ตอนที่ 8 ยาสูบเยือกแข็ง
ตอนที่ 8 ยาสูบเยือกแข็ง
หุบเขาอุ่นเมฆา
หลินมู่เริ่มใช้เคล็ดหยกวารีเพื่อสร้างเม็ดฝนมอบความชุ่มชื้นให้กับต้นยาสูบตรงหน้าของเขา
นี่เป็นครั้งที่ห้าแล้ว หลินมู่จึงค่อนข้างคุ้นเคยกับการทำงานเช่นนี้
ยาสูบเยือกแข็งเป็นสมุนไพรวิญญาณสีขาวระดับสอง มันค่อนข้างมีความสำคัญต่อผู้ฝึกตนหลายพันคนมาก ภายในพื้นที่สามหมู่นี้ล้วนแต่เป็นความต้องการของผู้ฝึกตนในสำนักดาบพันปักษาทั้งสิ้น
แต่สำหรับผู้ฝึกตนขอบเขตกลั่นลมปราณ มันค่อนข้างเป็นสิ่งที่ยากจะเอื้อมถึง เพราะหน้าที่ของมันคือการปรับแต่งเม็ดยาปรับสภาพจิตใจ ซึ่งเม็ดยาปรับสภาพจิตใจนี่เป็นยาอายุวัฒนะล้ำค่ายิ่ง มันจำเป็นสำหรับผู้ฝึกตนขอบเขตสร้างรากฐาน หากรับประทานยานี้แล้วมันจะช่วยให้ผู้ฝึกตนมีสมาธิ และลดความคุ้มคลั่งจากการฝึกฝนได้
โดยปกติแล้วหลินมู่ไม่มีความกล้าหาญจะดูแลสมุนไพรล้ำค่าเช่นนี้ ในทุกครั้งที่เขาต้องลงมือ เขาจะปฏิบัติงานอย่างระมัดระวังเสมอ
นับตั้งแต่เขาทำงานนี้มา เขายังไม่ได้สร้างปัญหาให้ศิษย์พี่จางลั่วสวีสักครั้ง มีเพียงบางครั้งที่อีกฝ่ายเข้ามาสอบถามถึงการเจริญเติบโตของต้นยาสูบเยือกแข็งเป็นครั้งคราว และหลินมู่ใช้โอกาสนั้นเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการเพาะปลูกสมุนไพรต่าง ๆ จากจางลั่วสวีเสมอ ศิษย์พี่ของเขาใจดีมาก อีกฝ่ายตอบคำถามของเขาอย่างรอบคอบในทุกครั้ง ทำให้หลินมู่ได้รับความรู้และประโยชน์มากมาย
เมฆาก้อนสุดท้ายสลายหายไป หลินมู่หยุดมือก่อนจะนั่งลงปรับลมหายใจสักครู่ สุดท้ายแล้วการสร้างหยาดฝนบนที่ดินสามหมู่ทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย
เนิ่นนานนับครึ่งเดือนที่เขารับงานนี้ และหลินมู่ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย
ในปัจจุบันเขาสามารถใช้ทักษะเคล็ดหยกวารีได้อย่างคล่องแคล่ว และค่อนข้างชำนาญในการใช้พลังวิญญาณในกายแล้ว
ยาสูบเยือกแข็งใช้เวลาสี่เดือนในการเจริญเติบโต และหลินมู่ตัดสินใจว่าเขาจะใช้เวลาช่วงนี้สำหรับเรียนรู้การเพาะปลูก
หลินมู่ตระเตรียมการฝึกประจำวันอย่างเป็นระเบียบ บางวันเขาก็มาดูแลต้นยาสูบเยือกแข็งที่นี่ และบางวันเข้าสู่มิติวังวนจันทราเพื่อฝึกฝน ในช่วงเย็นเขาจะฝึกฝนเคล็ดหยกวารีที่ลานบ้าน และปล่อยให้จี้วังวนจันทราดูดซับแสงจันทร์ในระหว่างคืน
ทุกวันจะเป็นวันที่เขามีอะไรทำตลอดทั้งวัน และมีความสุขจากความสำเร็จเล็กน้อย
แต่อย่างไรแล้วก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงทำเขากังวลใจ นั่นก็คือภายในมิติวังวนจันทรา จวบจนถึงเวลานี้ภายในนั้นก็ยังคงเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใด
หลินมู่มักจะครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์นี้อยู่เสมอ และเขาไม่ต้องการให้ที่ดินวิญญาณในมิติวังวนจันทราต้องว่างเปล่า ควรจะปลูกบางสิ่งที่นั่น!
