ตอนที่แล้วChapter 10 ความฝันตั้งแต่วัยเยาว์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 12 ฉันคือมู่เชิง

Chapter 11 ถูกเยาะเย้ย


ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดถึงบางอย่าง จู่ๆ จี้ซีอังก็เอื้อมมือออกไปคว้าแขนของจี้หยวนหยวน “หยวนหยวน ดูนั่นสิ เสื้อตัวนั้นสวยดีนะ มันคงจะดูเหมาะกับน้องมากแน่ๆ ถ้าน้องได้ใส่มัน”

จี้หยวนหยวนเดินตามมือของจี้ซีอังแล้วมองไป เธอตกตะลึงทันที

นั่นมัน!! เสื้อกั๊กสีแดงตัวเล็กที่เธอเพิ่งนึกถึงไม่ใช่เหรอ?

เป็นเสื้อกั๊กผ้าฝ้ายสีแดงกุ๊นด้วยลูกไม้สีขาวที่ขอบ กระดุมที่อยู่ด้านหน้าไม่ใช่กระดุมธรรมดา แต่เป็นกระดุมมุกเม็ดเล็ก

จี้ซีอังไม่รอช้า รีบเข้าไปในร้านและเอื้อมมือไปแตะที่เสื้อกั๊ก

แต่ก่อนที่เขาจะได้สัมผัส มีผู้หญิงคนหนึ่งหยุดเขาไว้

“คุณแตะต้องมันไม่ได้นะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง พร้อมกับก้าวเท้าออกมาคว้ามือของเด็กน้อยจี้ซีอังเอาไว้

ใบหน้าเล็กๆ ของ จี้ซีอัง ขมวดคิ้ว “ทำไมฉันจะแตะมันไม่ได้”

พนักงานขายจับมือของจี้ซีอังขยับขึ้นและลง น้ำเสียงของเธอแสดงความเหยียดหยาม “ถ้าคุณไม่ซื้อ คุณก็จะแตะต้องมันไม่ได้ เพราะถ้ามันสกปรกคุณจะมีเงินจ่ายฉันไหม”

ในที่สุด จี้ซีอัง ก็เข้าใจว่าพนักงานขายดูถูกเขา โดยคิดว่าเขาไม่มีเงิน

บางครั้งความมั่นใจในตนเองของเด็กก็รุนแรงมาก และใบหน้าของเขาก็แดงก่ำได้ด้วยความโกรธอย่างรวดเร็ว “แล้วถ้าฉันไม่ได้พิจารณาดูมันชัดๆ  ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าฉันต้องการจะซื้อมัน? ถ้าคุณภาพของคุณไม่ดีฉันก็จะไม่แลมันด้วยซ้ำ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ พนักงานขายก็หัวเราะเบา ๆ “ชุดนี้ราคาหนึ่งร้อยหยวน คุณมีเงินที่จะซื้อมันเหรอ?”

เธอมองไปที่ จี้ซีอัง จากนั้นจึงมองไปที่หลี่ซู่ ที่กำลังก้าวเข้ามาหาพวกเขา การแสดงออกของเธอดูถูกเหยียดหยามมากยิ่งขึ้น

มองเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะบอกได้ว่าเธอมาจากชนบท เงินหนึ่งร้อยหยวนมันเท่ากับค่าครองชีพของพวกเขาสองสามเดือนเลยไม่ใช่หรอ?

จี้ซีอังยังอยากที่จะโต้แย้ง แต่เขาก็ยอมกลืนคำพูดเหล่านั้นลงไปก่อนที่มันจะพรั่งพรูออกจากปาก

พวกเขาต้องไปที่หน่วยของ จี้เจียนกั๋ว และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้เงินห้าพันหยวน เงินก้อนนั้นก็ไม่สามารถใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้

เงินหนึ่งร้อยหยวนมันพอที่จะซื้อน้ำตาลได้เยอะแยะ

จี้ซีอังจ้องมองผู้หญิงคนนั้นอย่างคับแค้นแล้วกำลังจะหันหลังจากไป

แต่หลี่ซู่ ก็เข้ามาพอดี เธอสามารถอดทนกับความคับแค้นใจได้ แต่เธอทนไม่ได้ที่จะเห็นลูกๆ ของเธอต้องเผชิญความคับแค้น เจ็บปวดใจเช่นนี้

เธอหยิบเงินหนึ่งร้อยหยวนออกมามอบให้ผู้หญิงคนนั้น “พวกเรามีเงินที่จะซื้อ”

สีหน้าของเธอเย็นชา

ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่มือของ หลี่ซู่ แล้วยิ้มเยาะทันที เห็นได้ชัดว่ามือนั่นมันเป็นมือที่ผ่านการทำงานมาอย่างหนัก เธอคงจะลืมไปแล้วว่าเธอเก็บเงินนี่มานานแค่ไหน แต่จริงๆเธออาจจะมาที่นี่เพื่อทำเป็นอวดรวยสินะ

เธอเอื้อมมือไปหยิบเงินจากมือของหลี่ซู่อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

“คุณต้องการไซส์อะไรหรอคะ ?  ฉันจะแกล้งแสดงบทบาทให้คุณดู…”

ก่อนที่น้ำเสียงเล็กๆจะพูดจบ มือน้อยที่สวยงามก็เอื้อมไปรับเงินจากมือของหลี่ซู่

พนักงานขายขมวดคิ้วมองดูจี้หยวนหยวนด้วยสีหน้าอย่างหมดความอดทน “นี่  ตกลงคุณจะซื้อมันหรือเปล่า? ไม่มีเงินก็อย่าเสแสร้งทำเป็นรวย คุณมันหน้าด้าน หน้าตาดูจนซะขนาดนี้ …”

หลี่ซูมองเธอด้วยความประหลาดใจเช่นกัน “หยวนหยวน?”

จี้หยวนหยวนเงยหน้าเล็กๆ ของเธอขึ้น แล้วมองดูผู้หญิงคนนั้น “คุณเป็นแค่พนักงานขาย คุณมีสิทธิอะไรที่จะดูถูกลูกค้าของคุณ?  คุณขายสินค้าในราคานี้และคิดว่ามันคู่ควรกับราคานี้จริงๆงั้นหรอ?”

พนักงานขายไม่ตอบโต้  สีหน้าของเธอดูมึนงง เด็กน้อยคนนี้กำลังต่อว่าเธออยู่

“หยุดอยู่ตรงนั้นนะ...”   เธอตอบโต้กลับทันที  ขณะที่จี้หยวนหยวนกำลังดึงหลี่ซูเดินออกไปจากร้าน

พนักงานขายยื่นมือออกมากำลังจะคว้าตัวจี้หยวนหยวน

จี้หยวนหยวนหันกลับมาและยิ้มอย่างมีเลศนัยให้เธอ

ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็รู้สึกว่าเท้าของเธอพลิก เธอถลาล้มลงกองกับพื้น

เมื่อเห็นเช่นนี้ จี้ซีอังก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา

หลี่ซู่ มองไปที่ จี้ซีอัง ด้วยสีหน้าจริงจัง "จี้ซีอัง แม่สอนลูกไว้ว่ายังไง ?  ลูกไม่ควรหัวเราะเยาะใส่คนอื่นนะ การกระทำแบบนั้นมันก็ไม่แตกต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน”

จี้ซีอังหยุดหัวเราะทันที “แม่ฮะ ผมรู้แล้ว ผมผิดเอง”

หลี่ซู่ เอื้อมมือออกไปลูบหัวของจี้ซีอังเบาๆ เธอเหลือบมองผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังเธอแล้วเดินจากไป

ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะลุกขึ้นยืน เธอเข้าใจความหมายแฝงเบื้องหลังคำพูดของหลี่ซูดี หล่อนกำลังเยาะเย้ยเธอ หล่อนมันเลวยิ่งกว่าสัตว์

“น้ำพวกนี่มันมาจากไหนกันนะ?   ไม่มีใครรู้หรอ ว่าควรจะเช็ดมันออกไปน่ะ?” ผู้หญิงคนนั้นก้มศีรษะลงแล้วมองดูน้ำที่หกกระจายบนพื้นขณะที่เธอพูดด้วยความโกรธแค้น

จี้หยวนหยวนเม้มริมฝีปากเข้าหากัน  น้ำพวกนั้นคือน้ำที่เธอแอบเอาออกมาจากมิติพิเศษของเธอและแอบเทลงบนพื้นตอนที่ผู้หญิงคนนั้นดูถูกพวกเราว่ายากจน

ถ้าเธอไม่ไล่ตามพวกเรามา เธอก็คงไม่ได้เหยียบน้ำและลื่นล้มลงไปแบบนั้น

สุดท้ายเธอทำตัวของเธอเองนะ

หลังจากออกจากร้านนั้น อารมณ์ของจี้ซีอังยังคงไม่สงบลง

จี้หยวนหยวนดึงแขนเสื้อของเขา “พี่รอง  พี่เป็นอะไรรึป่าว ?”

