ตอนที่ 23 กลุ่มสังหารมังกรตงโจว
ตอนที่ 23 กลุ่มสังหารมังกรตงโจว
เนื่องจากระบบป้องกันของเรือเซียนจึงมีการเปิดช่องว่างขนาดเล็กไว้ให้สอดแนม
ร่างอรชรที่อยู่ในอาภรณ์สีเขียวกระโดดลงจากช่องว่างนั้นและหยุดยืนตรงเบื้องหน้าของซูอัน
เมื่อเห็นเงาคนกระโดดลงมาโดยฉับพลัน ร่างกายของถูเซิ่งหนานพลันแข็งเกร็งครู่หนึ่ง แต่หลังจากเห็นบุคคลนั้นชัดเจนแล้วนางจึงผ่อนคลายลงและฝึกฝนต่อ
“...เจ้าหาข้าเจอได้อย่างไร” ชิงหลิงลังเลอยู่นานจึงถาม
ด้วยความแข็งแกร่งในระดับมิ่งตานของนางและพลังเวทหายตัวขั้นสูง แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับหยางบริสุทธิ์ขั้นแรกยังไม่เห็นนางหากไม่ใส่ใจมากพอ เช่นเดียวกับถูเซิ่งหนานที่ไม่สังเกตเห็นนาง
แต่ซูอันอยู่ในระดับจื่อฝู่แล้วเขาค้นพบนางได้อย่างไร
ซูอันแสดงอาการลำบากใจ
เขาสามารถบอกได้ว่าเห็นนางตั้งแต่เช้าและเห็นนางแอบมองเขาด้วยได้ไหม
หลังจากขัดเกลาคัมภีร์ปฐมกาลจึงทำให้ประสาทสัมผัสของเขาแข็งแกร่งขึ้นมากและยังสอดประสานฟ้าดินแผ่วเบา เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความไม่ลงรอยใดๆ และพลังเวทที่ซ่อนอยู่ส่วนใหญ่ใช้ไม่ได้ผลกับเขา
ถ้าเมื่อครู่นี้พี่ชิงหลิงไม่จ้องมองจนทำให้เขารู้สึกอึดอัด เขาจะไม่เปิดเผยนาง
“เอาล่ะ พี่ชิงหลิงอย่ากังวลไปเลย ตอบข้ามาเถอะ เจ้าแอบตามข้ามาด้วยเหตุใด?”
ชิงหลิงจ้องมองใบหน้าของซูอันครู่หนึ่ง จากนั้นพยายามรักษาน้ำเสียงให้สงบและพูดว่า
“คราวก่อนข้าพูดไว้แล้วว่าหากเจ้าจะฆ่าเยี่ยเสวียน ข้าจะช่วยเจ้า”
“ถ้าเพราะเหตุผลนั้นพี่ชิงหลิงบอกข้าตามตรงได้!”
ซูอันตบเบาๆ ที่หลังมือของเยี่ยหลีเอ๋อร์แล้วยืนขึ้น เขาเดินไปหาชิงหลิงแล้ววางมือบนไหล่ของนางพลางมองเข้าไปในดวงตาของนางโดยตรงแล้วพูดว่า “ข้างนอกลมแรงขนาดนั้น ถ้าพี่ชิงหลิงไม่สบาย ข้าคงรู้สึกแย่มากๆ”
“!!!” ทันใดนั้นใบหน้าของชิงหลิงก็ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีแดงขนาดใหญ่และร่างกายเริ่มประหม่า
เสี่ยวอันจื่อพูดอะไร!
เป็นห่วงหรือ?!
ใช่หรือเปล่า...
นางมึนงงไปกับคำพูดตรงๆ ของซูอัน ตอนนี้นางซึ่งพูดน้อยมาโดยตลอดก็พูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง
นางหันหลังกลับและอยากจะวิ่งหนี แต่ไหล่ของนางถูกซูอันคว้าไว้ด้วยความมั่นคงอีกครั้ง
“พี่ชิงหลิง คราวนี้ข้าขอฝากตัวด้วยนะ เจ้าต้องปกป้องข้าด้วย” ซูอันกล่าว
“เอ่อ อืม!”
ชิงหลิงไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะตอนนี้สมองของนางว่างเปล่าและดูเหมือนว่าไอน้ำจะพุ่งออกจากหูของนางด้วย
ถูเซิ่งหนานเห็นบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างคนทั้งสองแล้วทำแค่ส่ายหัวและฝึกฝนต่อไป
ผู้ชายตัวเหม็นมีอะไรดี?