หลินมู่กำลังศึกษาสมุนไพรวิญญาณภายในสวนโอสถ เดิมทีเขาต้องการรอให้พวกมันเติบโตเสียก่อน แล้วลอบเก็บเมล็ดของมันเข้าไปปลูกภายในมิติวังวนจันทรา
แต่อย่างไรแล้ว งานที่จางลั่วสวีมอบให้ในวันนี้ทำให้เขาตัดสินใจว่าสามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ได้
จางลั่วสวีมอบหมายให้หลินมู่รดน้ำให้กับต้นยาสูบเยือกแข็ง แต่หลังจากต้นยาสูบเยือกแข็งได้รับน้ำแล้ว มันก็ย่อมกระจัดกระจายการเจริญเติบโตออกไปรอบข้าง ทำให้บริเวณแปลงดินวิญญาณเต็มไปด้วยความหนาแน่น ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต จางลั่วสวีจึงคิดว่าควรจะถอนเอาต้นยาสูบส่วนเกินออกเพื่อให้ที่เหลือได้เติบโตไปตามปกติ
และความคิดของเขาช่างสอดคล้องกับความในใจของหลินมู่
เพราะตัวเขาเองก็อยากจะเอาต้นยาสูบพวกนี้เข้าไปปลูกภายในมิติวังวนจันทราของตนด้วยเช่นกัน และด้วยวิธีนี้ย่อมไม่ดึงดูดความสงสัยจากผู้ใด
หลินมู่นั่งพักผ่อนสักครู่ เมื่อพลังวิญญาณฟื้นคืนมาสักหน่อยแล้ว เขาเริ่มถอนต้นยาสูบส่วนเกินออก
ต้นยาสูบเยือกแข็งเหล่านี้เจริญเติบโตอย่างดี และมีมากมายนับพันต้น หลินมู่จัดการระยะห่างของต้นยาสูบให้พอเหมาะ ก่อนจะดึงต้นยาสูบที่เกะกะออกมา
จนกระทั่งมืดลง หลินมู่จึงทำความสะอาดต้นยาสูบในที่ดินทั้งสามหมู่เสร็จสิ้น
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจในเวลานี้คือแปลงต้นยาสูบเยือกแข็งทั้งสามหมู่นี้มีต้นยาสูบเยือกแข็งส่วนเกินมากกว่าร้อยต้น เห็นชัดว่าอาวุโสที่เป็นคนลงมือปลูกต้นยาสูบเยือกแข็งนั้นมีทักษะที่ไม่ธรรมดา
หลินมู่ไม่กล้าที่จะเก็บต้นยาสูบเยือกแข็งทั้งหมดไว้กับตัว เขาเลือกเอาต้นยาสูบเยือกแข็งที่มีรากสมบูรณ์สี่สิบต้นเก็บไว้ในมิติวังวนจันทราอย่างเรียบง่าย
แล้วจากนั้นมอบต้นยาสูบเยือกแข็งทั้งหมดที่เหลือให้กับจางลั่วสวี และเพราะหลินมู่มีความระมัดระวังเช่นนี้ จางลั่วสวีจึงไม่คิดสงสัยแม้แต่น้อย เขาโยนต้นยาสูบเยือกแข็งทั้งหมดเข้ากองไฟเพื่อทำลาย ในระหว่างกระบวนการนี้หลินมู่เองก็ยังคงสงบ ไม่แสดงสีหน้าผิดปกติแต่อย่างใด
กลับมาที่ลานเล็ก หลินมู่ไม่ได้นั่งทำสมาธิที่ลานบ้านเหมือนเช่นเคย
เขาเข้ามาในห้องเงียบก่อนจะปิดประตูและหน้าต่าง หลังจากแน่ใจว่าจะไม่มีผู้ใดสามารถสอดส่องได้ ร่างของหลินมู่ก็เลือนหายไปในความเงียบ และปรากฏตัวขึ้นในมิติวังวนจันทรา
หลินมู่เข้ามาในกระท่อม มีจอบวิญญาณปฐพีวางอยู่ที่มุมกระท่อม ด้านข้างเป็นต้นยาสูบเยือกแข็งสี่สิบต้น เขาหยิบจอบวิญญาณปฐพี
แล้วเดินออกมาหยุดยืนตรงหน้าที่ดินวิญญาณ ในใจนึกตื่นเต้นขึ้นมา การเพาะปลูกครั้งแรกกำลังจะเริ่มแล้ว!
