ตอนที่ 36 รักษาการแทน

"เขาเป็นเพื่อนของผมเอง" เกาหมิงเดินออกมาจากด้านหลังหยานฮัว ท่าทางเหนื่อยเล็กน้อย

"ผู้อำนวยการผมแน่ใจว่าคุณรู้อยู่แล้วถึงสถานการณ์ของทีมหนึ่ง พูดตรงๆก็คือ ทีมของเรากําลังอยู่ในภาวะวิกฤติ"

เฉินหยุนเทียนพยักหน้าเล็กน้อย เขารู้ดีว่าเกาหมิงพร้อมที่จะลาออกจากศูนย์แล้ว ท้ายที่สุดไม่มีใครสามารถทนรับแรงกดดันขนาดนี้ได้

"เจ้าหน้าที่โลจิสติกส์ได้เข้ามาแจ้งแล้วถึงปัญหาการรับสมัคสมาชิกใหม่ ตอนนี้.. ไม่มีใครเต็มใจที่จะเข้าร่วมทีมหนึ่ง ทุกคนที่เคยอยากเข้าร่วมเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย" เกาหมิงยักไหล่ "พูดกันตรงๆทีมหนึ่งเหลือเแค่ผมกับจูเหมียวเซียวเท่านั้น"

"นี่เป็นสถานการณ์ที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน ฉันจะเคารพการตัดสินใจของคุณ แต่ฉันอยากให้คุณลองทบทวนดูอีกสักครั้ง" เฉินหยุนเทียนต้องการให้เกาหมิงอยู่ต่อ หลังจากที่ไป๋เสี่ยวหายตัวไป เกาหมิงก็กลายเป็นสมาชิกที่มีค่าที่สุดของเขา

"ผมทบทวนเรื่องนี้มาพอแล้ว" สีหน้าของเกาหมิงจริงจัง "เพื่อนร่วมงานของเราต้องหายตัวไปกับเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ พวกเราจะสิ้นหวังไม่ได้ ในช่วงเวลาที่ศูนย์สืบสวนลี่ซานของเราเผชิญกับชั่วโมงที่มืดมนที่สุด ผมเกาหมิงพร้อมที่จะแบกรับความรับผิดชอบทีมสืบสวนที่หนึ่งเอง"

เมื่อเฉินหยุนเทียนได้ฟัง ดวงตาที่มืดมนของเขาค่อยๆสว่างขึ้น เขาตบไหล่เกาหมิง "เยี่ยม..เยี่ยมมาก! เธอเป็นคนที่พิเศษจริงๆ!"

"ในเมื่อไม่มีใครเต็มใจเข้าร่วมทีมหนึ่ง ดังนั้นผมจะเป็นคนหาสมาชิกด้วยตัวเอง" เกาหมิงหันไปทางว่านหยูและหยานฮัว "คนพวกนี้คือคนที่ผมเชิญมา ทุกคนไว้ใจได้" ก่อนหันมาสบตาเฉินหยุนเทียนด้วยสาตาแน่วแน่ "ผู้อำนวยการเฉินไม่ต้องกังวล เราจะไม่ทำให้ศูนย์ผิดหวัง"

"นั่นเป็นสิ่งที่ดี แต่......" สายตาของเฉินหยุนเทียนมองไปมาระหว่างหยานฮัวและว่านหยู ทั้งคู่ให้อารมณ์ที่แตกต่างกันสุดขั้ว

เมื่อเห็นปฎิกริยาของเฉินหยุนเทียน เกาหมิงจึงเสริมอย่างมั่นใจว่า "เหตุการณ์ผิดปกติไม่ได้ทดสอบสมรรถนะทางร่างกายและสติปัญญา แต่ทดสอบความเป็นมนุษย์และโชค เนื่องจากผมเป็นจิตแพทย์ผมจึงรู้จักหัวใจของผู้คนเป็นอย่างดี ผมสามารถรับรองสองคนนี้ได้" เกาหมิงสัญญาหนักแน่น "ถ้าเกิดอะไรขึ้นผมจะเป็นคนรับผิดชอบเอง"

"ถึงแม้ข้อกำหนดในการรับสมัคสมาชิกใหม่จะไม่สูงมากนัก แต่สิ่งสําคัญคือพวกเขาต้องได้รับฟังการบรรยายสรุปอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น" ผู้อํานวยการกล่าวเตือน

"ผมเข้าใจแล้ว" เกาหมิงยืนยัน "ผมจะฝึกพวกเขาให้เป็นเจ้าหน้าที่ชั้นยอดอย่างแน่นอน" ก่อนกล่าวเสริมอีกเล็กน้อย "ก่อนจะมีการแต่งตั้งหัวหน้าทีม ผมจะรับผิดชอบทีมชั่วคราว"

