วของเขาทะลวงผ่านสมุดไป สัมผัสได้เพียงความว่างเปล่าเพียงเท่านั้น
"บางทีซักวัน เมื่อข้ากลายเป็นพ่อมดที่แท้จริงแล้ว ข้าจะสามารถล่วงรู้ความลับของสมุดปกแข็งเล่มนี้ได้"
ภัยคุกคามไม่ได้ลดลงเลยแม้ว่าเขาจะกลายเป็นพ่อมดฝึกหัดแล้วก้ตาม แต่อันตรายที่อยู่รอบตัวเขากลับหนักหน่วงขึ้น ที่มองออกไปเขาไม่รู้ว่ามีอันตรายแบบไหนดักรอเขาอยู่?
โซลจมดิ่งลงไปในภวังค์ความคิดอีกครั้ง ตอนนี้เขาทำได้เพียงพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเท่านั้น พอที่จะทำให้เขารูสึกสบายใจได้
สิ่งที่ปลุกโซลตื่นจากภวังค์อีกครั้งก้คือ เสียงเคาะประตู
ด้านนอก ประตู คือเคลี ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีฟ้า นางน่าจะนอนดึกเพราะมัวแต่อ่านหนังสือ
"ใกล้ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว ไหนลองบอกสิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้เมื่อคืนนี้มาหน่อยสิ"
นี่อาจเป็นความหมายที่แท้จริงของคำว่า "คนเก่งก็ควรอยู่กับคนเก่ง"
โซลเงยหน้าขึ้นมอง นาฬิกา ดูเหมือนคาบเรียนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว แม้ว่าจะช้ากว่าที่คิดเอาไว้เล็กน้อย
เขาจึงรีบหยิบ หนังสือ กระดาษ ปากกาขึ้นมาแล้วรีบออกประตูไป
"เจ้าสามารถตั้งนาฬิกาเพื่อให้มันเตือนเจ้าได้นะ มันมีบอกเอาไว้ในคู่มือพ่อมดฝึกหัดแล้ว"
โซลทำท่าเหมือนเข้าใจแล้ว เคลี จึงไม่ได้ว่าอะไร
ทั้ง 2 เดินออกไปอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปยังหอคอยทิศตะวันออก พูดคุยกันไประหว่างเดิน
"เมื่อวานนี้เจ้าอ่านไปมากแค่ไหนกัน? ข้าอ่านไปได้แค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ข้ารู้สึกมึนงงและเวียนหัว ข้าจึงต้องหลับตาเพื่อพักก่อน" เคลี่ พูดเบาๆ
หัวใจของโซลสั่นรัว เขาไม่ได้พูดความจริงออกไป
"ข้าก็อ่านไปได้ประมาณ 3 ถึง 4 ชั่วโมงก่อนที่จะหยุดพักหน่ะ"
อันที่จริง เมื่อวานนี้เขาแทบจะกินหนังสือเข้าไปเลยด้วยซ้ำ เขาพักผ่อนจริงๆก็ตอนที่เขาอยู่บนเตียงเท่านั้น
ตัวเขาได้นอนไปเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้นแต่รู้สึกว่าสมองโล่งอย่างบอกไม่ถูก
แต่ถึงอย่างนั้น เคลี กลับจากมองมาที่เขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง สีหน้าของนางบ่งบอกว่านางไม่เชื่อ
"พลังจิตของเจ้านี้ช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสามารถจ้องมอง หุ่นกระบอกนั้นได้นานขนาดนั้น" นางพูดพลางก้มหน้า เหลือบมองไปยังหนังสือที่นางถืออยู่ และพูดด้วยความเสียใจว่า "ข้าหวังว่าข้าจะอ่านมันได้นานขึ้นอีกนิด"
ทั้ง 2 มาถึงห้องเรียนใหญ่ ที่อยู่บนชั้นที่ 10
ห้องเรียนเต็มไปด้วย เหล่าพ่อมดฝึกหัดเห็นได้ชัดว่าหลายคนไม่ใช่เด็กใหม่
ยกเว้นที่นั่งแถวแรก และแถวสุดท้ายด้านในที่ว่างอยู่นั้น ที่นั่งที่เหลือล้วนเต็มหมดแล้ว
ในระหว่างที่โซลกำลังลังเล ว่าจะเลือกเป็นคนธรรมดา หรือ จุดเด่น เคลี ก็เดินก้าวไปยังที่นั่งแถวหน้าแล้ว
นางสังเกตเห็นว่าโซลไม่ได้ตามมา นางจึงหันกลับไปและจับมือเขา
"มาเถอะ เจ้าไม่ต้องทำตัวต้อยต่ำอีกต่อไปแล้ว"