ตอนที่แล้วบทที่ 9 คนที่ตายก็เป็นได้เพียงขยะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 เห็ดผิวขาว

บทที่ 10 ค่ำคืนแรกของพ่อมดฝึกหัด


บทที่ 10 ค่ำคืนแรกของพ่อมดฝึกหัด

โซลมองสาวใช้เหล่าอย่างเขินอาย

ตัวเขาตอนนี้ อายุเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้น!

โซลรีบดึงรถเข็นเข้ามาในห้องและกระแทกใส่หน้าสาวใช้

สาวใช้ยืดตัวขึ้นหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ

ในเวลานี้สาวใช้ที่ทำหน้าที่ส่ง หนังสือให้แก่ห้อง 603 ก็เข้ามาด้วยรถเข็นคันเปล่า

นางมองสาวใช้อีกคนที่อยู่ห้องนอก และรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย "เขาไม่ให้เจ้าเข้าไปงั้นหรือ?"

"ช่างมันเถอะ" สาวคนนั้นนำเสื้อคลุมของนางมาใส่ ตัวนางสั่นเล็กน้อย "ในเมื่อเขาไม่ต้องการมัน"

โซลไม่รู้ว่า เหล่าสาวใช้ที่อยู่ด้านนอกประตูตอนนี้มองเขาเป็นแค่เหยื่อ ตอนนี้เขาหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านด้วยสีหน้าที่มีความสุข

แต่ละเล่มหนาอย่างมาก

บ้างเกี่ยวกับสัตว์วิเศษ พืช และแร่ธาตุต่างๆ บนโลกนี้

บางก็เล่าถึงเรื่องราวกับตำนานภูติผีและสัตว์ประหลาดต่างๆ

บางเล่มเหมือนหนังสือเรียกต่างแดน มันทั้งซับซ้อนและเข้าใจได้ยาก

ด้วยภาพประกอบ ภายในที่ดูแปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัว หากเขาจ้องมองนานมันจะทำให้เขาเวียนหัว

หลังจากพลิกดูหนังสือแต่ละเล่มคราวๆ ต่อมาโซลก็มาดูถุงหนังสีดำ

มีลูกแก้ว ที่เขาเคยเห็นก่อนหน้านี้ แต่มันไม่ใช่สีดำบริสุทธิ์ แต่มันเป็นสีโปร่งใส

มีชุดบีกเกอร์ หลอด ทดลอง ที่ทำจากแก้วพร้อมกับถ้วยตวงเล็กๆ

นอกจากนี้ยังมีกล่องไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งมีช่องจำนวนมาก บรรจุสิ่งของต่างๆ เช่น ชุดพ่อมดฝึกหัดระดับ 1

สิ่งเหล่านี้ได้อธิบายเอาไว้ในคู่มือพ่อมดฝึกหัดหมดแล้ว โซลนำคู่มือออกมาเทียบทีละรายการในที่สุดก็ได้เข้าใจ

โซลดึงตราพ่อมดฝึกหัดมากลัดไว้บนเสื้อนอกของเขาและใช้นิ้วลูบมัน

เมื่อคิดถึงชั้นเรียนแรกในวันพรุ่งนี้ โซลก็อดไม่ได้ที่จะหยิบหนังสือขึ้นมาดู "ภาษาพ่อมด : ภาษาโนอาห์" ออกมาและเริ่มลองอ่านดู

สุดท้ายแล้ว ตัวเขาเคยผ่านการทดสอบของวิทยาลัยในชีวิตก่อนหน้านี้ โซลค่อนข้างคุ้นเคยกับการท่องจำเนื้อหาภายในหนังสือ

มันไม่มีหน้าต่างในห้องของพ่อมดฝึกหัดระดับ 1 ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้ เขาทำได้เพียงดูเวลาจากนาฬิกาทรายสีน้ำเงินที่อยู่เหนือเขาเท่านั้น

ทรายสีน้ำเงินค่อยๆ ตกมาทีละนิด พร้อมกับเวลาที่ค่อยๆ ไหลไป ทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นเงียบสงัด

โซลกิน อาหารกลางวันและอาหารเย็นที่สาวใช้นำมาให้โดยไม่ลังเล เมื่อโซลเงยหน้าขึ้นก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว

ชั้นเรียนจะเริ่มต้นขึ้นในพรุ่งนี้ ดังนั้นเขาไม่ควรนอนดึกเกินไป จะได้ไม่แปลงพลังงาน

โซลบิดขี้เกียจ กล้ามเนื้อในร่างกายของเขาส่งเสียงคำรามออกมา แต่ตัวเขายังรู้สึกแจ่มใสไม่ได้ง่วงหรือเหนื่อย

หลังจากผ่านการทดสอบพลังจิตของพ่อมดฝึกหัด เขาก็ว่าพลังจิตของเขานั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม ราวกับว่าร่างกายของเขาปลดล๊อคขึ้นไปอีกระดับ

แถมในสมัยก่อน เขายังเป็นข้ารับใช้ที่ต้องทำงานจนถึง 4 ทุ่ม และถูกสั่งให้ลุกจากเตียงในตอน ตี 4 เพื่อมาทำงาน

ในตอนนั้นเขามักรู้สึกว่าตัวเขานอนไม่พอ

แต่พอกลายเป็นพ่อมดฝึกหัด เขากับไม่รู้สึกอยากนอนเมื่อมีเวลานอน

"หรือว่าข้าจะคิดไปเอง? ดูเหมือนว่าพลังจิตจะทำให้ข้ารู้สึกแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมมาก"

โซลเริ่มไม่แน่ใจสภาพของเขา และ เตรียมตัดสินใจที่จะขอคำแนะนำเหล่าผู้อาวุโสในวันพรุ่งนี้

จากนั้นเขาก็เดินออกไปยังผนัง หรี่แสงเทียนลงให้อ่อนที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นในห้องหรือทางเดิน มันก็สามารถหรี่ความสว่างของแสงเทียนได้โดยไม่ต้องหลับ

นี้เป็นเรื่องที่แม้แต่ข้ารับใช้ก็ยังรู้

เพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันถึงชีวิตนั้นเอง

ขณะที่นอนอยู่บนเตียง โซลรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

เตียงยาวประมาณ 1 เมตรครึ่ง ซึ่งนอนสบายมากกว่าเตียง 2 ชั้นที่เขาเคยนอนมาก

โซลกางแขนขาออกมาพยายามให้มันครอบคลุมเตียงทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ตัวเขายังเป็นเพียงเด็กและผอมบาง ดังนั้นจึงมีพื้นที่เพียงพอไม่ต้องนอนตะแคงอีกต่อไป

หลังจากสัมผัสบรรยากาศเช่นนี้ไปได้สักพัก โซลรู้สึกว่าตัวเขานอนไม่หลับ เขาเดินไปยับลูกแก้วเล็กๆ นั้นมาและคลุมโปงด้วยผ้าห่ม จากนั้นเขาก็รู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก

ครั้งนี้ เขาหลับไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงเวลาตี 4 15 นาฬิกาทรายก็ปลุกให้โซลตื่นขึ้น

เขาลุกขึ้นหลังและหาวออกมา สูดอากาศที่เย็นสบายเข้าในปิดและบังคับตัวเองให้ตื่นในทันที

แสงเทียนสว่างสาดส่องลงมา โซลกลับมานั่งที่โต๊ะยาว

ขณะที่เขากำลังเปิดหนังสือดู จู่ ๆ ก็มีบางอย่างปรากฏขึ้นในใจของเขา เขาเดินไปที่ประตูผลักประตูให้เป็นรอยแยกเล็กๆ และมองออกไป

ห้องของเขาคือห้อง 604 ที่อยู่ใกล้ทางเดิน ซึ่งเขาทางมองเห็นทางลาดที่เป็นทางขึ้นของชั้นล่างได้

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่แผ่วเบา และร่างของเด็กชายที่ปรากฏขึ้นท่ามกลางแสงเทียนสลัวๆ พยายามเข็นรถเข็นขึ้นมา

นั้นบราวน์ไม่ใช่หรือ?

โซลเบิกตากว้าง ตัวเขาต้องการที่จะออกไปแต่สุดท้ายเขาก็สามารถระงับแรงกระตุ้นภายในใจได้

แม้ว่าสถานะของเขาจะเปลี่ยนเป็นพ่อมดฝึกหัดแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ยังคงเหมือนวันก่อนๆ

เขาปิดประตูและกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง

"ข้าจำได้ว่าบราวน์ทำงานในตอนเช้าเมื่อ 2 วันก่อนไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมวันนี้ถึงยังเป็นเขาอีกละ"

"หรือเป็นเพราะข้ามาเป็นพ่อมดฝึกหัดงั้นหรือ?"

แม้ว่าโซลจะผ่านการทดสอบของพ่อมดฝึกหัดได้ด้วยการโกง มีพ่อมดฝึกหัดหลายคนรู้เรื่องนี้

แต่เหล่าข้ารับใช้ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขารู้แค่ว่าโซลนั้นได้เปลี่ยนสถานะจากข้ารับใช้มาเป็นพ่อมดฝึกหัด ที่ทรงพลังและน่าสะพรึงกลัว

แล้วบราวน์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหัวโจกที่คอยกลั่นแกล้งเขา ต้องทำงานในตอนเช้า

โซลต้องการถามบราวน์ ว่าใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและต้องการสังหารเขา?

แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ดี ประการแรก โซลยังไม่มีความสามารถในการเค้นหาความจริง ประการที่ 2 มันกลายเป็นทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังรู้ตัว

เขามองไปข้างๆ เมื่อเห็นว่าสมุดปกแข็งที่ลอยอยู่ และเอื้อมมือไปแตะสมุดที่คอยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ น่าเสียดายที่นิ้วของเขาทะลวงผ่านสมุดไป สัมผัสได้เพียงความว่างเปล่าเพียงเท่านั้น

"บางทีซักวัน เมื่อข้ากลายเป็นพ่อมดที่แท้จริงแล้ว ข้าจะสามารถล่วงรู้ความลับของสมุดปกแข็งเล่มนี้ได้"

ภัยคุกคามไม่ได้ลดลงเลยแม้ว่าเขาจะกลายเป็นพ่อมดฝึกหัดแล้วก้ตาม แต่อันตรายที่อยู่รอบตัวเขากลับหนักหน่วงขึ้น ที่มองออกไปเขาไม่รู้ว่ามีอันตรายแบบไหนดักรอเขาอยู่?

โซลจมดิ่งลงไปในภวังค์ความคิดอีกครั้ง ตอนนี้เขาทำได้เพียงพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเท่านั้น พอที่จะทำให้เขารูสึกสบายใจได้

สิ่งที่ปลุกโซลตื่นจากภวังค์อีกครั้งก้คือ เสียงเคาะประตู

ด้านนอก ประตู คือเคลี ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีฟ้า นางน่าจะนอนดึกเพราะมัวแต่อ่านหนังสือ

"ใกล้ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว ไหนลองบอกสิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้เมื่อคืนนี้มาหน่อยสิ"

นี่อาจเป็นความหมายที่แท้จริงของคำว่า "คนเก่งก็ควรอยู่กับคนเก่ง"

โซลเงยหน้าขึ้นมอง นาฬิกา ดูเหมือนคาบเรียนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว แม้ว่าจะช้ากว่าที่คิดเอาไว้เล็กน้อย

เขาจึงรีบหยิบ หนังสือ กระดาษ ปากกาขึ้นมาแล้วรีบออกประตูไป

"เจ้าสามารถตั้งนาฬิกาเพื่อให้มันเตือนเจ้าได้นะ มันมีบอกเอาไว้ในคู่มือพ่อมดฝึกหัดแล้ว"

โซลทำท่าเหมือนเข้าใจแล้ว เคลี จึงไม่ได้ว่าอะไร

ทั้ง 2 เดินออกไปอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปยังหอคอยทิศตะวันออก พูดคุยกันไประหว่างเดิน

"เมื่อวานนี้เจ้าอ่านไปมากแค่ไหนกัน? ข้าอ่านไปได้แค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ข้ารู้สึกมึนงงและเวียนหัว ข้าจึงต้องหลับตาเพื่อพักก่อน" เคลี่ พูดเบาๆ

หัวใจของโซลสั่นรัว เขาไม่ได้พูดความจริงออกไป

"ข้าก็อ่านไปได้ประมาณ 3 ถึง 4 ชั่วโมงก่อนที่จะหยุดพักหน่ะ"

อันที่จริง เมื่อวานนี้เขาแทบจะกินหนังสือเข้าไปเลยด้วยซ้ำ เขาพักผ่อนจริงๆก็ตอนที่เขาอยู่บนเตียงเท่านั้น

ตัวเขาได้นอนไปเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้นแต่รู้สึกว่าสมองโล่งอย่างบอกไม่ถูก

แต่ถึงอย่างนั้น เคลี กลับจากมองมาที่เขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง สีหน้าของนางบ่งบอกว่านางไม่เชื่อ

"พลังจิตของเจ้านี้ช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสามารถจ้องมอง หุ่นกระบอกนั้นได้นานขนาดนั้น" นางพูดพลางก้มหน้า เหลือบมองไปยังหนังสือที่นางถืออยู่ และพูดด้วยความเสียใจว่า "ข้าหวังว่าข้าจะอ่านมันได้นานขึ้นอีกนิด"

ทั้ง 2 มาถึงห้องเรียนใหญ่ ที่อยู่บนชั้นที่ 10

ห้องเรียนเต็มไปด้วย เหล่าพ่อมดฝึกหัดเห็นได้ชัดว่าหลายคนไม่ใช่เด็กใหม่

ยกเว้นที่นั่งแถวแรก และแถวสุดท้ายด้านในที่ว่างอยู่นั้น ที่นั่งที่เหลือล้วนเต็มหมดแล้ว

ในระหว่างที่โซลกำลังลังเล ว่าจะเลือกเป็นคนธรรมดา หรือ จุดเด่น เคลี ก็เดินก้าวไปยังที่นั่งแถวหน้าแล้ว

นางสังเกตเห็นว่าโซลไม่ได้ตามมา นางจึงหันกลับไปและจับมือเขา

"มาเถอะ เจ้าไม่ต้องทำตัวต้อยต่ำอีกต่อไปแล้ว"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด