ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 310 ดินแดนที่อ่อนแอเสียจริง
ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 310 ดินแดนที่อ่อนแอเสียจริง
จากนั้นหลัวเหยียนเทียนก็กระโจนเข้าไปในหอคอยฟ้ากระจ่างทันทีโดยไม่ลังเล
เย่ชิงเฉิงก็เบิกตาโตพร้อมกระตือรือร้นเช่นกัน
"อยากจะไปท้าทายดูก็ไปเถอะ ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร"
"อืม งั้นสามี ข้าไปก่อน!"
เย่ชิงเฉิงพยักหน้ารัว ๆ
ร่างงามพริ้งก็กลายเป็นดั่งกระบี่คมวาบหนึ่ง พุ่งเข้าไปในหอคอยฟ้ากระจ่างโดยตรงในทันที
เห็นดังนี้
กู่หยางก็ยิ้มน้อย ๆ
จากนั้นเขาก็ละสายตากลับไปมองที่รายชื่อรอง
โดยไม่รีบร้อนที่จะไปไต่หอคอยเลยสักนิด
อย่างไรหอคอยฟ้ากระจ่างก็คงไม่ปิดเร็ว ๆ นี้หรอก
เพราะงั้นก็ไม่จำเป็นต้องรีบในเวลานี้
เขาอยากจะดูว่า...
ในบรรดาอัจฉริยะฟ้าประทานรุ่นนี้ของแดนมรกต จะมีใครสักคนที่สามารถก้าวขึ้นรายชื่อหลักได้หรือไม่
หากพูดถึงความสามารถแล้ว...
ก็คงมีแค่ซิงจิ่วหยุนเท่านั้นแหละที่มีโอกาส
ขณะที่กู่หยางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น
แสงสีขาวก็สว่างวาบขึ้นในหอคอยฟ้ากระจ่าง
ร่างหนึ่งเซซวนโซเซพุ่งออกมาจากหอคอยฟ้ากระจ่าง
ก็คือเย่ฉางเซียวนั่นเอง!
ตอนนี้หน้าของเย่ฉางเซียวซีดขาวเล็กน้อย และยังอารมณ์หงุดหงิด
ชัดเจนว่า...
การไต่หอคอยของเขาจบลงแล้ว
"ฮือ... เย่ฉางเซียวจบแล้วหรือ"
"น่าเสียดายจริง ๆ ได้แค่ลำดับแปดร้อยยี่สิบสาม ไต่ถึงแค่ชั้นที่ห้าสิบ"
เห็นเย่ฉางเซียวออกมาจากหอคอย อัจฉริยะฟ้าประทานมากมายก็เสาะหาชื่อของเย่ฉางเซียวบนรายชื่อรองทันที
พลางส่ายหน้าตำหนิอย่างหนักใจ
ไม่นาน
ด้วยพรสวรรค์ตัวประหลาดระดับนี้ของเย่ฉางเซียว กลับได้แค่ลำดับแปดร้อยเท่านั้น
เหลยยวี่เทียนก็เดินออกมาจากหอคอยฟ้ากระจ่างเช่นกัน
สีหน้าของเขาดูหม่นหมองกว่าเย่ฉางเซียวเสียอีก
ผู้คนค้นหาในรายชื่อรองอีกครั้ง
ถึงได้เจอชื่อของเหลยยวี่เทียน
ลำดับเก้าร้อยเก้าสิบสอง ไต่ได้ถึง...ชั้นที่สามสิบห้า!
คะแนนแต่ละคนเลวร้ายลงทุกที!
ความรู้สึกหงุดหงิดของเหลยยวี่เทียนก็มีมากอยู่
เพราะว่าด้วยบาดแผลที่มีอยู่ ทำให้พลังเขาใช้ออกได้ไม่เต็มที่ในหอคอยฟ้ากระจ่าง จึงทำให้ไต่หอคอยได้ช้ามาก ๆ
สุดท้ายเขาก็พยายามไปให้ถึงชั้นที่สามสิบหกได้ยากลำบาก
แต่สุดท้ายก็แพ้อยู่ดี
ต้องพ่ายแพ้อย่างน่าเสียดายในชั้นที่สามสิบหก
แต่ตอนนี้สายตาของทุกคนดูเหมือนไม่ได้อยู่ที่เหลยยวี่เทียน
เพราะซิงจิ่วหยุน ...
ก็มีผลงานที่เจิดจ้าน่าทึ่งยิ่งนัก!
ตอนนี้นางถึงกับเข้าไปในสิบลำดับแรกได้แล้ว!
