บทที่ 199 อย่าเพิ่งฆ่าหยางเสี่ยวเทียน ปล่อยเขาได้หายใจก่อน!
ร่างหลัวชิงขณะนี้ จมหายไปใต้มวลมหาคนในพรรคดาบโลหิต ปรากฏเพียงแสงของปราณดาบอันน่าอัศจรรย์สว่างวาบ พุ่งออกมาเป็นระยะมิต่างสายฟ้าฟาดซ้ำๆ ก่อนฝนกระหน่ำแรง
ทุกครั้งที่แสงจากปราณดาบระเบิด เหล่าสมุนหลายคนของพรรคดาบโลหิตจะถูกสะบั้นขาดออกเป็นสองท่อน ดับลมหายใจลงในทันที
ยิ่งสมุนจากพรรคดาบโลหิตปรี่เข้าหาเขามากเท่าใด คนที่ถูกหลัวชิงสังหารก็จะยิ่งกลายเป็นซากศพ นอนเกลื่อนกลาดกระจายตามพื้นมากขึ้นเท่านั้น
ทางฝั่งหยางเสี่ยวเทียนก็ไม่น้อยหน้า เหล่าสมุนพรรคดาบโลหิตที่มุ่งหาเขาจากทั่วสารทิศ ก็ถูกคมกระบี่เหวี่ยงฟัดทิ้งเป็นร่างไร้วิญญาณไปทีละคนเช่นกัน
ครั้นเห็นกลุ่มคนจากคราละสิบ ปรี่เข้ามาเป็นทีละร้อยรอบตัวเขา ดวงตาเย็นยะเยือกของหยางเสี่ยวเทียนจึงหรี่ลง ก่อนเบิกชัดขึ้นพร้อมลงมืออย่างจริงจัง หลังปล่อยคลายกล้ามเนื้ออยู่นานพอแล้ว
ขณะพวกมันวิ่งพล่านเข้าหาหยางเสี่ยวเทียนพร้อมยกดาบในมือ ทันใดนั้นเอง ปราณกระบี่ก็พลันระเบิดปกคลุมรอบกายเขา ก่อนพวกมันได้ประจักษ์เห็นกระบี่ร้อยเล่มปรากฏขึ้นเบื้องหลังหยางเสี่ยวเทียนประดุจนกยูงรำแพนหาง
“ไป!”
เพียงหยางเสี่ยวเทียนโบกมือเดียว กระบี่ยาวนับร้อยก็แยกออกจากกัน เกาะเป็นกลุ่มละห้าเล่ม พุ่งโจมตีพวกมันที่ยังคงรี่เข้ามาจากทั่วทุกสารทิศ
เลือดสาดกระเซ็นไปกลางอากาศหลังสิ้นเสียงเขา กลุ่มคนจากพรรคดาบโลหิตถูกคมกระบี่ โถมทะลวงเข้าร่างจนเป็นรูพรุน ส่วนบางคนถึงกับหัวหลุดกระเด็นไปไกลอย่างน่าสยดสยอง
เพลงกระบี่ที่หยางเสี่ยวเทียนใช้ครานี้ คือทักษะร้อยเพลงกระบี่
ก่อนเข้าสู่ธาราโอสถพันปีเพื่อบ่มเพาะพลังปราณ เขาสามารถควบคุมกระบี่นับร้อยให้โจมตีด้วยเพลงกระบี่ยี่สิบทักษะ ทักษะละห้าเล่มจู่โจมเข้าหาศัตรูในเวลาเดียวกัน
ซึ่งโดยไม่คาดคิดว่าหลังจากฝึก กับเอามาใช้จริงตอนนี้ เขาจะเชี่ยวชาญในการควบคุมมันสังหารคนเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย
ไม่นานหลังจากหยางเสี่ยวเทียนโบกมืออีกครั้ง กระบี่นับร้อยเล่มก็พุ่งกลับมารวมตัวกัน ก่อนโจมออกไปทั้งหมดราวมังกรตัวใหญ่แหวกว่ายเข้าหากลุ่มคนของพรรคดาบโลหิต จนร่างพวกมันถูกไถกับพื้นเนื้อตัวแหลกประหนึ่งโดนสับละเอียดไม่เหลือเคล้าร่างเดิม
ผู้นำพรรคดาบโลหิตที่ยืนดูอยู่บนเนินเขาเพลานี้ มันถึงกับอดแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นหยางเสี่ยวเทียนใช้ทักษะร้อยเพลงกระบี่ กำจัดลูกสมุนของมันจนสิ้นไปหลายราย ทั้งยังมิมีทีท่าหยุดลงง่ายๆ
ทั้งความแข็งแกร่งและทักษะการใช้กระบี่ของหยางเสี่ยวเทียน ทำมันตื่นตกใจเริ่มตัวสั่น โดยเฉพาะกระบี่นับร้อยซึ่งเป็นอาวุธวิญญาณขั้นสูงสุด ที่เขาควบคุมพวกมันได้ง่ายดายเพียงมือเดียว
เจ้าเด็กสารเลวหยางเสี่ยวเทียน ได้อาวุธวิญญาณขั้นสูงสุดมากมายเหล่านี้จากไหนกัน!
“ท่านผู้นำ มันเป็นอาวุธวิญญาณขั้นสูงสุด กระบี่ทั้งหมด ล้วนเป็นอาวุธวิญญาณขั้นสูงสุด”
“หากท่านฆ่าหยางเสี่ยวเทียน อาวุธวิญญาณร้อยเล่มนั้นจะตกเป็นของพรรคดาบโลหิตเรา” ผู้ที่กล่าวถัดจากมัน คือผู้อาวุโสพรรคดาบโลหิต
ครั้นมันเห็นกระบี่ร้อยเล่มซึ่งเป็นอาวุธวิญญาณขั้นสูงสุด ระหว่างหยางเสี่ยวเทียนใช้โจมตีอย่างน่าทึ่ง ดวงตามันก็เปี่ยมไปด้วยความโล�
ด้วยอาวุธวิญญาณขั้นสูงสุดนับร้อยชิ้นนี้ มีมูลค่านับล้านเหรียญทอง
“เจ้า! ออกไปจัดการหยางเสี่ยวเทียน” เจ้าผู้นำพรรคดาบโลหิต มองไปยังผู้เฒ่าผู้กระตือรือร้นข้างๆ มัน
พร้อมสั่งน้ำคำไม่แยแส “แต่อย่าเพิ่งฆ่าหยางเสี่ยวเทียน ปล่อยให้เขาหายใจก่อน”
“เข้าใจแล้ว หึ หึ” ผู้อาวุโสพรรคดาบโลหิตหัวเราะเยาะ มันกระโดดลงมา ขณะชักดาบเล่มใหญ่ออกจากด้านหลัง พร้อมปรี่เข้าหาหยางเสี่ยวเทียนหมายฟันเขาจากเบื้องหลัง
“ไม่จำเป็น” อูฉีเห็นดังนั้น เขาก็พร้อมเคลื่อนตัวก่อนถูกหยางเสี่ยวเทียนเอ่ยปรามไว้ทันที
เมื่อมาถึงจุดนี้ กระบี่ตงเทียน หนึ่งในกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ก็พลันปรากฏขึ้นยังมือของเขา พร้อมส่งมันพุ่งแทงออกไปหาคนที่กำลังลอบกัดจากด้านหลัง ทะลวงเข้าคอมันได้อย่างแม่นยำแลรวดเร็วราวมีตาอีกคู่
นี่คือกระบวนท่าที่เจ็ดของทักษะกระบี่ตงเทียน “หวนคืนสู่ฝั่ง”
หลังทะลวงมันจนนิ่งกับที่ หยางเสี่ยวเทียนก็เรียกกระบี่ตงเทียนกลับมาอยู่ในมือดังเดิม
เจ้าผู้อาวุโสพรรคดาบโลหิตล้มลงขณะดวงตามันยังเบิกกว้าง แม้เป็นร่างไร้วิญญาณแล้ว แต่มันก็ไม่คิดว่าจะถูกแทงทะลุคอด้วยกระบี่จากหยางเสี่ยวเทียน เพราะความแข็งแกร่งของมันอยู่ในขั้นราชันยุทธ์ระดับสอง
แม้แต่เจ้าผู้นำพรรคดาบโลหิตและเหล่าผู้อาวุโสคนอื่นๆ บนยอดเขาก็ยังตกตะลึง
“ผู้อาวุโสเหล่าลิ่ว ถูกหยางเสี่ยวเทียนสังหารแล้วงั้นหรือ” หนึ่งในนั้นไม่อยากจะเชื่อ กระทั่งสีหน้าเจ้าผู้นำตอนนี้ ยังดูซีดเผือดราวกระดาษ
มันประเมินความแข็งแกร่งของหยางเสี่ยวเทียนว่าต้องอยู่ในขั้นเซียนสวรรค์ระดับสามขั้นปลาย ซึ่งนับว่ายังสูงเกินไป
แต่ตอนนี้ เจ้าเด็กสารเลวที่มันสบประมาทกลับสังหารผู้อาวุโสสองจากพรรคดาบโลหิตขั้นราชันยุทธ์ระดับสอง!
ในใจมันพานตระหนก ขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัว
สิ่งที่น่ากลัวเสียยิ่งกว่าความแข็งแกร่งเขา คือความเร็วในการฝึกฝน เพราะภายในห้าปี เขาจะสามารถทำสิ่งที่ผู้ใดก็ทำไม่ได้ ทะลวงเข้าขั้นจักรพรรดิยุทธ์!
หยางเสี่ยวเทียนตอนนั้น จะมีอายุเท่าไหร่กัน…
“ท่านผู้นำ เราถอยตั้งหลักก่อนดีหรือไม่” ผู้อาวุโสอีกคน เอ่ยขึ้นอย่างลังเล
เห็นได้ชัดว่าหยางเสี่ยวเทียนเวลานี้ ทำให้พวกมันรู้สึกหวั่นกลัวจนตัวสั่น
“ถอยรึ! เจ้าคิดว่าถ้าเราหนีไปได้ แล้วจะยังมีทางรอดอยู่งั้นหรือ” เจ้าผู้นำพรรคดาบโลหิต คำรามด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราดพร้อมชี้ไปยังหลัวชิง “พวกเจ้าทั้งห้า จัดการชายคนนั้นเสีย”
“ข้า จะสังหารหยางเสี่ยวเทียนเอง!” มันพุ่งกระโจนพร้อมยกดาบเหวี่ยงฟัน ส่งปราณดาบสีเขียวครามอันน่ายำเกรง หมายสะบั้นคอหยางเสี่ยวเทียนที่ห่างออกไปนับพันฉื่อ