จี้ซีอังเงยหน้าขึ้นมองและถอนหายใจยาวราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย “ในอนาคต ฉันจะต้องรวยมากแน่ๆ ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกเขาดูถูกฉันได้อีกต่อไป”

จี้หยวนหยวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ  มันก็เกิดขึ้นแบบนั้นจริงๆด้วย

“พี่ไม่ต้องกังวลนะ ต่อไปพี่จะรวยมากๆ และพี่ก็หล่อและสูงมากด้วย”

คำพูดเหล่านี้ทำให้ จี้ซีอังกลับมามีความสุขอีกครั้ง

หลี่ซู่ ฟังการสนทนาระหว่างเด็กทั้งสองและรู้สึกขมขื่นในใจ

“วันนี้ ที่แม่พาพวกเราออกมา แม่ต้องการจะซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ลูกๆนะ แล้วเป็นไงล่ะ?” หลี่ซู่ หายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันไปมองลูกๆของเธอ

ดังสุภาษิตที่ว่า คนเรามักจะตัดสินคนที่การแต่งกายก่อน

แม้แต่พนักงานขายก็มองพวกเขาด้วยสายตาแบบนั้น

“แม่คะ พวกเรามาเดินดูรอบๆ ก่อนดีกว่า”  จี้หยวนหยวนพยักหน้าเรียกแม่ของเธอ

หลี่ซู่  พยักหน้าเห็นด้วยในทันที  "ตกลงจ๊ะ"

หลี่ซูพาพวกเขาเดินดูไปรอบๆ โดยเฉพาะร้านเสื้อผ้าเด็ก อย่างไรก็ตาม เมื่อจี้หยวนหยวนเดินผ่านร้านขายเสื้อผ้าสตรี สายตาของเธอก็เหมือนกับเรดาร์ เธอมองหาเสื้อผ้าที่เหมาะกับหลี่ซูอย่างรวดเร็ว

จริงๆ แล้วหลี่ซูเป็นคนหน้าตาดีและค่อนข้างผอม เนื่องจากเธออาศัยอยู่ในชนบทมาเป็นเวลานานและใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการดูแลแปลงผักและดูแลลูกๆ จนเธอไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลย

ผิวหน้าของเธอไม่ค่อยดีนักเริ่มมีฝ้าและกระ มือของเธอก็เต็มไปด้วยรอยแตกของผิวแห้งด้าน

แต่ถ้าเธอแต่งตัวสักหน่อย เธอก็จะสวยมากเช่นกัน

ทันใดนั้น จี้หยวนหยวนก็หยุดอยู่หน้าร้านเสื้อผ้าผู้หญิงร้านหนึ่ง ภายในร้านมีชุดสูทสีฟ้าอ่อน ดูเหมาะกับหลี่ซูมาก

มันเป็นชุดที่มีสองชิ้น ท่อนบนเป็นคอตุ๊กตา เอวโค้งเข้ารูป มีกระเป๋าสองข้างตกแต่งด้วยกระดุมสีเดียวกันทำให้ดูมี Texture

ท่อนล่างเป็นกระโปรงทรงตรงยาวถึงกลางน่อง

“แม่คะ มันสวยมากเลยนะคะนั่นน่ะ” จี้หยวนหยวนจับมือของหลี่ซู

หลี่ซูมองด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าเป็นชุดของผู้หญิง เธอก็พยายามเกลี้ยกล่อมอย่างใจเย็น  “ใช่ มันสวยจริงๆด้วย  แต่ว่าชุดนั่นน่ะ มันสำหรับผู้ใหญ่ใส่นะ  ลูกใส่ชุดนั้นไม่ได้หรอก”

จี้หยวนหยวนยิ้มหวาน “หนูไม่ได้อยากใส่มันซักหน่อย หนูอยากให้แม่ใส่มันต่างหากค่ะแม่”

“แม่ไม่ต้องการเสื้อผ้าใหม่หรอก แค่เห็นหยวนหยวนได้แต่งตัวสวยๆ แม่ก็มีความสุขมากแล้วจ๊ะ” หลี่ซู่กล่าวแสดงเจตนารมณ์ของเธอ

พนักงานขายด้านในได้ยินบทสนทนาระหว่างแม่ลูกที่หน้าประตูอย่างชัดเจน

พนักงานขายรายนี้ไม่ได้ดูวางมาดเหมือนพนักงานขายร้านสื้อผ้าเด็กก่อนหน้านี้ เธอกลับรู้สึกเห็นอกเห็นใจหลี่ซู่แทน

นั่นคงเพราะพวกเขาทั้งคู่เป็นแม่เหมือนกัน  จึงเข้าใจหัวอกของผู้เป็นแม่ด้วยกันดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูเสื้อผ้าบนตัวของหลี่ซู่ พนักงานขายก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย “พี่สาวคะ มันยากมากเลยนะคะที่เด็กๆจะแสดงความกตัญญูออกมา เชิญเข้ามาลองดูก่อนเถอะนะคะ ใส่ไม่พอดีไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณใส่สวย ฉันจะหาส่วนลดสูงสุดสำหรับคุณให้เลยค่ะ”

จี้หยวนหยวนมองพี่ชายสองคนของเขา พวกเขาทั้งสามร่วมมือกันผลัก หลี่ซู่ เข้าไปในร้านทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด