ตอนที่แล้วตอนที่ 243 พลิกผัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 245 ประชิด

ตอนที่ 244 พบกับ ตระกูลมู่ อีกครั้ง


“อืม ครั้งนี้เราก็ถือว่าล้างแค้นได้สำเร็จแล้ว”

ซูเหวิน ยิ้มอย่างสงบก่อนจะกล่าวขึ้น

เพียงแต่ว่า.. มีสิ่งหนึ่งที่ ซูเหวิน ไม่ได้คาดคิด

คือปัญหาเรื่องหนึ่งยังไม่จบก็มีเรื่องใหม่เข้ามาอีกแล้ว

เมื่อเรื่องของ หลิน อวี้ถิง เพิ่งจะได้รับการแก้ไข

ผู้คนจาก ตระกูลฉี ก็มาถึงเมืองม่อแล้ว

การต่อสู้ที่อันตรายกว่าดูเหมือนกำลังจะมาเยือน…

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในพริบตาเดียววันหยุดสุดสัปดาห์ก็มาถึง..

หลังจากแก้ไขเรื่องของ หลิน อวี้ถิง ได้ ซูเหวิน รู้สึกสบายใจมาก

เขาจึงตัดสินใจพาทุกคนไปกินมื้อใหญ่กันอีกครั้ง

คืนนั้นเขาจึงนัดเพื่อนๆ ในกลุ่ม VX ออกมาเพื่อไปทานอาหารกันที่โรงแรม

ตัวเขาเองก็ขับรถ Lamborghini ไปที่เขตคฤหาสน์ หม่านถิงซาน เพื่อรับ เซี่ย ซินเหยา มา

จากนั้นทั้งสองก็ออกจากเขตคฤหาสน์ไปด้วยกัน

โรงแรมหลงฮว่า

โรงแรมหลงฮว่า ยังเป็นโรงแรมระดับเจ็ดดาว

แม้โรงแรมนี้จะไม่ได้โดดเด่นเรื่องความหรูหรา แต่สไตล์การตกแต่งของโรงแรมนั้นกลับเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเจริญตาเจริญใจ

ไม่นาน ซูเหวิน และเพื่อนๆ ของเขาก็มาถึงหน้าโรงแรมนี้ และเดินเข้าไปข้างในพร้อมกันทันที

ทันใดนั้นทุกคนต่างประทับใจกับสไตล์ของโรงแรมนี้

โดยเฉพาะการจัดแต่งล็อบบี้

ที่ให้ความรู้สึกแบบชนบท แต่แล้วกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติ

ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายได้ทันทีที่เข้ามา

“ไม่เลวเลยนะ”

“ไม่ใช่แค่ไม่เลว เรียกว่าสมบูรณ์แบบเลยดีกว่า!”

“สวยมาก ถ้าตกแต่งบ้านด้วยสไตล์นี้ คงน่าอยู่มาก”

เพื่อนๆ ของเขาต่างกล่าวด้วยความตื่นเต้น

“ใช่ ไม่เลวเลย”

“ถ้าฉันซื้อบ้านใหม่ จะตกแต่งแบบนี้เลย”

ซูเหวิน กล่าวชม

“ซู สุดหล่อ บ้านใหม่ที่ว่านี่หมายถึงเรือนหอใช่ป่ะ?”

จี้หยวี่ กล่าวพลางยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยตากลมโต

“โอ้ย~!”

เพียงเธอกล่าวจบ ก็รู้สึกเจ็บเล็กน้อยที่ใบหน้า

ปรากฏว่า เซี่ย ซินเหยา กำลังใช้มือทั้งสองข้างบีบแก้มของเธอ

“ปากของเธอนี่พูดได้ทุกเรื่อง มองหาแต่ปัญหาอยู่เสมอเลยสินะ ต้องจัดการซะหน่อย นี่นี่~”

เซี่ย ซินเหยา กล่าวอย่างไม่พอใจ

ซูเหวิน ก็ได้แต่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ : “เรื่องนี้มันไกลตัวไปนิด ผมมีวิลล่า อ่าว ไห่หยุน ที่หลังใหญ่พอแล้ว ทำไมต้องการเรือนหออื่นอีกล่ะ?”

“ผมหมายถึงว่าต่อไปถ้าซื้อบ้านอีกหลัง ก็จะตกแต่งแบบสไตล์โรงแรมนี้จะได้มีที่ไปพักผ่อนเวลาสนใจ อยู่ซักสิบวันครึ่งเดือนก็คงจะเป็นอะไรที่ดีมาก”

โอเค!

เมื่อ ซูเหวิน กล่าวจบ

เพื่อนๆ ต่างพากันอิจฉาทันที

แน่นอนว่า มีเงินนี่มันดีจริงๆ

“ฮ่าฮ่า สมกับเป็น ประธานซู พูดได้อย่างภาคภูมิใจจริงๆ”

“เกรงว่าคงมีแต่ ประธานซู เท่านั้นที่พูดเรื่องซื้อบ้านในเมืองม่อนี้ได้อย่างสบายๆ แบบนี้”

ขณะที่ ซูเหวิน และเพื่อนๆ กำลังพูดคุยกัน และเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ที่แผนกต้อนรับ

จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา

ทุกคนจึงหันไปดูก็เห็นชายวัยกลางคนในชุดสูทหลายคนเดินมาทางพวกเขา

หนึ่งในนั้น ซูเหวิน คุ้นเคยมาก

เขาคือพ่อของ มู่ อวี๋เฟิง, มู่ฉง

“ที่แท้คือ ประธานมู่ ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”

ซูเหวิน กล่าวด้วยความประหลาดใจ

คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะมาเจอเขาที่นี่

“ใช่แล้ว ดูเหมือนเราจะมีวาสนาต่อกันจริงๆ”

มู่ฉง ยิ้ม ก่อนจะกล่าวตอบกลับ

“ดูเหมือนวันนี้ ประธานซู พาเพื่อนๆ มาทานอาหาร น่าเสียดายที่ผมมาเร็วไปหน่อย ไม่อย่างนั้นคงจะดีถ้าเราได้นั่งร่วมโต๊ะกัน”

มู่ฉง กล่าวต่อ ในน้ำเสียงยังคงมีความเสียดายอยู่ไม่น้อย

“ฮ่าฮ่าๆ ทานข้าวด้วยกันไม่ยาก ไว้วันหลังเราค่อยนัดกันได้ครับ”

ซูเหวิน ยิ้มตอบ จากนั้นเขาหันไปถาม เซี่ย ซินเหยา : “คุณรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร?”

เซี่ย ซินเหยา ตกใจเล็กน้อย จากนั้นส่ายหน้า

เธอจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ?

“เขาคือพ่อของ มู่ อวี๋เฟิง”

“หรือก็คือคนที่ถ่ายรูปให้เราที่สวนสาธารณะในวันนั้นไง”

“อ๋อ? คือเขานี่เอง?”

พอ ซูเหวิน พูดแบบนี้ เซี่ย ซินเหยา ก็นึกถึงชายหนุ่มที่ถ่ายรูปให้พวกเขาได้ทันที

ที่แท้คนนี้คือพ่อของเขาเหรอ?

ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ

“ประธานมู่ นี่คือ...?”

ในขณะนั้น ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ประธานมู่ ก็กล่าวขึ้น

พวกเขาต่างมีสีหน้าตกตะลึงเมื่อฟัง ประธานมู่ พูดคุยกับชายหนุ่มคนนี้

ประธานมู่ เขาคือใคร?

เขาคือประธานของกลุ่มบริษัท ฉี่อวิ้น

แม้แต่ในมหานครระดับนานาชาตินี้ เขายังถือว่าเป็นบุคคลระดับสูง

แต่เขากลับมาพูดคุยกับชายหนุ่มวัยแค่ยี่สิบปีต้นๆ แบบนี้ราวกับเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของเขา

แถมยังดูเหมือนจะมีท่าทีเป็นมิตรอีกด้วย

สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ

มู่ฉง ดูเหมือนจะสังเกตเห็นความสงสัยของเพื่อนๆ ของเขา

เขาจึงแนะนำว่า ซูเหวิน เป็นประธานของ ฉู่ห่ง กรุ๊ป

ทันใดนั้นชายวัยกลางคนต่างตกตะลึงอย่างมาก

“อะไรนะ เขาคือประธานของกลุ่มบริษัท ฉู่ห่ง? ประธานมู่ คุณไม่ได้พูดผิดไปใช่ไหม?”