หลังจากพิจารณาสถานการณ์อย่างรอบคอบแล้ว เฉินหยุนเทียนก็พยักหน้าเห็นด้วย เขาไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ "เอาล่ะ ฉันจะแต่งตั้งคุณเป็นผู้รับผิดชอบทีมหนึ่งชั่วคราว คุณจะมีหน้าที่รับผิดชอบการฝึกอบรมบุคลากรและการจัดตารางงานภายในทีม แต่งานภาคสนามยังคงอยู่ในความดูแลของทีมอื่นเป็นหลัก"

ไม่ถึงสี่สิบแปดชั่วโมงหลังจากเข้าร่วมสํานักงานสืบสวน เกาหมิงก้าวขึ้นสู่ตําแหน่งรองหัวหน้าทีมไม่นานก็ได้รับการเลื่อนตําแหน่งเป็นหัวหน้าทีม

แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นเพียงผู้รักษาการแทน แต่หากสมาชิกทุกคนในทีมคือสุดยอด'อาชญากร' ที่เขาคัดเลือกมา จะไม่มีใครสามารถสั่นคลอนตําแหน่งของเขาได้อีกต่อไป

เมื่อเห็นว่าเกาหมิงเต็มไปด้วยจิตใจที่มุ่งมัน เฉินหยุนเทียนก็พอใจมากเช่นกัน จึงให้เจ้าหน้าที่นําสายรัดข้อมือมาอีกสองเส้น หนึ่งเส้นถูกมอบให้กับจูเหมียวเซียวส่วนอีกเส้นมอบให้เกาหมิงเก็บไว้

"ถ้าคุณพบสมาชิกที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถมอบสิ่งนี้ให้กับเขาได้"

"ขอบคุณท่านผู้อํานวยการที่ไว้วางใจ"

ไม่นานหลังจากที่เฉินหยุนเทียนจากไป ข้อมูลประจำตัวในฐานข้อมูลเปลี่ยนไป เกาหมิงก้มลงมองข้อมูลจากสายรัดข้อมือที่ได้รับการอัปเดต ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเกาหมิงกลายเป็นผู้รักษาการแทนทีมหนึ่งของศูนย์ลี่ซานอย่างเป็นทางการ

'ขอบเขตของการตรวจสอบของทีมหนึ่งคือ ถนนหมินหลงและถนนหลี่จิ้ง หลังจากจัดการกับเหตุการณ์ผิดปกติในเขตตะวันออกแล้ว เราจะเริ่มต้นด้วยถนนสองสายนี้' เกาหมิงโยนสายรัดข้อมือไปทางหยานฮัว 'ถ้าโลกเงามีวิธีการแทรกซึมความเป็นจริงผ่านเกม เราก็สามารถใช้เกมเป็นเครื่องมือในการเข้าสู่โลกเงาได้'

เกาหมิงเปิดคอมพิวเตอร์ของไป๋เสี่ยว เขาต้องการทำความเข้าใจถึงขอบเขตอำนาจที่ได้รับมา แต่ในขณะที่เขากําลังหาข้อมูล กลับพบอีเมลจากสถานีตํารวจเมืองเก่า ชื่อผู้ส่งดึงดูดความสนใจของเกาหมิง

ผู้ส่งคือเจ้าหน้าที่หลี่หลิน อีเมลถูกส่งมาเมื่อคืนนี้ แต่ไป๋เสี่ยวยังไม่มีเวลาเปิดดู

เมื่อคลิกที่อีเมลเกาหมิงเห็นคําที่คุ้นเคยสองสามคํา - ความไม่สอดคล้องกันในการจลาจลเรือนจําความปลอดภัยสูงของเหิงซาน - สถิติจํานวนอาชญากรที่หายไปนั้นผิดปกติ ผู้เสียชีวิตที่เสียโฉมไม่ใช่นักโทษแต่เป็นแพทย์ จากผลการประเมินสภาพจิตย้อนหลังหกเดือนของนายแพทย์เกา แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติที่ชัดเจน ซึ่งตรงกับเหตุการณ์ผิดปกติครั้งแรกในซินลู่เมื่อครึ่งปีที่แล้ว

ในช่วงท้ายของอีเมล เจ้าหน้าที่ลี่หลินหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าศูนย์สืบสวนลี่ซานจะให้ความรวมมือกับตำรวจส่งมอบตัวเกาหมิงมา

เกาหมิงไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับตัวเขา จึงลบอีเมลทิ้ง นอกจากนี้เขายังมีสิ่งที่สําคัญกว่าที่ต้องทําในตอนนี้

หลังจากค้นหาข้อมูลต่อ ไม่นานเกาหมิงก็พบข้อมูลที่ต้องการ เกี่ยวกับเหตุการณ์ผิดปกติในฝั่งตะวันออก จากโฟลเดอร์ที่ซ่อนอยู่

- เจ้าหน้าที่ 01764 เป็นคนแรกที่หลบหนีจากความผิดปกติของเมืองฝั่งตะวันออกในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ แขนขาทั้งสี่ของเขาถูกตัดออก แต่บาดแผลไม่มีเลือดออก ร่างกายของเขาถูกเขียนด้วยข้อความสําหรับการนมัสการ หลังจากถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ไม่นานก็เสียชีวิต ร่างกายของเขาเน่าเปื่อยช้ากว่าปกติสามเท่า

