บทที่ 54 นับถอยหลัง (4)
[แฟนเพจBamแปลNiyay:ลงแบบราคาถูกโคตรในmy-novel(ลงช้ากว่าThai-novel100ตอน)กับthai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นนอกจากสองเว็บนี้คือไม่ใช่ผมนะ ถ้าเจอคนอ่านก็อปดันเยอะกว่าก็ท้อเป็นนะครับ]
[ถ้าอ่านฟรีแบบเถื่อนไม่ว่าจะได้มายังไงนั้น ผมไม่ว่าเลยครับ และต่อให้ไม่มีคนอ่าน ผมก็ยังจะแปลต่อจนจบด้วย แต่ถ้าจะจ่ายเงินให้เว็บหรือคนที่copyไปขายอีกที คุณโคตรแย่เลยครับ]
[หลังแปลจบจะมีการแก้คำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นถ้าคุณอ่านแบบเถื่อน ก็เชิญเลยครับ เพราะมันไม่มีอัพเดทให้หรอก]
บทที่ 54 นับถอยหลัง (4)
วันที่ 9 ที่เป็นวันหยุดของคังวูจินได้ผ่านไปด้วยความเร็วแสง โดยปกติ วันพักผ่อนจะผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทําอะไรลงไป แต่ส่วนสาเหตุหนึ่งคงเป็นเพราะช่วงนี้วูจินท่องอินเทอร์เน็ตบ่อยมากกระมัง
“ว้าว มีเยอะมากขนาดนี้เลยเหรอ?”
เมื่อไม่นานมานี้ เวลาที่คังวูจินใช้ท่องเว็บผ่านโทรศัพท์ของเขาเริ่มเพิ่มมากขึ้น แล้วก็ไม่ใช่ว่าชื่อของเขาถูกกล่าวถึงจากข่าวมากมาย แต่ว่า...
"โอ้! งั้นนี้คือตอนพิธีปิดสินะ? ใบหน้าของฉันทำไมกัน ไหงมันดูแปลกแบบนี้?”
ข่าวส่วนใหญ่ที่กระหึ่มอยู่บนอินเทอร์เน็ตนั้นเกี่ยวข้องกับคังวูจิน อุตสาหกรรมภาพยนตร์ยังคงประสบกับผลพวงจาก ‘เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง’ ทำให้ข่าวพวกนี้แพร่สะพัดอยู่หลายวัน
『ในที่สุด 'ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม' ของเทศกาลหนังสั้นมิสอองแซงก็มีผู้ได้ไปครองแล้ว [เนื้อหาแบบสรุป]』
คณะกรรมการเทศกาลยังคงส่งเสริมเทศกาลนี้อย่างต่อเนื่อง อาจเพราะประสบความสําเร็จในปีนี้ ภายในปีหน้าจึงจะจัดอย่างยิ่งใหญ่เช่นปีนี้ โดยยังคงความดั้งเดิมบางอย่างไว้ด้วย
『<สำนักงานนักสืบ> ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังสั้นมิสอองแซงปีนี้! รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมครั้งแรกในรอบ 4 ปี』
『[คุยข่าวดารา] เทศกาลหนังสั้นได้รับความนิยมอย่างยิ่งยวด! ‘ฮงฮเยยอน’ สร้างความประหลาดใจและคว้ารางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยม/รูปถ่าย』
ผู้คนต่างประทับใจในเทศกาลนี้มาก พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอคอยเทศกาลครั้งหน้ากันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ไม่ได้ให้ใครมาหลายปี กลับเป็น 'สำนักงานนักสืบ' ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง ทั้งยังได้รางวัลนักแสดงแบบใหม่ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาอีก
『เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซงในปีนี้สร้างกระแสให้วงการภาพยนตร์อย่างยิ่งยวด ได้รางวัล 3 ครั้งติด ‘สำนักงานนักสืบ’ ดึงดูดความสนใจของทุกผู้คน』
『[ภาพถ่าย] ‘สำนักงานนักสืบ’ ผู้กำกับชินดงชุนผู้ได้รับรางวัล 3 อย่างได้กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับที่ผมจะได้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่อไป”』
คณะกรรมการและสื่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ยังคงเน้นย้ำถึงเรื่อง ‘สำนักงานนักสืบ’ ไม่ว่าจะวงการไหนก็ต้องการซูเปอร์สตาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่ไม่ใช่กระแสหลักอย่างหนังสั้น หรือหากให้ยกตัวอย่างที่ชัดเจนก็เช่นใน กีฬา แม้ว่าจะเป็นกีฬาที่ไม่มีความนิยมมากนัก แต่คนส่วนใหญ่ก็คงจะสนใจนักกีฬาดาวเด่นกัน
กล่าวอีกอย่างคือ ‘สำนักงานนักสืบ’ ยามนี้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการหนังสั้นไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน พัคจองฮยอกที่พยายามใช้ 'เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง‘ เพื่อจุดประสงค์ในการฟอกขาวของเขาเองก็ได้ถูกฝังอย่างเงียบ ๆ ไป เขาถูกกล่าวถึงเพียงสั้น ๆ ในช่วงเริ่มต้นของพิธีมอบรางวัล และนั่นแหละคือทั้งหมดที่เกิดขึ้น
『พัคจองฮยอกผู้ประกาศว่าจะ 'เริ่มต้นจากล่าวสุด' อยู่ที่ไหนกัน? ไม่มีการตอบกลับจากฝ่ายของพัคจองฮยอกเกี่ยวกับการไม่เข้าร่วมพิธีมอบรางวัล』
เรื่องที่น่าสนใจคือ...