……
คณะเดินทางของซูอันมุ่งตรงสู่ตงโจว
แต่ในเวลานี้ตงโจวมีข่าวหนึ่งที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้น
มีมังกรอสูรที่ได้รับบาดเจ็บซ่อนตัวอยู่ในก้นแม่น้ำตงหยางซึ่งเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ที่สุดในตงโจว เล่าลือว่ากันก้นแม่น้ำแห่งนั้นอาจเป็นอาณาจักรลับที่ผู้ฝึกตนระดับหยางบริสุทธิ์ขั้นสูงทิ้งไว้และอาจเกี่ยวข้องกับระดับหยวนเสินด้วยซ้ำ
ยังพูดกันอีกว่าอุทกภัยในตงโจวเกิดจากมังกรอสูรตัวนี้เช่นกัน
ผู้ฝึกตนจำนวนมากเดินทางไปสำรวจที่ก้นแม่น้ำแห่งนั้น ทว่าพวกเขาถูกมังกรอสูรสังหารสิ้นจึงยืนยันความน่าเชื่อถือของข่าวนี้ได้มาก
ดังนั้นผู้ฝึกตนจากนิกายและชนเผ่าต่างๆ ในตงโจวจึงพร้อมที่จะดำเนินการปราบปราม
ยังไม่ต้องเอ่ยถึงอาณาจักรลับ เพราะแค่มังกรอสูรเพียงตัวเดียวก็เป็นสมบัติล้ำค่ามากแล้ว
เกล็ดมังกรและเส้นเอ็นใช้ขัดเกลาอาวุธ กระดูกมังกรและแก่นมังกรใช้ปรุงยาอายุวัฒนะ เนื้อมังกรเป็นพลังจิตวิญญาณที่ผู้ฝึกตนปรารถนา มุกมังกรสามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในการทะลวงถึงระดับมิ่งตานและทรงประสิทธิภาพมากด้วย
แต่โดยปกติเผ่าพันธุ์มังกรมักจะซ่อนตัวอยู่ในทะเลตะวันออก พวกมันไม่ได้อ่อนแอจึงเป็นเจ้าแห่งชนเผ่าทะเลหลายร้อยล้านปี
แม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับหยางบริสุทธิ์ยังไม่กล้าพูดว่าหลังจากสังหารมังกรทะเลตะวันออกได้แล้วจะยังกลับมาโดยปลอดภัย
ดังนั้นแม้จะรู้ว่ามังกรเป็นสมบัติ แต่ไม่มีใครกล้ากระตุ้นเผ่าพันธุ์ที่น่ากลัวนี้เลย
ทว่าบัดนี้มังกรอสูรตัวนี้ได้มาถึงอาณาเขตของตงโจวแล้วทำให้เกิดอุทกภัย จึงทำให้พวกผู้ฝึกตนจำนวนมากในตงโจวมีความชอบธรรมในการจัดการกับมัน
เผ่ามังกรกล้าบุกมาก่อปัญหาในดินแดนต้าซาง
แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งพอๆ กับเผ่ามังกร แต่พวกเขายังไม่กล้าเป็นศัตรูกับต้าซางอย่างเปิดเผยด้วยซ้ำ แล้วเผ่ามังกรไปเอาความกล้าจากที่ใด
ย้อนกลับไปในยุคนั้น เผ่ามังกรนำโดยบรรพบุรุษมังกรชางหลงผู้หยิ่งผยองต้องการแทรกแซงดินแดนสวรรค์แห่งนี้ สุดท้ายมุกมังกรชางหลงก็ถูกเก็บไว้โดยราชวงศ์ต้าซาง
แม้ว่าความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนในตงโจวจะอยู่อันดับกลางๆ ของเจ็ดสิบสองเมืองแห่งต้าซาง แต่เป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการกับมังกรอสูรระดับมิ่งตานตัวเดียว
ผู้ฝึกตนจากนิกายต่างๆ รวมถึงผู้ฝึกตนทั่วไปมารวมตัวกันเพื่อจัดประชุมสังหารมังกรด้วยความเหมาะสม
ก่อนจะเริ่มสังหารมังกรต้องพูดคุยกันถึงวิธีแบ่งผลประโยชน์ให้ชัดเจน
หลังจากพูดคุยกันยาวนาน ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะสังหารมังกรอสูรก่อน จากนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเองว่าจะได้สิ่งใดไปครอง
ผู้ฝึกตนระดับมิ่งตานหลายคนเป็นผู้นำร่วมกับผู้ฝึกตนระดับจื่อฝู่อีกหลายร้อยคน พวกเขามุ่งหน้าไปยังแม่น้ำตงหยางในการรุมสังหารครั้งใหญ่
ระหว่างทางมีผู้ฝึกตนจำนวนมากที่ต้องการคว้าโอกาสดังกล่าวมาเข้าร่วมด้วย
“มังกรอสูร ความตายของเจ้ามาถึงแล้ว!”
ในหมู่ผู้ฝึกตนเหล่านั้นมีบุรุษคนหนึ่งในอาภรณ์สีเขียวหน้าตาธรรมดากำลังมองกลุ่มสังหารมังกรที่อยู่รอบกายแล้วยิ้มดุร้าย
เขาคือเยี่ยเสวียนผู้แพร่ข่าวลือเกี่ยวกับมังกรอสูร
บัดนี้เขาได้รู้แล้วว่ามังกรอสูรระดับมิ่งตานและอาณาจักรลับที่เลื่อนลอยนั้นไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ฝึกตนระดับหยางบริสุทธิ์ในตงโจวได้เลย มันดึงดูดแค่ผู้ฝึกตนระดับมิ่งตานได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ทว่าความแข็งแกร่งของกลุ่มสังหารมังกรนี้เหมาะสมแล้ว พวกเขาไม่รู้ว่ามังกรอสูรแข็งแกร่งเพียงใด แค่คิดว่ามีผู้ฝึกตนจำนวนมากย่อมมีโอกาสชนะสูง
เมื่อกลุ่มสังหารมังกรเหล่านี้และมังกรอสูรได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายก็ถึงเวลาที่เขาจะเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
ยิ่งนึกถึงไข่มุกยิ่งทำให้ใจเต้นแรงและเขาอดถูฝ่ามือด้วยความตื่นเต้นไม่ได้
“ซูอัน รอก่อนเถอะ ข้าบอกแล้วว่าจะกลับไปล้างแค้น”
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ภาพเงาร่างหนึ่งก็แวบเข้ามาในจิตใจของเขาอีกครั้ง เป็นเงาร่างที่ร้องเรียกเขาว่า ‘พี่ชาย’ ด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“หลีเอ๋อร์โปรดรอก่อนนะ พี่ชายจะช่วยเจ้าออกจากรังปีศาจนั่นแน่นอน!”
……
“พี่อันตัวหอมจังเลย...”
บนเรือเซียน เยี่ยหลีเอ๋อร์กอดซูอันไว้แน่น นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความหลงใหล
“เอาล่ะ ถึงแล้ว ลงไปกันเถอะ”
เรือเซียนจอดเหนือแม่น้ำตงหยาง ทว่าโหมดล่องหนทำให้ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น
ซูอันดึงเยี่ยหลีเอ๋อร์ที่เกาะติดเป็นกาวออกและจัดระเบียบเสื้อผ้าที่ยับย่นให้เรียบร้อย
“ตามข่าวจากหน่วยบุปผามรณะคือตอนนี้ทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้กันแล้ว”
“ได้เวลาพอดี”
“อยากลองใช้ตาข่ายจากเรือเซียนลำนี้มานานแล้ว”
ซูอันเป็นผู้ควบคุมศูนย์กลางของเรือเซียน
ทันใดนั้นตาข่ายล่องหนก็ปล่อยออกจากเรือเซียนและครอบปิดแม่น้ำตงหยางทั้งหมดไว้ในอาณาเขตเดียวกันโดยสมบูรณ์
หากมองผิวเผินที่นี่ยังดูปกติและเงียบสงบมาก
แต่ความจริงแล้วทุกสรรพสิ่งในนั้นถูกปิดกั้นไว้หมดและสิ่งที่ทุกคนได้เห็นข้างนอกก็เป็นเพียงภาพลวงตาของซูอันเท่านั้น
เรือเซียนลำนี้ไม่เพียงแต่มีความเร็วเป็นเลิศ แต่ยังมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง ในด้านอื่นๆ ก็ไม่ธรรมดา มันมีความสามารถในการทะลวงผ่านอากาศและมีอาวุธลับมากมายรอบลำเรือ สามารถติดตั้งระบบเสริมขนาดใหญ่ได้ตลอดเวลา แม้แต่ผู้อยู่ในระดับหยางบริสุทธิ์ยังตรวจพบตาข่ายล่องหนนี้ยาก ซึ่งแค่นี้ก็เพียงพอแล้วในตงโจว
……
ก้นแม่น้ำตงหยาง ในพื้นที่พิเศษซึ่งแยกออกจากโลกภายนอก
โลหิตสาดกระเซ็นศพเกลื่อนกลาด
ป้ายสลักคำว่า ‘วังมังกรตงหยาง’ เปื้อนโลหิตแดงฉานเช่นกัน
เยี่ยเสวียนซึ่งกำลังจับปลา [1] อยู่ที่มุมโถงใหญ่ตลอดเวลาเฝ้ามองด้วยความเหยียดหยาม มังกรอสูรระดับมิ่งตานกล้าสร้างวังมังกรโดยไม่กลัวถูกหัวเราะเยาะ
“มังกรอสูรตัวนี้มีสมบัติวิญญาณจริงๆ ด้วย!”
ผู้ฝึกตนหญิงระดับมิ่งตานที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถือกระบี่ยาวไว้ในมือพลางเอ่ย ใบหน้างดงามของนางซีดเซียว
เชิงอรรถ
[1] จับปลา (摸鱼) หมายถึง อู้งาน ซึ่งมาจากสำนวนจีนที่ว่า ถือโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์ในขณะที่เกิดความสับสนวุ่นวาย (浑水摸鱼)