- ที่จุดเกิดเหตุ หลังเที่ยงคืน มีกลิ่นเนื้อดิบลอยอยู่ในอากาศ สมาชิกของทีมสืบสวนที่อยู่นอกขอบเขตรายงานว่าได้ยินเสียงสวดมนต์ที่น่าขนลุก

- ต้นกําเนิดของเหตุการณ์ผิดปกตินี้สืบย้อนไปถึงอพาร์ตเมนต์บนถนนซือสุ่ย ในเขตตะวันออกของฮั่นไห่ อพาร์ตเมนต์แห่งนี้เป็นที่ตั้งของเหตุการฆาตกรรมฆ่าล้างครอบครัว ทางเราเชื่อว่าเหตุการณ์ผิดปกตินี้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ฆาตกรรมนั้น

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น เกาหมิงจึงได้หาข้อมูลเพิ่มเติมจากข้อมูลภายในศูนย์

ในสถานที่เช่นเขตตะวันออกซึ่งเป็นที่ดินของคนมีเงิน จึงไม่ค่อยได้เห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ แต่อพาร์ตเมนต์บนถนนซือสุ่ยเคยเกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้น ไม่กี่ปีก่อนฉากของอาชญากรรมที่น่าตกใจที่เขย่าขวัญผู้คนของฮั่นไห่ สมาชิกแปดคนจากสองครอบครัวถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมไม่มีคนใดรอดชีวิต

ผู้กระทําความผิดที่ชั่วร้ายนี้ฆ่าตัวตายภายในบ้านหลังจากการสังหารหมู่ ชาวบ้านลือกันว่าอาคารถูกสาปแช่ง เต็มไปด้วยพลังงานด้านลบ อาจสร้างขึ้นเหนือประตูสู่โลกวิญญาณ

เกาหมิงขยายภาพเพื่อศึกษาสถานที่เกิดเหตุ จู่ๆวานหยูก็เดินมาหยุดอยู่ข้างๆ เขาชี้ไปที่หน้าจอและพึมพํา "พวกเขาทั้งหมดกําลังมองมาที่คุณ"

เกาหมิงสับสนเพราะไม่มีใครอยู่ในภาพ "เธอเห็นอะไร!?"

"แปดคนนั้นกําลังมองมาที่คุณ มีคนแก่ มีเด็ก พวกเขามีเลือดที่ริมฝีปาก พวกเขากําลังมองมาที่คุณ" หลังจากว่านหยูพูดจบเขาก็เดินจากไป

เมื่อหันกลับมามองที่ภาพ เกาหมิงรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาที่หลังคอ ราวกับว่ามีคนจ้องมองเขาอยู่จริงๆ

'การสังหารหมู่ในครอบครัว ริมฝีปากเปื้อนเลือด อัตราการเน่าเปื่อยของศพที่ผิดปกติ' เกาหมิงเริ่มคาดเดา 'ตัดสินจากสิ่งเหล่านี้...อาจจะเป็นผลงานของ'เทพแห่งเลือดและเนื้อ''

เกม'เทพสีเลือด'ไม่ใช่เกมที่สร้างโดยเกาหมิง แต่เป็นหนังสือเก่าที่เขาพบที่แผงขายหนังสือริมถนน หนังสือเล่มนี้สรุปพิธีกรรมที่น่าสยดสยองสําหรับการบูชาเนื้อหนัง ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าสยดสยองจนสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับเขา

ที่ตั้งชื่อว่าเทพสีเลือดเป็นเพียงคําสละสลวยเพื่อประโยชน์ในการฟัง ในความเป็นจริงสิ่งที่พิธีกรรมนี้สร้างขึ้นนั้นห่างไกลจากความศักดิ์สิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น

แม้ว่าเกาหมิงจะเข้าใจวิธีการ 'เล่น' เกมนี้และรู้ถึงพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบูชาเนื้อหนัง แต่เขาก็แน่วแน่ที่จะไม่ไล่ตามเส้นทางดังกล่าว บางสิ่งจะทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออกไว้ แม่เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ตราบใดที่คุณสัมผัสบางสิ่งที่เลวร้าย มันจะตามหลอกหลอนคุณตลอดไป

'ต้องหาตัวการที่ป้อนเรื่องราวแล้วกำจัดทิ้ง คนๆนี้อันตรายเกินไป เพื่อบรรลุเป้าหมายเขาได้ทำในสิ่งที่เลวร้ายถึงที่สุดลงไป'

เมื่อความถี่ของเหตุการณ์ผิดปกติเพิ่มขึ้นผู้คนจํานวนมากจะถูกดึงดูดให้เข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

บางคนเลือกที่จะเข้าร่วมศูนย์สืบสวนเพื่อปกป้องผู้อื่น แต่บางจะเข้าร่วมโลกเงาและกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าผี