『ใครคือพระเอกของ ‘เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง‘ ผู้ได้รางวัลแดซัง?ผู้ตัดสินกล่าวว่า “เขาคืออนาคตของชุงมูโร”/รูปภาพ』
แม้แต่คังวูจินผู้ไม่มีใครรู้จักและถูกบดบังโดยฮงฮเยยอน ก็เริ่มถูกสนใจ ทว่ามันกลับมีคนสนใจเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งที่อุตส่าห์ได้รางวัลใหญ่สุด
สาเหตุงั้นเหรอ? ทำไมมันเงียบขนาดนี้หลังจากที่นักแสดงอย่างคังวูจินสามารถเอาชนะฮงเฮยอนและได้รับรางวัลชนะเลิศ? ไม่ใช่ทุกสื่อที่เน้นเรื่องนี้ แต่ข่าวสองสามข่าวก็เริ่มพูดถึงคังวูจินกันแล้ว
『[พูดคุยภาพยนตร์] นักแสดงโนเนม คังวูจิน ได้รับเลือกเป็นเอกฉันท์สำหรับรางวัลแดซังโดยคณะกรรมการ นอกจากนี้เขายังได้สนทนากับผู้กำกับชาวญี่ปุ่นเคียวทาโร่ในภาษาญี่ปุ่น/ภาพ』
ส่วนหนึ่งคงเพราะ...มันได้ถูกกลบโดยสงครามละครของทั้งสามค่าย
[@ __19yy __]
[(ลิงก์บทความ) อา… ฉันควรดูอะไรดูเนี่ย ㅜㅜㅜ ฉันอยากดูทั้งสามเรื่องเลย! แต่ฉันไม่คิดว่าทั้งสามเรื่องจะลงบนเน็ตฟลิกซ์เนี่ยสิ….ㅜㅠㅜ]
พอรอบปฐมทัศน์ของ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล‘ ที่กำลังจะมาถึง SBC MBS และ TVM ต่างก็โปรโมตคืนเช่นกัน พวกเขาเริ่มทำการโต้ตอบ
『[ข่าวละคร] รอบปฐมทัศน์ใกล้เข้ามาแล้ว SBC MBS TVM ในสงครามละคร ต่างก็กำลังโปรโมตกันอย่าบ้าคลั่ง!』
ความคิดเห็นของสาธารณชนก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น โฆษณาอยู่ในทุกที่ที่ผู้คนสามารถมองเห็นหรือได้ยิน ไม่ใช่แค่ในเว็บไซต์เท่านั้น
『ความคิดเห็นของประชาชนได้เปลี่ยนไปแล้ว ชาวเน็ตต่างเริ่มโฆษณาละครที่พวกเขาอยากดูในชุมชนต่าง ๆ /รูปภาพ』
ในหมู่ข่าวโฆษณาทั้งหมด ข่าวเมื่อวานนี้ที่เกี่ยวกับการประกาศการฉาย ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' เป็นข่าวที่น่าตื่นเต้นที่สุด แน่นอนว่า SBC MBS และ TVM ต่างก็โฆษณาแข่งกัน แต่ผู้ชนะคือ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’
『[คุยข่าวเด่น] รยูจองมิน ผู้เข้าร่วมการถ่ายทำได้กล่าวว่า "สงครามละครงั้นเหรอครับ? ผมแสดงอย่างขยันขันแข็งและมั่นใจว่าเรื่องของเราจะสนุกแน่ ”』
『เริ่มต้นด้วยนักเขียนพัคอึนมี ทีมนักแสดงทั้งหมดของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ล้วน 'เต็มไปด้วยความมั่นใจ'』
พอพวกเขาได้ข่าวที่อาจสร้างกระแสครั้งใหญ่ เหล่าผู้สื่อข่าวจึงเหมือนฉลามที่ถูกกระตุ้นด้วยกลิ่นเลือด ทำให้จำนวนบทความเกี่ยวกับ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว วันเวลาภายในอินเทอร์เน็ตที่เกิดความบ้าคลั่งอย่างยิ่งยวดได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ซึ่งวันรุ่งขึ้น มันก็ไม่เงียบเหงาเลย เรียกว่ามันวุ่นวายกว่าวันก่อนเสียอีก
『นักเขียนพัคอึนมี “นักแสดงขโมยซีนที่ฉันเลือกมาจะเอาชนะทุกคนได้อย่างแน่นอน”』
วันนี้มีการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับเรื่องนักแสดงขโมยซีนที่ถูกกล่าวถึงในตอนท้ายของการประกาศฉาย 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ทั้งยังมีเรื่องการโต้เถียงระหว่างฮงฮเยยอนและนักข่าวอีก
『ใครคือนักแสดงขโมยซีนที่ ‘ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล’ ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงจาก PD ซงมันวูและนักเขียนพัคอึนมีกัน? คน ๆ นั้นจะแสดงให้เห็นถึงการแสดงอันสุดยอดอย่างที่พูดเกินจริงหรือเปล่า?』
『[ภาพถ่าย] นักแสดงหญิงยอดนิยมฮงฮเยยอนได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวอย่างรวดเร็ว: “ไปดู ‘สำนักงานนักสืบ’ เถอะนะคะ/ภาพ』
อันที่จริงเมื่อดูภาพรวมบทความที่เผยแพร่แล้ว แทบทุกข่าวล้วนแล้วแต่มีการใส่สีตีไข่กันทั้งนั้น แล้วยังไงเล่า? ทั้งหมดนี้คือควันและกระจกที่สร้างมาเพื่อล่อตาล่อใจเหยื่อให้คลิกเข้าไป มันคือการหลอกลวงอยู่แล้ว อืม มันคือความพยายามของพวกนักข่าวเองที่ทำให้มันเกินจริง แต่สำหรับทาง ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ มันไม่ใช่สถานการณ์ที่เลวร้ายอะไรเลย
ไม่สิ มันเป็นสถานการณ์ที่พวกเขาตั้งใจวางไว้อยู่แล้วต่างหาก
ด้วยวิธีนี้ หลังจากสองวันของการสร้างกระแสในสื่อของวันที่ 10 ได้เกิดขึ้น ทำให้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 ความคิดเห็นของประชาชนเริ่มเพิ่มเชื้อเพลิงให้กับเรื่องนี้ไปทุกที่
-ฮงฮเยยอนจัดการนักข่าวที่งานแถลงฉายอยู่หมัด
วิดีโอตัดต่อมากมายสิบรายการของการประกาศฉายถูกอัปโหลดไปยัง YouTube ทั้งมีการพูดคุยกันอย่างดุเดือดบน SNS และชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ ในตอนแรก ส่วนใหญ่ต่างมุ่งเน้นไปที่เรื่อง ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ซึ่งดูเหมือนจะโดดเด่นเป็นอย่างมาก ทางทีมละครของ SBC และ TVM ก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน
"คุณพีดี! ดูเหมือนว่าทีมผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพลจะเล่นในตอนงานแถลงมากไปหน่อย ปฏิกิริยาของชุมชนจึงมีแต่เรื่องผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพลเป็นส่วนใหญ่แล้วครับ!"
"ผมรู้แล้วน่า! ผมก็เฝ้าติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน!”
"เรื่องที่ฮงฮเยยอนกับนักข่าวทะเลาะกันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เหยื่อนักแสดงขโมยซีนที่พีดีซงและนักเขียนถึงพัคพูดมา... นี่มันของจริงเหรอ??"
“ไม่มีทางหรอก มันเป็นเรื่องโกหกแหง! ไม่คิดเลยว่านักเขียนพัคจะทำถึงขั้นนี้ ดึงคนด้วยวิธีการอะไรแบบนี้งั้นเหรอ?”
“แต่ถ้านักแสดงขโมยซีนที่ว่าปรากฏตัวขึ้นจริง ๆ ล่ะครับ??”
“เฮ้ คุณรู้ไหมว่างบประมาณในการผลิตของผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพลสูงแค่ไหน? มันต้องเป็นเรื่องโกหกอย่างแน่นอนอยู่แล้ว! เฮ้อ! แต่เราคงต้องรีบทำอะไรสักอย่างตอบโต้! ไม่งั้นมีหวังโดนกดหัวไม่ขึ้นแน่!”
ดังนั้นทีมละครเรื่องอื่น ๆ จึงเข้าร่วมสงครามคลิกเบทอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเอง วันที่ 12
เหลือเวลาอีก 4 วันพอดีจะถึงรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 15 ทีม ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ และทีมละครอื่น ๆ ก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้ว
『’สงครามละคร’ ละครแต่ละเรื่องปล่อยตัวอย่างแบบเป็นทางการของพวกเขาเกือบจะพร้อมกัน! คุณภาพเป็นเช่นไรบ้างกันนะ?』
พวกเขาปล่อยตัวอย่างแทบจะพร้อมกันทั้งหมด แม้ว่าจะมีการปล่อยตัวอย่างไปแล้วหลายตัว แต่ตัวอย่างที่อัปโหลดในครั้งนี้มีความยาวมากกว่าหนึ่งนาที ซึ่งเพียงพอที่จะยกระดับความคาดหวังของสาธารณชนให้สูงขึ้นไปอีก
ศึกละครครั้งนี้ราวกับเป็นศึกที่จะต้องมีใครตายให้ได้
ในขณะเดียวกัน ภายในรถตู้ของคังวูจิน
ในขณะที่ตัวอย่างหลักของ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ถูกปล่อยออกมา คังวูจินก็กำลังมุ่งหน้าไปยังสตูดิโอ เขาจะไปที่นั่นเพื่อสัมภาษณ์การถ่ายทำ โดยที่ถ่ายวันนี้จะไปอยู่ในส่วนหลังของตัวอย่าง ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล'
“……….”
ใบหน้าของเขายังคงเย็นชาเช่นเคย ทว่าทีมของเขา รวมถึงซีอีโอชเวชองกุนกลับไม่ได้นิ่งสงบเหมือนเขา
“ว้าว คุณภาพของตัวอย่างนั้นมันดีจริง ๆ เลยแฮะ PD ซงต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างมันขึ้นมาเลยหรือเปล่าเนี่ย?”
“ฉันก็ว่างั้นแหละค่ะ น่าเสียดายที่คุณวูจินไม่ได้อยู่ในนั้นนะคะ”
"ฮ่าฮ่า! เวลาตีต้องตีทีเผลอสิครับถึงดีไม่ใช่เหรอ!"
ทุกคนต่างกำลังยุ่งอยู่กับการชมตัวอย่างหลัก ต้องโทษบุคลิกของเขาเลย ที่ทำให้เขาไม่อาจทำใบหน้าสุขใจได้เหมือนสมาชิกในทีมคนอื่น ๆ แต่คังวูจินยามนี้ก็กำลังดูตัวอย่างหนังอยู่เช่นกัน
'ว้าว ฉากนั้นดูเหมือนในวิดีโอเลย น่าสนใจมากแฮะ'
เมื่อเขาเทียบตอนถ่ายทำกับตอนตัดต่อเสร็จแล้ว เขาก็อดไม่ได้เลยที่จะต้องรู้สึกประหลาดใจ วูจินเองก็เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการตัดต่อวิดีโอขณะทํางานที่บริษัทออกแบบเช่นกัน แต่ว่า...
‘นี่อยู่อีกระดับหนึ่งไปแล้ว’
เขาตระหนักได้เลยว่าสิ่งที่เขาเคยทำนั้นเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง หลังจากนั้นเอง
‘อ่า จริงสิ’
คังวูจิน ผู้ซึ่งกำลังดูตัวอย่างหนังอยู่จู่ ๆ ก็จำอะไรบางอย่างได้ เขาปิดวิดีโอและเข้าสู่ระบบธนาคารบนมือถือของเขา ใบหน้าของเขาไร้อารมณ์ แต่มีความคาดหวังเลือนรางได้ปะปนเข้ามา
แปะ.. แปะ..
พอสัมผัสเพียงไม่กี่ครั้ง ในไม่ช้า ยอดเงินในบัญชีธนาคารของเขาก็ทำให้ใบหน้าโป๊กเกอร์ของคังวูจินสั่นคลอนเล็กน้อย
'...บ้าไปแล้ว มันเข้ามาแล้ว’
ฮันเยจุง สไตลิสต์สายตาคมกริบก็เอ่ยถามคังวูจินไปว่า
"พี่มีอะไรหรือเปล่าคะ?" ไม่สบายหรือเปล่า?”
เพื่อตอบคำถามของเธอ วูจินได้ส่ายหัวไปมา
"ไม่ ผมสบายดี”
คังวูจินที่ตอบไปแล้วก็กลับไปมองที่หน้าจอโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง เขาเกือบจะเต้นรำออกมาเพราะความสุขในใจไปแล้ว
เหตุผลมันก็เรียบง่ายมาก
’60 ล้าน 60 ล้านในครั้งเดียวเนี่ยนะ!'
เงินหลายสิบล้านวอนถูกโอนเข้าบัญชีที่น่าสมเพชของเขา มันคือค่าธรรมเนียมสัญญาสังกัดและค่าธรรมเนียมที่เขาไปแสดงใน ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ ในความเป็นจริง ค่าธรรมเนียมการเซ็นสัญญาจากต้นสังกัดเขาได้มาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว ส่วนค่าตัวของละครเขาเพิ่งจะได้มันมาในวันนี้ คังวูจินเพิ่งจะเห็นว่าเงินถูกโอนเข้ามา
สาเหตุคงเพราะเขายุ่งมาก
แต่อย่าลมืว่าเขาเพิ่งเริ่มแสดง และในเวลาเพียงสองเดือน เงินเดือนแรกของเขาที่มีมากกว่า 60 ล้านวอนได้ถูกฝากเข้าบัญชีของเขา ยิ่งไปกว่านั้น...