“ใช่ นี่เหลือเชื่อมาก”

“นี่มัน...ยากที่จะเชื่อได้จริงๆ”

เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังไม่สามารถย่อยข้อมูลนี้ได้

“ฮ่าฮ่า ตกตะลึงมันก็เป็นเรื่องปกติ ตอนแรกที่รู้เรื่องผมก็ตกใจเหมือนกัน แต่ว่าความจริงก็คือความจริง”

“ประธานเถา คุณไม่เคยพูดหรือว่าอยากดึงดูดการลงทุนในโครงการหนึ่ง? นี่ไงคุณมีพันธมิตรที่เหมาะสมมากอยู่ตรงหน้าแล้ว คุณสามารถคุยกับเขาได้เลย”

มู่ฉง หัวเราะ และพลันกล่าวขึ้นอีกครั้ง

ประธานเถา ที่ได้ยินแบบนี้ก็เกิดประกายความคิดในใจทันที และเริ่มทำความรู้จัก ทักทาย ซูเหวิน อย่างอบอุ่น

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ซูเหวิน เผชิญกับสถานการณ์แบบนี้

ซูเหวิน รับมือกับมันได้อย่างเชี่ยวชาญ

หลังจากทักทายกันสักพัก พวกเขาก็แยกย้ายกัน

แน่นอนว่า ประธานเถา คนนั้น ไม่ลืมขอข้อมูลติดต่อของ ซูเหวิน ก่อนจะไป

เพื่อสะดวกในการติดต่อในอนาคต

ซูเหวิน ก็ไม่ขัดข้อง และให้หมายเลขโทรศัพท์ของเขาแก่อีกฝ่ายทันที

ต่อจากนั้นกลุ่มของอีกฝ่ายก็ออกจากโรงแรมไป

ซูเหวิน จึงให้พนักงานต้อนรับเปิดห้องหรูให้กับพวกเขา

หลังจากนั้นกลุ่มของเขาก็ได้ทานอาหารอร่อยกันอย่างเต็มเปี่ยมกันที่โรงแรม

เมื่อพวกเขาทานอาหารเสร็จ เวลาก็ล่วงเลยมาถึงสองทุ่มแล้ว

ซูเหวิน คิดว่าเวลายังไม่ดึกนัก และตามคำแนะนำของ เซี่ย ซินเหยา พวกเขาจึงพากันไปโรงภาพยนตร์เพื่อไปดูหนังต่อ

หลังจากออกจากโรงภาพยนตร์ก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

ทุกคนจึงเรียกแท็กซี่กลับมหาลัย

ส่วน ซูเหวิน เตรียมจะพา เซี่ย ซินเหยา กลับไปที่อ่าว ไห่หยุน แต่ถูก เซี่ย ซินเหยา ปฏิเสธ

ไม่เพียงเท่านั้น เธอบอกให้เขาส่งเธอกลับบ้าน และคืนนี้เขาควรจะมาพักที่บ้านเธอ เพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์อยู่ดี

และก่อนที่เธอจะออกมาคืนนี้ พ่อของเธอยังขอให้เธอพา ซูเหวิน กลับไปด้วย

ด้วยความที่พรุ่งนี้เราสองคนจะได้มีเวลาเล่นหมากรุกกันได้สักสองสามเกม

ซูเหวิน ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงทันที

หลังจากนั้นเขาขับรถ Lamborghini พา เซี่ย ซินเหยา กลับไปที่บ้านของเธอ

เมื่อพวกเขามาถึงเขตคฤหาสน์ หม่านถิงซาน ก็เป็นเวลาเกือบจะห้าทุ่มครึ่งแล้ว

ขณะนี้ใกล้เที่ยงคืนไม่ว่าจะตามท้องถนน หรือในละแวกใกล้เคียง ..คนก็น้อยลงมาก

อย่างไรก็ตาม คืนนี้เขตคฤหาสน์ หม่านถิงซาน คงไม่เงียบสงบนัก

เพราะคนของ ตระกูลฉี ได้มาถึงเมืองม่อแล้ว และพวกเขาเตรียมจะลงมือ ในคืนนี้…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด