ตอนที่ 10 พลังเวทย์ทองคำ
ตอนที่ 10 พลังเวทย์ทองคำ
ค่ำคืนที่เยือกเย็น จันทราส่องสว่างบนท้องฟ้า
หลินมู่นั่งข้างบ่อปลาด้วยใจจดจ่อ เขากำลังใช้เคล็ดหยกวารีด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเล็กน้อย
ระดับน้ำในบ่อปลาสูงขึ้นทีละน้อย แต่หลินมู่ไม่ได้สนใจและยังทำตัวเช่นเครื่องจักร เขายังคงมั่นคงและใช้ทักษะต่อไปไม่หยุดยั้ง
ทันใดหลินมู่หยุดมือกะทันหัน
เป็นเพราะเขาค้นพบว่าเคล็ดหยกวารีของตนมีการเปลี่ยนแปลง กลุ่มเมฆตรงหน้าแปรเปลี่ยนไปกะทันหัน ขนาดของมันใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิม!
เคล็ดหยกวารี ขั้นปลาย!
หลินมู่รู้สึกมีความสุขมาก เขาใช้เวลาเกือบสองเดือนเพื่อฝึกฝนเคล็ดหยกวารีจนกระทั่งเข้าสู่ขั้นปลาย
หลินมู่ที่มีคุณสมบัติรากวิญญาณห้าธาตุถือว่ามีความสามารถมากกว่าจางลั่วสวีนัก!
ภายในบ่อปลาคล้ายว่าน้ำจะเอ่อล้นออกมา น้ำในบ่อเขียวมรกตน่ารับชม หลินมู่ยิ่งมองยิ่งมีความสุขมาก
การที่เคล็ดหยกวารีก้าวหน้าได้อีกครั้งถือเป็นข่าวดีที่สุดสำหรับหลินมู่ อย่างน้อยเขาก็สามารถประหยัดเวลาในอนาคตได้
หลินมู่ต้องการทราบความเปลี่ยนแปลงของเคล็ดหยกวารีหลังจากมันเข้าสู่ขั้นปลายว่าจะยอดเยี่ยมเพียงใด
เวลานี้มือทั้งสองเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เมฆาก่อกำเนิดปรากฏขึ้นตรงหน้า หลินมู่ประหลาดใจมากที่พบว่าในหยาดฝนโปรยลงมามีออร่าจิตวิญญาณปะปนด้วย ซึ่งสิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของต้นยาสูบเยือกแข็งไม่น้อยแล้ว
เมื่อปริมาณของหยาดน้ำค่อย ๆ จางหายไป ใบยาสูบเยือกแข็งคล้ายกับมีคริสตัลเกาะมากขึ้น ทว่าเมื่อเพ่งมองให้ดีกลับมองเห็นสีเหลืองอ่อนปะปนภายใน
สีเหลือง? หลินมู่ตกใจ นี่มันไม่ใช่อาการของต้นไม้ป่วยหรือ?
ต้นยาสูบเยือกแข็งเป็นหญ้าวิญญาณขาวระดับสอง และเขาไม่เคยได้ยินว่ามันจะสามารถมีสีเหลืองอ่อนได้
หลินมู่นั่งลงพร้อมสังเกตต้นยาสูบเยือกแข็งตรงหน้า เขาเพ่งมองจุดสีเหลืองอย่างพิจารณา หลังจากนั้นเขาก็สรุปว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่สีเหลืองอ่อน แต่มันเป็นสีเหลืองเข้มต่างหาก และเขาไม่รู้เลยว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
ต้นยาสูบเยือกแข็งนี้กำลังป่วย!
หัวใจของหลินมู่พลันหนักอึ้ง นี่คือการเพาะปลูกครั้งแรกของเขา อย่างไรแล้วเขาก็ยังขาดประสบการณ์ และยังไม่ได้เรียนรู้ทักษะการเพาะปลูกจากจางลั่วสวีอีกด้วย
เขาไม่สามารถเอ่ยปากถามจากจางลั่วสวีได้ มิฉะนั้นอีกฝ่ายจะต้องสงสัยบางอย่างแน่นอน เวลานี้เขาทำได้เพียงพึ่งพาตนเองเท่านั้น
หลินมู่กังวล และทุกความคิดค่อย ๆ ผุดขึ้นมา แต่เขาก็ปฏิเสธสิ่งเหล่านั้นไปอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็ปรากฏกะทันหัน
เคล็ดธาตุทอง!