‘พวกเขาบอกว่าเงินของเรื่องผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพลจะยังคงเข้ามาอีกหลังจากฉายครั้งแรกไปแล้วใช่ไหมนะ?’
ยังมีค่าตัวที่เขาจะได้เพิ่มอีก แน่นอนว่าเขาคงจะได้รับค่าตัวที่สูงขึ้นไปในอนาคต คังวูจินเองรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เพราะเงิน 60 ล้านวอนถือเป็นเงินจำนวนมาก พูดตามตรง มันเป็นจำนวนเงินที่คังวูจิน ผู้ซึ่งเป็นพลเมืองธรรมดาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
‘ว้าว โคตรบ้าเลย ฉันควรทำยังไงกับมันดีนะ?"
รอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏบนใบหน้าโป๊กเกอร์ของวูจิน เขาพยายามอย่างหนักที่จะกลั้นมันไว้ แต่ความสุขของเขาก็เริ่มรั่วไหลออกมา ฮันเยจุงที่กำลังเหลือบมองอยู่จึงได้กระซิบกับซีอีโอชเวชองกุน
“ซีอีโอ ตอนนี้คุณวูจินดูค่อนข้างแปลกไปมากเลยนะคะ”
ชเวชองกุนหันไปมองคังวูจินอย่างรวดเร็ว เขาเคยเห็นสภาพของวูจินที่เป็นแบบนี้มาก่อน
“ช่างเขาเถอะ เขาอาจกำลังฝึกฝนสวมบทบาทตัวละครอีกแล้วก็ได้มั้ง”
“อา-”
“ถ้าเขาเป็นแบบนั้น ก็อย่าเข้าไปรบกวนเขานะ”
"ค่ะ"
คังวูจินไม่ได้สังเกตเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเลย
'ฉันควรทำยังไงกับมันดีเนี่ย? บ้าเอ๊ย ฉันไม่เคยจัดการเงินจำนวนมากขนาดนี้เลย ไม่รู้แล้ว แต่ว่าฉันควรให้บางส่วนกับพ่อแม่ของฉันก่อนสินะ...’
เขากำลังไตร่ตรองว่าจะทำยังไงกับเงินจำนวนมากที่เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
'อ๊า! หรือฉันควรเก็บเงินเพิ่มอีกสักหน่อยแล้วย้ายที่อยู่เลย?'
วันรุ่งขึ้น วันพุธที่ 13 อพาร์ทเมนท์สตูดิโอของคังวูจิน
มันเป็นเวลาเช้าตรู่ ประมาณ 9 นาฬิกา คังวูจินสวมเสื้อสเวตเตอร์สบาย ๆ ท่ามกลางอากาศอบอุ่น ยืนอยู่หน้าชั้นวางรองเท้า แต่เขาไม่ได้สวมรองเท้า
“อืม เปล่งประกายยิ่งนัก”
เขากำลังมองถ้วยรางวัลที่วางอยู่บนชั้นวางรองเท้าอย่างพึงพอใจ มันจะเป็นอะไรไปได้อีก? มันเป็นถ้วยรางวัลชนะเลิศจาก ‘เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง’
“พวก ฉันจะไปข้างนอกแล้วนะ”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง วูจินจึงหวงแหนรางวัลใหญ่ที่เขาเพิ่งเคยได้รับครั้งแรกนี้เป็นอย่างมาก ก็เข้าใจได้ เพราะมันเป็นรางวัลแรกที่เขาได้รับมาหลังสองเดือนที่เริ่มมาเป็นนักแสดง
ไม่นานนัก
-กึก
หลังจากอำลาถ้วยรางวัลแล้ว คังวูจินก็ออกจากสตูดิโออพาร์ทเมนต์ของเขา วันนี้เช่นเคย มีรถตู้สีดำจอดรออยู่หน้าบ้าน ทว่า
"พี่ชาย! อรุณสวัสดิ์!"
“สวัสดีค่ะพี่”
คนที่มารับวูจินเพียงจางซูฮวานและฮันเยจุงเท่านั้น ส่วนชเวชองกุนไม่อยู่ที่นี่
“สวัสดีครับ”
"โอ้! พี่! ช่วยพูดแบบปกติเถอะได้ไหมคะ?!”
"ใช่เลยครับพี่ชาย แบบนี้เรารู้สึกไม่สบายใจมากเลยนะครับ”
"โอเค เข้าใจแล้ว”
ส่วนสาเหตุที่เขาไม่มา เหตุผลก็เรียบง่ายมาก
“พี่ งั้นเราจะตรงไปที่บริษัทกันก่อนเลย! อ๊า! พี่รู้ไหมว่าตอนนี้บริษัทวุ่นวายขนาดไหน?!”