หลินมู่เริ่มใช้จอบวิญญาณปฐพีเกลี่ยพื้นที่ตรงหน้าให้เหมาะสม
ที่ดินวิญญาณภายในมิติวังวนจันทราค่อนข้างแข็งมาก เป็นเพราะไม่เคยมีใครยุ่งกับมันมาก่อน และยากที่จะเกลี่ยให้ดี โชคดีที่จอบวิญญาณปฐพีค่อนข้างดี และสามารถทำให้เขาขุดดินได้อย่างราบรื่น หลินมู่จึงไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยมากนัก
เพียงหนึ่งก้านธูป หลินมู่สามารถไถดินเรียบร้อยแล้ว แปลงดินตรงหน้าเหมาะสมสำหรับต้นยาสูบเยือกแข็งทั้งสี่สิบต้น
เขาจึงวางจอบลงก่อนจะเริ่มจัดการกับต้นยาสูบเยือกแข็ง และค่อย ๆ ฝังมันลงดินอย่างระมัดระวัง
แปลงที่ดินวิญญาณสามหมู่เต็มไปด้วยต้นยาสูบเยือกแข็งทั้งสี่สิบต้น หลินมู่ยืนมองหญ้าสีขาวตรงหน้าและรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
หลินมู่รู้สึกว่ายังขาดสิ่งใดไปสักอย่าง เขาจึงเริ่มใช้เคล็ดหยกวารีเพื่อรดน้ำให้มันสักหน่อย
จากนั้นเขาจ้องมองแปลงต้นยาสูบตรงหน้าอย่างคาดหวัง ในแววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม
หลังจากนั้นเขาออกจากมิติวังวนจันทราแล้วกลับมาที่ลานบ้านเช่นเคย จากนั้นก็เริ่มฝึกฝนเคล็ดหยกวารีข้างบ่อปลา และปล่อยให้จี้วังวนจันทราเริ่มดูดซับแสงจันทร์ต่อไป
เป็นเพราะหลินมู่เทน้ำใส่บ่อปลาในทุกครั้งที่ฝึกฝนเคล็ดหยกวารี ระดับน้ำภายในบ่อจึงเพิ่มขึ้นทุกวัน เวลานี้มันเลยครึ่งหนึ่งมาแล้ว และอีกไม่กี่วันคงจะล้นบ่น
แต่หลินมู่ไม่คิดสนใจเรื่องนั้น เขายังคงฝึกฝนต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เมื่อถึงรุ่งสาง หลินมู่หยุดมือ เมื่อผ่านพ้นการฝึกฝนยาวนานตลอดทั้งคืน เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหนื่อยล้า โดยเฉพาะนิ้วมือทั้งสิบที่คล้ายจะไร้ความรู้สึกเสียแล้ว
แต่เขายังไม่คิดนอนในเวลานี้ หลินมู่เดินกลับเข้ามาในห้องก่อนจะเข้าสู่มิติวังวนจันทราอีกครั้ง ภายในกระท่อม เขาเริ่มฝึกฝนวิชาจิตเก้าทิศอย่างเงียบ ๆ
ในขณะฝึกฝนก็สามารถที่จะพักผ่อนได้เช่นกัน แม้ว่าจะไม่อาจเทียบเท่ากับการนอนหลับ แต่หลินมู่ไม่คิดโลภต่อความสนุกสนาน และยืนกรานที่จะฝึกฝนต่อไป
หลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นสี่ หลินมู่กลับสัมผัสได้ว่าเขาสามารถดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินได้มากขึ้น เมื่อฝึกฝนมานานกว่าหนึ่งวัน เขาสามารถปล่อยให้พลังวิญญาณฟ้าดินโคจรอยู่ภายในร่างกายต่อไปได้อีกถึงสามวัน
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการฝึกฝนเท่านั้น ยิ่งขอบเขตมากขึ้นเท่าไหร่ ความยากลำบากก็จะมากขึ้นเท่านั้น การจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นห้า จำเป็นต้องสะสมพลังวิญญาณไว้มากกว่าคราวที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นสี่ครึ่งหนึ่ง
หลินมู่ได้ยินว่าบรรดาศิษย์นอกที่เข้าร่วมสำนักมาพร้อมกับเขา บางคนเข้าสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นหกแล้ว
และเวลานี้ตัวเขาเพิ่งอยู่ในขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นสี่ จึงไม่มีเหตุผลที่จะเกียจคร้าน
หลินมู่ตระหนักได้อย่างนั้นก็ยิ่งฝึกฝนอย่างหนัก เขาให้จี้วังวนจันทราดูดซับแสงจันทร์เพื่อเพิ่มความเข้มข้นให้กับพลังวิญญาณภายในมิติวังวนจันทรา หลังเสร็จสิ้นการฝึกฝนอย่างหนัก เขาเริ่มวางแผนที่จะปลูกหญ้าวิญญาณต่อ
เวลานี้เขาสามารถปลูกหญ้าวิญญาณได้แล้ว
หลินมู่ต้องการเมล็ดหญ้าวิญญาณ โดยเฉพาะเมล็ดหญ้าวิญญาณที่ใช้กลั่นยาวิญญาณ
แล้วจะสามารถได้รับเมล็ดหญ้าวิญญาณพวกนั้นจากที่ใด?
แน่นอน หลินมู่ทราบคำตอบนี้ดี… หุบเขาอุ่นเมฆา!