เคล็ดธาตุทองเป็นเวทย์ทองคำ มันคือพลังการทำลายล้างรุนแรงที่สุด เพียงแต่ว่าหลินมู่ไม่มั่นใจว่าต้นยาสูบเยือกแข็งนี้ป่วยเพราะแมลงหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจแล้ว
สุดท้ายแล้วการที่ต้นไม้ป่วยเป็นเรื่องเร่งด่วน และหลินมู่ต้องลองทุกวิถีทาง
เขาเข้ากระท่อมและหยิบเอาเคล็ดวิชาพื้นฐานห้าธาตุออกมา และใช้พลังวิญญาณอัดฉีดลงไปเพื่อที่จะศึกษาเคล็ดธาตุทองภายใน
สุดท้ายแล้วเขาต้องการเรียนรู้เคล็ดธาตุทอง หลินมู่อ่านทุกสิ่งอย่างจนเข้าใจและเริ่มกระบวนการร่ายเวทย์ช้า ๆ
สองมือประสานเพื่อที่จะใช้เคล็ดธาตุทอง ทว่ากลับไร้สิ่งใดปรากฏ มีเพียงความเงียบตอบรับเท่านั้น
หลินมู่เห็นอย่างนั้นแล้วยิ่งกังวล เขาลองเปลี่ยนวิธีการ แต่ก็ยังไม่อาจร่ายเวทย์เคล็ดธาตุทองตามที่แผ่นหยกได้บอกกล่าวไว้ได้
ในใจเริ่มหงุดหงิด แววตาพลันแข็งกร้าวขึ้นมา
หลินมู่พยายามเร่งความเร็ว และใช้พลังวิญญาณในกายอย่างบ้าคลั่ง แต่ยิ่งเขาร้อนใจมากเท่าไหร่ เขายิ่งสัมผัสได้ว่าไม่อาจใช้งานเคล็ดธาตุทองได้ ราวกับสิ่งนี้ไม่มีอยู่จริง และเป็นเพียงเรื่องหลอกลวงเท่านั้น
แต่หลินมู่ไม่ยอมแพ้ เขายังคงฝึกฝนต่อไป
ผ่านไปสองวัน หลินมู่ไม่ได้กินและดื่มสิ่งใดแม้แต่น้อย เขาเพียงพยายามควบแน่นพลังเพื่อร่ายเคล็ดธาตุทอง
ดวงตาแดงก่ำด้วยความเกรี้ยวกราด ใบหน้าเหี่ยวเฉาอย่างคนอดนอน ร่างกายผ่ายผอมอย่างเห็นได้ชัด
เวลานี้สภาพของต้นยาสูบเยือกแข็งก็ยิ่งเลวร้ายมากขึ้น สีทองเริ่มกัดเซาะใบยาสูบสีขาวอย่างต่อเนื่อง คล้ายว่าอีกไม่นานมันคงจะตายเสียแล้ว
หลินมู่ยิ่งเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งร้อนใจ หัวใจของเขาราวกับถูกเปลวไฟแผดเผา เขาพยายามร่ายเคล็ดธาตุทองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กลับไม่มีสิ่งใดแปรเปลี่ยน
ฉับพลัน!
หลินมู่สังเกตเห็นว่ามีออร่าทองคำปรากฏขึ้นบนปลายนิ้วทั้งสิบ มันคล้ายกับเปลวไฟที่บรรยายเอาไว้ในเคล็ดธาตุทอง สิ่งนี้สว่างสดใสและไม่สามารถจ้องมองได้โดยตรง
ใช่แล้ว นี่คือปราณทองคำของเคล็ดธาตุทอง!
หลินมู่อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น เขามองปราณทองคำตรงหน้าด้วยความตื้นตันใจ การปรากฏของปราณทองคำทำให้จิตใจของเขากลับมาสงบ และสติกลับมาหยุดยืนอยู่ที่เดิมได้อีกครั้ง
ต้นยาสูบจะต้องได้รับการรักษา
หลินมู่ขยับนิ้วเคลื่อนไหวและปล่อยให้ปราณทองคำแทรกซึมเข้าสู่ใบยาสูบเยือกแข็งช้า ๆ ปราณทองคำหลั่งไหลเข้าไปจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
จิตสำนึกของหลินมู่ปะปนอยู่กับปราณทองคำ เขาตรวจสอบสถานการณ์ภายในของต้นยาสูบเยือกแข็งนี้อย่างระมัดระวัง
หนึ่งดอกไม้คือหนึ่งจักรวาล หนึ่งใบไม้คือพุทธภูมิ ภายในต้นยาสูบเยือกแข็ง หลินมู่ตระหนักได้ว่ามันคือโลกใบหนึ่ง และสีขาวภายในกำลังถูกกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ภายในของต้นยาสูบเยือกแข็งเลวร้ายกว่าที่คิด!
มีหนอนทองคำอยู่ภายในต้นยาสูบเยือกแข็ง ภายในทุกหนแห่งเต็มไปด้วยหนอนทองคำ บางที่หนาแน่น บางที่ก็บางเบาแต่ก็ดูน่าหวาดกลัวไม่น้อย
หลินมู่มองหนอนตัวเล็กจำนวนมากที่กำลังวุ่นวายอยู่กับต้นยาสูบเยือกแข็ง เขาจึงรีบควบคุมปราณทองคำเพื่อจัดการกับมัน
แต่ว่าหนอนทองคำเหล่านั้นกลับไม่สนใจปราณทองคำแม้แต่น้อย พวกมันเพิกเฉยราวกับมองไม่เห็นและพยายามกัดเซาะต้นยาสูบเยือกแข็งต่อไป
พวกมันไม่คิดสนใจปราณทองคำอย่างแท้จริง!
หลินมู่เห็นอย่างนี้ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธเกรี้ยว ปราณทองคำกลับกลายเป็นดาบทองคำพร้อมโจมตีใส่หนอนทองคำที่ใกล้ที่สุด
ปัง!
หลินมู่รู้สึกสั่นสะเทือนไปทั่วร่างกาย สุดท้ายแล้วเขายังไม่ได้กิน และยังไม่ได้นอน
หลังฟื้นคืนสติกลับมาได้ เขารีบตรวจสอบสถานการณ์ตรงหน้า และเห็นว่าหนอนตัวน้อยถูกผ่าครึ่งด้วยดาบทองคำแล้ว
จิตวิญญาณของหลินมู่สั่นสะท้าน แสดงให้เห็นชัดเจนว่าปราณทองคำนี้สามารถส่งผลกระทบต่อเขาด้วย
เขาควบคุมปราณทองคำ และพยายามฆ่าหนอนเหล่านั้น ดาบทองคำยังคงฟาดฟันต่อไปไม่หยุดยั้ง
ทุกครั้งที่เขาฆ่าหนอนทองคำ ทะเลจิตสำนึกของหลินมู่จะสั่นสะเทือนไปด้วยเล็กน้อย และบางครั้งถึงกับทำให้เขาต้องหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
การเคลื่อนไหวของหลินมู่ถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะหากจิตวิญญาณได้รับบาดเจ็บแล้ว เป็นการยากที่จะฟื้นตัวกลับมาได้ และมันจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อการฝึกฝน
เพราะเขาเป็นผู้ฝึกตนใหม่ และไม่เคยมีผู้ใดสั่งสอน เขาจึงไม่ทราบเรื่องเหล่านี้
โชคดีที่เขาได้พบหนอนทองคำตัวน้อย สุดท้ายแล้วอาการบาดเจ็บของเขาจึงเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
ตอนนี้หลินมู่ไม่คิดที่จะสนใจสถานการณ์ภายในทะเลจิตสำนึก ความสนใจทั้งหมดของเขาทุ่มเทให้กับหนอนทองคำที่ไม่เคยพบเจอ ดาบทองคำสังหารศัตรูพืชทุกชนิดที่ปรากฏอย่างไร้ปรานี
หนอนทองคำไร้หัวนอนปลายเท้าภายในต้นยาสูบเยือกแข็งถูกสังหารอย่างไร้ปรานี
ในตอนนี้หลินมู่ไม่อาจควบคุมตนเองได้อีกต่อไป
เขาใช้เวลาสองวันสองคืนเพื่อเรียนรู้เคล็ดธาตุทอง และใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายกับการจัดการหนอนทองคำบนต้นยาสูบเยือกแข็งทั้งสี่สิบต้น
หลินมู่ยืนมองต้นยาสูบทั้งสี่สิบต้นด้วยจิตใจที่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ทันทีที่เขาผ่อนคลายจิตใจได้ ความเหนื่อยล้าก็ถาโถมใส่ร่างกายของเขาอย่างเหี้ยมโหด
หลินมู่ออกจากมิติวังวนจันทรา ก่อนจะหยิบเสื่อออกมาวางบนพื้นแล้วผล็อยหลับไปทันที