สังกัดของคังวูจิน บีดับเบิลยูเอนเตอร์เทนเมนต์ยามนี้กำลังกลาเยป็นสนามรบอยู่ ซีอีโอชเวซองกุนยุ่งมากจนยากที่เขาจะลุกออกจากที่นั่ง ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยุ่งวุ่นวายเป็นพิเศษ ซึ่งขณะที่วูจินขึ้นรถมินิแวน ทางพนักงานทุกคนของบีดับเบิลยูเอนเตอร์เทนเมนต์ก็ต้องยุ่งสายตัวแทบขาดจนไม่ได้มีเวลาหยุดพัก
“ครับ ครับ ที่นี่บีดับเบิลยูเอนเตอร์เทนเมนต์! โอ้ เรื่องบทสัมภาษณ์ของคุณฮงฮเยยอนงั้นเหรอครับ? ผมจะตรวจสอบให้ทันทีครับ!”
"หา? ไม่ค่ะคุณนักข่าว คุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่กันคะ? เป็นปัญหาหรือไงคะที่เราขอให้นำบทความออกไป เพราะมันเป็นข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงเลย?”
“อ่า ทางคุณคังวูจินยังไม่ได้มีการตัดสินใจครับ ใช่ ใช่ครับ ต้องการนัดงั้นเหรอครับ? ขอประชุม? ถ้าอย่างนั้นผมจะถามซีอีโอให้นะครับ”
“คุณช่วยส่งข้อซักถามเกี่ยวกับโฆษณาของฮงฮเยยอนผ่านทางอีเมลหน่อยได้ไหมคะ?”
อันที่จริง ความวุ่นวายนี้เริ่มต้นหลังจาก ‘เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง’ ตั้งแต่ที่มีพลังดาราของฮงฮเยยอน ที่แห่งนี้ก็ไม่เคยเงียบเหงาเลย พอมีคังวูจินมันยิ่งแล้วใหญ่ ตามปกติพวกเขาจะมีการสอบถามถึงเรื่องงานกับฮงฮเยยอนกัน แต่คราวนี้มีเรื่องของคังวูจินมาด้วย
ด้วยเหตุนี้ ทีมประชาสัมพันธ์ประมาณหกคนจึงต้องรับโทรศัพท์อย่างบ้าคลั่ง
“บริการส่งสินค้าแบบด่วนพิเศษ! ให้วางไว้ที่ไหนดีครับ??”
บริการส่งสินค้าแบบด่วนพิเศษมักจะมีมาส่งบ่อยภายในบริษัทบีดับเบิลยูเอนเตอร์เทนเมนต์ ของภายในส่วนใหญ่เป็นบทภาพยนตร์และบทละคร บริการส่งสินค้าแบบด่วนพิเศษด่วนถูกนำมาใช้ เพราะการมานัดพบพูดคุยกันทุกครั้งมันเป็นเรื่องยากมาก แถมยังสิ้นเปลืองเงินและเวลาโดยใช่เหตุ
ภายในห้องประชุม ซีอีโอชเวชองกุนก็กล่าวว่า
“งั้นต่อจากนี้ เรามาทำให้ฮเยยอนเป็นจุดสนใจเข้าไว้ ซ่อนวูจินให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ไปสักพักก่อน”
เขากำลังประชุมสั้น ๆ กับพนักงานหลายคน
“ตั้งแต่วูจินเข้าร่วม ผมก็คิดว่าเราต้องเพิ่มพนักงานมากขึ้น มีทีมไหนต้องการสมาชิกอย่างเร่งด่วนที่สุดบ้างไหม?”
“ฉันคิดว่าทีมประชาสัมพันธ์ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนที่สุดค่ะ”
“ฮึ่ม”
“ทีมผู้บริหารเองก็รู้สึกหนักใจเหมือนกันครับ”
“ถ้าอย่างนั้นคงต้องรีบเพิ่มพนักงานให้มากที่สุดพอกับจำนวนคนที่เราต้องการแล้วสิ”
หลังจากผ่านไป 30 นาที คังวูจินก็ได้มายังบริษัท มีคนจำนวนไม่น้อยที่มองไปทางวูจินอย่างสงสัย เพราะสำหรับพนักงาน เขาเป็นคนที่ไม่คุ้นหน้าอย่างยิ่ง
ทว่าในไม่ช้า วูจินก็เข้าไปนั่งเผชิญหน้ากับชเวชองกุนในห้องบริหาร ชเวชองกุนเริ่มการสนทนาทันที
“วูจิน อย่างที่นายเห็นสถานการณ์ที่บริษัทเรา ทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมด โดยเฉพาะเรื่องบทภาพยนตร์และบทละครมีเข้ามาหานายเยอะแยะไปหมด แล้วก็มีสัมภาษณ์ด้วยบางส่วน นายคิดว่าไง อยากลองทำดูหน่อยไหม?”