"เฮือก..."
"ความสามารถของซิงจิ่วหยุนช่างน่าสะพรึงกลัวจริง ๆ!"
"นางได้เข้าสิบลำดับแรกแล้ว! แถมยังไต่หอคอยถึงชั้นที่เจ็ดสิบเก้าด้วย!"
"หรือว่านางจะทำลายสถิติสูงสุดได้หรือเปล่า"
"นางอาจจะมีโอกาสได้ลำดับหนึ่งของรายชื่อรองด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเข้ารายชื่อหลักได้หรือไม่"
"รายชื่อหลักยากเกินไป แต่ความเร็วในการไต่หอคอยของซิงจิ่วหยุนก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดแล้ว"
อัจฉริยะฟ้าประทานมากมายจ้องจับตามองรายชื่อรอง
ตอนนี้ชื่อของซิงจิ่วหยุนปรากฏอยู่ในลำดับที่สิบแล้ว
[รายชื่อรองลำดับที่สิบ: ซิงจิ่วหยุน จากราชวงศ์เทียนซิงแห่งแดนมรกต ไต่หอคอยถึงชั้นที่เจ็ดสิบเก้า!]
"ตอนนี้ข้ายิ่งคาดหวังให้กู่หยางไต่หอคอยมากขึ้นไปอีก!"
"ข้าก็เหมือนกัน!"
อัจฉริยะฟ้าประทานหัวใจเต้นระทึก ตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่ง
แต่พวกเขาสงสัยมากกว่าว่า...
หากกู่หยางไปไต่หอคอย จะสามารถทำได้เกินกว่าคะแนนของซิงจิ่วหยุนหรือไม่
อีกฝั่งหนึ่ง เย่ฉางเซียวมองลำดับของซิงจิ่วหยุน ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
เห็นได้ชัดว่าสำหรับเขาแล้ว ลำดับแปดร้อยไม่เพียงพอจะตอบสนองความพอใจของเขา!
แต่เขาก็รู้สึกสิ้นหวัง
ระหว่างทางไต่หอคอย ด่านที่พบเจอนั้นยากเย็นยิ่งนัก
ยิ่งขึ้นไปยิ่งเช่นนั้น!
และทุก ๆ สิบชั้นยังจะยกระดับความยากขึ้นไปอีกขั้น
เขาก็แพ้ในชั้นที่ห้าสิบเอ็ดนั่นเอง
ตอนนี้กู่หยางเองก็มองด้วยดวงตาเปล่งประกาย
คาดหวังว่าซิงจิ่วหยุนจะสามารถทำลายขีดจำกัดสูงสุดของแดนมรกตได้ในที่สุด ก้าวเข้าไปในรายชื่อหลักได้หรือไม่
ขณะที่ทุกคนกำลังจับตามองลำดับของแดนมรกต
ทันใดนั้น ก็มีเสียงหวานไพเราะดังขึ้นมา
"หึ เห็นทีคงจะไม่มีอัจฉริยะฟ้าประทานอะไรในแดนมรกตนี่กระมัง ถึงกับไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ขึ้นรายชื่อหลักได้ อ่อนแอเสียจริง"
แม้น้ำเสียงจะหวานเสนาะ แต่เนื้อความที่พูด... กลับไม่ใจดีเลยสักนิด!
อัจฉริยะฟ้าประทานเกือบทุกคนพอได้ยินคำพูดนี้แล้วก็โกรธแค้นในพริบตา
พร้อมใจกันหันไปมอง
แล้วก็ตะลึงงัน
เพราะไม่ไกลออกไป...
มีหญิงสาวสองคนที่หน้าตาเหมือนกันราวกับฝาแฝดยืนอยู่
ทั้งสองคนสวยงามโดดเด่น ราวกับภาพวาด
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ...
ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่ใช่คนจากแดนมรกต!
คนที่ไม่ใช่พวกแดนมรกตเข้ามาในเขตแดนลับแดนมรกตได้อย่างไร
บางคนรู้สึกโกรธ บางคนก็รู้สึกประหลาดใจ
กู่หยางได้ยินเช่นกัน เขาทำสีหน้าเรียบเฉยและเหลือบมองแฝดสวยทั้งสองนี้อย่างผ่าน ๆ
ใบหน้าจิ้มลิ้มของคนที่พูดเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง เชิดคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง
ส่วนแฝดอีกคนกลับมีลักษณะนิ่งเงียบเรียบร้อย ย่นหัวคิ้วน่ารักเล็กน้อยและดึงตัวแฝดหยิ่งยโสเบา ๆ
"วาจาโอหังยิ่งนัก! เจ้าต้องขอโทษ!"
เย่ฉางเซียวเพิ่งถูกคัดออกไปไม่นาน
อารมณ์ก็ไม่ดีอยู่แล้ว
ตอนนี้ยังมีสาวน้อยที่อายุไม่มากโผล่มา เริ่มด่าทอถากถางอัจฉริยะฟ้าประทานแดนมรกต
เขาอดทนไม่ไหว จึงก้าวออกไปและตะโกนทันที
"มีอะไรไม่พอใจหรือไม่ยอมรับหรือ หากไม่พอใจ ก็มาต่อสู้กันสักตั้งสิ!"
แฝดผู้หยิ่งทะนงเห็นเย่ฉางเซียวก้าวออกมา ก็ยื่นปากน้อย ๆ ในทันที
"แต่เจ้าต้องใช้กำลังเต็มที่นะ ไม่เช่นนั้นโดนทุบจนหน้าหมูหน้าหมา อย่ามาโทษข้า!"
"เจ้า!"
ได้ยินคำพูดหยิ่งทะนงเหิมเกริมของแฝดน้อย เย่ฉางเซียวยิ่งเบิกตากว้าง แววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
"ข้าอยากเห็นว่าเจ้ามีพื้นฐานอะไรถึงกล้าทะนงขนาดนี้!"
ฟึ่บ!
ปราณภายในร่างกายของเย่ฉางเซียวพลุ่งพล่านออกมา
มือเขาชูขึ้น หอกยาวอันหนึ่งก็พุ่งทะลวงท้องฟ้า ปลดปล่อยกลิ่นอายคมกริบที่ยากจะจินตนาการได้
หลังจากนั้นเขาก็ส่งสัจธรรมหอกระดับไร้ต้านเทียม 7 ส่วนไหลเข้าในหอกระดับราชันเทียม
ตูม!
เจตจำนงหอกดั่งมังกร พุ่งตรงไปหาแฝดหยิ่งยโสทันที!
"นี่คือวิชาหอกเฉพาะตัวของเย่ฉางเซียว - หอกมังกรเงาผี!"
"สมกับเป็นอัจฉริยะฟ้าประทานแถวหน้าของแดนมรกต ความสามารถของหอกเดียวนี้ยังแข็งแกร่งกว่ากระบี่เดียวของหลินเฉินเมื่อครู่อีก!"
"ว่ากันความสามารถล้วน ๆ เย่ฉางเซียวก็ด้อยกว่าแค่กู่หยางกับซิงจิ่วหยุนเท่านั้น!"
"ใช่แล้ว ดูแล้วเด็กหัวรุนแรงนั่นคงจะต้านทานไม่ไหวแน่ ๆ!"
อัจฉริยะฟ้าประทานรอบข้างก็อัดอั้นความรู้สึกไม่พอใจเช่นกัน
สุดท้ายแล้วถูกดูถูกเช่นนี้ พูดว่าไม่มีอัจฉริยะแดนมรกต พวกเขาก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมากอยู่แล้ว
เห็นเย่ฉางเซียวออกมือ พวกเขาก็อัดอั้นความรู้สึกเต็มที่
แต่คิดไม่ถึงว่าแฝดหยิ่งทะนงเห็นแบบนี้แล้ว กลับเบ้ปากเล็กน้อย
ครั้งต่อไป
ปราณภายในตัวนางก็พลุ่งพล่านออกมา
ถึงกับเป็นฐานการบำเพ็ญเพียรขอบเขตแก่นสุญตาระดับ 13!
ปราณพลุ่งพล่านออกมา เพียงตบมือเบา ๆ
พลังมหาศาลก็ระเบิดออกมา
ตามมาด้วย... สัจธรรมฝ่ามือระดับไร้ต้าน 9 ส่วน!
ตู้ม!
พลังมหาศาลถึงกับตบเจตจำนงหอกของเย่ฉางเซียวจนแตกกระจาย
จากนั้นฝ่ามือหนักก็ตบลงบนตัวของเย่ฉางเซียว
ปัง!
เย่ฉางเซียวสำลักเลือดสดออกมาอึกใหญ่ ทั้งตัวก็ถูกฟาดกระเด็นออกไปราวกับว่าวขาดสาย
โครม ล้มกระแทกพื้น
เห็นฉากนี้แล้ว...
อัจฉริยะฟ้าประทานรอบข้างต่างอ้าปากค้าง ตาเป็นประกาย