สัมภาษณ์งั้นเหรอ? อา ตอนนี้ขอบาย คังวูจิน ผู้ซึ่งกำลังมองไปที่ชเวชองกุนอย่างเงียบ ๆ ก็รู้สึกไม่มั่นใจนัก สักวันหนึ่งเขาอาจจะออกไปให้สัมภาษณ์ แต่ตอนนี้...
‘เขายังไม่พร้อม’
บอกตามตรง เขารู้สึกไม่สบายใจด้วยซ้ำหากต้องไปเจอผู้คนมากหน้าหลายตาแบบนั้น ด้วยเหตุนี้ วูจินจึงตอบด้วยเสียงแผ่วเบาไปว่า
“ผมรู้สึกว่ามันเร็วไปหน่อย”
"ใช่ไหมล่ะ? พูดตามตรงนะ ฉันคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่าหากนายรักษาตัวตนลึกลับอะไรแบบนี้เอาไว้ก่อน เพราะยังไงหากไปให้สัมภาษณ์กับยูทูปหรือสื่อมวลชน ผลตอบรับคงไม่ได้ดีเท่าไร มันจะเสียภาพลักษณ์ของนายไปเปล่า ๆ ”
“ผมก็คิดเหมือนกันครับ”
“สิ่งที่ฉันคิดตอนนี้คือ ต้องรักษาความลึกลับของนายเอาไว้ ต่อให้เรื่องผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพลมันจะจบลงแล้วก็ต้องเก็บงำมันเอาไว้”
ชเวชองกุนเอียงตัวไปทางวูจินพร้อมกล่าวสรุปออกมาด้วยความจริงจัง
“ตอนนี้ สาธารณชนและสื่อต่างก็อยากรู้เกี่ยวกับตัวนาย แต่คิดดูสิว่าตอนนี้มันไม่มีข้อมูลอะไรเลยหลังผ่าน ‘เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง’ และพอฉายผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล มันก็จะทำให้ผู้คนมากมายรู้สึกสงสัยใช่ไหมล่ะ? จากนั้น ตู้ม นายก็ได้เข้าร่วมผลงานของผู้กำกับควอนกีแท็ก เป็นไง คิดดูสิว่ามันจะตื่นเต้นมากขนาดไหน”
‘แบบนั้นเองสินะ ฮึ่ม ไม่ค่อยเข้าใจเลยแฮะ' แม้ว่าเขาจะฟังรู้เรื่อง แต่คังวูจินไม่เข้าใจเลยว่าอีกฝ่ายพูดอะไรออกมา แต่สิ่งที่เขาบอกได้อย่างเดียวคือ ชเวชองกุนคงวางแผนอะไรบางอย่างที่มันดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน
“ครับ แบบนั้นก็ดี”
“เหลือเวลาอีกเพียงสองวันก่อนการออกอากาศครั้งแรกของผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล เพราะงั้นนายต้องซ่อนตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ระวังอย่าไปพูดอะไรกับเพื่อนสนิทของนายด้วยล่ะ”
"ครับซีอีโอ"
ชเวชองกุนที่กำลังยิ้มอย่างพอใจได้ลุกขึ้นและขยับไปที่โต๊ะ หยิบหนังสือหลายสิบเล่มมาวางไว้ตรงหน้าวูจิน วูจินสะดุ้งในใจกับจำนวนที่ค่อนข้างมากนี้ แต่สายตาของเขากลับมองไปที่ชเวชองกุนอย่างใจเย็น
ชเวชองกุนหัวเราะและยักไหล่กลับมา
“นี่คือบทภาพยนตร์และบทละครที่ส่งมาหานาย นอกจากนี้ยังมีละครเมโลดรามาและรอมคอมที่ฉันแยกออกมาเป็นอีกส่วนให้อีก”
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หนังสือหลายสิบเล่มที่กองอยู่ตรงหน้าวูจินคือบทภาพยนตร์และบทละคร มีเยอะขนาดนี้เลยเหรอ? วูจินที่รู้สึกประหลาดใจอยู่ภายในใจ ก็ได้แต่พยายามรักษาใบหน้านิ่งคล้ายโป๊กเกอร์ไว้ได้
‘ว้าว บ้าไปแล้ว ทั้งหมดนี้ส่งมาหาฉันเหรอ? มันมีเยอะมากพอสมควรเลย ฉันจะอ่านทั้งหมดนี้จบตอนไหนกัน??'
ในเวลานั้นเอง ชเวซองกุนก็คิดไปคนละทางเมื่อเห็นใบหน้าของคังวูจิน
“นายผิดหวังเหรอ? ฮ่าฮ่า อย่าคิดมากเลยน่า ตอนแรกบริษัทได้กรองบทที่พอจะดูใช้ได้มาแล้ว เพราะงั้นแหละ มันเลยเหลือจำนวนน้อยแค่นี้ ส่วนหนึ่งที่มีบทแปลก ๆ เข้ามาคงเพราะคนไม่ค่อยรู้จักนายมากล่ะมั้ง”
วูจินค่อย ๆ พยักหน้า หันกลับไปมองบทภาพยนตร์และบทละครที่ซ้อนทับกัน แน่นอนว่าพวกมันทั้งหมดมีสี่เหลี่ยมสีดำติดอยู่ วูจินหยิบอันที่อยู่ด้านบนขึ้นมาและคลี่มันออก ส่วนทางด้านชเวชองกุนก็กล่าวอธิบายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“นายมีลางสังหรณ์สุดแม่นยำอยู่ เพราะงั้นเชิญเลือกได้ตามสบายเลย ไม่จำเป็นต้องเป็นละครเมโลดราม่าหรือรอมคอมหรอกนะ ถ้านายไม่โอเคกับมัน ก็เลือกเรื่องอื่นได้เลย เรามีเวลาพอสมควร โปรเจคที่ทำร่วมกับผู้กำกับควอนกีแต็กอยู่ในขั้นตอนก่อนการผลิตอยู่ ดังนั้นมันคงพอมีเวลาที่จะทำโปรเจคสั้น ๆ สักสองสามเรื่องน่ะ อืม แต่ยังไงมันก็เป็นทางเลือกของนายอยู่แล้ว”
“ไม่ใช่ว่านี่คือช่วงที่ผมควรจะหยุดพักหรอกเหรอครับ?”
“ก็จริง แต่ทางที่ดีที่สุดคือควรรับงานเข้าไว้อย่างไม่หยุดพักจะดีที่สุด”
ทันใดนั้นเอง คังวูจินที่ฟังคำอธิบายอย่างใจเย็นก็ได้ชะงักไป แน่นอนว่านิ้วชี้ของเขาถูกยกขึ้นอย่างลับ ๆ ทำให้ชเวชองกุนไม่ได้สังเกตเห็นการกระทำของเขา ด้วยเหตุนี้ คังวูจินจึง...
‘โอ้ อันนี้’
ได้ไปที่มิติว่างเปล่าและกลับมาแล้ว
‘B + ออกมาตั้งแต่ต้นเลยเหรอ?'
เมื่อชี้ไปที่บทภาพยนตร์ในมือของเขา วูจินก็ถามชเวชองกุนว่า
“ซีอีโอครับ นี่มันเรื่องอะไรเหรอ?”
"หือ? อา นั่นคงเป็นเรื่องที่ชื่อว่าคามิโอ”
“คามิโอ?”
“ใช่ คือฉันไม่ได้คุยกับผู้กำกับนานสักเท่าไร แต่ฉันได้ยินมาว่าพวกเขากำลังถ่ายทำเรื่องนี้อยู่แล้วและพวกเขาเห็นนายที่ ‘เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง’ พอดี แถมพวกเขาดูจะประหลาดใจกับที่นายพูดภาษาญี่ปุ่นด้วย พวกเขาจึงต้องการพบและพูดคุยกับนายมาก”
หลังจากนั้นเอง
- ก๊อก ก๊อก! ปัง!
ประตูห้องทำงานของซีอีโอเปิดออก เป็นหัวหน้าทีมของทีมผู้บริหาร ใบหน้าของเขาดูแปลก ๆ ดวงตาเบิกกว้าง
“ซีอีโอ คุณต้องรีบออกมาแล้วครับ”
ชเวชองกุนหรี่ตาลง ถอนหายใจและลุกขึ้นยืน
"มีอะไรเหรอ? เกิดอะไรขึ้นน่ะ?"
“เอ่อ… มีคนมาหาคุณครับ”
“ใคร?
ทันใดนั้น ชเวชองกุนก็ออกจากห้องทำงานของซีอีโอ ในเวลาเดียวกัน เขาสังเกตเห็นกลุ่มคนที่ยืนอยู่ใกล้ทางเข้าสำนักงาน ในหมู่พวกเขา เขารู้สึกประหลาดใจมากที่ได้เห็นชายคนหนึ่งที่มีศีรษะเต็มไปด้วยผมหงอกอยู่เบื้องหน้า แม้แต่ชเวชองกุนก็ยังอ้าปากค้างเพราะไม่อยากเชื่อในภาพที่เห็นตรงหน้า
"หา...?"
ชายผมหงอกเดินเข้ามาพร้อมด้วยรอยยิ้มและจับมือกัน คำที่ออกมาจากปากล้วนเป็นภาษาญี่ปุ่น
“ผมขอโทษทีครับ นี่ผมมากะทันหันเกินไปหรือเปล่า?”
ผู้กำกับจากญี่ปุ่น เคียวทาโร่ ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่คาดคิด
“ผมมาพบนักแสดงคังวูจินครับ”
*****